Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - ตอนที่ 1182
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1182 ออกจากถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน
แปลโดย iPAT
ภายในค่ายกลวิญญาณ
ฟางหยวนนั่งอยู่บนพื้นอย่างเงียบๆ
ชูตู๋รวมถึงเจตจำนงของเพิ่งซานและปู้อู๋หมิงก็เช่นกัน
“เริ่มได้” ชูตู๋กล่าวเสียงเรียบ
เจตจำนงของปู้อู๋หมิงและเพิ่งซานพยักหน้าและกระตุ้นใช้วิญญาณอมตะ
วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกฎ ไม่!
วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกฎ ใส่ใจ!
แสงสีดำและแสงสีแดงส่องประกายขึ้น
ชูตู๋กระตุ้นใช้งานค่ายกลวิญญาณในจังหวะที่เหมาะสมเพื่อหลอมรวมพลังอำนาจของวิญญาณอมตะไม่และวิญญาณอมตะใส่ใจเข้าด้วยกัน
แสงสองสีหลอมรวมกันภายใต้ค่ายกลวิญญาณและกลายเป็นเสาแสงสีดำแดง
เสาแสงปกคลุมร่างกายของฟางหยวนเอาไว้อย่างสมบูรณ์
“มันพร้อมแล้ว” ชูตู๋เตือน
ฟางหยวนกล่าวต่อ “พวกท่านจะไม่สามารถจินตนาการว่ามีสิ่งใดซ่อนอยู่ใต้แดนน้ำแข็งของภาคเหนือ ข้าเกือบตายอยู่ที่นั่น…”
เขาเปิดเผยความลับของเผ่ามนุษย์หิมะและเผ่ามนุษย์หินต่อหน้าชูตู๋
“มีเรื่องเช่นนี้งั้นหรือ!? แดนน้ำแข็งของภาคเหนือมีกองกำลังเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ซ่อนตัวอยู่จริงๆ พวกมันซ่อนตัวมาตลอด!” ชูตู๋ตกใจมาก
เจตจำนงของปู้อู๋หมิงและเพิ่งซานตกใจเช่นกัน
ครู่ต่อมาแสงสีดำแดงก็เลือนหายไป ค่ายกลวิญญาณหยุดทำงาน ฟางหยวนค่อยๆลุกขึ้นยืนและเดินออกมา
เขาปลอดภัย!
แรกเริ่มเขาเป็นสมาชิกของพันธมิตรสี่เผ่าพันธุ์และเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายหลางหยา เขาไม่สามารถเปิดเผยความลับของมนุษย์หิมะและมนุษย์หิน
แต่เนื่องจากวิญญาณอมตะไม่และวิญญาณอมตะใส่ใจรวมถึงความร่วมมือจากชูตู๋ ฟางหยวนสามารถฝ่าฝืนข้อตกลงพันธมิตรโดยไม่ต้องเผชิญหน้ากับผลกระทบย้อนกลับ
เดิมทีวิญญาณอมตะสองดวงนี้มีไว้เพื่อชูตู๋
หลังจากต่อสู้มาอย่างยาวนาน ชูตู๋ตัดสินใจสร้างความร่วมมือกับจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู ในความเป็นจริงชูตู๋วางแผนที่จะเสียสละห่าวเจิ้นและเชาเหลาอู๋ แต่สถานการณ์ดีกว่าการคาดหมายของเขา
บางทีอาจเป็นเพราะแรงกดดันที่จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูกำลังเผชิญอยู่
ด้วยเหตุนี้จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูจึงไม่ได้เรียกร้องสิ่งใดมากนักโดยเฉพาะการประหารชีวิตฆาตกร เขาลงโทษคนทั้งสองเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“เป็นเพราะวิญญาณอมตะสองดวงนี้ มิฉะนั้นข้าจะไม่สามารถอธิบายสถานการณ์นี้ให้ท่านฟัง” ฟางหยวนแสร้งทำเป็นโล่งใจและถอนหายใจกับตนเอง
แน่นอนว่าเขาซ่อนข้อมูลบางอย่างจากชูตู๋
ตัวอย่างเช่นฟางหยวนไม่ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา
ฟางหยวนเป็นคนระวังตัว เขาจะไม่บอกชูตู๋ทุกอย่าง เขาคุ้นเคยกับการเก็บไพ่ไว้ในมือ
ชูตู๋กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ดูจากรูปการณ์ เราไม่สามารถเผชิญหน้ากับภัยพิบัติที่แดนน้ำแข็งได้อีก”
“ถูกต้อง” ฟางหยวนพยักหน้าและหลีกเลี่ยงที่จะกล่าวถึงพันธมิตรสี่เผ่าพันธุ์
ตอนนี้พวกเขาหยุดใช้วิญญาณอมตะไม่และวิญญาณอมตะใส่ใจไปแล้ว หากฟางหยวนละเมิดข้อตกลงอีกครั้ง เขาต้องเผชิญหน้ากับฟันเฟืองและอาจได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือกระทั่งตาย
วิญญาณอมตะไม่และวิญญาณอมตะใส่ใจมีความสามารถที่น่าอัศจรรย์แต่มันต้องกระตุ้นใช้งานตลอดเวลา
สิ่งสำคัญก็คือพวกมันไม่สามารถลบข้อตกลงพันธมิตรได้อย่างสมบูรณ์
นี่เป็นวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแต่ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ
“เกี่ยวกับเรื่องนี้พวกท่านมีความคิดเห็นอย่างไร?” ฟางหยวนถามตรงๆ
เจตจำนงของปู้อู๋หมิงและเพิ่งซานมองหน้ากัน
ปู้อู๋หมิงส่ายศีรษะ “ถ้ำปีศาจคลั่งมีความลับเกี่ยวกับชีวิตนิรันดร์ ร่างหลักของเราไม่สามารถละทิ้ง ตราบเท่าที่มนุษยชาติยังไม่ถึงกาลวิบัติ พวกเราจะไม่ออกมา มนุษย์กลายพันธุ์สามารถพัฒนาตนเองได้เท่าที่พวกเขาต้องการ แม้พวกเขาจะแข็งแกร่งขึ้น พวกเขาก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมนุษย์”
เพิ่งซานกล่าวต่อ “การจัดการมนุษย์กลายพันธุ์ไม่ใช่เรื่องยาก เราเพียงประกาศข้อมูลนี้ออกไปและผู้อมตะภาคเหนือจะออกไล่ล่าพวกเขา”
“ไม่ ไม่มีทาง หากเป็นเช่นนั้นแดนน้ำแข็งของภาคเหนืออาจถูกทำลายจากการต่อสู้ครั้งใหญ่ พวกเราจะไม่ได้รับประโยชน์ใดๆจากมันอีก” ชูตู๋ส่ายศีรษะ
“ข้าเพียงแสดงความคิดเห็นเท่านั้น” เพิ่งซานพึมพำ
หากเกิดการต่อสู้ระหว่างเผ่าพันธุ์ ฟางหยวนจะถูกขังไว้ตรงกลาง เขาจะไม่มีช่วงเวลาที่ง่ายดาย
ความกังวลของฟางหยวนถูกปัดเป่าออกไปเมื่อได้ยินถ้อยคำเหล่านี้
เขาต้องบอกชูตู๋เกี่ยวกับสถานการณ์ของแดนน้ำแข็งเพราะพวกเขาได้ทำข้อตกลงพันธมิตรและยังต้องร่วมมือกันอีกมากในอนาคต
การปกปิดมันไว้จะไม่เป็นผลดีต่อเขา
ชูตู๋ไม่มีแผนการที่จะโจมตีกองกำลังเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมายของฟางหยวน ท้ายที่สุดแล้วตอนนี้ชูตู๋ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่งเป็นอันดับหนึ่งอีกต่อไปแต่มันคือการร่วมมือกับจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูเพื่อต่อต้านกองกำลังฝ่ายธรรมะ
เจตจำนงของปู้อู๋หมิงและเพิ่งซานยังทำให้ฟางหยวนตระหนักถึงความคิดของสามปีศาจคลั่ง
‘ดูเหมือนคนทั้งสามมีความมุ่งมั่นในการค้นคว้าถ้ำปีศาจคลั่ง ความวุ่นวายของโลกภายนอกไม่สามารถล่อลวงพวกเขาให้ออกมา’
ฟางหยวนคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และเข้าใจสามปีศาจคลั่งมากขึ้น
หากฟางหยวนไม่มีปัญหาในชีวิตมากนัก เขาก็จะทำเช่นเดียวกับสามปีศาจ
น่าเสียดายที่สถานการณ์ของฟางหยวนอันตรายมาก นอกจากนิกายเงา เขายังต้องระวังวังสวรรค์และศัตรูจากทุกทิศทาง
‘อย่างไรก็ตามหากพวกเขารู้จักตัวตนที่แท้จริงของข้า พวกเขาจะตอบสนองอย่างไร?’ ฟางหยวนคิด
หลังจากสนทนากันสักพัก ชูตู๋ก็เก็บวิญญาณอมตะทั้งสองดวงรวมถึงเจตจำนงของปู้อู๋หมิงและเพิ่งซานเข้าไปในมิติช่องว่างของตน
จากนั้นเขากับฟางหยวนก็ออกจากฐานทัพใต้ดินแห่งนี้พร้อมกันและขึ้นสู่พื้นผิวของถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน
ตอนนี้ถ้ำสวรรค์ไห่ฟานกำลังพัฒนา
มนุษย์กลายพันธุ์เผ่าต่างๆไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หิน มนุษย์จิ๋ว หรือมนุษย์วิหคจำนวนมากกำลังทำงานอย่างหนัก
ผู้อมตะมักเลี้ยงทาสมนุษย์กลายพันธุ์เอาไว้
“ทักทายผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งและผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่สอง” เมื่อเห็นชูตู๋กับฟางหยวน ห่าวเจิ้นเร่งเข้ามาทักทาย
ชูตู๋ฉวยโอกาสสร้างนิกายชูและยังดึงฟางหยวนให้เข้าร่วม
แม้ฟางหยวนจะไม่เต็มใจแต่เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธ
เนื่องจากฟางหยวนวางแผนที่จะทำงานร่วมกับชูตู๋ต่อไป สิ่งนี้จะช่วยให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ชูตู๋ถามเกี่ยวกับการพัฒนาถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน ห่าวเจิ้นตอบว่ามันยังอยู่ในขั้นแรกแต่ผู้อมตะหลายคนนำทรัพยากรของพวกเขาออกมาเพื่อพัฒนาสถานที่แห่งนี้ ฟางหยวนนำทรัพยากรบางอย่างออกมาเช่นกัน
มันเป็นทรัพยากรที่เคยอยู่ในถ้ำสวรรค์ไห่ฟานมาก่อน
หลังจากผ่านเหตุการณ์ต่างๆ พวกมันกลับมาอยู่ที่จุดเดิมอีกครั้ง
กระทั่งฟางหยวนก็ไม่เคยคาดคิดถึงเรื่องนี้
เหตุใดเขาถึงต้องนำทรัพยากรจำนวนมากออกมา?
ประการแรก การใช้วิญญาณอมตะไม่และวิญญาณอมตะใส่ใจมีค่าใช้จ่าย ฟางหยวนเจรจากับชูตู๋และใช้สิ่งเหล่านี้เป็นค่าตอบแทน
ประการที่สอง ฟางหยวนต้องการทำธุรกรรมบางอย่างกับจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู
ในถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นอาณาเขตของนิกายชูแต่พื้นที่บางส่วนเป็นของเผ่าไป่ซู
กล่าวได้ว่าถ้ำสวรรค์ไห่ฟานเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพระหว่างนิกายชูและเผ่าไป่ซู
ฟางหยวนและชูตู๋บอกลาห่าวเจิ้น หลังจากบินมาได้ระยะหนึ่ง ฟางหยวนจึงเปิดปากกล่าว “เอาล่ะ ส่งข้าเท่านี้ก็พอแล้ว”
ชูตู๋แสดงออกด้วยความกังวล “เจ้าพึ่งได้รับมรดกที่แท้จริงของไห่ฟาน ในความคิดเห็นของข้า การชะลอภัยพิบัติโดยทำให้เวลาในมิติช่องว่างของเจ้าเดินช้าลงเป็นวิธีที่ดีที่สุด เจ้าพึ่งผ่านการต่อสู้ครั้งใหญ่ การก้าวข้ามภัยพิบัติในเวลานี้ถือว่าเสี่ยงมาก”
ฟางหยวนยิ้ม “จะมีกำไรได้อย่างไรหากปราศจากความเสี่ยง นอกจากนี้ท่านยังอยู่ใกล้ๆ หากข้าพบอันตราย ข้าจะขอความช่วยเหลือจากท่านอย่างแน่นอน”
ชูตู๋แสดงออกด้วยความเสียใจ “น่าเสียดาย นิกายชูพึ่งก่อตั้ง เรามีศัตรูที่แข็งแกร่ง มันไม่ใช่ช่วงเวลาที่สงบสุข มิฉะนั้นข้าจะไปช่วยเจ้าอย่างแน่นอน แล้วเจ้าเลือกสถานที่เผชิญหน้ากับภัยพิบัติหรือยัง?”
“ข้ายังไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้” ฟางหยวนส่ายศีรษะ
“เอาล่ะ แล้วพบกันใหม่” ฟางหยวนบินออกจากถ้ำสวรรค์ไห่ฟานโดยไม่หันหลังกลับ
ชูตู๋ปิดประตูทางเข้าออกถ้ำสวรรค์ไห่ฟานและถอนหายใจ
ฟางหยวนไม่ใช่บุคคลที่สามารถควบคุมได้โดยง่าย ชูตู๋ยังต้องการท่าไม้ตายอมตะมิติภัยพิบัติแต่สถานการณ์ในปัจจุบันค่อนข้างซับซ้อน
พลังการต่อสู้ของฟางหยวนและความสัมพันธ์กับมนุษย์กลายพันธุ์ทำให้ชูตู๋เห็นคุณค่ามากมายในตัวฟางหยวน
ฟางหยวนต้องการร่วมมือกับชูตู๋มากขึ้นขณะที่ชูตู๋ก็คิดเช่นเดียวกัน
เมื่อฟางหยวนออกจากถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน ที่ภาคใต้ไป่หนิงปิงก็ไปถึงภูเขาหม้อหยก
“เหตุใดเจ้าถึงพาข้ามาที่นี่?” ไป่หนิงปิงถาม
ไห่ลั่วหลันและคนอื่นๆก็สงสัยเช่นกัน
อิงอู๋เซี่ยหยุดเดินและหันกลับมา “ไป่หนิงปิง เจ้ายังอ่อนแอเกินไป ภูเขาหม้อหยกมีบางสิ่งที่นิกายเงาจัดเตรียมไว้ มีวิญญาณอมตะดวงหนึ่งอยู่ที่นี่ พวกเราจะนำมันออกมาและเพิ่มความแข็งแกร่งให้เจ้า ด้วยวิธีนี้เจ้าจะสามารถจัดการกับการเดิมพันห้าเซียง”
“การเดิมพันห้าเซียง มันคือสิ่งใด?” ไป่หนิงปิงขมวดคิ้ว
อิงอู๋เซี่ยหัวเราะเสียงดัง “ยังเร็วเกินไปที่จะบอกเจ้าตอนนี้”
ไป่หนิงปิงขมวดคิ้วลึกมากขึ้น เขากล่าวอย่างเย็นชา “ส่วนนี้ของเจ้าเป็นสิ่งที่ข้าเกลียดที่สุด”
“โอหัง!” ซื่อหนิวมองไป่หนิงปิงด้วยความโกรธ เขาไม่มีความสุขกับท่าทีหยิ่งผยองของไป่หนิงปิงที่มีต่ออิงอู๋เซี่ย
“ไม่เป็นไร มันไม่ใช่เรื่องใหญ่” อิงอู๋เซี่ยหัวเราะ เขาไม่สนใจท่าทีของไป่หนิงปิงแม้แต่น้อย