Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - ตอนที่ 932
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 932 ปลาหมึกอสูรและไส้เดือนยักษ์
แปลโดย iPAT
โดยปราศจากการพูดคุย ฟางหยวนกับกลุ่มผีดิบอมตะเดินทางลึกลงไปในโลกใต้บาดาลถึงระดับหนึ่งร้อยสามสิบกิโลเมตรเรียบร้อยแล้ว
แม้พวกเขาจะพยายามหลีกเลี่ยงการต่อสู้แต่พวกเขาก็ต่อสู้ไปแล้วถึงสิบหกครั้ง
แต่ละคนได้รับบาดเจ็บในระดับที่แตกต่างกัน
“เราไม่สามารถลงลึกไปมากกว่านี้” นักรบมังกรเย่ชากล่าว “ตอนนี้เราอยู่ใกล้รังของหอยทากปฐพีมากแล้ว”
กองกำลังพันธมิตรผีดิบของภาคเหนือสามารถสำรวจได้ถึงระดับหนึ่งร้อยหกสิบกิโลเมตรเท่านั้น
ตอนนี้ใกล้จะถึงขีดจำกัดของพวกเขาแล้ว แม้จะเหลืออีกสามสิบกิโลเมตรแต่ยิ่งลึกก็ยิ่งอันตราย
กลุ่มผีดิบอมตะไม่คัดค้านคำกล่าวของนักรบมังกรเย่ชา
ก่อนมาที่นี่ฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายช่วงเวลาเปลี่ยนโชคทำให้โชคของเขาดีขึ้นชั่วระยะเวลาหนึ่ง ดังนั้นเขาจึงพบหอยทากปฐพีในเวลาต่อมา
“เยี่ยมมาก” ฟางหยวนแสดงออกด้วยความยินดี
“อย่ารีบร้อน ตรวจสอบสภาพแวดล้อมก่อน เราต้องแน่ใจว่าไม่มีอันตรายซ่อนอยู่” นักรบมังกรเย่ชากล่าว
กลุ่มผีดิบอมตะตรวจสอบอย่างละเอียดและตระหนักว่าที่นี่เป็นอาณาเขตของฝูงปลาหมึกอสูร
“ในการแปรรูปเมือกหอยทากปฐพี ข้าต้องใช้พลังงานแสงดาว มันจะกระตุ้นฝูงปลาหมึกอสูรอย่างแน่นอน” ฟางหยวนแสดงท่าทีลำบากใจขณะมองไปที่นักรบมังกรเย่ชา
หัวใจของทุกคนจมดิ่งลง
“เหตุใดไม่บอกก่อนหน้านี้?” เล่ยหยูไม่พอใจ
“มีวิธีปกปิดหรือไม่?” หมอหยินซวนถาม
ฟางหยวนส่ายศีรษะ “นั่นเป็นไปไม่ได้ ในความคิดเห็นของข้า เราควรกำจัดฝูงปลาหมึกอสูรเป็นอันดับแรก”
กลุ่มผีดิบอมตะมองนักรบมังกรเย่ชาก่อนที่เขาจะเปิดปากกล่าว “เช่นนั้นเราจะต่อสู้กับฝูงปลาหมึกอสูรก่อนที่ซิงเซียงซื่อจะเริ่มแปรรูปวัตถุดิบ”
มีปลาหมึกอสูรระดับสัตว์อสูรเดียวดายจำนวนแปดตัว ท่ามกลางพวกมันมีหนึ่งตัวเป็นราชาที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับผู้อมตะระดับเจ็ด
“หลินต้าเหนียวใช้สัตว์อสูรของเจ้าควบคุมพื้นที่รอบๆ”
“ยายหยวนพยายามก่อกวนและทำให้พวกมันเสียสมาธิ”
“เล่ยหยูกับข้าจะเป็นกำลังหลักในการโจมตี”
“สำหรับหมอหยินซวน เจ้าเฝ้าระวังอยู่นอกสนามรบ”
นักรบมังกรเย่ชาออกคำสั่งผู้ใต้บังคับบัญชาขณะที่ฟางหยวนไม่ต้องทำสิ่งใด
ฝูงปลาหมึกอสูรเหล่านี้โชคไม่ดีที่ถูกซุ่มโจมตี ดังนั้นเมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น พวกมันก็ตกสู่ความโกลาหลและตื่นตระหนก กลุ่มผีดิบอมตะเป็นฝ่ายได้เปรียบขณะที่การต่อสู้จบลงอย่างรวดเร็ว ปลาหมึกอสูรถูกสังหารและรอดชีวิตเพียงสองตัว
ในจังหวะนี้นักรบมังกรเย่ชาจึงตะโกนบอกฟางหยวน “ซิงเซียงซื่อ โจมตีได้!”
ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้นก่อนที่เขาจะเข้าสู่สนามรบอย่างช้าๆ
ท่าไม้ตายอมตะแส้อสรพิษดารา!
เขาดักจับปลาหมึกอสูรตัวหนึ่งในจังหวะที่เหมาะสมขณะที่ใช้ร่างแยกเงาดาราปิดล้อมปลาหมึกอสูรอีกตัว
“เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง…”
แส้อสรพิษดาราฟาดปลาหมึกอสูรตัวแรกอย่างต่อเนื่องกระทั่งมันตกตายไปอย่างรวดเร็ว
จากนั้นเขาจึงพุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่ปลาหมึกอสูรตัวที่สอง
ปลาหมึกอสูรมีร่างกายส่วนบนเหมือนมนุษย์ขณะที่ร่างกายส่วนล่างเป็นหนวดปลาหมึก
ปลาหมึกอสูรตัวสุดท้ายต่อสู้อย่างห้าวหาญขณะที่มันค่อยๆ ตกลงสู่หลุมพรางของฟางหยวน
ฟางหยวนใช้โม่หินเมฆาดาวป้องกันตัวและโจมตีเป็นครั้งคราว สุดท้ายหนวดปลาหมึกทั้งหมดก็ถูกตัดออก
ขณะที่เขาต่อสู้ ผีดิบอมตะคนอื่นๆ เพียงเฝ้ามองจากด้านข้างโดยไม่ทำสิ่งใดเลย
“เอาล่ะ หยุดได้” นักรบมังกรเย่ชากล่าวก่อนจะจับปลาหมึกอสูรตัวสุดท้ายเข้าไปในมิติช่องว่างของตน
เมื่อถึงจุดนี้ทุกคนได้เห็นความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของฟางหยวนแล้ว
ฟางหยวนแสดงทักษะการต่อสู้บนเส้นทางแห่งดวงดาวเท่านั้นแต่มันยังทำให้เล่ยหยูหุบปากเงียบ
หากต้องต่อสู้กับฟางหยวน เล่ยหยูรู้สึกว่าเขาอาจไม่มีโอกาสชนะ
ในโลกของผู้ใช้วิญญาณ ความแข็งแกร่งคือทุกสิ่ง แม้เล่ยหยูจะไม่พอใจแต่เขาก็ไม่สามารถแสดงมันออกมา
หลังจากนั้นฟางหยวนจึงเริ่มรวบรวมเมือกหอยทากปฐพีราตรีดาว
เขาร้องขอให้กลุ่มผีดิบอมตะล่าถอยออกไปเพื่อป้องกันการขโมยทักษะเฉพาะตัว
กลุ่มผีดิบอมตะรู้สึกไม่พอใจแต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำสิ่งใดนอกจากถอยห่างออกไปเท่านั้น
เมื่อกระบวนการแปรรูปทรัพยากรเริ่มต้น แสงดาวจำนวนนับไม่ถ้วนจึงส่องประกายขึ้น
ตระหนักถึงอันตราย หอยทากปฐพีหยุดเคลื่อนไหวและขดตัวเข้าไปในเปลือกของมัน
เปลือกของหอยทากปฐพีหนามาก สัตว์อสูรเดียวดายหรือผู้อมตะระดับหกทั่วไปไม่สามารถทำลายมันได้ กระทั่งผู้อมตะระดับเจ็ดยังต้องใช้ความพยายามอย่างมาก
นอกจากนี้เปลือกของพวกมันยังใหญ่โตเหมือนปลาวาฬและหนักเหมือนภูเขา พวกมันสามารถอาศัยอยู่ภายในได้โดยไม่ต้องออกมาเป็นเวลาหนึ่งหรือสองปี
ปราศจากเปลือกอันแข็งแกร่ง พวกมันจะตายอย่างง่ายดาย
ด้วยเหตุนี้ผีดิบอมตะที่ออกล่าส่วนใหญ่จะยอมแพ้พวกมันและหันไปหาเป้าหมายอื่นเช่นปลาหมึกอสูรหรือพืชอสูรชนิดอื่นๆ
ในการเดินทางต่อมา ฟางหยวนพบหอยทากปฐพีอีกสามตัว
ฟางหยวนสามารถรวบรวมเมือกหอยทากปฐพีราตรีดาวได้สองตัว สำหรับตัวสุดท้ายมันหลบหนีเข้าไปในอาณาเขตของอสรพิษเพลิงสีชาดบรรพกาล
สัตว์ร้ายตัวนี้เป็นสัตว์อสูรบนเส้นทางแห่งความมืด ไฟ และปฐพี มันเป็นสัตว์อสูรที่ยากจะรับมือ ดังนั้นฟางหยวนกับกลุ่มผีดิบอมตะจึงต้องยอมแพ้
ภายใต้คำแนะนำของฟางหยวน กลุ่มผีดิบอมตะเคลื่อนที่เข้าใกล้จุดหมายของฟางหยวนมากขึ้นเรื่อยๆ
“มีปลาหมึกอสูรจำนวนมากอยู่ข้างหน้า พวกมันมีอย่างน้อยสามสิบตัว!” หลินต้าเหนียวรายงานด้วยความกระวนกระวาย
“เช่นนั้นเราจะอ้อมไปทางอื่น” นักรบมังกรเย่ชาออกคำสั่ง
ปลาหมึกอสูรสามสิบตัวเทียบเท่ากับผู้อมตะระดับหกสามสิบคน โดยทั่วไปในฝูงใหญ่ระดับนี้จะมีปลาหมึกอสูรระดับสัตว์อสูรบรรพกาลอย่างน้อยสามตัว
แม้ฟางหยวนจะไม่เต็มใจแต่เขาก็ไม่สามารถขัดมติของสมาชิกส่วนใหญ่
กลุ่มผีดิบอมตะอ้อมไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้
ในไม่ช้าพวกเขาก็พบกับหอยทากปฐพีอีกสี่ตัว
หอยทากตัวหนึ่งดูค่อนข้างแก่ เปลือกของมันเป็นสีทองหม่นขณะที่ร่างของมันเคลื่อนที่ได้ช้ามาก
“ในที่สุดเราก็โชคดี” หลินต้าเหนียวหัวเราะ “ระดับอันตรายค่อนข้างต่ำ ท่านซิงเซียงซื่อสามารถไปเก็บเมือกหอยทากได้อย่างไม่มีปัญหา”
ฟางหยวนพยักหน้าโดยไม่กล่าวสิ่งใด
ทันใดนั้นดวงตาของเขาพลันส่องประกายขึ้นเมื่อค้นพบอันตรายที่ซ่อนเร้นอยู่ในสถานที่แห่งนี้
แม้มันจะดูปลอดภัยแต่มันเต็มไปด้วยพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งปฐพี หากพวกเขาเข้าไปใกล้ พวกเขาจะถูกดูดลงไปใต้ดิน
ยิ่งร่างกายหนักเท่าใดแรงดูดยิ่งมากเท่านั้น
‘สัตว์อสูรเดียวดายส่วนใหญ่มีร่างกายใหญ่โต เมื่อพวกมันมาที่นี่ พวกมันจะไม่สามารถเคลื่อนไหว อย่างไรก็ตามหอยทากปฐพีหนักเหมือนภูเขาแต่มันยังสามารถเคลื่อนที่ได้ เหตุผลที่มันเคลื่อนที่ช้าไม่ใช่เพราะมันแก่แต่เป็นเพราะมันคือหอยทากปฐพีบรรพกาล!’
ฟางหยวนตระหนักถึงเรื่องสำคัญ
ด้วยเหตุนี้เขาจึงเคลื่อนที่เข้าไปก่อนจะแสร้งถูกดูดและกรีดร้องเสียงดัง
“โอ้ ไม่ นี่คือบ่อโคลนดูด!”
“สิ่งนี้ควรจะปรากฏในระดับความลึกหนึ่งร้อยหกสิบกิโลเมตรลงไปเท่านั้น!”
“ระวัง! บ่อโคลนดูดมักมีไส้เดือนยักษ์ซ่อนตัวอยู่!”
กลุ่มผีดิบอมตะส่งเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจ
ยิ่งเข้าใกล้บ่อโคลนดูดมากเท่าใด ฟางหยวนก็ยิ่งรู้สึกถึงแรงดึงดูดมากเท่านั้น
ท่าไม้ตายอมตะดาวตกเพลิง!”
เปลวเพลิงลุกไหม้ขึ้นบนร่างของฟางหยวนขณะที่เขาพยายามหลบหนี
“อย่าไป!” นักรบมังกรเย่ชาคำราม
แต่มันสายไปแล้ว
ด้วยเสียงระเบิดครั้งใหญ่ ไส้เดือนยักษ์ทะยานร่างขึ้นจากบ่อโคลนดูด
หอยทากปฐพีขดตัวเข้าไปในเปลือกและหยุดเคลื่อนที่
ไส้เดือนยักษ์เปิดปากที่สามารถกลืนหอยทากปฐพีพร้อมกันห้าตัวของมันออก
ฟางหยวนกรีดร้อง “ช่วยข้า!”
หลังกล่าวจบคำ ไส้เดือนยักษ์ก็งับร่างของฟางหยวนเข้าปากไปในทันที
“ระวัง! ปากของไส้เดือนยักษ์เต็มไปด้วยฟันอันแหลมคม!”
“อดทนไว้ เราจะไปช่วยท่านอย่างแน่นอน!”
กลุ่มผีดิบอมตะกลายเป็นตื่นตระหนกและเริ่มเคลื่อนไหว
หากเกิดสิ่งใดขึ้นกับฟางหยวน พวกเขาจะอธิบายกับนางมารผลาญสวรรค์ได้อย่างไร
ดังนั้นพวกเขาจึงเปิดฉากโจมตีอย่างดุเดือดเพื่อบังคับให้ไส้เดือนยักษ์เปิดปากออก
ไส้เดือนยักษ์มีร่างกายใหญ่โต เมื่อมันออกล่า มันจะกลืนเหยื่อเข้าไปก่อนจะหดร่างลงราวกับลูกโป่งรั่วและใช้ฟันบดขยี้เป้าหมาย
แต่เมื่อฟางหยวนเข้าไปในปากของมัน เขาก็ใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งดวงดาวหยุดการหดตัวของมันก่อนจะกระตุ้นใช้วิญญาณอมตะท่องแดนอมตะทันที
เขาใช้เวลาสามลมหายใจก่อนจะเคลื่อนย้ายสถานที่และหลบหนีจากอันตราย
สำหรับกลุ่มผีดิบอมตะ พวกเขายังคิดว่าฟางหยวนติดอยู่ภายในและพยายามให้ความช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ
อย่างไรก็ตามกลิ่นอายของวิญญาณอมตะยังดึงดูดความสนใจของฝูงปลาหมึกอสูร
ฟางหยวนเผยรอยยิ้มบางและโจมตีปลาหมึกอสูรอย่างรุนแรง
หลังจากชั่วครู่เขาสามารถล่อปลาหมึกอสูรที่กำลังโกรธให้เคลื่อนที่เข้าหากลุ่มของนักรบมังกรเย่ชา
กลุ่มผีดิบอมตะมองไม่เห็นฟางหยวน พวกเขาคิดว่าฝูงปลาหมึกอสูรต่อสู้กันเองและกำลังไล่ล่าสมาชิกที่อ่อนแอที่สุด
นี่ทำให้พวกเขาต้องถอนหายใจให้กับความโชคร้ายของตนเอง แต่เนื่องจากซิงเซียงซื่อยังติดอยู่ในปากของไส้เดือนยักษ์ พวกเขาจึงไม่สามารถล่าถอย
ดังนั้นฝูงปลาหมึกอสูรจึงเข้าร่วมในการต่อสู้ของกลุ่มผีดิบอมตะกับไส้เดือนยักษ์ในที่สุด