Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - ตอนที่ 974
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 974 การตอบสนองของไห่ลั่วหลัน
แปลโดย iPAT
‘วิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเอง!’ การกระทำของฟางหยวนทำให้จิตใจของไห่ลั่วหลันสั่นคลอน
วิญญาณอมตะดวงนี้เดิมทีเป็นของนาง แต่เพราะนางติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝันและได้รับความช่วยเหลือจากฟางหยวน มันจึงจบลงด้วยการที่นางต้องส่งมอบวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเองให้กับเขา
ไห่ลั่วหลันมีสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริง วิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเองเหมาะสมกับนางมากที่สุด นอกจากนี้มันยังเป็นมรดกตกทอดจากซูเซียนเอ๋อมารดาของนาง ดังนั้นมันจึงมีความสำคัญกับนางเป็นอย่างมาก
ไห่ลั่วหลันไม่เต็มใจมอบมันให้ฟางหยวนแต่ในเวลานั้นนางไม่มีทางเลือก
นางพยายามครุ่นคิดทั้งกลางวันและกลางคืนว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้ได้รับวิญญาณอมตะดวงนี้กลับคืน
อย่างไรก็ตามนางต้องหยุดคิดเรื่องนี้เป็นการชั่วคราว
ในแง่มุมหนึ่ง มันสามารถถูกทำลายได้เพียงหนึ่งความคิด ในทางกลับกัน ไห่ลั่วหลันก็เป็นคนฉลาด
นางเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับวิธีการประนีประนอม
ไห่ลั่วหลันกับฟางหยวนเป็นพันธมิตร นางยังต้องพึ่งพาธุรกิจวิญญาณความเด็ดเดี่ยวเพื่อสนับสนุนการบ่มเพาะของตัวนางเอง นางร่วมมือกับฟางหยวนเพื่อให้ได้รับผลประโยชน์ ในทางตรงข้าม หากนางเป็นศัตรูกับเขา มันอาจเกิดความสูญเสียครั้งใหญ่ ดังนั้นไห่ลั่วหลันจึงต้องอดทนต่อไป
นางทำตัวราวกับลืมวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเองไปแล้ว
กล่าวได้ว่านางร้ายลึกและฉลาดมาก
แต่ตอนนี้ฟางหยวนกลับกำลังส่งมอบวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเองให้นาง นี่เกินกว่าการคาดหวังของนางอย่างสิ้นเชิง
ไห่ลั่วหลันค่อยๆสงบจิตใจลงและมองไปที่ฟางหยวน
สติของนางกลับมาแล้วและนางก็ระวังตัวมากขึ้น
นางรู้จักธรรมชาติของฟางหยวน เช่นเดียวกัน นางทั้งชื่นชมและหวาดกลัวฟางหยวน
‘เหตุใดฟางหยวนจึงส่งมอบวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเองให้ข้า? เขามีแผนใด?’
ราวกับได้ยินความคิดของไห่ลั่วหลัน ฟางหยวนหัวเราะเบาๆก่อนกล่าว “อย่ากังวล วิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเองเหมาะสมกับข้าเช่นกัน แต่ข้าเชื่อว่ามันสำคัญกับเจ้ามากกว่า ดังคำกล่าวที่ว่า สุภาพบุรุษจะไม่เอาเปรียบผู้อื่น ถูกต้องหรือไม่?”
ดวงตาของไห่ลั่วหลันส่องประกายขณะมองไปที่วิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเอง จากนั้นนางจึงเงยหน้าขึ้นมองฟางหยวนและเย้ยหยัน “เจ้าเป็นสุภาพบุรุษงั้นหรือ? เพียงกล่าวสิ่งที่เจ้าต้องการ”
ฟางหยวนลูบจมูกของเขา “หากข้ากล่าวออกไป ข้าเกรงว่าจะทำให้เจ้าตกใจ”
ไห่ลั่วหลันตะคอก “พูด!”
ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น เขากล่าวอย่างจริงจัง “เช่นนั้นข้าก็จะกล่าวตามตรง ข้าต้องการใช้วิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเองแลกเปลี่ยนกับวิญญาณทัศนคติของเจ้า”
“อันใด!?” ร่างกายของไห่ลั่วหลันสั่นสะท้านขณะที่นางก้าวถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว
“ข้าเก็บเรื่องการได้มาซึ่งวิญญาณทัศนคติไว้กับตนเอง ข้าซ่อนมันจากท่านป้า ในโลกใบนี้มีข้าเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไร!?”
ไห่ลั่วหลันตกใจมาก
นี่เป็นความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของนาง แต่ฟางหยวนกลับเปิดเผยมันออกมา เช่นนี้แล้วจะไม่ให้นางตกใจได้อย่างไร
เจตนาสังหารในดวงตาของไห่ลั่วหลันแผ่พุ่งออกมาโดยที่นางไม่รู้ตัว
นางต้องการกำจัดฟางหยวนเพื่อเก็บความลับ!
ฟางหยวนเริ่มก้าวถอยหลัง
การเคลื่อนไหวที่เรียบง่ายนี้ส่งผลกระทบต่อจิตใจของไห่ลั่วหลัน
ไห่ลั่วหลันแสดงออกราวกับสัตว์ร้าย แต่ฟางหยวนกลับก้าวถอยหลังและเผยรอยยิ้มที่ปราศจากความมุ่งร้าย นี่ทำให้ไห่ลั่วหลันรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น
ไห่ลั่วหลันจ้องมองฟางหยวนด้วยการแสดงออกที่เย็นชา เจตนาสังหารของนางยังไม่หมดไปแต่ตอนนี้สติของนางกลับคืนมาแล้ว
“ดูเหมือนเจ้าจะมีวิญญาณทัศนคติในตำนานจริงๆ” ฟางหยวนแสร้งสังเกตการแสดงออกของไห่ลั่วหลันและกล่าวด้วยความประหลาดใจ
ไห่ลั่วหลันตอบกลับด้วยความโกรธ “เจ้าหลอกข้า?”
“ไม่อย่างแน่นอน” ฟางหยวนยิ้มและยักไหล่ “เจ้ายังจำท่านอาจารย์ของข้าได้หรือไม่? ราชันภูเขาม่วง”
ไห่ลั่วหลันสูดหายใจลึก เมื่อนางได้ยินชื่อราชันภูเขาม่วง การแสดงออกของนางก็เริ่มผ่อนคลายลง
นางรู้จักราชันภูเขาม่วง
ฟางหยวนเป็นศิษย์ของเขาและไท่เป่ยหยุนเฉิงก็เช่นกัน
แน่นอนว่านี่เป็นข้อมูลเท็จที่ฟางหยวนสร้างขึ้น กระทั่งนางมารผลาญสวรรค์ก็ยังถูกหลอก
“เป็นอาจารย์ของเจ้าที่ให้ข้อมูลนี้กับเจ้างั้นหรือ?” ไห่ลั่วหลันถาม
ความตั้งใจฆ่าของไห่ลั่วหลันหายไปแล้ว จากมุมมองของนาง ฟางหยวนได้รับการสนับสนุนจากราชันภูเขาม่วง มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะฆ่าเขา
หลังจากทั้งหมดตอนนี้เทพธิดาหลี่ซานยังไม่ได้คืนดีกับนางมารผลาญสวรรค์
ฟางหยวนหัวเราะเบาๆ “เจ้าคิดอย่างไร?”
ไห่ลั่วหลันรู้สึกปั่นป่วนอยู่ภายใน ‘ราชันภูเขาม่วงล่วงรู้ความลับของข้า เขาต้องมีพลังอำนาจที่ไม่สามารถหยั่งถึง โชคดีที่ข้าเป็นพันธมิตรกับฟางหยวน แต่ฟางหยวนช่างเจ้าแผนการนัก เขารู้ว่าวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเองมีความสำคัญกับข้า ดังนั้นเขาจึงกล้าใช้วิญญาณระดับหกมาแลกเปลี่ยนกับวิญญาณระดับแปด!’
แน่นอนว่าไห่ลั่วหลันปฏิเสธ “วิญญาณทัศนคติของข้าเป็นวิญญาณอมตะระดับแปด ตราบเท่าที่เป็นมนุษย์มีความคิด พวกเขาก็สามารถใช้งานมันได้ มันเป็นวิญญาณในตำนาน แต่เจ้ากลับต้องการใช้วิญญาณระดับหกแลกเปลี่ยนกับมันงั้นหรือ? เจ้ากำลังฝันไปหรือไม่?”
ฟางหยวนคิดก่อนกล่าว “แล้วเจ้าต้องการสิ่งใด?”
“ไม่มีการแลกเปลี่ยน!” ไห่ลั่วหลันเร่งปฏิเสธ
การแสดงออกของฟางหยวนกลายเป็นมืดครึ้ม “ไห่ลั่วหลัน คิดให้ดี ข้าขอเตือนเจ้าว่าที่นี่คือแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูของข้า”
ไห่ลั่วหลันหัวเราะเสียงดัง “ฮ่าฮ่าฮ่า แล้วอย่างไร? เจ้าลืมข้อตกลงของเราไปแล้วงั้นหรือ? พันธมิตรไม่สามารถโจมตีซึ่งกันและกัน”
“ถูกต้อง!” ไห่ลั่วหลันกล่าวเสริม “เจ้าได้รับการสนับสนุนจากอาจารย์ของเจ้า บางทีเจ้าอาจทำลายข้อตกลงไปแล้ว แต่เจ้าคิดว่าข้ากลัวตายงั้นหรือ?”
“เจ้าดูแคลนข้ามากเกินไป แม้ข้าจะตายอยู่ที่นี่ ข้าก็จะทำลายวิญญาณอมตะทั้งหมดก่อนตาย นอกจากนั้นข้าก็รู้ข้อมูลทุกอย่างของแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หู ข้ารู้ว่าที่นี่มีทรัพยากรมากเพียงใด หากพวกมันได้รับผลกระทบจากการต่อสู้และถูกทำลาย กระทั่งไท่เป่ยหยุนเฉิงจะมีวิญญาณอมตะพื้นที่ก่อนหน้า มันก็เป็นเรื่องยากที่จะกู้คืนทุกสิ่ง”
ฟางหยวนลอบหัวเราะอยู่ในใจ
ในชีวิตก่อนหน้าเขาเคยแสดงทัศนคติไม่เกรงกลัวความตายต่อหน้านางมารผลาญสวรรค์ แต่ในชีวิตนี้กลับเป็นไห่ลั่วหลันที่ถูกกดดันและต้องแสดงทัศนคติเช่นนี้ออกมา
การแสดงออกของฟางหยวนเปลี่ยนไป เขาหัวเราะเบาๆและปรบมือ “ไห่ลั่วหลัน ข้าย่อมไม่กล้าดูแคลนเจ้า มันเป็นเพียงเรื่องตลก”
“เรื่องตลก? ใช้วิญญาณระดับหกแลกเปลี่ยนกับวิญญาณระดับแปด นี่แสดงให้เห็นถึงความโลภและความโง่เขลาของเจ้าเท่านั้น” ไห่ลั่วหลันตำหนิเสียงเย็น
ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายคมชัด “เช่นนั้นข้าจะวางบางสิ่งเพิ่มเติม ข้าจะยอมแพ้การแข่งขันชิงแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งดวงดาว เจ้าคิดอย่างไร?”
ไห่ลั่วหลันส่ายศีรษะ “ยอมแพ้งั้นหรือ? กระทั่งเจ้าจะส่งมอบแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูและแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งดวงดาวให้ข้า ข้าก็จะไม่แลกเปลี่ยนวิญญาณทัศนคติกับเจ้า มันเป็นวิญญาณที่มีเงื่อนไขในการใช้งานน้อยมาก ไม่จำเป็นต้องมีพลังงานอมตะ มันใช้เพียงพลังจิตเท่านั้น นั่นหมายความว่าแม้ข้าจะเป็นผู้อมตะระดับหก ข้าก็สามารถใช้งานวิญญาณระดับแปดดวงนี้ มันเป็นสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดของข้า ข้าจะไม่ยอมปล่อยมือจากมันอย่างแน่นอนและอย่ากล่าวถึงการซื้อ! ฟางหยวน เจ้าเป็นคนฉลาด เจ้าย่อมไม่ทุ่มเทความพยายามกับสิ่งที่ไร้ประโยชน์ถูกต้องหรือไม่?”
ฟางหยวนพยักหน้าและถอนหายใจ
“ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะถอยหลังไปอีกก้าว เช่นนั้นข้าจะใช้วิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเองแลกเปลี่ยนกับวิญญาณทาสอมตะของเจ้า”
ไห่ลั่วหลันขมวดคิ้วลึก
นางได้รับวิญญาณทาสอมตะมาจากแดนศักดิ์สิทธิ์เมืองหลวงของภาคเหนือหลังจากหลอกลวงเจตจำนงของเทพอมตะตะวันเดือด
ตอนนี้นางเริ่มจมลงสู่ความเงียบเพราะข้อเสนอที่ดึงดูดใจของฟางหยวน
วิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเองมีค่ามากกว่าวิญญาณทาสอมตะอย่างไม่ต้องสงสัย
ไห่ลั่วหลันคิดและกล่าว “วิญญาณระดับหกแลกเปลี่ยนกับวิญญาณระดับหก นี่เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ แต่วิญญาณทาสอมตะใช้ได้ครั้งเดียว เจ้าไม่คิดว่ามันเป็นการสูญเสียงั้นหรือ?”
“ถูกต้อง นี่เป็นการสูญเสีย” ฟางหยวนหัวเราะ “ดังนั้นข้าจึงมีเงื่อนไขเพิ่มเติม ข้าจะขอยืมวิญญาณทัศนคติของเจ้าสักระยะ”
ไห่ลั่วหลันไม่ตอบและจมลงสู่ความเงียบอีกครั้ง
ฟางหยวนใช้ทุกวิธีเพื่อขอยืมวิญญาณทัศนคติ สิ่งนี้ทำให้ไห่ลั่วหลันตระหนักว่าวิญญาณทัศนคติมีความสำคัญต่อฟางหยวน
อย่างไรก็ตามมันสำคัญกับเขามากเพียงใด เรื่องนี้ไห่ลั่วหลันยังไม่แน่ใจ ดังนั้นนางจึงต้องตรวจสอบ
นางปฏิเสธ “ข้าจะไม่ให้ยืมวิญญาณทัศนคติ”
ฟางหยวนถอนหายใจ “เช่นนั้นก็ลืมมันไปซะ”
จากนั้นเขาก็หันหลังกลับ
ไห่ลั่วหลันยืนมองอย่างเย็นชาโดยไม่ขยับเขยื้อน
ฟางหยวนเดินไปหลายก้าวก่อนจะหยุดและหันหลังกลับพร้อมกับเผยรอยยิ้มขมขื่น “ข้าต้องการยืมวิญญาณทัศนคติเป็นเวลาสามปีเท่านั้น”
“สามปี? แม้แต่สามวันข้าก็ไม่ยินดี!” ไห่ลั่วหลันแสดงออกอย่างเย็นชาแต่ภายในกลับลอบตื่นเต้น นางเห็นโอกาสเอาเปรียบฟางหยวน
ทักษะการแสดงของนางค่อนข้างดีแต่สุดท้ายนางก็ยังเป็นเด็กขณะที่ฟางหยวนเป็นจิ้งจอกเฒ่าห้าร้อยปี
ฟางหยวนก่นเสียงเย็นไม่พอใจ เขาจะไม่รู้ความคิดของนางได้อย่างไร
เขาโยนไม้เด็ดออกมาทันที “ดูเหมือนเจ้าจะไม่ต้องการแก้แค้นแล้ว โอกาสที่ดีในการสังหารไห่เจิ้งอยู่ตรงหน้า แต่เจ้ากลับไม่สนใจ”
“กระไรนะ!? สังหารไห่เจิ้ง!?” ดวงตาของไห่ลั่วหลันส่องประกายขึ้นด้วยความดุร้าย
การสังหารไห่เจิ้งเป็นเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของนาง
ในชีวิตก่อนหน้าของฟางหยวน นางสามารถสังหารไห่เจิ้งและได้รับวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเองจากฟางหยวน นั่นทำให้นางสามารถกำจัดบาดแผลในใจและค้นพบตัวตนที่แท้จริงของตนเอง เมื่อนางกระตุ้นใช้วิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเอง ภูตมนุษย์ที่ปรากฏขึ้นจึงเปลี่ยนเป็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของนาง