Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - ตอนที่ 982
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 982 เก็บกวาดเขตแดน
แปลโดย iPAT
งานเลี้ยงเต็มไปด้วยอาหารและสุราเลิศรส
ฟางหยวนได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากฉลามปีศาจกับซูไป่ม่าน
ระหว่างงานเลี้ยง ฉลามปีศาจเรียกผู้ใช้วิญญาณหญิงหลายคนออกมา “นางรำเหล่านี้คือคนรับใช้ที่ข้าเลี้ยงเอาไว้ พวกนางมีความเชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงและสามารถแสดงการร่ายรำระดับสูง การแสดงของทะเลฉลามได้รับการยกย่องจากผู้คนของทะเลตะวันออก วันนี้ข้าจะให้พวกท่านได้รับชมและช่วยวิจารณ์ด้วย”
ผู้ใช้วิญญาณหญิงที่งดงามหลายคนออกมาแสดงความสามารถ
เสียงเพลงดังขึ้นพร้อมกับนางรำที่สะบัดแขนเสื้อขึ้นสู่อากาศด้วยท่าทางที่งดงาม
ทันใดนั้นเสียงเพลงพลันแปรเปลี่ยนขณะที่ผู้ใช้วิญญาณหญิงแปลงร่างเป็นนางเงือกและเต้นรำอยู่กลางอากาศ
เมื่อเสียงเพลงเปลี่ยนไปอีกครั้ง พวกนางก็เปลี่ยนเป็นหญิงสาวที่เต้นรำอยู่ในเปลือกหอยและอีกหลากหลายรูปแบบ
นี่ทำให้ฟางหยวนได้เปิดหูเปิดตาอย่างแท้จริง
“ทะเลตะวันออกมีวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์และน่าอัศจรรย์ มันแตกต่างจากความงามที่แข็งแกร่งกล้าหาญของภาคเหนืออย่างสิ้นเชิง” ไท่เป่ยหยุนเฉิงยกย่อง
ฉลามปีศาจเห็นฟางหยวนไม่พูด เขาจึงเปิดปากถาม “ท่านเฉิน ท่านคิดเห็นอย่างไร?”
“มันงดงามเหนือจินตนาการอย่างแท้จริง” ฟางหยวนกล่าวยกย่องแต่ลอบหัวเราะตลกขบขันอยู่ภายใน
ในชีวิตก่อนหน้าแม้ฟางหยวนจะเข้าร่วมงานเลี้ยงของฉลามปีศาจเช่นกัน แต่มันไม่มีการแสดงใดๆ อย่างไรก็ตามตอนนี้เพราะระดับความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของฟางหยวน มันทำให้ฉลามปีศาจให้ความสำคัญกับเขามากขึ้น
เมื่อเพลงจบลง กลุ่มนางรำก็จากไป
ซูไป่ม่านเผยรอยยิ้ม “หากท่านเฉินและท่านไท่เป่ยหยุนเฉิงชื่นชมนางรำคนใดเป็นพิเศษ เราสามารถมอบให้กับพวกท่าน”
“ข้าแก่เกินไปสำหรับเรื่องนี้แล้ว” ไท่เป่ยหยุนเฉิงปฏิเสธอย่างสุภาพ
ฟางหยวนกล่าวอย่างตรงไปตรงมา “ข้าเคยได้ยินมาบ้างเกี่ยวกับงานเลี้ยงตกฉลาม ข้าสนใจปลาฉลามนอกวังบาดาลแห่งนี้มากกว่า”
ซูไป่ม่านรู้สึกผิดหวังแต่ยังเผยรอยยิ้ม “ฮ่าฮ่า คุณชายไม่ได้เลือกนางรำ นี่เป็นโชคร้ายของพวกนาง แต่ข้าไม่สามารถตัดสินใจเกี่ยวกับปลาฉลามในทะเลแห่งนี้ พวกมันเป็นสมบัติของสามีข้า”
“ฮ่าฮ่าฮ่า หากท่านเฉินต้องการ ข้าจะไม่ตอบสนองได้อย่างไร ในงานเลี้ยงฉลามของข้า ข้าจะมอบฉลามเป็นของขวัญทุกครั้ง แต่ข้ามีกฎบางอย่าง ไม่ทราบว่าท่านเฉินพอจะทราบหรือไม่?” ฉลามปีศาจถาม
“แน่นอน ข้าทราบ” ฟางหยวนพยักหน้าและสะบัดพัดในมือ “แต่ข้าต้องการคำยืนยันจากท่านก่อน ไม่ว่าเราจะจับฉลามชนิดใดหรือจำนวนเท่าใด พวกมันทั้งหมดก็จะเป็นของพวกเราถูกต้องหรือไม่?”
“นั่นเป็นเรื่องจริง แต่ท่านต้องดำเนินการด้วยตนเอง” ฉลามปีศาจพยักหน้าโดยปราศจากความลังเล
ฟางหยวนยิ้ม “เช่นนั้นหากข้าอนุมานว่าฉลามตัวใดล้ำค่าที่สุดในทะเลแห่งนี้และสามารถจับมัน หวังว่าท่านจะสามารถอดทนต่อความเจ็บปวดและมอบมันให้ข้า ฮ่าฮ่าฮ่า”
“แน่นอน” ฉลามปีศาจเผยรอยยิ้ม เขาต้องการตรวจสอบรากฐานที่แท้จริงของฟางหยวน
ฟางหยวนแสร้งยกนิ้วขึ้นมาราวกับกำลังอนุมาน
ร่างของเขาปกคลุมไปด้วยแสงดาว
กลิ่นอายของวิญญาณอมตะปะทุขึ้นทำให้ฉลามปีศาจกับซูไป่ม่านลอบมองหน้าและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างลับๆ
“ผู้อมตะความคิดดาราเฉินเต๋าผู้นี้ช่างน่าอัศจรรย์นัก!”
“ท่านสังเกตเห็นหรือไม่ว่าเขาใช้วิญญาณอมตะไปแล้วถึงสามดวง! ข้าสงสัยนักว่าพวกมันคือวิญญาณชนิดใด?”
สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือมันเป็นเพียงการแสดงของฟางหยวนเท่านั้น
แสงดาวค่อยๆเลือนหายไปพร้อมกับใบหน้าของฟางหยวนที่ปกคลุมไปด้วยเม็ดเหงื่อ
เขาพักผ่อนชั่วขณะก่อนจะเปิดเปลือกตาขึ้น
“ผู้ใดจะคิดว่าท่านฉลามปีศาจกับท่านหญิงซูไป่ม่านจะมีวิธีการที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ พวกท่านใช้วิธีบนเส้นทางแห่งทาสควบคุมฉลามนิ้วกาลเวลาระดับแปดตัวหนึ่งเอาไว้ที่นี่ ข้ารู้สึกประทับใจนัก อย่างไรก็ตามแม้ข้าจะสามารถอนุมาน ข้าก็ไม่มีวิธีจับมัน ข้ากล่าวถ้อยคำยโสออกไปก่อนหน้าแต่กลับไร้ความสามารถ ข้าหวังว่าท่านทั้งสองจะไม่หัวเราะเยาะข้า”
ร่างของฉลามปีศาจกับซูไป่ม่านสั่นสะท้านขึ้น
‘ผู้อมตะความคิดดาราเฉินเต๋าสามารถอนุมานได้ถึงระดับนี้เลยงั้นหรือ?’
‘นี่…นี่…’
ผีดิบอมตะระดับเจ็ดทั้งสองจ้องมองฟางหยวนด้วยดวงตาเบิกกว้าง
ไม่กี่ลมหายใจต่อมาฉลามปีศาจกับซูไป่ม่านจึงสามารถสงบจิตใจลงอย่างช้าๆ
ซูไป่ม่านถอนหายใจ “ในที่สุดข้าก็ได้เห็นความสามารถที่แท้จริงของท่านเฉินแล้ว ฉลามนิ้วกาลเวลาเป็นความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเรา ท่านเฉินอาจไม่ทราบเรื่องนี้ แต่เพื่อป้องกันการอนุมานจากคนนอก พวกเขาต้องขอให้ท่านซ่งเจียตันช่วยปิดผนึกมันเอาไว้”
ฉลามปีศาจกล่าวต่อ “ซ่งเจียตันเป็นหนึ่งในสามผู้อมตะบนเส้นาทางแห่งปัญญาที่โดดเด่นที่สุดของทะเลตะวันออก แต่ท่านเฉินยังสามารถทำลายการป้องกันของเขา นั่นหมายความว่าความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของท่านย่อมไม่ด้อยกว่าซ่งเจียตัน!”
หัวใจของฟางหยวนแทบกระโดดออกมาจากหน้าอก ครั้งนี้เขาทำมากเกินไปจริงๆ
เขาโบกมือเพื่อกอบกู้สถานการณ์ “โอ้ ข้ายังไม่สามารถเปรียบเทียบกับซ่งเจียตัน ครั้งนี้ข้าเพียงโชคดีเท่านั้น หากต้องเผชิญหน้ากับซ่งเจียตันโดยตรง ข้ายังไม่สามารถเอาชนะเขา”
ฉลามปีศาจจ้องมองฟางหยวนก่อนกล่าว “ในที่สุดข้าก็ได้เห็นความสามารถที่แท้จริงของท่านเฉินเต๋า แต่…ก่อนหน้านี้ในแดนศักดิ์สิทธิ์หยูลู่ เหตุใดท่านจึงไม่ใช้วิญญาณอมตะ?”
ฟางหยวนหัวเราะเบาๆ “ไม่ใช่ว่าการใช้วิญญาณอมตะจะทำให้สูญเสียพลังงานอมตะเช่นนั้นหรือ? นี่จะเพิ่มค่าใช้จ่ายของข้าในการคลี่คลายเขตแดน ข้ามิได้ร่ำรวยเช่นท่านฉลามปีศาจ หากข้าสามารถใช้วิญญาณระดับมนุษย์คลี่คลายเขตแดน แล้วเหตุใดข้าจึงต้องใช้วิญญาณอมตะ?”
หัวใจของฉลามปีศาจสั่นสะท้านขึ้น
ฟางหยวนไม่สนใจเรื่องเวลา!
ตรงข้ามกับฉลามปีศาจ เขารับภารกิจบุกแดนศักดิ์สิทธิ์หยูลู่จากกองกำลังพันธมิตรผีดิบของทะเลตะวันออก ยิ่งใช้เวลานานเท่าใด เขาก็ยิ่งได้รับแรงกดดันมากเท่านั้น หากเขาไม่มีความคืบหน้า ผู้อื่นอาจฉกชิงภารกิจนี้ไปจากเขา
ดังนั้นฉลามปีศาจกับซูไป่ม่านจึงรู้สึกกดดันกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
“ท่านเฉินทราบดีว่าข้ากำลังเร่งรีบ หากนานกว่านี้อาจเกิดอุบัติเหตุบางอย่าง เราควรยึดครองแดนศักดิ์สิทธิ์หยูลู่อย่างรวดเร็วที่สุด” ฉลามปีศาจหัวเราะก่อนกล่าวต่อ “ดูเหมือนว่าค่าตอบแทนก่อนหน้านี้ยังไม่เป็นที่พอใจของท่านเฉิน หากท่านเฉินต้องการสิ่งใด ข้าจะพยายามตอบสนอง”
ฟางหยวนส่ายศีรษะและเผยรอยยิ้ม “มันจะดีกว่าหากเราค่อยเป็นค่อยไป ท่านฉลามปีศาจย่อมทราบถึงคุณค่าของท่าไม้ตายเขตแดนเหล่านี้ถูกต้องหรือไม่?”
“แน่นอน ข้ารู้คุณค่าที่แท้จริงของแดนศักดิ์สิทธิ์หยูลู่ มันไม่เรื่องของท่าไม้ตายเขตแดนเท่านั้น แต่มันยังเกี่ยวกับการผสานพลังงานแห่งเต๋า อย่างไรก็ตามเราจะสามารถเรียนรู้สิ่งเหล่านี้หลังจากยึดครองแดนศักดิ์สิทธิ์หยูลู่และกลายเป็นเจ้านายคนใหม่ของจิตวิญญาณแผ่นดิน” ฉลามปีศาจกล่าว
“จะเป็นเช่นไรหากไม่มีจิตวิญญาณแผ่นดิน?” ฟางหยวนเร่งถาม
“นี่…ความเป็นไปได้มีอยู่น้อยมาก” ฉลามปีศาจลังเล
“อาจมีความเป็นไปได้น้อย แต่หลังจากบุกโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์หยูลู่มานาน ท่านฉลามปีศาจเคยเห็นจิตวิญญาณแผ่นดินหรือไม่? ข้าเดาว่าไม่ หากเป็นเช่นนั้นมันจะดีกว่าที่เราจะค่อยๆทำความเข้าใจและทำลายท่าไม้ตายเขตแดนเหล่านี้” ฟางหยวนถอนหายใจ
ฉลามปีศาจเริ่มโกรธ เขากระตุ้นต่อแต่ฟางหยวนยังแสดงทัศนคติที่มั่นคง
ฉลามปีศาจไม่ต้องการทำลายความสัมพันธ์ที่ดี ดังนั้นเขาจึงต้องอดทนเท่านั้น
ฟางหยวนเรียกร้องค่าใช้จ่ายจนถึงขีดจำกัดของฉลามปีศาจอย่างไม่เกรงกลัว
หลังจากไม่กี่วันฟางหยวนก็ติดตามฉลามปีศาจเข้าสู่แดนศักดิ์สิทธิ์หยูลู่อีกครั้ง
คราวนี้ฟางหยวนใช้วิญญาณอมตะความคิดดาราและสามารถคลี่คลายเขตแดนโลกเยือกแข็งได้ในที่สุด
สำหรับวิญญาณอมตะความคิดดารา มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างแปลก
หลังจากกำเนิดใหม่ ฟางหยวนประสบความสำเร็จในการหลอมรวมวิญญาณอมตะความคิดดาราในความพยายามครั้งแรก!
นี่ไม่ใช่เรื่องปกติและไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเกิดขึ้น
บางทีอาจเป็นเพราะเขาฝึกฝนมาหลายครั้งในชีวิตก่อนหน้าหรือบางทีอาจเป็นเพราะโชคของเขาดีขึ้นหลังจากเชื่อมโยงโชคกับไห่ลั่วหลัน
สำหรับวิญญาณอมตะระเบิดพลัง เขากำลังรวบรวมทรัพยากรและรอเวลาที่เหมาะสมในการหลอมรวม
หลายเดือนผ่านไป ด้วยความช่วยเหลือจากฟางหยวน ฉลามปีศาจมีช่วงเวลาที่ง่ายดายในแดนศักดิ์สิทธิ์หยูลู่มากกว่าชีวิตก่อนหน้า
เขตแดนโลกเยือกแข็ง เขตแดนสนามรบจิตวิญญาณ และเขตแดนเขาวงกตแปดประตูถูกคลี่คลายโดยฟางหยวนทีละชั้น
ด้วยการคงอยู่ของวิญญาณอมตะความคิดดารา ฟางหยวนไม่ขาดแคลนกลุ่มก้อนความคิดอีกต่อไป นี่ทำให้เขาสามารถศึกษาเขตแดนทั้งสามได้แปดสิบถึงเก้าสิบส่วน
แม้ฟางหยวนจะไม่มีวิญญาณอมตะที่ใช้สร้างเขตแดนเหล่านี้ แต่สามารถเรียนรู้จากพวกมัน นี่ก็ถือเป็นผลประโยชน์มหาศาลแล้ว
ด้วยความเข้าใจเกี่ยวกับท่าไม้ตายเขตแดนและแสงแห่งปัญญา ฟางหยวนมั่นใจว่าเขาจะสามารถสร้างท่าไม้ตายเขตแดนของตนเอง
สุดท้ายฟางหยวนก็เผชิญหน้ากับเขตแดนกองทัพที่ไม่สามารถเคลื่อนย้าย
เขาพบปัญหาในที่สุด
ท่าไม้ตายเขตแดนกองทัพที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายเกี่ยวข้องกับเส้นทางแห่งปัญญาและไม่สามารถปลดออกได้โดยง่าย
เนื่องจากฟางหยวนไม่มีประสบการณ์ในการคลี่คลายมันในชีวิตก่อนหน้า ดังนั้นความคืบหน้าของเขาจึงค่อนข้างล่าช้า
ฟางหยวนทิ้งมันไปโดยไม่แยแส เมื่อเขาไม่ได้เข้าร่วมกับกองกำลังพันธมิตรผีดิบ ฉลามปีศาจจึงไม่สามารถบังคับเขา
แน่นอนว่าเหตุผลหลักที่ฟางหยวนละทิ้งมันเป็นเพราะถ้ำสวรรค์นภาแห่งดาวที่ร่วงหล่นลงมาและทำให้ภาคกลางตกลงสู่ความสับสนวุ่นวายในช่วงเวลานี้
ในชีวิตก่อนหน้าฟางหยวนได้รับความสำเร็จระดับปรมาจารย์บนเส้นทางคู่จากอาณาจักรแห่งความฝันของเทพอมตะกลุ่มดาว อย่างไรก็ตามในเวลานั้นเขาไม่ได้สำรวจมันอย่างเต็มที่
หากเขาสามารถสำรวจอาณาจักรแห่งความฝันของเทพอมตะกลุ่มดาวได้อย่างลึกซึ้ง เขาจะได้รับสิ่งใด?
ระดับความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาและเส้นทางแห่งดวงดาวของเขาจะเพิ่มสูงขึ้นอีกหรือไม่?
หรือบางทีมันอาจจะเป็นเส้นทางสายอื่น?
เขาเต็มไปด้วยความคาดหวัง