Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 1231 กึ่งปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งวารี
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1231 กึ่งปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งวารี
แปลโดย iPAT
ภาคใต้ ภายในค่ายกลวิญญาณ
ปาฉวนฟงมองไปยังทิศทางของตระกูลวูและรู้สึกสงสัย “เกิดสิ่งใดขึ้น? วูอี้ไห่ผู้นี้อดทนมาก เขาบ่มเพาะอย่างสันโดษและไม่ออกมาข้างนอกเลยงั้นหรือ?”
เขาพบว่ามันยากที่จะเชื่อ
สมาชิกตระกูลวูมักทำตัวเอาแต่ใจและสร้างปัญหาให้ผู้อื่นเสมอ
วูอี้ไห่เป็นน้องชายของวูหยง เขามีสถานะสูงมากในตระกูลวู แต่เขากลับบ่มเพาะอย่างเงียบสงบและไม่ติดต่อผู้ใดเลย
ปาเต๋อส่ายศีรษะ
เขากล่าวอย่างเคร่งขรึม “ดูเหมือนวูอี้ไห่ผู้นี้จะไม่ง่ายเลย”
“เขารับมือได้ยากกว่าผู้อมตะระดับเจ็ดคนก่อนของตระกูลวู”
ปาฉวนฟงหัวเราะ “จะเป็นไปได้อย่างไร? เขาเป็นเพียงผู้บ่มเพาะสันโดษจากทะเลตะวันออก”
เฒ่าพฤกษาปาเต๋อมองปาฉวนฟง “หากเขาเป็นเพียงผู้บ่มเพาะสันโดษ เขาจะจัดการธุรกิจซื้อขายโอกาสได้ดีถึงเพียงนี้งั้นหรือ? กระทั่งพวกเราจะกดดันธุรกิจของพวกเรา แต่เราก็ไม่สามารถทำสิ่งใดวูอี้ไห่”
“หลายวันที่ผ่านมาเราได้เตรียมการมากมาย แต่คนผู้นี้เพิกเฉยต่อพวกเราอย่างสิ้นเชิง แม้จะถูกเย้ยหยัน เขาก็ยังเลือกที่จะเงียบและอดทนกับมัน บุคคลเช่นนี้อันตรายกว่าผู้อมตะตระกูลวูคนอื่นๆมาก”
การแสดงออกของปาฉวนฟงเปลี่ยนไป เขาสูดหายใจลึก “ผู้อาวุโส กระทั่งท่านก็ยังยกย่องเขา ดูเหมือนเขาจะโดดเด่นจริงๆ เหตุใดเราไม่ไปทำลายธุรกิจซื้อขายโอกาสนี้เพื่อบังคับให้เขาลงมือ?”
ปาเต๋อส่ายศีรษะ “เป็นไปไม่ได้ เขาจะไม่ทำสิ่งใดอย่างแน่นอน หากเราเปิดโปง ธุรกิจซื้อขายโอกาสจะพังทลายลงเนื่องจากมันไม่ได้รับอนุญาตตั้งแต่แรก แต่เราจะไม่สามารถทำสิ่งใดวูอี้ไห่และมันจะเป็นการรุกรานอีกหกตระกูลใหญ่ พวกเราจะดึงดูดความเกลียดชังขณะที่วูอี้ไห่จะได้รับประโยชน์จากมันและทำให้ความร่วมมือทางการเมืองของพวกเขาแข็งแกร่งมากขึ้น”
ปาฉวนฟงเบิกตากว้างและกรีดร้อง “แล้วเราจะทำเช่นไร?”
“รอ”
“รอ?”
“รอโอกาส” เฒ่าพฤกษาปาเต๋อกล่าว “โอกาสที่เราสามารถสร้างได้ตอนนี้แทบไร้นัยสำคัญ ในกรณีนี้เราต้องรอโอกาสที่ดีกว่าในอนาคต”
ปาฉวนฟงกัดฟันแน่น “หากเป็นเช่นนั้นตระกูลวูก็จะอยู่เหนือพวกเราไปอีกนาน เราต้องรอนานเท่าใด บางทีเราอาจต้องรอไปอีกนานมาก!”
การแสดงออกของปาเต๋อเปลี่ยนเป็นเย็นชา เขาไม่กล่าวสิ่งใดแต่มองไปที่ปาฉวนฟงอย่างเงียบๆ
ปาฉวนฟงรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาลจากการจ้องมองของเฒ่าพฤกษา
เขาถอยหลังกลับไปสามก้าวและลดศีรษะลงด้วยเหงื่อที่ไหลลงมาจากหน้าผาก “ผู้อาวุโส…ข้า…ข้า…”
“เจ้าใจร้อนเกินไป เสี่ยวฟง หลายวันที่ผ่านมา จิตใจของเจ้าปั่นป่วนมาก” ปาเต๋อกล่าวอย่างช้าๆ
“ถูก…ถูกต้อง…ผู้อาวุโส ข้าผิดไปแล้ว” ปาฉวนฟงยอมรับความผิด
“ตระกูลวูสูญเสียผู้อมตะระดับแปดไปแล้ว แต่พวกเขายังมีขุมกำลังที่ยิ่งใหญ่ กองกำลังอื่นกำลังเฝ้ามองตระกูลวูอย่างใกล้ชิดแต่ไม่มีฝ่ายใดกล้าโจมตีก่อนเพราะเรายังไม่สามารถเปิดเผยความแข็งแกร่งที่แท้จริงของตระกูลวู หากตระกูลปาลงมือก่อนและต้องเผชิญหน้ากับหมัดเหล็กของตระกูลวู พวกเราจะเป็นฝ่ายสูญเสียขณะที่กองกำลังอื่นจะฉวยโอกาสฉกชิงผลประโยชน์ เข้าใจหรือไม่?”
“ข้าเข้าใจแล้ว”
“เจ้าจงไปบ่มเพาะอย่างเงียบๆ หากวูอี้ไห่ไม่ออกมา เจ้าก็ยังไม่สามารถออกมา” ปาเต๋อกล่าวอย่างไร้อารมณ์
“ทราบแล้ว” ปาฉวนฟงรับคำสั่งและจากไปด้วยใบหน้าขมขื่น
ฟางหยวนยังอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน
ผู้อมตะด้านนอกคิดว่าเขากำลังปิดประตูฝึกตน คนส่วนใหญ่คิดว่านี่เป็นธรรมชาติของวูอี้ไห่ในฐานะผู้บ่มเพาะสันโดษของทะเลตะวันออก เขายังไม่ได้ปรับเปลี่ยนวิธีคิดของตน ท้ายที่สุดผู้บ่มเพาะสันโดษก็ชอบการบ่มเพาะอยู่อย่างเงียบสงบ
คนส่วนน้อยเช่นปาเต๋อคิดว่าฟางหยวนตั้งใจทำสิ่งนี้ มันเป็นวิธีทางการเมืองของเขา
แต่ไม่มีผู้ใดคิดว่าฟางหยวนลอบเข้าไปในอาณาจักรแห่งความฝัน
ภายในอาณาจักรแห่งความฝัน ตอนนี้กำลังเป็นช่วงเวลาสำคัญ
นายน้อยหลงได้เปรียบมากในการต่อสู้ เขาหัวเราะเย้ยหยันฟางหยวน “เจ้าไม่เหลือโอกาสแล้ว เจ้าไม่มีทางชนะ หากเจ้ายอมแพ้ตอนนี้ เจ้ายังสามารถรักษาใบหน้า”
ฟางหยวนได้รับบาดเจ็บสาหัส เขากัดฟันแน่นและไม่กล่าวสิ่งใด
นี่เป็นฉากที่เจ็ดของอาณาจักรแห่งความฝัน
ฟางหยวนเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับห้าเช่นเดียวกับฝ่ายตรงข้าม
แต่นายน้อยหลงแข็งแกร่งกว่าเพราะเขาเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับห้าขั้นสุดยอด
ไม่เพียงเท่านั้น นายน้อยหลงยังมีวิญญาณที่มีประโยชน์มากมาย ด้วยร่างมนุษย์มังกรของเขา ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันจากเกล็ดมังกรที่แข็งแกร่ง คุณสมบัติงอกใหม่ของเลือดมังกร พวกมันล้วนเทียบเท่ากับวิญญาณระดับห้า
นี่คือข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่!
ไม่ว่าจะเป็นระดับการบ่มเพาะ วิญญาณ หรือร่างมังกร ฟางหยวนถูกกำหราบอย่างสมบูรณ์
เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมากสำหรับผู้ชมทั้งหมดที่การต่อสู้ดำเนินมาอย่างยาวนาน
ในความคิดเห็นของพวกเขา แม้จิตวิญญาณของฟางหยวนจะน่ายกย่อง แต่ผลการต่อสู้ครั้งนี้ถูกตัดสินแล้ว
“ตอนนี้เจ้าเหลือพลังวิญญาณไม่ถึงห้าส่วน มาดูกันว่าเจ้าจะป้องกันการโจมตีของข้าอย่างไร?” นายน้อยหลงตะโกนและพุ่งเข้าตะครุบฟางหยวน
แม้ฟางหยวนจะอยู่ในสภาพที่เลวร้าย แต่สายตาของเขายังชัดเจน เขาถอยศีรษะไปด้านหลัง
หลังจากล้มเหลวในการสำรวจอาณาจักรแห่งความฝันฉากนี้มาหลายครั้ง ฟางหยวนได้เรียนรู้ว่าเขาไม่จำเป็นต้องเอาชนะนายน้อยหลงในการต่อสู้ครั้งนี้ เขาเพียงต้องยื้อเวลาให้มากพอ
เมื่อเวลามาถึง โอกาสจะปรากฏขึ้น
‘เหลือเวลาอีกเจ็ดลมหายใจ ครั้งนี้ข้าควรจะลองใช้ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝัน!’ ฟางหยวนคิด
“ปัง”
นายน้อยหลงพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนด้วยความเย่อหยิ่ง แต่ในจังหวะนี้เขากลับสะดุดก้อนหินและล้มคว่ำลงกับพื้น
เงียบกริบ!
ผู้ใช้วิญญาณหญิงทุกคนที่เฝ้ามองและให้กำลังใจนายน้อยหลงตั้งแต่แรกเงียบเสียงลง
‘ข้าทำพลาดเช่นนี้ได้อย่างไร?’ ใบหน้าของนายน้อยหลงเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความอับอาย
เขารีบลุกขึ้นตะโกนและพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนอีกครั้ง
ฟางหยวนแทบไม่สามารถยืนอยู่ อาการบาดเจ็บของเขาสาหัสเกินไป เขาทำได้เพียงรอความพ่ายแพ้
เสียงโห่ร้องดังขึ้นอีกครั้ง
“ไปเลยนายน้อยหลง! เอาชนะผู้ท้าชิงที่มั่นใจเกินไปผู้นี้!”
“อา…ข้าจะจำฉากนี้ไว้ในหัวใจตลอดไป นายน้อยหลงช่างมีเสน่ห์นัก หากมีเพียงข้าที่ได้ยืนเคียงข้างท่าน นั่นจะดีมาก”
“หากเขาคุยกับข้า มันก็คุ้มค่าที่ได้เกิดมาแล้ว”
ผู้ใช้วิญญาณชายคำรามขณะที่ผู้ใช้วิญญาณหญิงกรีดร้อง
ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝัน!
ฟางหยวนใช้สิ่งนี้อีกครั้งเพราะเขาไม่สามารถสู้ต่อไป
“อา…”
การเคลื่อนไหวของนายน้อยหลงหยุดลงอย่างกะทันหัน
เกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดอีกครั้ง
เขาอาจก้าวเท้ากว้างเกินไปและทำให้กางเกงของเขาขาดระหว่างการต่อสู้
ลมพัดมาทำให้นายน้อยหลงรู้สึกหนาวเย็นที่เป้ากางเกงของเขา
เงียบ…
กระทั่งฟางหยวนยังรู้สึกประหลาดใจ ‘ผลกระทบของท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันครั้งนี้ค่อนข้างประหลาดจริงๆ’
“อา…” ผู้ใช้วิญญาณหญิงกรีดร้อง
เสียงของผู้คนระเบิดขึ้นทันที
“เกิดสิ่งใดขึ้น?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า”
“กางเกงของนายน้อยขาด!”
“นายน้อยหลงไม่ใส่กางเกงชั้นใน!?”
ผู้ใช้วิญญาณชายเฝ้ามองด้วยความสนใจขณะที่ผู้ใช้วิญญาณหญิงรีบยกมือขึ้นปิดใบหน้าของพวกนาง
“นายน้อยหลง…เล็กมาก…”
นายน้อยหลง “…”
ร่างกายของเขาสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง ใบหน้าของเขากลายเป็นสีแดง เส้นเลือดบนหน้าผากโป่งพองขึ้น ตอนนี้เขาดูน่ากลัวมาก
“อ๊าก…ข้าจะฆ่าเจ้า!” ความอับอายทำให้นายน้อยหลงคลั่งและพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนอย่างดุร้าย
อย่างไรก็ตามฟางหยวนกลับเผยรอยยิ้มอย่างผู้ชนะ
เจ็ดลมหายใจผ่านไปแล้ว
“บึม”
ร่างของนายน้อยหลงระเบิดตัวเอง!
เลือดมังกรของเขาสาดกระเซ็นลงบนใบหน้าของฟางหยวน
สนามประลองตกสู่ความสับสนวุ่นวายทันที
“นายน้อยหลง!”
“มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?” ผู้ใช้วิญญาณหญิงหลายคนหมดสติ ณ จุดเกิดเหตุ
“นายน้อยหลงฆ่าตัวตายเพราะความอับอายงั้นหรือ?”
“ต้องเป็นเขา!” ผู้ใช้วิญญาณบางคนชึ้นิ้วไปที่ฟางหยวน “เขาต้องใช้วิธีการที่ชั่วร้ายเพื่อสังหารนายน้อยหลง! เขาเป็นปีศาจบนเส้นทางแห่งเลือด!”
“บึม บึม บึม…”
ในช่วงเวลาต่อมามนุษย์มังกรที่อยู่รอบๆก็ระเบิดตัวเองทีละคน
เลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว ผู้ใช้วิญญาณที่รอดชีวิตตกสู่ความโกลาหล
ฟางหยวนกระพริบตาด้วยความกังวลว่าคนเหล่านี้จะนำปัญหามาสู่เขา แต่ทันใดนั้นอาณาจักรแห่งความฝันกลับนำเขาไปยังฉากต่อไป
“ฉากที่เจ็ดจบลงแล้ว” ฟางหยวนถอนหายใจ
เขาติดอยู่ในฉากที่เจ็ดมาสามวันแล้ว ตามลักษณะพิเศษของอาณาจักรแห่งความฝัน เขาต้องผ่านทีละฉาก มิฉะนั้นเขาจะต้องทำซ้ำอย่างไม่รู้จบสิ้น
ครู่ต่อมาฟางหยวนออกจากอาณาจักรแห่งความฝันหลังจากล้มเหลวในฉากที่แปด
หลังจากฟื้นคืนสติ เขารีบรักษาอาการบาดเจ็บทางจิตวิญญาณ
อาณาจักรแห่งความฝันสร้างความเสียหายที่รุนแรงต่อจิตวิญญาณของเขา
โชคดีที่รากฐานจิตวิญญาณของฟางหยวนโดดเด่นมาก นอกจากนั้นเขายังมีวิญญาณความเด็ดเดี่ยว ดังนั้นอาการบาดเจ็บเหล่านี้จึงไม่ใช่ปัญหา
หลายสิบลมหายใจต่อมา จิตวิญญาณของฟางหยวนก็ฟื้นฟูขึ้นอย่างสมบูรณ์
จากนั้นเขาเริ่มตรวจสอบผลประโยชน์ที่ได้รับ
“ไม่เลว ข้ากลายเป็นกึ่งปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งวารีแล้ว”
เดิมทีความสำเร็จบนเส้นทางแห่งวารีของฟางหยวนอยู่ในระดับทั่วไป แต่ตัวละครหลักของอาณาจักรแห่งความฝันนี้คือผู้บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งวารี ดังนั้นเมื่อฟางหยวนผ่านฉากที่เจ็ด ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งวารีของฟางหยวนจึงพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ดูเหมือนตัวเอกของอาณาจักรแห่งความฝันนี้จะมีความสำเร็จสูงมาก การบ่มเพาะของเขาต้องสูงกว่าระดับหกอย่างแน่นอน”
“ตอนนี้ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งวารีของข้าอนุญาตให้ข้าสามารถกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์ส่วนใหญ่ในเมืองจิ๋วที่ทะเลตะวันออกแล้ว วิเศษมาก!”