Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 1238 ผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งโชค
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1238 ผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งโชค
แปลโดย iPAT
“ท่านแม่ ท่านหมายถึง…” ฟงจินฮวงขมวดคิ้ว นิกายคฤหาสน์วิญญาณมีสมาชิกเพศหญิงมากกว่าเพศชาย ในช่วงเวลาที่ฟงจินฮวงเติบโตขึ้น นางดูถูกผู้ชายรุ่นเดียวกันมาตลอด
มีเหตุผลสำคัญประการหนึ่ง นั่นคือบิดาของนางมีความสามารถสูงเกินไป มันทำให้ความคาดหวังของนางสูงขึ้น นางไม่เคยเห็นสิ่งที่ดีในตัวเด็กหนุ่มที่อยู่รอบตัว
เทพธิดาไป่ชิงพยักหน้าถามอย่างล้อเลียน “ถูกต้อง ฮวงเอ๋อ ในบรรดาเด็กหนุ่มที่เจ้าเคยพบ เจ้าสนใจผู้ใดบ้าง?”
ฟงจินฮวงขมวดคิ้ว หลังจากคิดเรื่องนี้ นางส่ายศีรษะ
เทพธิดาไป่ชิงแทบหัวเราะออกมากับท่าทางงงงวยของบุตรสาว นางถามอีกครั้ง “เช่นนั้นแม่จะเปลี่ยนคำถาม เด็กหนุ่มคนใดที่ทิ้งความประทับใจไว้กับเจ้าได้มากที่สุด?”
ฟงจินฮวงตะลึง
ภาพของฟางหยวนปรากฏขึ้นในใจของนางอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยง
ฟางหยวนทำให้นางพ่ายแพ้อย่างน่าอนาถ ฟงจินฮวงไม่มีวันลืมฉากบนภูเขาตงฮัน
นอกจากนั้นฟางหยวนยังเคยช่วยชีวิตฟงจิวเก้อมาก่อน!
เหตุการณ์ทั้งหมดทำให้ฟงจินฮวงมีความรู้สึกที่ซับซ้อนอย่างยิ่งต่อฟางหยวน
มันไม่ใช่ความเกลียดชังที่บริสุทธิ์
นอกจากนี้มันก็ไม่ใช่ความกตัญญูที่บริสุทธิ์
การแสดงออกของฟงจินฮวงทำให้เทพธิดาไป่ชิงตระหนักถึงบางสิ่งและเริ่มโทษตัวเอง ‘โอ้ ไม่ เหตุใดข้าถึงลืมเกี่ยวกับการคงอยู่ของฟางหยวน!?’
คิดได้เช่นนี้ เทพธิดาไป่ชิงจึงเร่งกล่าว “ฮวงเอ๋อ อย่าคิดถึงมัน!”
ในฐานะมารดา เทพธิดาไป่ชิงกังวลมาก แม้ฟงจินฮวงจะเติบโตขึ้นมากแล้ว แต่นางก็ยังไร้เดียงสา ในแง่ของความสัมพัมธ์ นางเหมือนกระดาษสีขาวที่ว่างเปล่า
“ฟางหยวนเป็นปีศาจต่างโลก เขาใช้วิญญาณกาลเวลาหวนกลับมา อายุที่แท้จริงของเขาอาจแก่กว่าทั้งพ่อและแม่ของเจ้า!” เทพธิดาไป่ชิงกล่าวอย่างจริงจัง
“สิ่งสำคัญที่สุดคือเขาถูกตัดสินว่าเป็นปีศาจที่ชั่วร้าย เขาข่นฆ่าผู้คนมานับไม่ถ้วนและเป็นอันตรายต่อโลกใบนี้!”
“แต่เขาช่วยท่านพ่อเอาไว้” ฟงจินฮวงโต้แย้ง
เทพธิดาไป่ชิงกล่าวอย่างเคร่งขรึมและมองลึกเข้าไปในดวงตาของฟงจินฮวง “เจ้าต้องจำสิ่งนี้เอาไว้ บุญคุณกับความแค้นไม่สามารถนำมารวมกัน เจ้าต้องแยกมันให้ออก บุญคุณที่เขาช่วยชีวิตพ่อของเจ้าเอาไว้พวกเราจะตอบแทนเขาอย่างเหมาะสม แต่เขาเป็นสมาชิกฝ่ายปีศาจ เขาเป็นคนเลวที่ต้องถูกกำจัด หากเราพบเขาอีกครั้ง เราต้องกำจัดเขา เข้าใจหรือไม่?”
ฟงจินฮวงพยักหน้า “ข้าเข้าใจแล้ว”
…..
ภาคใต้ ในอาณาจักรแห่งความฝัน
“ฮัดชิ่ว! ฮัดชิ่ว!” ฟางหยวนจามสองครั้ง
เขาถูจมูกและกล่าวกับผู้ใช้วิญญาณหญิงตรงหน้า “อีกครั้ง”
ผู้ใช้วิญญาณหญิงที่ยืนอยู่ด้านหลังโต๊ะ นำหินสามก้อนออกมา “เชิญ”
นี่ไม่ใช่อาณาจักรแห่งความฝันก่อนหน้า
อาณาจักรแห่งความฝันบนเส้นทางแห่งวารีก่อนหน้านี้ยากเกินไปในฉากสุดท้าย ฟางหยวนตัดสินใจยอมแพ้และเปลี่ยนเป็นอาณาจักรแห่งความฝันอื่น
สิ่งที่ทำให้เขามีความสุขก็คือการสำรวจอาณาจักรแห่งความฝันนี้จะทำให้ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งโชคของเขาเพิ่มขึ้น!
ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งโชคมีอยู่น้อยมาก
เพราะกระทั่งเทพอมตะตะวันเดือดจะสร้างเส้นทางแห่งโชคขึ้นมาบนโลกใบนี้ แต่เขาไม่ได้แพร่กระจายมันออกไป
ดังนั้นอาณาจักรแห่งความฝันบนเส้นทางแห่งโชคจึงหาได้ยากเช่นกัน มันเป็นไปแทบไม่ได้ที่ฟางหยวนจะพบอาณาจักรแห่งความฝันเช่นนี้
ฟางหยวนมองหินสามก้อน เขารู้ว่าตามกฎเขาต้องชนะสามครั้งติดต่อกันเพื่อผ่านฉาก
มันคือผลึกหินโชคลาภ
‘ข้าประสบความสำเร็จสองครั้งแล้ว หากครั้งนี้ข้าล้มเหลว ความพยายามของข้าจะกลายเป็นไร้ผล ข้าควรใช้ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝัน’
ฟางหยวนกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายของเขาทันที
แต่หลังจากรอสักพัก มันก็ยังไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น
‘เกิดสิ่งใดขึ้น?’ ขณะที่ฟางหยวนกำลังสับสน ผู้ใช้วิญญาณหญิงมองมาที่เขาด้วยความขบขันและกระซิบ “น้องชายตัวน้อยเลือกตรงกลาง อย่ากังวล ข้าจะไม่ทำร้ายเจ้า”
หลังกล่าวจบคำ นางขยิบตาให้ฟางหยวนด้วยการแสดงออกที่ยียวน
ในที่สุดฟางหยวนก็ตระหนักว่านี่คือผลลัพธ์ของท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝัน เขาไม่ลังเลที่จะคว้าหินก้อนตรงกลาง
หินทั้งสามถูกเปิดออก ไม่มีวิญญาณใดๆอยู่ภายใน แต่ด้วยคุณภาพของตัวผนึกหินเอง ก้อนตรงกลางจึงถือว่ามีมูลค่าสูงที่สุด
ฉากแรกเลือนหายไปขณะที่ฟางหยวนเข้าสู่ฉากที่สอง
…..
ภาคเหนือ
ถ้ำสวรรค์นิรันดร
คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปด แท่นบูชาแห่งโชค
แท่นบูชาแห่งโชคมีเสาหยกขาวจำนวนมากจัดเรียงเป็นวงกลมสามชั้นและปลดปล่อยแสงที่งดงามออกมา
ผู้อมตะแปดคนของถ้ำสวรรค์นิรันดรยืนอยู่ที่แท่นบูชาแห่งโชคและพยายามควบคุมมันอย่างสุดความสามารถ
ปรมาจารย์ห้าธาตุที่ติดอยู่ตรงกลางแท่นบูชาแห่งโชคแสดงออกด้วยใบหน้าเคร่งขรึม ตอนนี้เขาต้องใช้ความสามารถที่แท้จริงออกมาเพื่อต่อต้านมัน
เงียบมาก
เห็นได้ชัดว่าทั้งสองฝ่ายไม่สามารถเคลื่อนไหว ไม่แม้แต่จะกล่าวสิ่งใดออกมา
แต่ในจังหวะนี้เสียงระฆังกลับดังขึ้น
ผู้อมตะทั้งแปดรู้สึกตกใจและเต็มไปด้วยคำถาม
“นี่คือสัญญาณเตือน เหตุใดมันจึงดังขึ้น?”
“บรรพชนตะวันเดือดเป็นผู้จัดตั้งค่ายกลวิญญาณนี้ หากเราพบปัญหา มันจะกระตุ้นการทำงานด้วยตัวของมันเอง”
“แต่ปรมาจารย์ห้าธาตุยังถูกขังอยู่ที่นี่”
ผู้อมตะทั้งแปดลอบสนทนา
ผู้นำกลุ่มผู้อมตะแปดเกาะสวรรค์กล่าว “เมื่อปรมาจารย์ห้าธาตุบุกเข้ามา เสียงระฆังก็ยังไม่ดังขึ้น ตอนนี้เมื่อมันดังขึ้น หมายความว่ามีอันตรายอื่นที่ร้ายแรงกว่า”
ทุกคนตื่นตระหนก
“นั่นหมายความว่าภัยพิบัติต่อไปนี้จะรุนแรงกว่าการบุกโจมตีของปรมาจารย์ห้าธาตุงั้นหรือ?”
“ตอนนี้เราต้องใช้พลังทั้งหมดของแท่นบูชาแห่งโชคเพื่อกำหราบปรมาจารย์ห้าธาตุ เราไม่สามารถเบี่ยงเบนความสนใจ แล้วเราจะจัดการกับมันได้อย่างไร?”
“ด้วยแท่นบูชาแห่งโชค ภัยพิบัติสวรรค์พิภพไม่สามารถทำสิ่งใดต่อพวกเรา มันต้องเป็นภัยพิบัติมนุษย์!”
“ในสถานการณ์นี้เราต้องปลุกผู้อมตะสี่ดินแดนเท่านั้น”
ผู้อมตะทั้งแปดพยักหน้าเห็นด้วย
ปรมาจารย์ห้าธาตุกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถ้ำสวรรค์นิรันดรแทบไม่สามารถป้องกันตนเอง ข้าอยากรู้นักว่าภัยพิบัติใดที่สามารถทำให้เสียงระฆังเตือนภัยดังขึ้น”
ผู้อมตะแปดเกาะสวรรค์กำลังจะกล่าวแต่เสียงอีกสายหนึ่งกลับดังขึ้น “มันเป็ฯภัยพบิติที่มาพร้อมกับโชคดี โชคเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ในฐานะผู้อมตะ พวกเราจะเปลี่ยนโชคร้ายให้กลายเป็นโชคดี แท่นบูชาแห่งโชคก็ถูกสร้างขึ้นด้วยแนวความคิดนี้”
ผู้อมตะแปดเกาะสวรรค์ได้ยินเสียงนี้และรู้สึกมีความสุขมาก
ปรมาจารย์ห้าธาตุมองไปยังผู้อมตะลึกลับที่มาใหม่และถาม “เช่นนั้นท่านก็คือผู้อมตะสี่ดินแดน?”
“คารวะราชันใต้” แปดผู้อมตะเกาะสวรรค์แสดงความเคารพอย่างพร้อมเพรียงและถือเป็นการตอบคำถามของปรมาจารย์ห้าธาตุ
ถ้ำสวรรค์นิรันดรแบ่งออกเป็นสี่ดินแดนแปดเกาะสวรรค์
ดินแดนทั้งสี่ได้แก่ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก แต่ละดินแดนมีผู้อมตะระดับแปดปกครองอยู่
สำหรับแปดเกาะสวรรค์ มีผู้อมตะระดับเจ็ดเป็นผู้ดูแล
ถ้ำสวรรค์นิรันดรมีพื้นที่กว้างใหญ่และทรัพยากรมากมาย นอกเหนือจากผู้อมตะทั้งสิบสองคนนี้ยังมีผู้อมตะคนอื่นๆ แต่ผู้อมตะสิบสองคนเป็นกำลังสำคัญของถ้ำสวรรค์นิรันดร พวกเขาเป็นชนชั้นสูงท่ามกลางผู้อมตะทั้งหมด
ราชันใต้สวมชุดเกราะสีฟ้าทอง เคราของเขายาวลงมาถึงหน้าอก เขาเป็นชายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อแต่ดูค่อนข้างแก่ เขากล่าว “ข้าตื่นขึ้นเพราะเสียงระฆัง มันเป็นเสียงยาวสามครั้งและเสียงสั้นอีกสองครั้ง มันไม่เร็วและไม่ช้า นี่หมายความว่าวิญญาณแห่งความรักกำลังเข้าสู่ภาคเหนือ วิญญาณแห่งความรักสามารถต่อต้านโชคชะตา ในอดีต บรรพชนของเรายังต้องระวังมัน ท่านเคยพยายามปรับแต่งวิญญาณแห่งความรักเป็นเวลาสามปีแต่ยังล้มเหลว ท่านทำได้เพียงจัดตั้งค่ายกลวิญญาณบนเส้นทางแห่งโชคเอาไว้ เมื่อวิญญาณแห่งความรักเข้ามาในภาคเหนือ ค่ายกลวิญญาณจะส่งเสียงเตือนและนั่นจะเป็นโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับพวกเราที่จะจับวิญญาณแห่งความรัก!”
ปรากฏว่ามันคือการเตรียมการของเทพอมตะตะวันเดือดเมื่อนานมาแล้ว
ผู้อมตะแปดเกาะสวรรค์กล่าว “พวกเราจะทำตามคำบัญชาของท่าน เราเต็มใจสละชีวิตเพื่อจับวิญญาณแห่งความรัก!”
…..
ภาคใต้
“นี่คือถ้ำสวรรค์ไป่เซียง!” ไห่ลั่วหลันก้าวเข้าสู่ถ้ำสวรรค์ไป่เซียงอย่างเป็นทางการ
ไท่เป่ยหยุนเฉิง อิงอู๋เซี่ย และซื่อหนิวติดตามมาด้านหลัง
“หือ? มีบางสิ่งไม่ถูกต้อง” การแสดงออกของอิงอู๋เซี่ยเปลี่ยนแปลงไป
ในเวลาต่อมาสภาพแวดล้อมก็เปลี่ยนแปลงไป ค่ายกลวิญญาณถูกกระตุ้นใช้งานและขังผู้อมตะทั้งสี่เอาไว้ภายใน
ร่างของไป่หนิงปิงปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ
ซื่อหนิวตกใจและโกรธมาก เขาคำราม “เจ้าคือไป่หนิงปิงงั้นหรือ? เจ้ากล้าทรยศพวกเราจริงๆ!?”
“ฮืม! เศษซากของนิกายเงา วันนี้จะเป็นวันตายของพวกเจ้า!” ไป่หนิงปิงเผยรอยยิ้มเย็นชา
อิงอู๋เซี่ยรู้สึกประหลาดใจมาก
เขาเกิดแรงบันดาลใจหนึ่ง “เจ้าใช้วิธีหลอมรวมวิญญาณมนุษย์เปลี่ยนเป็นมังกร ดูเหมือนมันจะมีอยู่จริงๆ!”
“กล่าวตามตรงข้าต้องขอบคุณเจ้าสำหรับเรื่องนี้ เช่นนั้นให้ข้ามอบของขวัญตอบแทนเจ้า” ไป่หนิงปิงหัวเราะเสียงดัง
“เดี๋ยว! เราสามารถเจรจา…” อิงอู๋เซี่ยยังกล่าวไม่จบประโยคขณะที่ค่ายกลวิญญาณเริ่มส่งพายุหิมะและหอกน้ำแข็งจำนวนนับไม่ถ้วนออกมา
ผู้อมตะทั้งสี่ถูกบังคับให้ปกป้องตนเอง
…..
ภายในค่ายกลวิญญาณขนาดใหญ่ของภาคใต้
ฟางหยวนเปิดเปลือกตาขึ้นและกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง
จิตวิญญาณของเขาอ่อนแอมากแต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเพราะเขามีวิญญาณความเด็ดเดี่ยว
“ผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งโชค!” ฟางหยวนตรวจสอบความสำเร็จของตนเอง
นี่เป็นสิ่งที่อาณาจักรแห่งความฝันบนเส้นทางแห่งโชคมอบให้เขา แต่เขาไม่สามารถใช้ประโยชน์จากอาณาจักรแห่งความฝันบนเส้นทางแห่งโชคส่วนที่เหลือ
อย่างไรก็ตามกำไรที่เขาได้รับถือว่ายิ่งใหญ่มากแล้ว ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งโชคระดับทั่วไปของเขาพุ่งขึ้นสู่ระดับผู้เชี่ยวชาญในครั้งเดียว
นี่ทำให้เขารู้สึกถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน
มันเป็นความรู้สึกที่ลึกลับและไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูด
‘หากความสำเร็จบนเส้นทางแห่งโชคของข้าบรรลุระดับปรมาจารย์ ข้าอาจต้องการมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งโชคจากจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา หากข้าสามารถใช้งานมันได้ดี ความแข็งแกร่งของข้าจะเพิ่มขึ้นอีกมาก!’
‘ในปัจจุบันข้ารู้สึกว่าข้าสามารถใช้วิญญาณอมตะคลี่คลายปริศนาร่วมกับวิญญาณอมตะโชคอึสุนัขเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝัน!’