Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 1256 เพื่อความรักและความยุติธรรม
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1256 เพื่อความรักและความยุติธรรม
แปลโดย iPAT
ขณะที่นางกำลังคิดเรื่องนี้ จ้าวเหลียนหยุนกลับได้ยินเสียงดังขึ้นท่ามกลางความมืด
เสียงนี้เรียกชื่อนาง “จ้าว…เหลียน…หยุน…จ้าว…เหลียน…หยุน…”
“ผู้ใด?”
“ผู้ใดเรียกข้า ผู้ใดเรียกชื่อของข้า?”
“เหตุใดข้าถึงรู้สึกคุ้นเคยกับมันนัก?”
“อา…ข้าจำได้แล้ว นี่ไม่ใช่เสียงของข้าเองงั้นหรือ?”
จ้าวเหลียนหยุนนึกถึงฉากหนึ่งในอดีต
ในสงครามชิงตำแหน่งเจ้าเหนือหัวของภาคเหนือ บิดาของจ้าวเหลียนหยุนเสียชีวิตขณะที่นางได้รับการปฏิบัติเช่นตัวหมากทางการเมืองและถูกบังคับให้แต่งงาน อย่างไรก็ตามนางต่อต้านชะตากรรมนี้โดยอาศัยหม่าหงหยุน สุดท้ายนางเปลี่ยนจากคุณหนูผู้มั่งคั่งกลายเป็นเด็กกำพร้า
วันหนึ่งหม่าหงหยุนพานางไปบนหุบเขาลูกหนึ่ง
“คุณหนู ข้าพบสถานที่ที่เหมาะสมกับท่านแล้ว” หม่าหงหยุนพึงพอใจมาก
จ้าวเหลียนหยุนมองไปรอบๆแต่นางพบเพียงหุบเขาเล็กๆที่ดูธรรมดาทั่วไปเท่านั้น นี่ทำให้มุมปากของนางกระตุกอย่างไม่สามารถควบคุม “มีสิ่งใดพิเศษ มันเป็นเพียงหุบเขาทั่วไปและไม่มีทิวทัศน์ที่งดงาม”
“ท่านกำลังกล่าวสิ่งใด!?” ดวงตาของหม่าหงหยุนเบิกกว้างขึ้น “หุบเขาหายากมากในภาคเหนือ ให้ข้าสอนท่าน หากท่านตะโกนชื่อของท่านออกไป หุบเขาแห่งนี้จะตอบท่าน ทำเช่นนี้!”
หม่าหงหยุนสูดหายใจลึกก่อนตะโกน “จ้าว…เหลียน…หยุน…”
ไม่นานเสียงสะท้อนก็ดังกลับมา “จ้าว…เหลียน…หยุน…”
จ้าวเหลียนหยุนกลอกตา “คนโง่ มีสิ่งใดแปลกประหลาด มันเป็นเพียงเสียงสะท้อน ข้าไม่เคยเห็นผู้ใดหัวทึบเท่าเจ้ามาก่อน!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า” หม่าหงหยุนเกาศีรษะ “ผู้คนบอกว่าข้างี่เงา ข้างี่เง่าจริงๆ ข้าจะฉลาดเหมือนคุณหนูเสี่ยวหยุนได้อย่างไร?”
“แต่ทุกครั้งที่ข้ารู้สึกเศร้าใจในวัยเด็กเมื่อถูกคนอื่นๆกลั่นแกล้ง ข้าจะวิ่งมาที่หุบเขาและตะโกนใส่มันเสมอ”
“เมื่อเข้าเรียกชื่อของตนเองหนึ่งครั้ง หุบเขาจะตอบกลับข้าหนึ่งครั้ง เมื่อข้าเรียกอีกครั้ง มันก็จะตอบอีกครั้ง มันเล่นกับข้า มันไม่เคยทอดทิ้งหรือเพิกเฉยต่อข้า เว้นเพียงเสียงของข้าจะไม่ดังพอ”
“ระยะนี้ข้าเห็นคุณหนูไม่มีความสุขขณะที่ข้าต้องอยู่ข้างกายนายน้อยและไม่สามารถมาหาคุณหนูได้ตลอดเวลา ดังนั้นเมื่อคุณหนูไม่สบายใจ คุณหนูสามารถมาที่หุบเขาแห่งนี้และเล่นกับมัน”
จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกพูดไม่ออก นางมองหม่าหงหยุนที่แสดงออกอย่างจริงจังและรู้สึกสงสาร
‘หม่าหงหยุนผู้นี้โง่มาก แต่จิตใจของเขาไม่ได้แย่เลย’
‘เขาคงมีชีวิตที่ยากลำบากตั้งแต่เด็ก กระทั่งตอนนี้เขาก็ยังถูกนายน้อยตำหนิอยู่บ่อยครั้ง แต่ข้าไม่เคยเห็นเขาร้องไห้หรือโศกเศร้าเลย เขายิ้มได้ทั้งวัน’
‘เอาล่ะ เช่นนั้นข้าก็จะเล่นกับเจ้า’
เมื่อคิดได้เช่นนี้จ้าวเหลียนหยุนจึงสูดหายใจลึกก่อนจะตะโกนชื่อของนางออกมา
หม่าหงหยุนมีความสุขมากเมื่อเห็นจ้าวเหลียนหยุนทำตามคำแนะนำของเขา “ไม่ถูกต้อง ท่านต้องตะโกนให้ดังกว่านี้ ดังขึ้นอีก!”
จ้าวเหลียนหยุนตะโกนอีกครั้ง
หม่าหงหยุนส่ายศีรษะ “ยังดังไม่พอ หุบเขาจะได้ยินท่านก็ต่อเมื่อท่านตะโกนได้ดังมากพอ มิฉะนั้นมันจะไม่ตอบสนองท่าน”
จ้าวเหลียนหยุนสูดหายใจลึกและตะโกนสุดเสียง
“จ้าว…เหลียน…หยุน!”
หุบเขาตอบกลับมา “จ้าว…เหลียน…หยุน…”
หม่าหงหยุนหัวเราะเสียงดัง
จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกสดชื่นเช่นกัน ความโศกเศร้าของนางดูเหมือนจะลดลงขณะที่อารมณ์ของนางกลายเป็นเบิกบานขึ้น
“จ้าว…เหลียน…หยุน…”
“จ้าว…เหลียน…หยุน…”
“จ้าว…เหลียน…หยุน…”
ท่ามกลางความมืด เสียงนั้นยังดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“จ้าวเหลียนหยุน เจ้ากำลังทำสิ่งใดอยู่? เจ้าไม่ได้อยู่เพียงลำพัง สวรรค์พิภพอยู่กับเจ้า ตราบเท่าที่เจ้าตะโกนเสียงดังมากพอ สวรรค์พิภพจะได้ยินเจ้า”
“จ้าวเหลียนหยุน ตื่นได้แล้ว ยังมีคนที่รอให้เจ้าไปช่วย”
“คนผู้นั้นเคยยืนอยู่เคียงข้างเจ้า พาเจ้าไปดูดาว และตะโกนเรียกชื่อเจ้าที่หุบเขา ไปช่วยเขา!”
“ช่วยเขา…”
“ไปช่วยเขา…”
“ตะโกนออกไปให้เขารู้ว่าเจ้ากำลังมา! ให้เขารู้ว่าเขาต้องอดทน! ให้เขารู้ว่าเขายังมีความหวัง!”
“ถูกต้อง!”
“ข้าจะช่วยเขา!”
“ข้าจะตายอยู่ที่นี่ไม่ได้!”
จ้าวเหลียนหยุนเปิดเปลือกตาขึ้นทันที
นางตื่นขึ้นด้วยความมึนงง
เมื่อนางตื่นขึ้น นางพบว่าร่างกายของนางกำลังลุกไหม้ขึ้นด้วยแสงสีฟ้าอ่อน
แสงสีฟ้ามาจากวิญญาณแห่งความรัก
อาการบาดเจ็บของจ้าวเหลียนหยุนฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
แสงสีฟ้าอ่อนยังกระจายออกไปรอบๆ
จ้าวต้าหนิวถอยหลังกลับไปทีละก้าวด้วยความรู้สึกสยดสยอง “อา…แสงสว่างเหล่านี้คือสิ่งใด? มันหนักราวกับภูเขา! กลิ่นอายนี้มันคือวิญญาณอมตะชนิดใด!?”
ซือเจิ้งอี้อาบแสงสีฟ้าเช่นกัน
ทันใดนั้นเขารู้สึกราวกับพลังงานในร่างกายถูกเติมเต็ม อาการบาดเจ็บทั้งหมดของเขาหายไปอย่างสมบูรณ์ขณะที่พลังการต่อสู้ของเขาพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ขอบคุณจ้าวเหลียนหยุน ต่อไปให้เป็นหน้าที่ของข้า!”
“คนชั่ว ข้าจะสังหารเจ้า…”
“หมัด…แห่ง…ความ…ยุติธรรม!”
ซือเจิ้งอี้ตะโกนเสียงดัง ยิ่งเขาตะโกนดังเท่าใด ท่าไม้ตายอมตะของเขาก็ยิ่งทรงพลังมากเท่านั้น
หมัดแสงขนาดใหญ่พุ่งเข้าโจมตีจ้าวต้าหนิว
“บึม!”
ราวกับเสียงคำรามของท้องฟ้า การป้องกันของจ้าวต้าหนิวพังทลายลง รูเลือดขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนหน้าอกของเขาและสามารถมองเห็นกำแพงห้องผ่านรูนี้
“ข้า…ข้า…” ดวงตาของจ้าวต้าหนิวค่อยๆพร่าเลือนก่อนที่เขาจะล้มลงบนพื้น
“ปัง!”
ร่างของเขาหยุดเคลื่อนไหว
หลายลมหายใจต่อมา ร่างกาย ดวงวิญญาณ และมิติช่องว่างของเขาก็ถูกค่ายกลวิญญาณชะตากรรมพลิกผันดูดซับเข้าไป
“ฮ่าฮ่าฮ่า ความยุติธรรมเป็นฝ่ายชนะ!” ซือเจิ้งอี้ชูหมัดขึ้นและตะโกน
จ้าวเหลียนหยุนเผยรอยยิ้มขบขันอยู่ด้านข้าง
…..
กำแพงภูมิภาค
เสียงคำรามของมังกรดังขึ้น “อิงอู๋เซี่ย เจ้ากำลังจะไปที่ใด?”
มันคือฟางหยวนในร่างมังกรดาบบรรพกาล ในที่สุดเขาก็พบกลุ่มของอิงอู๋เซี่ย
การแสดงออกของอิงอู๋เซี่ยและคณะกลายเป็นเคร่งเครียด
อิงอู๋เซี่ยบอกผู้อมตะทั้งห้าไว้ล่วงหน้าแล้วว่าฟางหยวนจะตามทันในที่สุด ดังนั้นพวกเขาจึงเตรียมใจเอาไว้แล้ว
ตอนนี้พวกเขากำลังรอการต่อสู้ที่ดุเดือด
มังกรดาบบรรพกาลอ้าปากและเผยให้เห็นคมเขี้ยวที่แหลมคม ดวงตาของมันโหดเหี้ยมและเยือกเย็น ขณะที่มันปลดปล่อยเจตนาสังหารอันเข้มข้นออกมา
ฟางหยวนพุ่งไปข้างหน้าโดยไม่กล่าวเรื่องไร้สาระ
ฆ่าเท่านั้น!
“หากต้องการสู้กับนายท่าน เจ้าต้องผ่านข้าไปก่อน” ซือหนิวผู้ภักดีก้าวออกไปข้างหน้าและยกมือขวาขึ้น
กำแพงหินพุ่งขึ้นจากพื้นดินและกลายเป็นสิ่งกีดขวาง
“บึม!”
ในพริบตากำแพงหินถูกทำลายลงอย่างสมบูรณ์
ไห่ลั่วหลันส่งวิหคเพลิงพุ่งออกมาจากปาก
วิหคเพลิงตัวเล็กตัวน้อยพุ่งเข้าปะทะลมหายใจมังกรและระเบิดกลางอากาศ
“วิหคเพลิงพิโรธ?” ฟางหยวนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
นี่เป็นท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งไฟ เขาไม่ได้คาดหวังว่าไห่ลั่วหลันจะใช้วิธีนี้
โดยเฉพาะเมื่อวิหคเพลิงเหล่านี้ทำให้ฟางหยวนนึกถึงนางมารผลาญสวรรค์
ย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่นางมารผลาญสวรรค์บุกโจมตีฉลามปีศาจ นางใช้ท่าไม้ตายวิหคเพลิงพิโรธและฝากความประทับใจไว้กับฟางหยวน
แต่วิหคเพลิงพิโรธของไห่ลั่วหลันยังแตกต่างจากนางมารผลาญสวรรค์
หลังจากไห่ลั่วหลันส่งมอบวิญญาณอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งให้กับฟางหยวน นางหันมาบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งไฟเพราะนางมีมรดกของนางมารผลาญสวรรค์
เดิมทีนางไม่ได้สนใจมันและคิดว่าคงไม่มีโอกาสได้ใช้งานมันตลอดชีวิต แต่ผู้ใดจะคิดว่าเหตุการณ์จะพลิกผันและทำให้นางต้องเรียนรู้มัน
โดยธรรมชาตินางไม่มีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งไฟ
แต่นางมีวิญญาณอมตะของนางมารผลาญสวรรค์!
เมืองคลื่นทมิฬของกองกำลังพันธมิตรผีดิบแห่งภาคเหนือถูกซ่อนเอาไว้ ผมที่หกลอบไปที่นั่นและส่งวิญญาณอมตะของนางมารผลาญสวรรค์มาให้อิงอู๋เซี่ย
หลังจากนั้นอิงอู๋เซี่ยจึงมอบพวกมันให้ไห่ลั่วหลัน
ไห่ลั่วหลันมีมรดกของนางมารผลาญสวรรค์อยู่แล้ว เมื่อได้รับวิญญาณอมตะเหล่านั้น นางจึงสามารถเลียนแบบท่าไม้ตายอมตะทั้งหมดของนางมารผลาญสวรรค์
ฟางหยวนไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน แต่ตอนนี้เมื่อเห็นวิหคเพลิงพิโรธ เขาเข้าใจทุกอย่างทันที
ลมหายใจมังกรยังพุ่งเข้าโจมตีศัตรูขณะที่ไท่เป่ยหยุนเฉิงเร่งสร้างวงแหวนเมฆาขึ้นเพื่อปกป้องทุกคน