Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 1325 ธาตุทั้งสี่
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1325 ธาตุทั้งสี่
แปลโดย iPAT
ฟางหยวนได้รับเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งปฐพีดวงนั้นมาด้วย แต่วัสดุในการหลอมรวมส่วนใหญ่ไม่มีอยู่ในโลกใบนี้อีกต่อไป
หากฟางหยวนต้องการหลอมรวมมัน เขาต้องแก้ไขเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณด้วยตนเอง
แน่นอนว่าเขาจะไม่ทำเรื่องไร้สาระเช่นนี้ ด้วยข้อมูลที่รวบรวมมา เขามีความเข้าใจเกี่ยวกับวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งปฐพีดวงนี้มากพอแล้ว
ต่อไปฟางหยวนเริ่มอ่านมรดกระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งค่ายกล
สิ่งนี้ทำให้รากฐานบนเส้นทางแห่งค่ายกลของเขาพัฒนาขึ้นเล็กน้อย
หลังจากนั้นเขาเริ่มไตร่ตรองเกี่ยวกับการทดสอบในอาณาจักรแห่งความฝัน
ในยุคโบราณ เส้นทางแห่งค่ายกลมีบางแนวความคิดที่ได้รับความนิยม
แนวคิดดังกล่าวคือระบบธาตุทั้งสี่ ดิน น้ำ ลม และไฟ พวกมันเป็นค่ายกลวิญญาณรูปแบบพื้นฐานที่สุด
โดยธรรมชาติแล้วแนวคิดนี้มีความสำเร็จในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น หลังจากผ่านไปหลายสิบปี แนวคิดนี้ก็ไม่ได้รับความนิยมอีก หากเปรียบเทียบกับประวัติศาสตร์ทั้งหมดบนเส้นทางแห่งค่ายกล ไม่กี่สิบปีถือว่าสั้นมาก แนวคิดนี้เหมือนระลอกคลื่นเล็กๆที่เลือนหายไปในสายธารแห่งกาลเวลา
‘มันเหมือนต้นกำเนิดของมนุษยชาติ ผู้คนเคยเชื่อว่ามนุษย์ถูกสร้างขึ้นโดยเทพเจ้า มันเป็นแนวคิดที่คงอยู่มาอย่างยาวนาน ในช่วงเวลานั้นผู้คนถูกครอบงำด้วยความคิดเหล่านี้ แต่เมื่อทฤษฎีต่างๆถูกพัฒนาขึ้น แนวคิดเก่าก็ถูกทำลาย เมื่อวิทยาศาสตร์เจริญก้าวหน้า ผู้คนจึงค้นพบข้อบกพร่องมากมาย’
ความคิดของฟางหยวนล่องลอยออกไป
แนวคิดเรื่องดิน น้ำ ลม และไฟมีความคล้ายคลึงกัน
หลังจากเส้นทางแห่งค่ายกลพัฒนาขึ้น ผู้คนเริ่มพบว่าค่ายกลวิญญาณที่มีองค์ประกอบพื้นฐานทั้งสี่มีข้อบกพร่อง
พวกเขาค้นพบสิ่งใหม่ๆและก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง
ข้อมูลที่ได้รับทำให้ฟางหยวนตระหนักถึงวิธีที่จะทำให้เขาสามารถผ่านฉากแรกของอาณาจักรแห่งความฝัน
‘ปรากฎว่าข้าต้องใช้วิญญาณทั้งหมดเพื่อสร้างค่ายกลวิญญาณจริงๆ’ ฟางหยวนตระหนักรู้ได้ในที่สุด
ในเวลาเดียวกันเขาก็ถอนหายใจ ‘ตู้ซื่อเฉินผู้นี้ค่อนข้างเจ้าเล่ห์ เห็นได้ชัดว่าต้องใช้วิญญาณทั้งสี่ แต่เขากลับบอกข้าว่าต้องใช้อย่างน้อยสองดวง’
อย่างไรก็ตามแม้เขาจะรู้เรื่องนี้แต่เขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรให้วิญญาณทั้งสี่หมุนวนอยู่รอบๆวิญญาณแก่นแท้ค่ายกลเพื่อสร้างค่ายกลวิญญาณที่มีประสิทธิภาพ
หากฟางหยวนมีวิญญาณเหล่านี้อยู่ในมือ เขาจะสามารถทดสอบในโลกของความเป็นจริง
นี่เป็นวิธีที่นิยมใช้ถอดรหัสอาณาจักรแห่งความฝันในช่วงแรก
ฟางหยวนไตร่ตรองและตัดสินใจที่จะทดสอบในอาณาจักรแห่งความฝัน
ความพยายามครั้งที่สองเหมือนก่อนหน้า แต่คราวนี้ฟางหยวนเลือกที่จะกระตุ้นใช้วิญญาณทั้งสี่ในเวลาเดียวกัน
แน่นอนว่ามันล้มเหลว
วิญญาณทั้งสี่ระเบิดขึ้นพร้อมกัน ฟางหยวนได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกขับไล่ออกจากอาณาจักรแห่งความฝัน
ความพยายามครั้งที่สาม ฟางหยวนเลือกใช้วิญญาณบนเส้ทางแห่งปฐพีเป็นอันดับแรกและวิญญาณบนเส้นทางแห่งวารีเป็นอันดับต่อมา แต่มันก็ยังล้มเหลว
ในความพยายามครั้งที่เจ็ด ฟางหยวนประสบความสำเร็จ
วิญญาณระดับมนุษย์ทั้งสี่บินไปรอบๆวิญญาณแก่นแท้ค่ายกล วิญญาณบนเส้นทางแห่งไฟและวิญญาณบนเส้นทางแห่งวารีบินอยู่รอบๆวิญญาณแก่นแท้ค่ายกล วิญญาณบนเส้นทางแห่งปฐพีลอยอยู่ด้านล่างขณะที่วิญญาณบนเส้นทางแห่งวายุลอยนิ่งอยู่ด้านบนอย่างสงบ
ภายใต้การควบคุมของวิญญาณแก่นแท้ค่ายกล วิญญาณทั้งสี่ปลดปล่อยพลังงานแสงสีรุ้งที่ลึกลับออกมา
พลังวิญญาณของผู้ใช้วิญาณจะฟื้นตัวขึ้นด้วยความเร็วสองเท่าภายใต้แสงสีรุ้ง
‘สำหรับผู้ใช้วิญญาณ นี่เป็นค่ายกลวิญญาณที่ใช้งานได้จริง!’ ฟางหยวนคิด
“ฮ่าฮ่าฮ่า ดีมาก ดีมาก เจ้าเป็นบุตรชายของข้าจริงๆ เจ้ามีพรสวรรค์บนเส้นทางแห่งค่ายกลโดยธรรมชาติ!” ตู้ซื่อเฉินหัวเราะอย่างมีความสุขกับความสำเร็จของฟางหยวน
ฟางหยวน “…”
เนินเขา ท้องฟ้า และแผ่นดินค่อยๆเลือนหายไปจากวิสัยทัศน์ของฟางหยวน
ฉากแรกของอาณาจักรแห่งความฝันจบลง ฉากที่สองเริ่มขึ้น
ฟางหยวนถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขายืนกรานที่จะไม่ใช้ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันในฉากแรก สุดท้ายเขาก็สูญเสียวิญญาณความเด็ดเดี่ยวไปสิบดวง ค่าใช้จ่ายนี้ยังถือว่าต่ำ
ฟางหยวนตรวจสอบสถานการณ์โดยไม่สนใจว่าความสำเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกลของเขาจะเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใด
ตอนนี้เขาพบว่าตนเองอยู่ในกรง
และภายในกรงขนาดมหึมานี้ยังมีกรงที่เล็กกว่า
กรงขนาดเล็กขังเสือดำที่หิวโหยเอาไว้ภายใน
‘เกิดสิ่งใดขึ้น?’ ฟางหยวนรู้สึกสับสน
เป็นเพียงเวลานี้ที่ตู้ซื่อเฉินที่ยืนอยู่นอกกรงกล่าวกับฟางหยวน “ข้าจะให้เวลาเจ้าห้านาทีในการสร้างค่ายกลวิญญาณด้วยวิญญาณเหล่านี้ หลังจากผ่านไปห้านาทีเสือดำตัวนี้จะถูกปล่อยออกมา เมื่อเวลานั้นมาถึง ข้าจะไม่เคลื่อนไหวและจะดูว่าเจ้าสามารถใช้ค่ายกลวิญญาณเพื่อต่อต้านเสือดำตัวนี้หรือไม่?”
“กระไรนะ!?” ดวงตาของฟางหยวนเบิกกว้าง
วิธีการเรียนรู้ชนิดนี้ เฮ้ เจ้าเป็นพ่อของเด็กผู้นี้จริงๆหรือไม่?
“เจ้าเป็นบุตรชายของตู้ซื่อเฉิน เจ้าต้องทำได้อย่างแน่นอน หากเจ้าทำไม่ได้ นั่นหมายความว่าเจ้าไม่คู่ควรที่จะเป็นบุตรชายของข้า!” ตู้ซื่อเฉินกล่าวด้วยใบหน้าไร้อารมณ์
‘สวรรค์!’ ฟางหยวนอุทานอยู่ในใจ
เขาพบว่าตนเองยังไม่โตมากนักจากฉากแรก เด็กผู้นี้ควรมีอายุอย่างมากเพียงสิบสี่ปีเท่านั้น
‘ตู้ซื่อเฉินผู้นี้ดูเหมือนจะเป็นผู้อมตะฝ่ายธรรมะ แต่เหตุใดเขาถึงใจร้ายนัก? บางทีนี่อาจเป็นเพียงการข่มขู่เพื่อบังคับให้บุตรชายของเขาปลดปล่อยศักยภาพออกมาอย่างเต็มที่?’
ฟางหยวนคาดเดา
‘ไม่ว่าบุตรชายของตู้ซื่อเฉินผู้นี้จะเป็นผู้ใด เขาก็เป็นคนโชคร้ายจริงๆ’
เวลามีจำกัด ฟางหยวนเร่งสงบอารมณ์และเริ่มตรวจสอบวิญญาณที่เขามี
เสือดำที่อยู่ในกรงเป็นสัตว์ป่าทั่วไป แต่ด้วยร่างกายที่ยังเด็กของฟางหยวน เขาไม่สามารถต่อต้านมัน
เขาทำได้เพียงสร้างค่ายกลวิญญาณเท่านั้น
มีวิญญาณอยู่ห้าดวง พวกมันยังเป็นวิญญาณระดับหนึ่ง หนึ่งในนั้นคือวิญญาณแก่นแท้ค่ายกลขณะที่อีกสี่ดวงเป็นวิญญาณบนเส้นทางแห่งปฐพี วิญญาณบนเส้นทางแห่งวายุ วิญญาณบนเส้นทางแห่งวารี และวิญญาณบนเส้นทางแห่งไฟ
มันแทบจะเหมือนฉากแรก
ความแตกต่างคือแม้จะเป็นเส้นทางเดียวกันแต่มันเป็นวิญญาณที่แตกต่างออกไป
แล้วฟางหยวนควรสร้างค่ายกลวิญญาณอย่างไร?
เขาเริ่มทดลอง
ด้วยประสบการณ์ในฉากแรก ฟางหยวนเริ่มมีความเชี่ยวชาญมากขึ้น
ความพยายามครั้งแรกล้มเหลวอย่างรวดเร็ว ฟางหยวนพ่นเลือดคำโตออกมา โชคดีที่วิญญาณไม่ได้รับบาดเจ็บ
แต่เขายังไม่ถูกขับไล่ออกจากอาณาจักรแห่งความฝัน
‘ดูเหมือนข้าต้องพยายามต่อไปจนกว่าจะถึงห้านาที?’
‘แม้จะมีโอกาส แต่ในความเป็นจริง แทบไม่มีความหวังเลย’
ฟางหยวนขมวดคิ้ว
แม้จะไม่เกิดสิ่งใดขึ้นกับวิญญาณ แต่สภาพร่างกายของเขาแย่มากขณะที่พลังวิญญาณของเขาแทบหมดสิ้น
ในความพยายามครั้งต่อมา เขาแทบไม่สามารถประคองร่างกายเอาไว้ได้
มันล้มเหลวอีกครั้ง
มีเวลาเหลืออยู่แต่ฟางหยวนไม่สามารถดำเนินการต่อเพราะวิญญาณแก่นแท้ค่ายกลเสียชีวิตไปแล้ว
“ท่านพ่อ วิญญาณของข้าถูกทำลายไปแล้ว ขอวิญญาณแก่นแท้ค่ายกลให้ข้าอีกดวงได้หรือไม่?” ฟางหยวนถาม
แต่คำตอบที่เขาได้รับคือการส่ายศีรษะอย่างไร้ปรานี “จะเกิดสิ่งใดขึ้นหากเจ้าอยู่ในการต่อสู้จริง ผู้ใดจะมอบวิญญาณให้เจ้า เจ้าทำให้ข้าผิดหวัง เจ้าไม่มีโอกาสอีกแล้ว”
เมื่อถึงเวลาที่กำหนด กรงขนาดเล็กก็ปล่อยเสือดำออกมา มันพุ่งเข้ากัดลำคดของฟางหยวนทันที
อาณาจักรแห่งความฝันนี้เหมือนจริงมาก ฟางหยวนสามารถสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของการถูกกัดและลำคอที่กำลังฉีกขาด การหายใจของเขายากลำบากมากขึ้น ความเจ็บปวดพุ่งเข้าโจมตีหัวใจของเขาอย่างหนัก
เลือดไหลออกมาจากบาดแผลขณะที่เสือดำดื่มมันอย่างพึงพอใจ
ตู้ซื่อเฉินส่ายศีรษะและถอนหายใจ “เจ้าไม่คู่ควรกับการเป็นบุตรของข้า”
จากนั้นเขาก็หันหลังและจากไป
‘ไม่ช่วยจนถึงที่สุด ตู้ซื่อเฉินผู้นี้เป็นผู้อมตะฝ่ายธรรมะหรือปีศาจกันแน่?’ หลังจากถูกขับออกจากอาณาจักรแห่งความฝัน ใบหน้าของฟางหยวนก็มืดครึ้มลง
หลังจากใช้วิญญาณความเด็ดเดี่ยวเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ เขาก็สำรวจต่อไป
ความพยายามครั้งที่สอง ความพยายามครั้งที่สาม ความพยายามครั้งที่สี่…
ทุกครั้งล้มเหลว ฟางหยวนถูกเสือดำฆ่าและกัดกินอย่างน่าสังเวช
หากเป็นคนอื่น จิตใจของพวกเขาอาจพังทลายไปแล้ว
อย่างไรก็ตามฟางหยวนไม่กลัว เขาเคยพบกับความทุกข์ทรมานมากกว่านี้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
เขาปฏิบัติต่อความเจ็บปวดเหมือนสายลมที่พัดผ่านใบหน้า จิตใจของเขายังจดจ่ออยู่กับการสร้างค่ายกลวิญญาณ
ความพยายามครั้งที่สิบ ความพยายามครั้งที่สิบเอ็ด ความพยายามครั้งที่สิบสอง…
ฉากที่สองยากกว่าฉากแรกมาก อาการบาดเจ็บทางจิตวิญญาณที่เขาได้รับก็มากกว่า
ฉากแรกเขาใช้วิญญาณความเด็ดเดี่ยวเพียงสองดวงในแต่ละครั้ง แต่ฉากที่สองเขาต้องใช้วิญญาณความเด็ดเดี่ยวสามดวงเพื่อกู้คืนอาการบาดเจ็บทางจิตวิญญาณ
ฟางหยวนคำนวณค่าใช้จ่ายอย่างใจเย็น
“หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ค่าใช้จ่ายจะสูงขึ้น ข้าต้องใช้ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันหรือไม่?”
“เดี๋ยว!”
ขณะที่เขากำลังกังวล เขากลับได้รับแรงบันดาลใจบางอย่างขึ้นมาโดยพลัน
เขาเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันและพยายามต่อไป
มีวิธี!