Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 1348 สถานการณ์ผ่อนคลาย
ห้องประชุมเงียบลง ทุกคนมองไปยังผู้อมตะผู้นี้
เขาเป็นผู้อมตะวัยเยาว์ที่ดูไม่โดดเด่นนัก แต่เขาเป็นผู้อมตะคนสำคัญของตระกูลช่าย เขาเป็นผู้ช่วยที่เชื่อถือได้ของผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของตระกูลช่าย
ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูล ช่ายโหย่วเยี่ยน คิดก่อนกล่าว “สิ่งที่ข้าคิดอาจแตกต่างจากทุกท่าน หลายวันมานี้ข้าประเมินวูอี้ไห่มาตลอด”
“วูหยงหายตัวไปและอาจตายไปแล้ว ไม่ว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องจริงหรือไม่และมีผู้ใดบงการอยู่เบื้องหลัง วูอี้ไห่ก็กลายเป็นผู้นำของตระกูลวูในเวลานี้ ข้ากำลังคิดถึงบุคลิกของเขาและความจริงใจของเขา”
“เราทุกคนรู้ต้นกำเนิดของวูอี้ไห่ แต่เรายังรู้จักเขาน้อยเกินไป เขาไม่ได้เติบโตขึ้นในภาคใต้”
“อืม กล่าวต่อไป” สายตาของผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของตระกูลช่ายแสดงให้เห็นถึงความสนใจ
ช่ายโหย่วเยี่ยนยิ้มก่อนกล่าวต่อ “แท้จริงแล้วเรารู้ข้อมูลเหล่านี้ของวูอี้ไห่ ดังนั้นข้าจะข้ามมันไป จากข้อมูลนี้เราสามารถเข้าใจทัศนคติและบุคลิกของเขาไม่มากก็น้อย ข้าจะกล่าวถึงบางสิ่งที่ทุกคนอาจละเลย”
“โอ้ พวหเราละเลยสิ่งใด?”
ช่ายโหย่วเยี่ยนลูบจมูกของเขา “ข้าหมายถึงจดหมายฉบับนั้น ในจดหมายของวูอี้ไห่ เขาต้องการร่วมมือกับตระกูลของเราเพื่อโจมตีตระกูลปาและตระกูลเซี่ย เขาไม่ได้เลือกตระกูลปาหรือตระกูลเซี่ย แต่เขาเลือกที่จะโจมตีทั้งสองตระกูล”
“ตระกูลวูมักทำตัวหยิ่งผยอง ไม่ใช่ว่านี่เป็นเรื่องปกติของพวกเขางั้นหรือ?” ผู้อมตะตระกูลช่ายบางคนไม่เข้าใจ
“ไม่ ไม่ ไม่ วูอี้ไห่แตกต่างออกไป” ช่ายโหย่วเยี่ยนส่ายศีรษะ “พวกเรารู้ว่าเขาจัดการกับยอดเขาเยือกแข็งอย่างไรและสร้างข้อตกลงกับสัตว์ประหลาดเฒ่าเคลื่อนภูเขาอย่างไร การกระทำของเขาคล้ายผู้บ่มเพาะสันโดษ นานเท่าใดแล้วตั้งแต่เขากลับเข้าสู่ตระกูลวู?”
“วูอี้ไห่ไม่มีนิสัยหยิ่งผยองของตระกูลวู แต่เขามีความเฉลียวฉลาดของผู้บ่มเพาะสันโดษ เขารู้วิธีเจรจาต่อรอง จากสิ่งที่ข้าเห็น เขามีพรสวรรค์ที่จะเป็นสมาชิกฝ่ายธรรมะ”
“เหตุใดเขาเลือกตระกูลปาและตระกุลเซี่ยเป็นเป้าหมาย? เช่นเดียวกับที่ข้ากล่าวก่อนหน้านี้ เหตุใดเขาถึงไม่เลือกโจมตีหนึ่งจากสองและสร้างพันธมิตรกับอีกหนึ่ง? เพราะเมื่อพวกเราร่วมมือกับตระกูลวู หากพวกเราเลือกโจมตีหนึ่งในสอง อีกหนึ่งจะนิ่งเฉยงั้นหรือ? พวกเขาจะทำงานร่วมกันและต่อต้านตระกูลวูกับตระกูลของพวกเราอย่างแน่นอน!”
ผู้อมตะตระกูลช่ายพยักหน้าเห็นด้วยเมื่อได้ยินเรื่องนี้
ตระกูลช่าย ตระกูลปา และตระกูลเซี่ย ฐานทัพของทั้งสามกองกำลังรวมตัวอยู่รอบๆแม่น้ำมังกรแดงและแม่น้ำมังกรหยก ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาค่อนข้างซับซ้อน หากกองกำลังใดกองกำลังหนึ่งแข็งแกร่งขึ้น อีกสองกองกำลังจะร่วมมือกันเพื่อต่อต้าน
ทั้งสามอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องรักษาสมดุลของขั้วอำนาจ นี่เป็นสาเหตุที่ตระกูลช่ายไม่มีความก้าวหน้าหลังจากหลายปี
หากตระกูลช่ายทำงานร่วมกับตระกูลวู สมดุลจะเปลี่ยนไป แล้วตระกูลปาและตระกูลเซี่ยจะไม่ร่วมมือกันได้อย่างไร?
ดังนั้นฟางหยวนจึงระบุโดยตรงว่าทั้งสองกองกำลังเป็นเป้าหมายของเขา เพราะเขารู้ว่ามันต้องเกิดขึ้น!
“หมายความว่าวูอี้ไห่เป็นคนมองการณ์ไกล เนื่องจากเขาขอความร่วมมือจากพวกเรา เขาต้องเตรียมการเอาไว้หลายอย่าง เราไม่ต้องกังวลว่าตระกูลวูจะล้อเล่นกับพวกเรา” บางคนกล่าว
ช่ายโหย่วเยี่ยนพยักหน้า “นั่นคือสิ่งที่ข้าต้องการกล่าว วูอี้ไห่มีความสามารถทางการเมืองที่น่าประทับใจ จากรายละเอียดทั้งหมด ข้าเห็นถึงความจริงใจอย่างมากของเขาที่จะสร้างความร่วมมือกับพวกเรา”
“ความจริงก็คือตระกูลช่ายของเราต้องเคลื่อนไหว”
“หลังจากทั้งหมดนี่เป็นโอกาสที่เราจะสามารถปราบปรามตระกูลปาและตระกูลเซี่ย มันอาจไม่ง่าย แต่นี่จะเป็นการทำงานหนักเพื่อชนรุ่นถัดไป แน่นอนว่าเราต้องพึ่งพาโชคอีกเล็กน้อย”
“หากปล่อยให้ตระกูลปาและตระกูลเซี่ยดูดกลืนทรัพยากรมากขึ้น รากฐานของพวกเขาจะแข็งแกร่งขึ้น ข้อได้เปรียบของพวกเราจะหมดไปในที่สุด”
“แน่นอนว่าพวกเรายังต้องระวังตระกูลวูแม้พวกเราจะทำงานร่วมกับพวกเขาก็ตาม”
“แต่อย่างน้อยที่สุดเราก็ต้องส่งผู้อมตะออกไปโจมตี เราไม่สามารถปล่อยให้ตระกูลปาและตระกูลเซี่ยขยายอิทธิพลของพวกเขาได้อย่างง่ายดายถูกต้องหรือไม่?”
คำกล่าวของเขาทำให้ผู้อมตะทั้งหมดของตระกูลช่ายพยักหน้าเห็นด้วยทันที
…..
ในเวลาเดียวกัน
ภาคใต้ ภูเขาหมื่นอสรพิษ ฐานทัพของตระกูลจื่อ
ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของตระกูลจื่อถือวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลเอาไว้ในมือ
ตระกูลจื่ออยู่ทางทิศตะวันตกของภาคใต้ ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของพวกเขาคือตระกูลหยางขณะที่ทิศตะวันออกคือตระกูลเฉียว
ฐานทัพของตระกูลจื่อตั้งอยู่ระหว่างสองตระกูลนี้ แต่ตระกูลหยางอยู่ไกลกว่า
ตระกูลจื่อมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับตระกูลหยาง ภูเขาหัตถ์วิญญาณของตระกูลหยางตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำมังกรเหลืองและเต็มไปด้วยทรัพยากร ผู้อมตะส่วนใหญ่ของตระกูลหยางมักบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ พวกเขามีพลังการต่อสู้ที่น่าเหลือเชื่อและเป็นภัยคุกคามต่อตระกูลจื่อ
ในอดีตตระกูลหยางและตระกูลจื่อมีความขัดแย้งมากมาย
ห่างจากตระกูลหยางไปทางทิศตะวันออกเป็นอาณาเขตของตระกูลวู
แท้จริงแล้วตระกูลวูกับตระกูลจื่ออยู่ไม่ไกลกันมากนัก แม้พวกเขาจะไม่ได้อยู่ติดกัน แต่ตระกูลเฉียวและตระกูลจื่อก็อยู่ติดกัน
ตระกูลเฉียวได้รับการสนับสนุนจากผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของตระกูลวูในบางรุ่น ฐานทัพของตระกูลเฉียวตั้งอยู่ในจุดศูนย์กลางของภาคใต้และติดกับตระกูลปา ตระกูลเซี่ย รวมถึงตระกูลจื่อ พวกเขาถือเป็นแนวป้องกันด้านหน้าของตระกูลวู
ตระกูลจื่อกับตระกูลเฉียวมีความขัดแย้งกันบ้างเช่นกัน แต่ทุกคนรู้ว่าตระกูลเฉียวเป็นสุนัขเฝ้าบ้านของตระกูลวู ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลจื่อและตระกูลวูจึงดีบ้างไม่ดีบ้าง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสถานการณ์
กล่าวได้ว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาค่อนข้างคลุมเครือ
ไม่นานมานี้ตระกูลจื่อมีปัญหากับตระกูลวู แต่ในค่ายกลวิญญาณพวกเขายังทำงานร่วมกันและสร้างธุรกิจซื้อขายโอกาส
“วูอี้ไห่ เจ้ากำลังสร้างปัญหาให้ข้า” ในห้องทำงาน ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของตระกูลจื่อ จื่อชิวหยูถอนหายใจ
ฟางหยวนขอความร่วมมือจากตระกูลจื่อเพื่อจัดการตระกูลหยาง
ในความเป็นจริงจื่อชิวหยูรู้สึกประทับใจเพราะเขารู้ว่านี้เป็นโอกาสที่ดี มันเป็นโอกาสที่หายาก
ทุกกองกำลังต้องเติบโตขึ้น ตระกูลจื่อต้องการยึดทรัพยากรของตระกูลหยาง แม้พวกเขาจะทำไม่สำเร็จ แต่อย่างน้อยมันก็จะทำให้ตระกูลหยางอ่อนแอลง นี่คือผลประโยชน์ของตระกูลจื่อ
ตระกูลจื่อมีกำลังเพียงพอที่จะทำสิ่งนี้
ไม่เพียงเพราะฐานทัพของพวกเขาที่อยู่ไม่ไกล แต่พวกเขายังมีความเชี่ยวชาญด้านค่ายกล แหล่งทรัพยากรทั้งหมดของพวกเขามีการป้องกันที่น่าเหลือเชื่อ
ตระกูลจื่อมีคฤหาสน์วิญญาณอมตะสองหลังและต้องไม่ลืมว่าจื่อชิวหยูเป็นผู้อมตะระดับแปด
ข่าวการเสียชีวิตของวูหยงแพร่กระจายออกไปและทำให้ภาคใต้ตกสู่ความโกลาหล
ในสถานการณ์ที่วุ่นวาย ตระกูลจื่อจะทำอย่างไร จื่อชิวหยูต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็วและเด็ดขาด!
…..
หลายวันต่อมา ฟางหยวนก็ออกจากการปิดประตูฝึกตน
ใบหน้าของเขาเผยให้เห็นถึงความสุขเล็กน้อย
เขาได้รับผลประโยชน์ในครั้งนี้ ท่าไม้ตายอมตะกระดองเต่าวัชระได้รับการพัฒนาอย่างสมบูรณ์และผ่านการทดสอบมาแล้วหลายครั้ง
และในช่วงสองสามวันมานี้สถานการณ์ของภาคใต้เปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก
ตระกูลช่ายส่งผู้อมตะมาและแสดงท่าทีคุกคาม ตระกูลปากับตระกูลเซี่ยต้องรวบรวมกองกำลังส่วนหนึ่งกลับฐานทัพเพื่อป้องกันตัว
ผู้อมตะตระกูลจื่อบุกโจมตีอาณาเขตของตระกูลหยางโดยตรง ทั้งสองเป็นเพื่อนบ้านกันมานาน มันเป็นเรื่องง่ายที่จะหาข้ออ้างในการกระทำนี้
ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันใกล้กับเทือกเขาของพวกเขา
ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงของตระกูลจื่อกระตือรืนร้นมาก เขานำคฤหาสน์วิญญาณอมตะบุกโจมตีด้วยตนเอง สิ่งนี้ทำให้ตระกูลหยางรู้สึกหวาดกลัว พวกเขาต้องส่งคฤหาสน์วิญญาณอมตะและผู้อมตะจำนวนหนึ่งออมาต่อต้าน สิ่งที่ต้องกล่าวถึงก็คือตระกูลหยางไม่มีผู้อมตะระดับแปด สถานะของพวกเขาไม่ได้โดดเด่นมากนัก
นอกจากนั้นตระกูลลั่ว ตระกูลไป่ และตระกูลอี้ก็เคลื่อนไหวเช่นกัน
เพราะฟางหยวนส่งจดหมายไปถึงตระกูลเหล่านี้ แน่นอนว่าเนื้อหาในจดหมายต่างจากตระกูลช่ายและตระกูลจื่อ
ท้ายที่สุดทั้งสี่ตระกูลนี้ก็อยู่ใกล้กันเกินไป พวกเขาทั้งหมดอยู่ทางทิศตะวันออกของภาคใต้
แต่ถึงกระนั้นการเคลื่อนไหวของตระกูลเหล่านี้ก็ดึงดูดความสนใจของตระกูลฮั่วและตระกูลเหยา พวกเขาถูกบังคับให้เคลื่อนไหวเพราะพวกเขารู้ว่าแม้ตระกูลเหล่านี้จะไม่โจมตี แต่พวกเขาก็ยังต้องป้องกันตัว
สำหรับตระกูลเฉิง ตระกูลนี้มักปฏิบัติตนอย่างเป็นกลางเสมอ แม้ฟางหยวนจะส่งจดหมายไป พวกเขาก็ปฏิเสธทันที
เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันเหล่านี้ สถานการณ์อันตรายของตระกูลวูกับตระกูลเฉียวจึงผ่อนคลายลง
ผู้อมตะของตระกูลวูและตระกูลเฉียวตกตะลึงกับผลลัพธ์นี้เป็นอย่างมาก
แม้ฟางหยวนจะส่งจดหมายออกไปเพียงสองสามฉบับ แต่เขาก็สามารถโน้มน้าวให้กองกำลังใหญ่ลงมือ นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อข้อความในจดหมายของเขาต้องระบุทรัพยากรที่ตระกูลวูเต็มใจเสียสละเพื่อแสดงความจริงใจ
ฟางหยวนจัดการสิ่งเหล่านี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ มันเกินกว่าจินตนาการของทุกคนไปไกลมาก
มีเพียงไม่กี่คนที่รู้เนื้อหาภายในจดหมายของเขา แต่ทุกคนรู้ว่าจดหมายเหล่านี้สามารถบังคับให้ผู้อมตะจำนวนมากของกองกำลังใหญ่เหล่านี้เคลื่อนไหว สิ่งนี้ทำให้ตระกูลวูและตระกูลเฉียวมีเวลารับมือกับสถานการณ์
‘ดูเหมือนทักษะของข้าไม่ได้ลดลงมากนัก’ ห้าร้อยปีในชีวิตแรกของฟางหยวน เขาเคยเป็นผู้นำองค์กร ในสงครามห้าภูมิภาค สถานการณ์ทางการเมืองวุ่นวายมากขึ้น ทั้งห้าภูมิภาคเชื่อมต่อกัน การหลอกลวง แผนการ การทรยศทุกประเภทเกิดขึ้นอย่างไม่รู้จบสิ้น
กล่าวได้ว่าความวุ่นวายทางการเมืองในปัจจุบันของตระกูลวูกับตระกูลเฉียวยังไม่ถือเป็นสิ่งใดสำหรับฟางหยวน
ในความคิดเห็นของเขา มันไม่ได้ซับซ้อน
เขาไม่จำเป็นต้องคิดให้มากนักและสามารถกำหนดเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาได้โดยตรง
‘ในที่สุดคฤหาสน์วิญญาณอมตะของตระกูลวูก็กำลังจะมาถึง?’ ฟางหยวนได้รับข้อมูลเพิ่มเติม
เดิมทีคฤหาสน์วิญญาณอมตะต้องมาถึงก่อนหน้านี้ แต่มีเหตุร้ายเกิดขึ้นระหว่างทางทำให้มันล่าช้าออกไป ไม่ว่าคนร้ายจะเป็นผู้ใดหรือมีเจตนาใด ฟางหยวนก็ต้องรออีกหนึ่งวันก่อนที่คฤหาสน์วิญญาณอมตะจะมาถึง
‘ดูเหมือนข้าต้องออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้’ ฟางหยวนถอนหายใจและรู้สึกไม่เต็มใจที่จะละทิ้งอาณาจักรแห่งความฝันที่เขาทุ่มเทความพยายามมากมายเพื่อมัน