Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 1366 ราชันมังกรตื่นขึ้น
วังสวรรค์มีสิ่งที่ต้องกังวลแต่เกี่ยวกับความกังวลนี้เทพอมตะกลุ่มดาวไม่ได้กล่าวอย่างชัดเจน
หลังกล่าวจบ เจตจำนงของเทพอมตะกลุ่มดาวก็หายไปในอากาศ
“โอ้ จื่อเว่ย อย่ามองข้า แม้ข้าจะอายุยืนยาว แต่ข้าก็ไม่รู้ทุกสิ่ง ข้าจะบอกความจริงกับเจ้า นี่เป็นครั้งที่สองที่ข้าได้เห็นเจตจำนงของเทพอมตะกลุ่มดาวปรากฏขึ้นด้วยตนเอง” ราชันมังกรถอนหายใจ
เขาหยุดก่อนกล่าวต่อ “เราต้องเชื่อในเจตจำนงของเทพอมตะกลุ่มดาวและทำตามคำกล่าวของนาง เราจะชนะในครั้งนี้อย่างแน่นอน นี่คือชะตากรรมของเรา!”
ด้วยคำสั่งของเทพอมตะกลุ่มดาว ราชันมังกรและคนอื่นๆจึงไม่กล้าขัดขืน
ในช่วงเวลาที่หอคอยดวงตาสวรรค์อยู่ในสวรรค์สีขาว มันถูกขัดขวางโดยวิธีการบางอย่างที่ราชันภูเขาม่วงทิ้งไว้และทำให้พวกเขามาถึงช้ากว่าความตั้งใจเดิม
การวิเคราะห์ของฟางหยวนถูกต้อง
แม้เขาจะไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดวังสวรรค์ถึงไม่นำผู้อมตะระดับแปดมามากกว่านี้ แต่มันก็ไม่สามารถหยุดเขาจากการมองเห็นรายละเอียดดังกล่าว
ฟางหยวนตัดสินใจใช้ค่ายกลวิญญาณช่วยอิงอู๋เซี่ยและแทรกแซงการต่อสู้ระหว่างราชันมังกรกับราชันภูเขาม่วง
ด้วยการใช้สวรรค์สีเหลืองเป็นตัวกลาง พวกเขาประสบความสำเร็จในการส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูล
นี่ทำให้ฟางหยวนสามารถพูดคุยกับราชันภูเขาม่วงได้โดยตรง
ฟางหยวนต้องช่วยอิงอู๋เซี่ยเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากนิกายเงา มิฉะนั้นเขาจะไม่สามารถดำเนินการต่อไป
ด้วยวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูล มันทำให้ฟางหยวนสามารถอนุมานบางสิ่งเกี่ยวกับราชันภูเขาม่วง
หากเป็นช่วงเวลาปกติ พวกเขาต้องทำข้อตกลงพันธมิตรเป็นอันดับแรก มิฉะนั้นข้อมูลอาจรั่วไหล
ราชันภูเขาม่วงเริ่มกล่าวกับฟางหยวน “ฟางหยวน ก่อนอื่นข้าต้องขอบคุณชื่อราชันภูเขาม่วงที่เจ้าตั้งให้ มันยอดเยี่ยมมาก ข้าชอบมัน”
ฟางหยวนไม่ได้คาดหวังว่าคำโกหกที่เขาใช้หลอกลวงไท่เป่ยหยุนเฉิงจะกลายเป็นความจริงในวันหนึ่ง
ราชันภูเขาม่วงมีทักษะในการติดต่อสื่อสาร เขากล่าวเรื่องนี้เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดมากขึ้นกับฟางหยวน
ฟางหยวนหัวเราะ “เช่นนั้นข้าก็จะเรียกท่านว่าราชันภูเขาม่วง ท่านเห็นความจริงใจของข้าแล้ว เราควรทำงานร่วมกัน ตอนนี้ถึงเวลาสำหรับข้อตกลงแล้ว”
ราชันภูเขาม่วงโจมตีราชันมังกรอย่างดุเดือด ขณะเดียวกันก็ตอบฟางหยวน “ตกลง เจ้าต้องการสิ่งใด?”
ฟางหยวนตอบ “คริสตัลสวรรค์ ข้าต้องการคริสตัลสวรรค์จำนวนมาก!”
คริสตัลสวรรค์หายากมาก กระทั่งในสวรรค์สีเหลืองก็ยังมีขายน้อยมากและไม่เพียงพอต่อความต้องการของฟางหยวน
แต่นิกายเงามี
ฟางหยวนไม่สงสัยเรื่องนี้แม้แต่น้อย
แม้นิกายเงาจะอยู่ในจุดต่ำสุด แต่พวกเขาไม่เคยขาดแคลนทรัพยากร ฟางหยวนสามารถมองเห็นสิ่งนี้ระหว่างการไล่ล่ากลุ่มของอิงอู๋เซี่ย
ดังคาด ราชันภูเขาม่วงตอบ “ตกลง ข้ามีคริสตัลสวรรค์มากมาย พวกมันจะถูกส่งมอบให้เจ้าเพื่อแสดงความจริงใจ”
“เจ้าต้องการคริสตัลสวรรค์เพื่อหล่อเลี้ยงอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดใช่หรือไม่?”
“นี่เป็นความคิดที่ดี เกราะหวนคืนไม่สามารถใช้งานได้อย่างอิสระ แต่กระทั่งเจ้าจะเปลี่ยนอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดให้เป็นสัตว์อสูรแรกกำเนิด มันก็ยังห่างไกลจากจุดสูงสุด นอกจากนั้นเจ้าอาจไม่สามารถควบคุมมัน ข้าเข้าใจความสามารถบนเส้นทางแห่งทาสของเจ้า”
“แต่ไม่จำเป็นต้องกังวล ข้ามีวิธีที่จะทำให้เจ้าสามารถควบคุมอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด”
คำกล่าวของราชันภูเขาม่วงทำให้ฟางหยวนทั้งดีใจและประหลาดใจ
ราชันภูเขาม่วงใจกว้างมาก เขายอมสละคริสตัลสวรรค์เพื่อสนับสนุนฟางหยวนโดยไม่ลังเล
โดยเฉพาะวิธีการควบคุมอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด เรื่องนี้สามารถล่อลวงฟางหยวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดังคาด คำกล่าวของผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งปัญญาล้วนเต็มเปี่ยมไปด้วยภูมิปัญญา
ฟางหยวนเงียบก่อนกล่าว “การเพิ่มวิธีควบคุมอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดเป็นสิ่งที่ดี แต่ตอนนี้เรามีเรื่องสำคัญต้องทำ!”
เขากล่าวราวกับวิธีควบคุมอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดเป็นของเขาอยู่แล้ว
ด้วยวิธีนี้ราคาที่ราชันภูเขาม่วงใช้ต่อรองจึงด้อยค่าลง
ราชันภูเขาม่วงยิ้ม “มีสิ่งใดสำคัญกว่านี้?”
“นั่นคือเราทั้งคู่ต้องหยุดสู้รบเดี๋ยวนี้!” ฟางหยวนกล่าว
นิกายเงาจะได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้ มันดีสำหรับฟางหยวนเช่นกัน มีเพียงวังสวรรค์เท่านั้นที่จะไม่ได้รับผลประโยชน์
ราชันภูเขาม่วงออกคำสั่งกับสมาชิกนิกายเงาทันที
ฟางหยวนออกคำสั่งผู้อมตะภาคใต้ด้วยตัวตนของวูอี้ไห่และผู้ควบคุมค่ายกลวิญญาณเช่นกัน
ทั้งสองฝ่ายเริ่มแยกออกจากกัน
นิกายเงาพบความสูญเสียมากมาย ตอนนี้พวกเขาเหลือสมาชิกไม่กี่คนเช่น อิงอู๋เซี่ย ไป่หนิงปิง ไห่ลั่วหลัน เทพธิดาเมี่ยวหยิน และคนอื่นๆ
ฝ่ายธรรมะของภาคใต้มีความสูญเสียเช่นกัน แต่มันไม่ถือว่ามีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ตามกายาแห่งความฝันยังไม่หยุดปรากฏตัวขณะที่อาณาจักรแห่งความฝันค่อยๆหายไปอย่างต่อเนื่อง
นี่เป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายสำหรับวังสวรรค์
‘ตอนนี้วังสวรรค์จะทำอย่างไรต่อไป?’ ฟางหยวนเฝ้ามองการเคลื่อนไหวของวังสวรรค์
ราชันมังกรติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน เทพธิดาจื่อเว่ยกำลังเร่งการยึดครองค่ายกลวิญญาณหอคอยดวงตาสวรรค์ยังต่อสู้อยู่กับจ้าวเย่ฮุ้ย
“บึม!”
จ้าวเย่ฮุ้ยใช้กรงเล็บตบหอคอยดวงตาสวรรค์ลงกระแทกพื้น
แต่มันไม่ได้รับความเสียหาย
จ้าวเย่ฮุ้ยอ้าปากและยิงลำแสงค่ำคืนสีเทาออกมา
หอคอยดวงตาสวรรค์ใช้การโจมตีพ่ายแพ้ต่อโชคชะตาอีกครั้ง
ค่ำคืนสีเทาถูกกลืนกินโดยแสงสีดาวขณะที่จ้าวเย่ฮุ้ยถูกผลักดันออกไปและได้รับบาดเจ็บ
แต่แทบจะในทันทีที่อาการบาดเจ็บของมันหายไป
จ้าวเย่ฮุ้ยคำรามและพุ่งเข้าโจมตีหอคอยดวงตาสวรรค์อีกครั้งด้วยความโกรธและเกลียดชัง
หอคอยดวงตาสวรรค์บินขึ้นสู่ท้องฟ้า
จ้าวเย่ฮุ้ยไล่ล่าไปอย่างไม่ลดละ
ผู้อมตะภาคกลางที่อยู่ในหอคอยดวงตาสวรรค์เต็มไปด้วยความประหม่าและกังวล
“บัดซบ! สัตว์อสูรแรกกำเนิดตัวนี้แข็งแกร่งเกินไป มันสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะ หอคอยดวงตาสวรรค์ไม่สามารถจัดการมันได้ในระยะเวลาสั้นๆ”
“เราควรทำอย่างไร? ท่านราชันมังกรติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝันและถูกโจมตีโดยผู้อมตะระดับแปด”
“เราต้องอดทนและไปช่วยท่านราชันมังกร มิฉะนั้นมันจะยิ่งเลวร้าย”
“แต่ท่านราชันมังกรสั่งให้พวกเราอยู่ในหอคอยดวงตาสวรรค์ เราไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ”
“ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว”
“มีผู้อมตะระดับแปดอยู่ในกลุ่มพวกเรา ตอนนี้ท่านราชันมังกรตกอยู่ในอันตราย ท่านสูญเสียการควบคุม หากเราไม่ช่วย ท่านจะตกอยู่ในอันตราย”
หลังจากพูดคุยกันสั้นๆ หอคอยดวงตาสวรรค์ก็ผลักดันจ้าวเย่ฮุ้ยให้ล่าถอยออกไปเป็นการชั่วคราว
สองผู้อมตะภาคกลางฉวยโอกาสบินออกมาจากหอคอยดวงตาสวรรค์และมุ่งหน้าไปทางราชันมังกร
“ฮ่าฮ่าฮ่า หนูสองตัวออกมาแล้ว!” จ้าวเย่ฮุ้ยหัวเราะขณะที่ดวงตาของมันส่องประกายขึ้น
มันเปิดปากกว้าง
ร่างของสองผู้อมตะภาคกลางสั่นสะท้านขึ้นขณะที่พวกเขาไม่สามารถควบคุมร่างกายของตนเอง
จ้าวเย่ฮุ้ยหุบปาก แม้มันจะอยู่ห่างจากสองผู้อมตะภาคกลาง แต่มันแสดงออกราวกับฟันของมันเชื่อมต่อกับร่างของผู้อมตะภาคกลางทั้งสอง
เลือดไหลออกมาจากปากของมัน
ในเวลาเดียวกันบาดแผลที่น่าสะพรึงกลัวปรากฏขึ้นบนร่างของผู้อมตะภาคกลางทั้งสองพร้อมกับเลือดที่ไหลทะลักออกมา
“นี่เป็นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางอาหาร! มันยากที่จะป้องกัน!”
“จ้าวเย่ฮุ้ยมีสติปัญญาของมนุษย์ มันรู้วิธีกำหนดเป้าหมาย!”
“รีบพาพวกเขากลับมา!”
หอคอยดวงตาสวรรค์พยายามช่วยคนทั้งสอง นอกจากนี้สองผู้อมตะภาคกลางยังเป็นผู้อมตะระดับแปด พวกเขามีวิธีการของตนเอง ดังนั้นทั้งสองจึงรอดชีวิตมาได้อย่างฉิวเฉียด
หลังจากประสบความสำเร็จในการหลบหนี ผู้อมตะภาคกลางจึงตระหนักถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัวของจ้าวเย่ฮุ้ย
“สมกับเป็นสัตว์อสูรแรกกำเนิดในตำนาน ช่างอำมะหิตนัก เราไม่สามารถประมาท!”
“แต่ด้วยวิธีนี้เราจะช่วยท่านราชันมังกรได้อย่างไร?”
“นำหอคอยดวงตาสวรรค์เข้าไป”
“มันอันตรายเกินไป หากเราถูกส่งเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝัน เราจะสูญเสียการควบคุมหอคอยดวงตาสวรรค์ หากเป็นเช่นนั้นผู้ใดจะสามารถแบกรับความรับผิดชอบ?”
ขณะที่กลุ่มผู้อมตะภาคกลางกำลังพูดคุย ราชันมังกรตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายที่สุดเท่าที่เขาเคยเผชิญหน้ามาตลอดชีวิต
วิธีการของราชันภูเขาม่วงมีประสิทธิภาพ
“ถึงเวลาตาย!” ราชันภูเขาม่วงบินเข้าไปหาราชันมังกรและพ่นควันสีม่วงออกมา
ควันสีม่วงทำลายการป้องกันทั้งหมดของเขา
“ตาย!” ดวงตาของราชันภูเขาม่วงส่องประกายขึ้นขณะที่เขากระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะ
แต่ในจังหวะนี้ราชันมังกรกลับเปิดเปลือกตาขึ้น
“บึม!”
เสียงระเบิดดังขึ้น
ราชันภูเขาม่วงบินออกจากกลุ่มฝุ่นควันขณะที่ราชันมังกรยืนอยู่ในตำแหน่งเดิม
เขาตื่นแล้ว
“เหตุใดเขาถึงหลบหนีออกมาได้รวดเร็วนัก?” อิงอู๋เซี่ยตะลึง เขากระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝันอีกครั้ง
ราชันภูเขาม่วงต้องการหยุดอิงอู๋เซี่ย แต่มันสายเกินไปแล้ว
ราชันมังกรหายตัวไปและทำให้อิงอู๋เซี่ยได้รับผลกระทบย้อนกลับจากท่าไม้ตายนี้
ตัวเขาเองถูกนำเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝัน
“ท่าไม้ตายนี้เรียกว่านำวิญญาณสู่ความฝันงั้นหรือ? เป็นท่าไม้ตายที่ดี หากข้ามีเวลามากกว่านี้ ข้าจะสามารถถอดรหัสมัน” ราชันมังกรกล่าว
หลังจากนั้นเขาก็หันหน้าไปทางราชันภูเขาม่วง “สำหรับเจ้า หากเจ้ามีวิธีการเพียงเท่านี้ เจ้าจะไม่สามารถต่อต้านการโจมตีต่อไปของข้า”
“เพราะสิ่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยเทพอมตะแรกกำเนิด!”
ราชันมังกรบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งพลังปราณเป็นเส้นทางหลักและเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงเป็นเส้นทางรอง ในที่สุดเขาก็กำลังจะใช้ทักษะที่แท้จริงของตนออกมา