Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 1394 เมืองศพ
คำกล่าวของฟางหยวนทำให้เด็กชายขนนกรู้สึกสยดสยอง เขารีบร้องขอความช่วยเหลือทันที
ร่างหนึ่งปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว “น้องชาย ไม่ต้องกลัว พี่ใหญ่อยู่นี่แล้ว”
นางเป็นผู้อมตะหญิงที่ดูงดงามและอ่อนเยาว์ในชุดสีเขียวลายดอกไม้ นางสวมตุ้มหูไข่มุกที่ดูเหมือนมีระลอกคลื่นสีเขียวอยู่ภายใน
“ข้าคือซุ้ยป๋อ เจ้าคือผู้ใด? เหตุใดต้องกลั่งแกล้งน้องชายของข้า?”
ฟางหยวนประเมินผู้อมตะหญิงซุ้ยป๋อผู้นี้
นางปลดปล่อยกลิ่นอายของผู้อมตะระดับเจ็ดออกมา นางคิดว่าตนเองมีสถานะเท่าเทียมกับฟางหยวนที่เป็นผู้อมตะระดับเจ็ดเช่นกัน
ฟางหยวนลูกหน้าท้องของตนและถอนหายใจ “ข้ากล่าวความจริง ฮ่าฮ่า ในเมื่อเจ้ามาหาข้า ข้าก็จะกินพวกเจ้าทั้งสอง”
ข้อบกพร่องของร่างทารกอมตะก็คือมันกินมิติช่องว่างเป็นอาหาร
ฟางหยวนเรียนรู้เรื่องนี้มาจากราชันภูเขาม่วง
ตามแผนเดิมของนิกายเงา พวกเขาจะหลอมรวมวิญญาณทารกอมตะระดับสิบ
นี่คือความทะเยอทะยานของเทพปีศาจจิตวิญญาณ
โชคไม่ดีที่เขาสามารถหลอมรวมวิญญาณทารกอมตะระดับเก้าเท่านั้นและยังถูกฉกชิงไปโดยฟางหยวน
ตามแนวคิดของเทพปีศาจจิตวิญญาณ วิญญาณทารกอมตะระดับสิบไม่มีจุดอ่อน แต่วิญญาณทารกอมตะระดับเก้ายังมีบกพร่องอยู่ประการหนึ่ง
นั่นคือมันต้องการอาหาร
อาหารของวิญญาณทารกอมตะระดับเก้าคือมิติช่องว่างของผู้อมตะ
เส้นทางการบ่มเพาะของผู้อมตะไม่สำคัญแต่ระดับการบ่มเพาะมีความสำคัญ
ตัวอย่างเช่นในฐานะผู้อมตะระดับเจ็ด ฟางหยวนต้องกินมิติช่องว่างของผู้อมตะระดับเจ็ดเพื่อหล่อเลี้ยงวิญญาณทารกอมตะ เมื่อเขากลายเป็นผู้อมตะระดับแปด เขาต้องกินมิติช่องว่างของผู้อมตะระดับแปด
โชคดีที่ก่อนหน้านี้ฟางหยวนเปลี่ยนวิธีการบ่มเพาะ เขาหลีกเลี่ยงภัยพิบัติด้วยการกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์ของผู้อื่น
ด้วยวิธีนี้วิญญาณทารกอมตะจึงได้รับอาหารโดยบังเอิญ
ฟางหยวนไม่ได้โกหกเด็กชายขนนก ระหว่างทางฟางหยวนได้พบกับผู้อมตะระดับหกของทะเลทรายตะวันตกสามคน เขาฆ่าและกลืนกินมิติช่องว่างของผู้อมตะสองคน แต่เขาไม่สามารถกลืนกินมิติช่องว่างของคนสุดท้ายเพราะความสำเร็จที่ไม่เพียงพอและปล่อยให้มันกลายเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์
เทพธิดาซุ้ยป๋อและเด็กชายขนนกเป็นคู่หูที่แข็งแกร่ง
พวกเขาวางแผนและล่อลวงยุงอสูรให้เข้าสู่ค่ายกลวิญญาณขณะที่เทพธิดาซุ้ยป๋อซุ่มโจมตีอยู่ไม่ไกล
หากพวกเขาพบผู้อมตะระดับเจ็ดทั่วไป เทพธิดาซุ้ยป๋อสามารถพูดคุยกับพวกเขาได้อย่างเท่าเทียม แต่น่าเสียดายที่พวกเขาพบกับฟางหยวน
‘ช่างบังเอิญนักที่มีผู้อมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งวารีปรากฏขึ้น หลังจากกินนาง ข้าไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องอาหารของวิญญาณทารกอมตะไปอีกระยะหนึ่ง’
เจตนาสังหารของฟางหยวนปะทุขึ้น มันยากที่จะหามิติช่องว่างที่เขาสามารถกลืนกินได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทะเลทรายตะวันตก ผู้อมตะส่วนใหญ่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งไฟและวายุขณะที่เส้นทางแห่งวารีหายากมาก นี่เป็นสิ่งที่แตกต่างจากทะเลตะวันออกอย่างชัดเจน
ฟางหยวนเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งวารีแต่ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งไฟและวายุของเขาอยู่ในระดับสามัญ
ฟางหยวนโจมตีอย่างรวดเร็วด้วยท่าไม้ตายอมตะกำปั้นยักษ์หมื่นตัวตน
กำปั้นยักษ์พุ่งเข้าโจมตีเทพธิดาซุ้ยป๋อและเด็กชายขนนกด้วยพลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัว
เด็กชายขนนกตะโกนด้วยความตกใจ
เทพธิดาซุ้ยป๋อประหลาดใจแต่นางยังสะบัดมือส่งอสรพิษกรดพุ่งเข้าปะทะกำปั้นยักษ์และกัดกร่อนมันไปยี่สิบส่วน
อย่างไรก็ตามกำปั้นยักษ์ที่เหลือพลังอยู่แปดสิบส่วนภายใต้การควบคุมของฟางหยวนเพิกเฉยต่อเด็กชายขนนกและพุ่งตรงไปยัง้ทพธิดาซุ้ยป๋อ
เทพธิดาซุ้ยป๋อถอยกลับและกรีดร้อง “เดี๋ยว! ข้าเป็นนางสนมลำดับที่สามของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง เหตุใดเจ้าไม่ไว้หน้าบรรพชน เป็นพันธมิตรกับเราและแบ่งปันสมบัติของกองกำลังพันธมิตรผีดิบ!?”
แม้เทพธิดาซุ้ยป๋อจะเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด แต่ความแข็งแกร่งของนางไม่โดดเด่น พลังการต่อสู้ของนางธรรมดามาก
อย่างไรก็ตามสถานะของนางค่อนข้างพิเศษ
นางเกี่ยวข้องกับบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง
ฟางหยวนรู้จักคนผู้นี้ เขาได้รับมรดกที่แท้จริงส่วนหนึ่งของเทพปีศาจคลั่ง เขาสามารถเปลี่ยนร่างเป็นสิ่งต่างๆพันชนิด ด้วยเหตุนี้เขาจึงถูกเรียกว่าบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง
แม้เขาจะเป็นผู้สืบทอดของเทพปีศาจแต่เขาไม่ใช่ปีศาจอมตะ เขาเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษที่มีชื่อเสียงของทะเลทรายตะวันตก
ความสนใจส่วนตัวของเขาคล้ายกับเทพอมตะตะวันเดือด เขาชื่นชอบหญิงงาม เขามีภรรยาและนางสนมหลายร้อยหรือหลายพันคน ท่ามกลางหญิงเหล่านี้มีผู้อมตะเกือบสิบคน
เทพธิดาซุ้ยป๋อเป็นหนึ่งในนั้น
‘หากข้าคว้าทรัพยากรของกองกำลังพันธมิตรผีดิบของทะเลทรายตะวันตก ข้าจะกลายเป็นศัตรูของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงงั้นหรือ?’ ฟางหยวนขมวดคิ้ว
เทพธิดาซุ้ยป๋อสังเกตการแสดงออกของฟาหงยวนก่อนกล่าวต่อ “ข้ามาที่นี่เพราะคำสั่งของท่านบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง ท่านแข็งแกร่งมากแต่เป็นไปไม่ได้ที่จะผ่านค่ายกลวิญญาณที่ป้องกันสถานที่แห่งนี้โดยใช้กำลัง มิฉะนั้นสมบัติจะไม่ปรากฏ เหตุใดเราต้องต่อสู้จนถึงตาย? หากเราเสียเวลา อาจเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น”
เทพธิดาซุ้ยป๋อมีความสามารถในการเจรจา ฟางหยวนพยักหน้า “มีเหตุผล”
เทพธิดาซุ้ยป๋อและเด็กชายขนนกรู้สึกยินดีเมื่อได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ แต่หลังจากนั้นฟางหยวนกลับเปิดมิติช่องว่างของตนและนำไป่หนิงปิง ไห่ลั่วหลัน และเทพธิดาเมี่ยวหยินออกมา
“ฆ่าพวกเขา ข้าจะไปรับมรดก” ฟางหยวนกล่าว
ไป่หนิงปิงก่นเสียงเย็น แม้นางจะไม่พอใจกับคำสั่งของฟางหยวน แต่นางยังพุ่งเข้าโจมตีเทพธิดาซุ้ยป๋อทันที
ไห่ลั่วหลันต่อสู้กับเด็กชายขนนก
เทพธิดาเมี่ยวหยินเผยรอยยิ้มบางและมองดูอยู่ข้างสนามรบ
เทพธิดาซุ้ยป๋อและเด็กชายขนนกเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
พวกเขาไม่คาดหวังว่ามิติช่องว่างของฟางหยวนจะมีผู้อมตะสามคนอาศัยอยู่ นอกจากนั้นทั้งสามยังมาจากภูมิภาคอื่น
นี่เป็นเรื่องที่หาได้ยาก
โดยทั่วไปผู้อมตะจะไม่อนุญาตให้ผู้อมตะคนอื่นๆเข้าไปในมิติช่องว่างของตนเอง
ในไม่ช้าเทพธิดาซุ้ยป๋อและเด็กชายขนนกก็ถูกกำหราบ ทั้งสองไม่สามารถตอบโต้ไห่ลั่วหลันและไป่หนิงปิง
‘สองคนนี้เหมือนเป็นผู้อมตะสิบคน วิธีการของพวกเขาน่าประทับใจมาก ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน’
‘ข้าจำได้แล้ว พวกเขาคือผู้หลบหนี! ปีศาจร้าย! หนึ่งในนั้นเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการล่มสลายของวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริง!’
เทพธิดาซุ้ยป๋อและเด็กชายขนนกตระหนักถึงข้อมูลบางอย่าง นั่นทำให้พวกเขายิ่งตกใจและต้องการหลบหนี
ไห่ลั่วหลันและไป่หนิงปิงไล่ตามพวกเขาออกจากถ้ำ
ฟางหยวนยืนอยูู๋่ด้านหน้าพายุทรายและใช้วิธีการของเขามาระยะหนึ่งแล้ว
เพียงไม่นานพายุทรายก็อ่อนกำลังลงและเปิดเส้นทางให้เขา
ฟางหยวนเข้าไปโดยไม่ลังเล
เทพธิดาเมี่ยวหยินยังยืนเฝ้าระวังอยู่ด้านนอก
พายุทรายรุนแรงขึ้นอีกครังหลังจากฟางหยวนเข้าไป เส้นทางถูกปิดลงและกลับสู่สภาพเดิม
ในไม่ช้าเมืองแห่งหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในมุมมองสายตาของฟางหยวน
เมืองศพ
มันเป็นเมืองที่สร้างขึ้นจากดินเหนียวสีเหลืองและดูไม่มีสิ่งใดน่าประทับใจ
แต่ความจริงก็คือเมืองแห่งนี้เป็นคฤหาสน์วิญญาณระดับมนุษย์ มันเหมือนเมืองคลื่นทมิฬของภาคเหนือ
รากฐานที่แท้จริงของกองกำลังพันธมิตรผีดิบแห่งทะเลทรายตะวันตกคือแดนศักดิ์สิทธิ์บนเส้นทางแห่งปฐพี
เมืองศพอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าว
ย้อนกลับไปเมื่อนิกายเงาหลอมรวมวิญญาณทารกอมตะ พวกเขาสูญเสียเกือบทุกสิ่ง
แดนศักดิ์สิทธิ์บนเส้นทางแห่งปฐพีแห่งนี้ถูกทิ้งร้าง ทรัพยากรภายที่ซ่อนไว้ในคฤหาสน์วิญญาณระดับมนุษย์เมืองศพถูกย้ายมาอยู่ใต้ทะเลทรายแปรผันและได้รับการปกป้องโดยค่ายกลวิญญาณ
ด้วยวิธีนี้ กองกำลังพันธมิตรผีดิบของทะเลทรายตะวันตกจึงสามารถรักษารากฐานของพวกเขาเอาไว้ ไม่นานหลังจากการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ถูกบุกรุกโดยผู้อมตะของทะเลทรายตะวันตก
แต่เมื่อผู้อมตะของทะเลทรายตะวันตกบุกเข้ามา พวกเขากลับตกใจและเริ่มโกรธ
เพระาพวกเขาไม่ได้รับของขวัญดังที่ตั้งใจ
หลังจากตรวจสอบร่วมกับความช่วยเหลืออย่างลับๆจากเจตจำนงสวรรค ในที่สุดพวกเขาจึงสามารถยืนยันว่ามรดกของกองกำลังพันธมิตรผีดิบของทะเลทรายตะวันตกอยู่ที่นี่
แต่การหาถ้ำแห่งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากที่นี่จะมีถ้ำอยู่มากมาย พวกมันยังเคลื่อนไหวตลอดเวลา
ทุกครั้งที่ถ้ำเก่าหายไป ถ้ำใหม่จะปรากฏขึ้น
สิ่งนี้ทำให้การค้นหาของผู้อมตะทะเลทรายตะวันตกกลายเป็นเรื่องที่ยากลำบาก
แต่ฟางหยวนแตกต่างออกไป เขาเป็นผู้นำนิกายเงา เขามาที่นี่และสามารถเข้าสู่เมืองศพได้อย่างง่ายดาย
‘อย่างไรก็ตามการได้พบกับเทพธิดาซุ้ยป๋อน่าจะเป็นแผนการของเจตจำนงสวรรค์ มันต้องการให้ข้าเป็นศัตรูกับผู้อมตะระดับแปดที่ยิ่งใหญ่ของทะเลทรายตะวันตก’
‘ขณะเดียวกันข้า ไป่หนิงปิง และคนอื่นๆยังถูกติดตามตัวตลอดเวลา’
‘ข้าต้องรับมรดกเหล่านี้อย่างรวดเร็วที่สุด’
ฟางหยวนเปิดประตูทางเข้ามิติช่องว่าง ด้วยการโบกมือเพียงครั้งเดียว เมืองศพถูกนำเข้าสู่มิติช่องว่างจักรพรรดิทันที
เมืองศพไม่ได้เก็บวิญญาณอมตะเอาไว้ แต่ค่ายกลวิญญาณของที่นี่มีวิญญาณอมตะเป็นแกนกลาง
ท่ามกลางวิญญาณอมตะสองดวง หนึ่งในนั้นคือเป้าหมายหลักของฟางหยวนในการเดินทางครั้งนี้