Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 1432 การไล่ล่าของหงซื่อ
“บึม!”
น้ำพุกะทันหันพุ่งขึ้นจากผิวน้ำ
เปรียบเทียบกับน้ำพุกะทันหัน ร่างของหงซื่อไม่ต่างจากยุงตัวน้อย
เมื่อเข้าใกล้น้ำพุกะทันหัน หงซื่อรู้สึกว่ามันเร็วขึ้น
ในความเป็นจริงน้ำพุกะทันหันจะทำให้ทุกสิ่งที่อยู่รอบๆช้าลง ในกรณีนี้เหยื่อจะพบว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะหลบหนี
“ฮืม!” หงซื่อไม่สะทกสะท้าน ในช่วงเวลาสำคัญ แสงสว่างส่องประกายออกมาจากศีรษะของเขา
ผลกระทบของน้ำพุกะทันหันถูกทำลาย เขาสามารถล่าถอยออกไปได้อย่างปลอดภัย
แต่น้ำพุกะทันหันยังสร้างคลื่นขนาดใหญ่ขึ้น
หงซื่อปาดเหงื่อบนหน้าผาก
‘น้ำพุกะทันหันลูกนี้มีพลังเทียบเท่ากับท่าไม้ตายอมตะระดับแปด กระทั่งข้าก็ยังต้องระวังตัว หากถูกโจมตี ข้าจะได้รับบาดเจ็บสาหัส’
‘หากข้าพบน้ำพุกะทันหันระดับเก้า ข้าอาจถึงตาย’
หงซื่อรู้สึกถึงแรงกดดัน
แม้เขาจะเป็นผู้อมตะระดับแปดและมีความได้เปรียบในการต่อสู้ที่สายธารแห่งกาลเวลา แต่เขารู้ว่าฟางหยวนมีโชค
การอยู่ในสายธารแห่งกาลเวลา นอกจากความแข็งแกร่งยังต้องอาศัยโชคของตนเอง
‘ตอนนี้ข้ากำลังไล่ตามฟางหยวน ด้วยพลังอำนาจของโชค การเดินทางของข้าจะไม่ราบรื่น มันจะเต็มไปด้วยปัญหา’
‘ฟางหยวนเลือกเส้นทางนี้เพื่อสร้างปัญหาให้ข้า นี่เป็นแผนการที่ดี’
‘อย่างไรก็ตาม…’ หงซื่อรู้สึกสงสัย ‘ไม่ว่าฟางหยวนจะโชคดีเพียงใด เขาก็ไม่สามารถหลบเลี่ยงน้ำพุกะทันหันทั้งหมดใช่หรือไม่? แม้จะไม่มีน้ำพุกะทันหันระดับเก้า เพียงน้ำพุกะทันหันระดับเจ็ดหรือแปด มันก็ยากที่จะผ่าน เขาจะใช้เกราะหวนคืนตลอดเวลาได้อย่างไร?’
หากเขาใช้เกราะหวนคืน นั่นจะเป็นข่าวดีสำหรับหงซื่อ
การใช้เกราะหวนคืนหมายถึงการใช้พลังงานอมตะ สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อหงซื่อในการต่อสู้ที่จะเกิดขึ้นในภายหลัง
หงซื่อไม่เคยคาดคิดว่าฟางหยวนจะสามารถสะกดข่มอสูรปีแรกกำเนิดเพื่อทำหน้าที่เป็นโล่ให้เขา
แม้ฟางหยวนจะสามารถควบคุมอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด แต่วังสวรรค์ก็คิดว่ามันเป็นเพราะมรดกที่แท้จริงของไห่ฟาน
แต่ความจริงก็คือมันเป็นเพราะท่าไม้ตายอมตะทาสแปดสิบต่อร้อยและวิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหลังของชีวิต ไห่ฟานไม่เคยเปิดเผยจุดอ่อนของตนออกมา ความลับของเขาไม่เป็นที่รับรู้ของวังสวรรค์ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่คาดคิดว่าฟางหยวนจะมีวิธีล่อลวงอสูรปีแรกกำเนิด
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ วังสวรรค์จึงไม่รู้ว่าฟางหยวนมีอสูรปีแรกกำเนิดอยู่ในการครอบครอง
หลังจากไม่กี่นาทีหงซื่อก็บินผ่านบริเวณน้ำพุกะทันหัน
เทพธิดาจื่อเว่ยส่งข้อมูลมาให้เขาอีกครั้ง
หงซื่อเปลี่ยนทิศทางและบินไล่ล่าฟางหยวนไปด้วยความเร็วสูง
ครู่ต่อมาเขาก็หยุดเคลื่อนที่และมองไปข้างหน้าด้วยความไม่แน่ใจ
“แมงมุมทมิฬ!” หงซื่อพึมพำด้วยการแสดงออกที่เคร่งขรึม
ด้านหน้ามีแมงมุมตัวใหญ่ที่เคลื่อนไหวอยู่บนใยแมงมุมขนาดมหึมา
ตอนนี้หงซื่อไม่ต่างจากมดที่อยู่ต่อหน้าช้าง
สิ่งที่ใหญ่โตกว่าแมงมุมทมิฬคือใยของมัน
ใยของมันดูเหมือนคริสตัลเส้นบางๆที่ถักทอเป็นกรงขนาดใหญ่
ใยแมงมุมจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งลงไปในแม่น้ำและหยั่งรากลึกอยู่ที่นั่น
หัวใจของหงซื่อจมดิ่งลง
เขาไม่อยากจะเชื่อว่าฟางหยวนและคนอื่นๆจะสามารถผ่านสถานที่แห่งนี้เพื่อไปรับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง
เขายืนยันทิศทางอีกครั้งและไม่พบสิ่งผิดปกติ
สิ่งนี้ทำให้หงซื่อมั่นใจมากขึ้นว่านี่คือกับดักของฟางหยวน
“ฮืม! ฟางหยวนใช้สถานที่อันตรายเพื่อบังคับให้ข้าจากไปงั้นหรือ?” หงซื่อก่นเสียงเย็นก่อนจะบินเข้าไปหาแมงมุนทมิฬ
แมงมุมทมิฬเป็นสัตว์อสูรแรกกำเนิด พวกมันมีอาณาเขตของตนเองในสายธารแห่งกาลเวลา ในอาณาเขตของพวกมัน กระทั่งสัตว์อสูรแรกกำเนิดก็ไม่กล้าอาละวาด
มันเป็นนักล่าที่อยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร
แมงมุมทมิฬมีความแข็งแกร่งที่เหนือจินตนาการ นอกจากร่างกายที่ใหญ่โตยังมีปากที่แหลมคมและรังคริสตัล
ใยคริสตัลแต่ละเส้นไม่ธรรมดา ผู้อมตะในอดีตตั้งชื่อมันว่าใยแห่งความสงบ
รูปแบบชีวิตที่ต่ำกว่าระดับเจ็ดจะหยุดเคลื่อนไหวทันทีที่สัมผัสมัน
สำหรับตัวตนเช่นหงซื่อ ใยแห่งความสงบเพียงเส้นเดียวไม่สามารถส่งผลกระทบต่อเขา แต่หากเป็นใยแห่งความสงบร้อยเส้นรวมกัน กระทั่งเขาก็ยังตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย
และในรังคริสตัลทั้งหมด แน่นอนว่ามีใยแห่งความสงบจำนวนนับไม่ถ้วน
หงซื่อเคลื่อนที่ได้ช้ามาก
เขาต้องค่อยๆเคลื่อนที่ผ่านใยแห่งความสงบไปทีละเส้น
หากเขาพยายามหลีกเลี่ยงสถานที่แห่งนี้ เขาต้องอ้อมไปในระยะไกลเพื่อไล่ล่าฟางหยวน
นอกจากนั้นหากมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงอยู่ในรังคริสตัลนี้ มันย่อมไม่ใช่ความคิดที่ดีที่จะจากไป
ดังนั้นหงซื่อจึงต้องก้าวเข้าสู่สถานที่อันตรายเพื่อไล่ตามฟางหยวน
‘ตราบเท่าที่ข้าระวังตัวและหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับใยแห่งความสงบ ข้าจะสามารถผ่านที่นี่ไปได้โดยสวัสดิภาพ’ หงซื่อคิด
แต่ในเวลานี้เสียงระเบิดกลับดังขึ้น
ใยคริสตัลเกิดการสั่นสะเทือน
แมงมุมทมิฬมองไปที่หงซื่อ
“บัดซบ!”
“มันต้องเป็นกับดักของฟางหยวน!”
หงซื่อโกรธมากและรู้สึกตกใจเล็กน้อย หากเขาเป็นฟางหยวน เขาจะวางกับดักศัตรูเช่นเดียวกันนี้
‘ตั้งแต่ข้ามาที่นี่ ข้าก็มั่นใจว่าสามารถผ่านอุปสรรคทั้งหมด!’
หงซื่อก่นเสียงเย็นและกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะของเขา
ใยคริสตัลเหล่านี้ไม่ง่ายที่จะทำลาย ไม่ว่าจะเป็นท่าไม้ตายอมตะชนิดใด พวกมันจะหยุดนิ่งตราบเท่าที่พวกมันเข้าใกล้ใยแห่งความสงบ
แน่นอนว่าใยแห่งความสงบมีขีดจำกัดในการป้องกันโดยเฉพาะท่าไม้ตายอมตะระดับแปด
หงซื่อลงมือโดยใช้ท่าไม้ตายอมตะระดับแปดของเขา
เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งกาลเวลา เขามีวิธีที่มีประสิทธิภาพในการต่อต้านใยแห่งความสงบ
นอกจากนี้แมงมุมทมิฬยังเคลื่อนที่ได้ช้า มันไม่สามารถไล่ล่าหงซื่อ
หงซื่อไม่ต้องการต่อสู้กับแมงมุมทมิฬ เขามีหน้าที่สำคัญที่ต้องทำ
แต่เส้นทางการล่าถอยของเขาไม่ราบรื่น เขาพบการโจมตีมากมายไม่ว่าจะเป็นคลื่นเสียง น้ำค้างแข็ง หรือเปลวไฟ
ความเร็วของหงซื่อลดลงอย่างมาก ในที่สุดแมงมุมทมิฬก็ตามทันและเกิดการต่อสู้ที่ดุเดือดขึ้น
“บึม บึม บึม…”
หลังการต่อสู้ที่รุนแรง หงซื่อสามารถออกจากอาณาเขตของมันได้ในที่สุด
แต่ตอนนี้เขาอยู่ในสภาพที่น่าสงสารมาก นอกจากร่างกายของเขาจะปกคลุมไปด้วยฝุ่น เขายังได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
“สารเลวฟางหยวน! เขาวางกับดักไว้กี่ชั้น สิ่งสำคัญคือกับดักเหล่านี้ถูกใช้งานในเวลาที่เหมาะสม มันเป็นแผนการที่ลึกซึ้ง!”
หงซื่อพบความสูญเสียและเต็มไปด้วยความโกรธ
เขารักษาอาการบาดเจ็บของตนเองขณะบินต่อไปข้างหน้า
ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็เข้าไปในยังพื้นที่ที่แปลกประหลาด
“เกิดสิ่งใดขึ้น? ข้าสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายบนเส้นทางแห่งดาบ” หงซื่อรู้สึกประหลาดใจและสงสัย
เขาชะลอความเร็วและสังเกตบริเวณที่มีกลิ่นอายของปราณดาบแทรกซึมอยู่
“อย่าบอกข้าว่า…”
หงซื่อขมวดคิ้ว
“ข้าเดินทางทวนกระแสน้ำไปสู่อดีต ในแง่ของระยะทาง ข้าอาจย้อนกลับไปถึงหนึ่งแสนปีแล้ว”
“ในยุคนี้ วิถีดาบ วิถีดาบ…”
“ข้ารู้แล้ว! ซื่อหยวนแห่งทะเลทรายตะวันตก คนผู้นี้บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งดาบ เขาสามารถสังหารผู้อมตะระดับแปดถึงสามคน ยังมีปีศาจอมตะบนเส้นทางแห่งดาบอีกคน เขาคือเต๋าจิ่วหลาง เขาเคยอาละวาดอยู่ในทะเลทรายตะวันตก สองคนนี้เคยต่อสู้กันมาก่อนและนำไปสู่การทำลายล้างครั้งใหญ่”
หงซื่อใช้วิธีการตรวจสอบของเขาและพบว่าแม่น้ำบริเวณนี้ได้รับผลกระทบจากการต่อสู้ระหว่างผู้อมตะระดับแปดทั้งสองทำให้พื้นที่บริเวณนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายของปราณดาบ
การเดินทางผ่านสถานที่แห่งนี้อันตรายกว่าส่วนของน้ำพุกะทันหันเพราะมีความเป็นไปได้ที่ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งดาบของเต๋าจิ่วหลางหรือซื่อหยวนจะปรากฏขึ้นและโจมตีเขา
“ฟางหยวนและคนอื่นๆมาที่นี่จริงๆงั้นหรือ? พวกเขากำลังรนหาที่ตาย!” หงซื่อกัดฟันและเดินทางต่อไป
หากฟางหยวนและคนอื่นๆสามารถมาที่นี่ ในฐานะผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งกาลเวลา เขาจถอยกลับได้อย่างไร
ด้วยการนำทางของเทพธิดาจื่อเว่ย หงซื่อเข้าใกล้เป้าหมายของเขามากขึ้นเรื่อยๆ
“กรอ…”
อสูรปีวอกแรกกำเนิดกำลังต่อสู้อยู่ในคลื่นน้ำ ร่างกายของมันเต็มไปด้วยบาดแผลเลือดไหล
อสูรปีวอกบรรพกาล ไป่หนิงปิง เทพธิดาเมี่ยวหยิน และคนอื่นๆกำลังปกป้องตัวเอง
“ในที่สุดข้าก็พบพวกเขา!” ดวงตาของหงซื่อส่องประกายขึ้น เขาทะยานร่างไปข้างหน้าโดยไม่ต้องคิด