Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 1459 แต่งงานกับฟางหยวน
ภาคเหนือ แดนน้ำแข็ง
ใต้ธารน้ำแข็ง การเจรจาเต็มไปด้วยบรรยากาศอันหนักหน่วง
มนุษย์กลายพันธุ์สองเผ่าพันธุ์ที่อาศัยอยู่ที่นี่อย่างสันโดษกำลังเจรจราเกี่ยวกับข้อพิพาทเรื่องอาณาเขต
ตอนนี้การเจรจาของเผ่ามนุษย์หินและเผ่ามนุษย์หิมะดำเนินมาเป็นเวลาถึงหกวันหกคืนแล้ว
“พื้นที่นี้เป็นของเผ่ามนุษย์หินของข้า มันเป็นส่วนหนึ่งในดินแดนของเรามาตั้งแต่สี่ร้อยปีก่อน ข้าหวังว่าเผ่ามนุษย์หิมะจะเข้าใจเรื่องนี้” ซื่อจงกล่าวเสียงดัง
ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หินเต็มไปด้วยความดื้อรั้นขณะที่การแสดงออกของผู้อมตะเผ่ามนุษย์หิมะดูมืดครึ้ม
เผ่ามนุษย์หินยืนกรานอย่างหนักแน่นในหัวข้อนี้ มันสร้างแรงกดดันมหาศาลต่อเผ่ามนุษย์หิมะ
ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หิมะปิงหยวนกล่าว “นั่นเป็นกรณีเมื่อสี่ร้อยปีก่อน แต่หลังจากนั้นผู้อาวุโสเผ่ามนุษย์หิมะของเราชนะเดิมพันกับเจ้าโดยใช้พื้นที่ส่วนนี้เป็นสิ่งเดิมพัน”
ซื่อจงโบกมือ “นั่นเป็นเพียงเรื่องตลก มันไม่ควรถูกกล่าวถึง”
ปิงหยวนเผยรอยยิ้มเย็นชา “ข้อตกลงระบุเอาไว้อย่างชัดเจน”
ซื่อจงโต้กลับ “แล้วมันอยู่ที่ใด?”
ปิงหยวนโกรธจนไม่สามารถกล่าวสิ่งใดออกมา
ซื่อจงไม่เพียงทำลายวิธีการบนเส้นทางแห่งข้อมูลเกี่ยวกับข้อตกลงดังกล่าวแต่เขายังปฏิเสธการเดิมพันที่เกิดขึ้นอีกด้วย ในฐานะผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่ามนุษย์หิน นี่เป็นเรื่องไร้ยางอายเกินไป
แต่ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หิมะเข้าใจ
เนื่องจากพื้นที่มีจำกัด หลังจากอาศัยอยู่มาเป็นเวลานาน ประชากรเผ่ามนุษย์หินและเผ่ามนุษย์หิมะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ซื่อจงต้องทำเรื่องไร้ยางอายเพื่อผลประโยชน์ของเผ่ามนุษย์หิน
แต่ในกรณีนี้มันจะทำให้เผ่ามนุษย์หิมะสูญเสียผลประโยชน์
สุดท้ายเผ่ามนุษย์หิมะก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เผ่ามนุษย์หินสามารถยึดครองพื้นที่ดังกล่าว
เผ่ามนุษย์หินสั่งให้เผ่ามนุษย์หิมะออกจากพื้นทีทันที
หลังจากกลับมายังอาณาเขตของพวกเขา ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หิมะปิงเจาเต็มไปด้วยความโกรธ “เผ่ามนุษย์หินไร้ยางอายเกินไปแล้ว พวกเขาบิดเบือนข้อเท็จจริงเพียงเพราะการคงอยู่ของมังกรหินระดับแปด!”
ปิงหยวนปลอบโยน “สงบจิตใจลงก่อนปิงเจา เรารู้จักเผ่ามนุษย์หินมานับพันปีแล้ว”
เผ่ามนุษย์หินมีข้อได้เปรียบเหนือเผ่ามนุษย์หิมะมาตลอด
มันคือพลังการต่อสู้ระดับแปดมังกรหิน
ด้วยความแข็งแกร่งนี้เผ่ามนุษย์หินจึงสามารถปกป้องผลประโยชน์ของพวกเขา
เมื่อได้ยินชื่อมังกรหิน ความโกรธของปิงเจาก็จางหายไป เขาถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ “เห้อ…พลังการต่อสู้ระดับแปด มังกรหิน หากเรามีพลังการต่อสู้ระดับแปดเช่นกัน เราจะแข่งขันกับพวกเขาได้อย่างเท่าเทียม”
ปิงหยวนเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะกล่วว่า “เป็นไปได้ที่เราจะได้รับพลังการต่อสู้ระดับแปด ข้ามีแผน หากเราประสบความสำเร็จ มังกรหินจะไม่สามารถเปรียบเทียบ”
ดวงตาของปิงเจาส่องประกายขึ้น “แผนการใด บอกข้าเร็วเข้า”
“อันที่จริงข้าวางแผนเรื่องนี้มาระยะหนึ่งแล้ว ตอนนี้เป็นโอกาสดี ข้าจะบอกเจ้า” ปิงหยวนกล่าว
ปิงเจาได้ยินและอุทาน “ท่านหมายถึงหลิวกวนซื่อ ไม่ ฟางหยวน?”
ตัวตนที่แท้จริงของหลิวกวนซื่อซึ่งก็คือฟางหยวนได้ถูกเปิดเผยออกมาโดยวังสวรรค์นานแล้ว แม้เผ่ามนุษย์หิมะจะเก็บตัวอยู่อย่างสันโดษแต่พวกเขาก็ได้รับข่าวสำคัญนี้เช่นกัน
“ฟางหยวนมีพลังการต่อสู้ระดับแปดอย่างไม่ต้องสงสัย เขายังมีอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด พวกเรามีความสัมพันธ์กันมาระยะหนึ่งแล้ว หากเราให้เซี่ยเอ๋อแต่งงานกับเขา เขาจะถูกผูกไว้กับเผ่าของเรา ด้วยวิธีนี้ เผ่าของเราจะไม่ถูกรังแกอีกต่อไป นอกจากนั้นด้วยการปกป้องจากพลังการต่อสู้ระดับแปด เผ่าของเราจะพัฒนาขึ้นอีกมาก” ปิงหยวนกล่าว
ปิงเจาคิดก่อนพยักหน้า “ฟางหยวนเป็นมนุาย์แต่เขามีศัตรูนับไม่ถ้วน เขาเข้าร่วมกับนิกายหลางหยา ไม่มีปัญหากับความจงรักภักดีของเขา แต่เดี๋ยวก่อน…”
ปิงเจามองปิงหยวน “เรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขางั้นหรือ? ข้าจำได้เพียงว่าเราซุ่มโจมตีเขา แม้เราจะสามารถสร้างข้อตกลงพันธมิตรในภายหลัง แต่มันยังห่างไกลจากความสัมพันธ์ที่ดี”
ปิงหยวนยิ้ม “ปิงเจา เจ้าเก็บตัวฝึกตนมาตลอด ดังนั้นเจ้าจึงไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้ฟางหยวนหยิบยืมความแข็งแกร่งทั้งหมดของนิกายหลางหยาเพื่อหลอมรวมวิญญาณอมตะ เขาพบกับความยากลำบากในกระบวนการดังกล่าวและต้อการแก่นแท้บัวหิมะ ข้าตัดสินใจขายแก่นแท้บัวหิมะจำนวนมากของเราให้กับผมที่หกของนิกายหลางหยาเพื่อช่วยเขา”
“เป็นเช่นนี้” ปิงเจาเข้าใจในที่สุดแต่เขายังขมวดคิ้ว “เราสร้างความสัมพันธ์กับเขาผ่านการทำธุรกรรม เหตุใดเราไม่มอบให้เขาโดยตรง?”
ปิงหยวนเผยรอยยิ้มขมขื่น “เรื่องนี้มีความหมายที่ลึกซึ้ง ข้าไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำเช่นนั้น ประการแรก เวลานั้นข้ายังไม่ได้คิดเรื่องการแต่งงานอย่างจริงจัง ประการที่สอง หากเรามอบมันให้เขาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เขาอาจไม่ยอมรับ เพราะเขาไม่ใช่คนโง่ ประการที่สาม หากทุกคนรู้เรื่องนี้ เผ่ามนุษย์หินจะสงสัยในเจตนาของเรา”
ปิงเจาพยักหน้าและไม่กล่าวต่อ
เขาเข้าใจว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาพึ่งเริ่มต้น มันเป็นเรื่องยากมากที่จะทำให้เกิดการแต่งงาน
ก่อนหน้านี้เผ่ามนุษย์หิมะเคยแสดงความปรารถนาดีต่อฟางหยวน แต่เขากลับแสดงออกอย่างเย็นชา
ตอนนี้ฟางหยวนมีพลังการต่อสู้ระดับแปดรวมถึงอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด สถานะของเขาสูงขึ้นอีกมาก หากเผ่ามนุษย์หิมะต้องการเป็นพันธมิตรกับเขาผ่านการแต่งงาน พวกเขาไม่ใช่ฝ่ายที่จะให้ความช่วยเหลือแต่เป็นฝ่ายที่ต้องการยกระดับสถานะของตนเอง
แน่นอนว่าเผ่ามนุษย์หิมะไม่รู้ว่าฟางหยวนสูญเสียอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดไปแล้ว
แต่ปิงหยวนยังมั่นใจ “อย่ากังวล หลานสาวของข้ามีรูปลักษณ์ที่น่าทึ่งและเป็นผู้อมตะ นางเป็นหญิงที่สมบูรณ์แบบ เผ่ามนุษย์หินไม่สามารถเอาชนะเราในเรื่องนี้ เรามีข้อได้เปรียบ”
“แม้ความสัมพันธ์ผ่านการแต่งงานจะจบลงด้วยการพึ่งพาเขา แต่ฟางหยวนยังได้รับประโยชน์จากพวกเรา อย่างน้อยที่สุดเราก็มีแก่นแท้บัวหิมะ”
“หรือกระทั่งแผนการนี้จะล้มเหลว แต่มันก็ไม่มีปัญหา ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับฟางหยวนจะไม่เลวร้ายลง เราสามารถทดลอง”
คำว่าทดลองทำให้ปิงเจาสามารถตัดสินใจ
เขาพยักหน้า “เช่นนั้นมาลองดูกัน”
…..
ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ
“ครืน…”
คลื่นน้ำจากสายธารแห่งกาลเวลาสร้างความโกลาหลครั้งใหญ่
หลังจากตรวจสอบและไม่พบปัญหา ฟางหยวนดึงสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขากลับออกมา
ฟางหยวนกำลังใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของไห่ฟานเพื่อคืนความเร็วในการเคลื่อนที่ของเวลาให้กับมิติช่องว่างของเขา
เวลาในมิติช่องว่างจักรพรรดิเหนือกว่ามิติช่องว่างระดับสูงสุดไปไกลมาก
หนึ่งวันของโลกภายนอกเท่ากับหกสิบวันของมิติช่องว่างจักรพรรดิ เวลาในมิติช่องว่างของสิบสุดยอดกายามีอัตราเร็วหนึ่งต่อสี่สิบวันของโลกภายนอก สำหรับมิติช่องว่างระดับสูง มันมีอัตราเร็วหนึ่งต่อสามสิบวันของโลกภายนอก
ในแง่ของรากฐาน หนึ่งปีในมิติช่องว่างจักรพรรดิจะผลิตลูกพลัมแดงอมตะได้เก้าสิบหกผล นั่นหมายความว่าหนึ่งปีของโลกภาย มิติช่องว่างจักรพรรดิสามารถผลิตลูกพลัมแดงอมตะให้ฟางหยวนได้ห้าพันเจ็ดร้อยหกสิบผลหรือประมาณสิบหกผลต่อวัน
ลูกพลัมแดงอมตะสิบหกผล ในแง่ของหินวิญญาณอมตะ มันคือหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันหกร้อยก้อน
โดยไม่ต้องทำสิ่งใด มิติช่องว่างจักรพรรดิก็ผลิตหินวิญญาณอมตะจำนวนมากให้เขาทุกวัน
นี่เป็นสิ่งที่น่ากลัว
และในความเป็นจริงนั่นไม่ใช่ทั้งหมด เมื่อร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนเพิ่มขึ้น เวลาในมิติช่องว่างของเขาก็จะเดินเร็วขึ้น มันจะผลิตพลังงานอมตะให้เขามากขึ้น
หากฟางหยวนก้าวเข้าสู่ระดับแปด มันจะยิ่งน่ากลัวมากขึ้นไปอีก
ลิ้นจี่ขาวอมตะระดับแปดสิบหกผลสามารถเปลี่ยนเป็นหินวิญญาณอมตะได้หนึ่งแสนหกหมื่นก้อน!
ตอนนี้ฟางหยวนต้องทำการค้าขายเพื่อรวบรวมหินวิญญาณอมตะหนึ่งล้านก้อน แต่เมื่อเขาก้าวเข้าสู่ระดับแปด เขาจะได้รับหินวิญญาณอมตะสิบหกล้านก้อนทุกหนึ่งร้อยวันโดยไม่ต้องทำสิ่งใดเลย
ยิ่งการบ่มเพาะสูง พวกเขาก็ยิ่งได้รับผลประโยชน์
แน่นอนว่านี่เป็นกรณีของฟางหยวนที่ครอบครองร่างทารกอมตะ
ก่อนหน้านี้ฟางหยวนถูกบังคับให้ลดความเร็วของมิติช่องว่างจักรพรรดิเพราะภัยพิบัติ
แต่ตอนนี้ด้วยพลังการต่อสู้ที่เพิ่มขึ้น ฟางหยวนมั่นใจว่าเขาสามารถก้าวข้ามภัยพิบัติต่างๆ
ด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องการกู้คืนความเร็วในการไหลของเวลา
ในความเป็นจริงฟางหยวนยังวางแผนที่จะเพิ่มความเร็วขึ้นไปอีก
“แต่ข้ายังต้องรอต่อไป วิธีบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของไห่ฟานต้องใช้เวลาหยุดพักก่อนจะสามารถใช้งานมันอีกครั้ง”
“ด้วยความเร็วเดิมของข้า ราเรืองแสงจะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ระหว่างนี้ข้าควรนำวิญญาณดาบแห่งปัญญาและวิญญาณทัศนคติออกมาเก็บไว้ภายนอก”
ฟางหยวนต้องพิจารณาถึงระยะเวลาการให้อาหารวิญญาณอมตะระดับแปดทั้งสองดวง
ก่อนหน้านี้เขาเผชิญแรงกดันเกี่ยวกับปัญหานี้ แต่หลังจากนี้เขาจะสามารถแก้ไขมัน