Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 1468 ผลึกแก่นแท้น้ำแข็ง
ภาคใต้
สายฝนโปรยปรายลงมาอย่างเงียบๆท่ามกลางลมหนาวในยามพลบค่ำ
บนภูเขานิรนาม ต้นสนขนาดใหญ่จำนวนมากเติบโตขึ้นในพื้นที่เป็นเวลาหกปีแล้ว
‘อีกหนึ่งชั่วโมงข้าจะสามารถหลอมรวมวิญญาณอมตะเข็มสนระดับเจ็ด หกปีแห่งการทำงานหนัก…’ ผู้บ่มเพาะสันโดษระดับเจ็ดเจิ้งชิงคิด
เขาบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งไม้ เขากำลังหลอมรวมวิญญาณ
แม้จะใช้เวลานาน แต่เขาใช้วิธีการของเทพอมตะบัวสวรรค์ที่มีโอกาสประสบความสำเร็จสูงมาก
เดิมทีเจิ้งชิงเป็นเพียงผู้ใช้วิญญาณระดับมนุษย์ แต่เขาตกลงจากหน้าผาและร่วงหล่นลงบนดอกบัวขนาดใหญ่ นั่นทำให้เขาได้รับมรดกบนเส้นทางแห่งไม้ของเทพอมตะบัวสวรรค์โดยบังเอิญ
หลังจากทำงานอย่างหนัก เขากลายเป็นผู้อมตะ เขาบ่มเพาะไปทีละขั้นตอน ผ่านไปหลายร้อยปี เขากลายเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด
เขาเป็นคนสันโดษ มรดกที่แท้จริงของเทพอมตะบัวสวรรค์เหมาะสมกับเขามาก เขาปลูกต้นสนและรออยู่ที่นี่เป็นเวลาหกปีเพื่อหลอมรวมวิญญาณโดยไม่สนใจโลกภายนอก
เป็นเพียงเวลานี้ที่เสียงกรีดร้องของสัตว์นับไม่ถ้วนดังขึ้น
“เกิดสิ่งใดขึ้น?” เจิ้งชิงได้ยินเสียงและเริ่มระวังตัว
“วิธีการหลอมรวมวิญญาณของเทพอมตะบัวสวรรค์ลึกลับและเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่มีทางที่ข้าจะถูกเปิดเผย นี่ไม่ใช่กรณีการมาฉกชิงของศัตรู เดี๋ยว!”
เจิ้งชิงสงสัยก่อนที่หัวใจของเขาจะเต้นเร็วขึ้น
เขาคิดถึงบางสิ่ง
หลายเดือนก่อนเขาเคยพบสถานการณ์นี้มาแล้ว
เวลานั้นมันเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ แม้เขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่เหตุการณ์นั้นยังทำให้เจิ้งชิงตกใจมาก
หลังจากเชื่อมต่อกับสวรรค์สีเหลือง เขาได้เรียนรู้ว่าเกิดแผ่นดินไหวทั่วทั้งภาคใต้
“มันเป็นเรื่องเดียวกันหรือไม่?”
การคาดเดาของเจิ้งชิงได้รับการยืนยันในไม่ช้า
ดังคาด เกิดแผ่นดินไหวเช่นเดียวกับครั้งก่อนหน้า แต่ความรุนแรงของมันไปไกลเกินกว่าจินตนาการของเขา
“ครืน…”
แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ราวกับวันสิ้นสุดโลก แผ่นดินแยกออกและทอดตัวยาวไปนับล้านลี้
เจิ้งชิงโชคไม่ดีที่ภูเขาลูกนี้อยู่ในบริเวณนั้นและกำลังถูกกลืนกิน
แม้จะมีสภาพจิตใจที่ยอดเยี่ยม แต่เขายังอาเจียรออกมาเป็นเลือด การทำงานหนักตลอดหกปีของเขากลายเป็นความว่างเปล่า
“เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร? เหตุใดข้าถึงโชคร้ายนัก! เห้อ…”
ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้น
เขาเห็นผลึกหินสีส้มจำนวนมากถูกดันขึ้นมาจากชั้นใต้ดิน
เจิ้งชิงสูดหายใจลึก เขามีมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะบัวสวรรค์ เขารู้ว่าสิ่งนี้คือสิ่งใด
“นี่คือผลึกแก่นแท้ปฐพี มันเป็นทรัพยากรอมตะระดับแปด…อา…เดี๋ยว!” เจิ้งชิงใช้ท่าไม้ตายสายตรวจสอบและมองไปในระยะไกล
ดวงตาของเขาแทบหลุดออกมาจากเบ้า เขาตะโกน “ข้าเห็นสิ่งใดผิดไปหรือไม่? ไม่เพียงผลึกแก่นแท้ปฐพี แต่ยังมี ผลึกเกล็ดมังกรหยก เพลิงท่องปฐพี ผลึกหยาดน้ำค้าง…”
ทรัพยากรอมตะล้ำค่าและยังมีจำนวนมหาศาล
เจิ้งชิงลืมความรู้สึกของความล้มเหลวในการหลอมรวมวิญญาณอมตะไปอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้เขายุ่งอยู่กับการรวบรวมทรัพยากรอันล้ำค่าเหล่านี้
…..
ภาคเหนือ แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา
ฟางหยวนกำลังฝึกฝนท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งดาบ
คลื่นดาบสามชั้น!
คลื่นแสงสีเงินสามชั้นพุ่งออกไปข้างหน้า
ดาบบินไร้ลักษณ์!
วิญญาณอมตะดาบบินพุ่งออกไปด้วยความเร็วสูงและไม่สามารถมองเห็น
ฟางหยวนสามารถสัมผัสถึงตำแหน่งของวิญญาณอมตะดาบบินแต่ผู้อื่นไม่สามารถ นี่เป็นหนึ่งในท่าไม้ตายเฉพาะตัวของโป้ชิง
หมอกดาบบิน!
กลุ่มเมฆหมอกปรากฏขึ้นพร้อมกับปราณดาบอันไร้รูปลักษณ์จำนวนมหาศาลทำลายทุกสิ่งที่อยู่ในพื้นที่
ดาบบินหมื่นลี้!
แสงดาบพุ่งออกไปราวกับสายรุ้งและข้ามผ่านระยะทางหลายพันลี้ไปในพริบตา
ดาบห้าดัชนี!
ฟางหยวนประกบฝ่ามือไว้บนหน้าอกก่อนจะยกฝ่ามือข้างขวาขึ้นเหนือศีรษะ
อันดับแรก เขาชี้นิ้วหัวแม่มือข้างขวาออกไปข้างหน้า แสงดาบพุ่งออกมาและเจาะทะลุพื้นเมฆ
ต่อมา เขาใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางสะบัดออกไป แสงดาบที่น่าสะพรึงกลับถูกยิงออกมา
แต่ฟางหยวนยังไม่สามารถส่งแสงดาบออกจากสองนิ้วสุดท้าย เขาต้องหยุดพัก
หลังจากเสร็จสิ้นการฝึกฝน ฟางหยวนยังยืนอยู่ที่เดิมและรวบรวมประสบการณ์ของเขา
‘ไม่กี่วันที่ผ่านมาข้าดัดแปลงท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งดาบได้ทั้งหมดห้ากระบวนท่า นอกจากคลื่นดาบสามชั้นของนิกายหลางหยา อีกสี่กระบวนท่ามาจากโป้ชิง’
‘เส้นทางแห่งดาบของข้ายังด้อยกว่าเส้นทางแห่งปัญญา ข้ามีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งดาบไม่มากเมื่อเปรียบเทียบกับวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา นอกจากนั้นระดับความสำเร็จของข้าก็ค่อนข้างต่ำ การดัดแปลงของข้าถูกจำกัด พลังอำนาจของท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งดาบของโป้ชิงใกล้เคียงกับฉบับดั้งเดิมโดยเฉพาะท่าสุดท้าย ดาบห้าดัชนี แต่ข้าสามารถใช้มันได้เพียงสามนิ้ว นั่นคือขีดจำกัดของข้า ในเวลาเดียวกันมันก็เป็นเพียงท่าไม้ตายอมตะระดับเจ็ดเท่านั้น’
‘หากข้าสามารถใช้วิญาณอมตะดาบแห่งปัญญาระดับแปด มันจะกลายเป็นท่าไม้ตายอมตะระดับแปด’
น่าเสียดายที่วิญญาณอมตะดาบแห่งปัญญาต้องการพลังงานอมตะระดับแปด
ฟางหยวนไม่ใช่ผู้อมตะระดับแปด เขาไม่สามารถผลิตพลังงานอมตะระดับแปด
ฟางหยวนมีวิญญาณอมตะระดับแปดจำนวนสามดวง วิญญาณทัศนคติ วิญญาณปีไหลผ่านราวกับสายน้ำ และวิญญาณดาบแห่งปัญญา ท่ามกลางพวกมัน วิญญาณทัศนคติมีความต้องการน้อยที่สุด วิญญาณปีไหลผ่านราวกับสายปีมีความต้องการมากกว่าเล็กน้อย สำหรับวิญญาณดาบแห่งปัญญา มันใช้งานยากที่สุดเพราะมันต้องพึ่งพาพลังงานอมตะระดับแปดในการกระตุ้นใช้งานเท่านั้น
ดังนั้นตอนนี้ฟางหยวนจึงถึงขีดจำกัดในการพัฒนาท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งดาบแล้ว
หลังจากฝึกฝนท่าไม้ตายอมตะ ฟางหยวนกลับไปที่เมืองเมฆาและเริ่มจัดการมิติช่องว่างจักรพรรดิ
ภาคเหนือน้อย
หิมะกำลังตก อากาศหนาวเย็น บรรยากาศแตกต่างไปจากก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง
เสียงกรีดร้องของอสูรหิมะดังขึ้นเป็นครั้งคราว
และทางเหนือสุดมีผลึกหินคล้ายกับภูเขา
มันเป็นผลึกหินสีฟ้าที่โปร่งแสง มีไอเย็นลอยออกมาตลอดเวลา พวกมันเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมไปเป็นอย่างมาก
ผลึกแก่นแท้น้ำแข็ง!
มันเป็นทรัพยากรอมตะระดับแปดที่หายาก
ฟางหยวนถอนหายใจ “ผู้ใดจะคิดว่าเผ่ามนุษย์หิมะจะนำสมบัติล้ำค่าชนิดนี้ออกมาจากคลังสมบัติของพวกเขา”
แต่ฟางหยวนเข้าใจเหตุผล
แม้ตอนนี้พวกเขาจะอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่ความจริงก็คือหลังจากสะสมทรัพยากรและความแข็งแกร่งมาหลายชั่วอายุคน เผ่ามนุษย์หิมะจึงไม่ใช่ตัวละครที่สามารถดูแคลน
อย่างน้อยที่สุดพวกเขาก็มีความรุ่งโรจน์ในอดีต
ผลึกแก่นแท้น้ำแข็งเป็นหนึ่งในของขวัญชุดที่สามจากเผ่ามนุษย์หิมะ
เหตุใดพวกเขาจึงนำสิ่งนี้ออกมาเพื่อแสดงความจริงใจ? ฟางหยวนรู้ว่ามันเป็นเพราะเขาสามารถเอาชนะสัตว์อสูรแรกกำเนิดมังกรหมื่นเศียร ฉากนี้ถูกบันทึกไว้โดยเซี่ยเอ๋อและถูกส่งกลับไปยังเผ่าของนาง
แน่นอนว่านี่คือสิ่งที่ฟางหยวนตั้งใจให้นางเห็น
“ด้วยผลึกแก่นแท้น้ำแข็ง ข้าสามารถสร้างอสูรหิมะได้อย่างต่อเนื่อง มันจะเป็นแหล่งรายได้ใหม่ของข้า”
ขณะที่ฟางหยวนกำลังคิดถึงอนาคต ผมที่หกส่งข้อความมาหาเขา “ท่านผู้นำ การหลอมรวมวิญญาณอมตะความลับสวรรค์มาถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว โปรดมาหลอมรวมมันด้วยตัวท่านเอง”
หากเขาสามารถหลอมรวมวิญญาณอมตะความลับสวรรค์ เขาจะสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับภัยพิบัติล่วงหน้า
ผู้อมตะทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของเรื่องนี้