Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 1496 ดวงตาสีเทา
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1496 ดวงตาสีเทา
แปลโดย iPAT
หลังจากพักผ่อนและเตรียมตัวอย่างเพียงพอ ฟางหยวนเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันของเทพปีศาจปล้นสวรรค์อีกครั้ง
มีเสียงโห่ร้องจากผู้คนที่อยู่รอบๆทะเลสาบ
ทะเลทรายตะวันตกมีทรัพยากรซ่อนอยู่มากกว่าภาคเหนือ ไม่ว่าจะเป็นวิญญาณหรือสัตว์ป่า แต่พืชพรรณเป็นข้อบกพร่องที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของภูมิภาคนี้
ดังนั้นตลาดของที่นี่จึงมีสินค้าประเภทอาหารเป็นหลัก ตัวอย่างเช่น นม สุรา หนังสัตว์ กระดูก หรือแผงขายวิญญาณ
เทพปีศาจปล้นสวรรค์ในวัยเยาว์เดินอยู่ท่ามกลางฝูงชน เขามองสินค้าที่อยู่รอบๆขณะเดินตรงไปยังทะเลสาบกลางโอเอซิส
“หยุด! บุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตไม่สามารถเข้ามาที่นี่!”
“เจ้าหนู ไสหัวไปซะ!”
เมื่อเด็กหนุ่มเข้าไปใกล้ทะเลสาบ ยามสองคนที่ดูแลพื้นที่บริเวณนี้ก็หยุดเขาทันที
เด็กหนุ่มไม่สามารถทำสิ่งใดนอกจากแสร้งทำเป็นตกใจและจากไปเท่านั้น
เขาลอบถอนหายใจ ‘ทะเลสาบเป็นแหล่งน้ำเพียงหนึ่งเดียวของโอเอซิสแห่งนี้ มันได้รับการดูแลปกป้องอย่างเข้มงวด แม้จะมีตลาดนัดในวันนี้ ยามก็ยังตื่นตัวเสมอ ข้าไม่สามารถเข้าไปได้”
ในเวลาเดียวกัน เสียงที่ชั่วร้ายของชาเซี่ยวก็ดังขึ้นในใจของเด็กหนุ่ม “หาวิธีเข้าไป อย่าลืมว่าเหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งเดือน เมื่อเวลานั้นมาถึง หากเจ้าไม่มีความคืบหน้าใดๆ นั่นจะเป็นเวลาตายของเจ้า”
รูม่านตาของเด็กหนุ่มหดเล็กลง เขาตอบในใจ “ไม่ใช่ว่าเจ้าแข็งแกร่งงั้นหรือ? เหตุใดเจ้าไม่พุ่งเข้าไปและนำมันออกมาโดยตรง? เหตุใดต้องให้คนอ่อนแอเช่นข้ารวบรวมข้อมูล?”
“ฮืม เจ้าประชดข้างั้นหรือ!? เจ้าจะเข้าใจแผนการของข้าได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้น ข้าก็ไม่มีความอดทนมากพอที่จะอธิบายให้เจ้าฟัง หลานชายที่ดีของข้า เร็วเข้า ทำตามที่ท่านปู่ผู้นี้บอก พูดให้น้อยลงและทำงานให้หนักขึ้น แล้วเจ้าจะมีชีวิตยืนยาวขึ้นอีกนิด”
เด็กหนุ่มทำได้เพียงปล่อยให้ตนเองถูกบงการเท่านั้น ศัตรูแข็งแกร่งขณะที่เขาอ่อนแอ เขาไม่พูดสิ่งใดอีก เว้นเพียงสายตาที่กลายเป็นแหลมคม
ก่อนหน้านี้เพื่อความอยู่รอดและความหวังที่จะได้กลับบ้าน เขาถูกบังคับให้ยอมจำนนต่อชาเซี่ยวแต่ในใจเขาไม่เคยยอมรับชะตากรรมนี้
‘ข้าต้องรู้ว่าเมื่อใดควรยอมแพ้และเมื่อใดควรต่อสู้ สักวันข้าจะหลบหนีจากโซ่ตรวนของชาเซี่ยวและจะตอบแทนเขาอย่างสาสม!’
‘แต่ตอนนี้ข้าต้องอดทน ข้าต้องแสดงและรอโอกาสของข้า’
ไม่กี่วันต่อมาเด็กหนุ่มก็ใช้ความพยายามทั้งหมดเพื่อรวบรวมข้อมูลและเข้าใกล้ทะเลสาบ
แต่มันล้มเหลวทั้งหมด
ทะเลสาบเป็นสถานที่สำคัญของเผ่าที่ได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนา เด็กหนุ่มพึ่งกลายเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับหนึ่ง ความแข็งแกร่งของเขายังขาดไปมาก ในขณะที่เขาไม่สามารถทำสิ่งใด ข่าวลือก็แพร่กระจายออกไปในกลุ่มสหายของเขา
“กระไรนะ!? อีกครึ่งเดือนเผ่าจะจัดการแข่งขันย่อย ผู้ชนะสามารถเลือกวิญญาณจากทะเลสาบเป็นรางวัล!” เด็กหนุ่มได้ยินข่าวนี้เช่นกัน
เขารู้ทันทีว่าโอกาสของเขามาถึงแล้ว
นอกจากนี้นี่อาจเป็นโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับเขาในการทำภารกิจของชาเซี่ยว
“ข้าต้องเข้าร่วมการแข่งขันย่อยและได้รับชัยชนะ!” เด็กหนุ่มพูดกับชาเซี่ยวในใจ
ชาเซี่ยวหัวเราะ “เด็กโง่ อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังวางแผนบางอย่าง เจ้าต้องการใช้โอกาสนี้เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตนเองเพื่อหลบหนีจากการควบคุมของข้าใช่หรือไม่?”
เด็กหนุ่มกล่าวเย้ยหยัน “แล้วอย่างไร? ผู้ใดจะไม่ต้องการอิสรภาพ?”
“ดี!” ชาเซี่ยวไม่สะทกสะท้านและยังชมเชย “เจ้าค่อนข้างตรงไปตรงมา ฮ่าฮ่า หากเจ้าเรียกข้าว่าท่านปู่ ข้าจะช่วยให้เจ้าคว้าชัยชนะครั้งนี้”
“เจ้า!” เด็กหนุ่มเต็มไปด้วยความโกรธ
“อันใด? เจ้าไม่ต้องการงั้นหรือ? คิดให้ดี โดยปราศจากความช่วยเหลือจากข้า เพียงความแข็งแกร่งและพรสวรรค์ของเจ้า เจ้าจะชนะการแข่งขันนี้ได้อย่างไร?” ชาเซี่ยวเย้ยหยัน
การแสดงออกของเด็กหนุ่มกลายเป็นมืดมน
‘ข้าเกิดมาในตระกูลขุนนาง ชีวิตของข้าเต็มไปด้วยเกียรติยศ แต่ผู้ใดจะคิดว่าข้าต้องก้มศีรษะร้องขอความเมตตา! นี่เป็นความอัปยศต่อบรรพชน ข้าทำลายชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลอย่างแท้จริง!’
‘แต่…’
‘หากข้าไม่ทำเช่นนี้ ข้าคงไม่มีความหวังเหลืออยู่จริงๆ’
‘ข้าอ่อนแอเกินไป การกลับบ้านเป็นเป้าหมายที่เลือนลาง แต่หากข้าไม่สามารถก้าวข้ามช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ไปได้ก็ไม่จำเป็นต้องคิดถึงอนาคต!’
‘บัดซบ!’
เด็กหนุ่มกำหมัดด้วยความลังเล
แม้เขาจะเคยเรียกชาเซี่ยวว่าท่านปู่มาก่อน แต่นั่นก็เป็นช่วงเวลาแห่งชีวิตและความตาย ตอนนี้เขาและชาเซี่ยวถูกแยกจากกัน โดยปราศจากแรงกดดันจากภายนอกมากนัก เด็กหนุ่มจึงรู้สึกลังเลใจ
“ท่านปู่…” อย่างไรก็ตามในที่สุดเขาก็ต้องกล่าวคำนี้ออกมา
“ฮ่าฮ่าฮ่า” เสียงหัวเราะที่บ้าคลั่งของชาเซี่ยวดังขึ้น “หลานชายที่ดีของข้า เมื่อเจ้าเรียกข้าว่าท่านปู่ ท่านปู่ผู้นี้ก็จะไม่ปล่อยให้เจ้าล้มเหลว ท่านปู่จะมอบสิ่งนี้ให้เจ้า รับมันไว้และเปลี่ยนมันเป็นความแข็งแกร่งของเจ้า เจ้าต้องได้รับชัยชนะการแข่งขันครั้งนี้”
หลังชาเซี่ยวกล่าวจบ ข้อมูลจำนวนมหาศาลก็พุ่งเข้าสู่จิตใจของเด็กหนุ่ม
ใบหน้าของเด็กหนุ่มกลายเป็นบิดเบี้ยวโดยไม่รู้ตัว ความเจ็บปวดพุ่งเข้าโจมตี เขารู้สึกราวกับศีรษะกำลังจะระเบิดออกมา
การโจมตีของข้อมูลกินเวลาเพียงเก้าลมหายใจแต่เด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนหนึ่งปี
ใบหน้าของเขากลายเป็นซีดขาว ร่างกายสั่นเทาและดูน่าอนาถ
วิธีการของชาเซี่ยวรุนแรงมากแต่ข้อมูลเหล่านั้นก็มีคุณค่าจริงๆ
เนื้อหาส่วนใหญ่ของมันเกี่ยวกับทักษะการต่อสู้ ส่วนหนึ่งเกี่ยวกับเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณและวิธีใช้งานวิญญาณ มันมีกระทั่งท่าไม้ตาย
ท่าไม้ตายดวงตาสีเทา!
ท่าไม้ตายนี้ใช้วิญญาณหลุมทราย วิญญาณควันไฟ และวิญญาณน้ำใสเพื่อกระตุ้นใช้งาน
มันสามารถพ่นควันสีเทาขาวออกมา เมื่อควันสีเทาขาวเข้าไปในดวงตาของศัตรู มันจะปิดบังวิสัยทัศน์ของพวกเขาด้วยเถ้าถ่านสีเทาขาวและทำให้พวกเขามองไม่เห็น
ศัตรูที่ถูกโจมตีไม่สามารถใช้น้ำล้างดวงตา มิฉะนั้นเถ้าถ่านสีเทาขาวจะปลดปล่อยความร้อนออกมาและทำให้พวกเขาตาบอด
‘เป็นท่าไม้ตายที่ชั่วร้ายนัก มันไม่ใช่รูปแบบการต่อสู้ของข้า’ หัวใจของเด็กหนุ่มจมดิ่งลง
ในชีวิตก่อนหน้า เขาเกิดในตระกูลสูงศักดิ์และได้รับการศึกษาที่ดีตั้งแต่เด็ก เขาเป็นคนซื่อตรงและซื่อสัตย์ เขาเกลียดชังความชั่วร้าย
เมื่อเขากำเนิดใหม่และกลายเป็นเด็กกำพร้าที่ยากจน เขายังรักษากฎเกณฑ์และศีลธรรมของตนเองเอาไว้ แม้เขาจะมีสติปัญญาของผู้ใหญ่แต่สิ่งต่างๆมักไม่เป็นความต้องการของเขา
‘ดวงตาสีเทาต้องใช้วิญญาณสามดวงและพวกมันล้วนเป็นวิญญาณที่ข้ามี’
‘ดูเหมือนชาเซี่ยวจะวางแผนล่วงหน้าไว้แล้ว ฮืม!’
เด็กหนุ่มไม่ต้องการฝึกฝนท่าไม้ตายดวงตาสีเทา เขาใช้สมาธิทั้งหมดฝึกฝนศิลปะการต่อสู้เท่านั้น
เขาเคยเป็นนักรบมาก่อน แม้เขาจะไม่เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิด แต่เขาก็มีพื้นฐานอยู่บ้าง
ดังนั้นเขาจึงก้าวหน้าไปได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากฝึกฝนมาสองสามวัน เด็กหนุ่มรู้สึกว่าพลังการต่อสู้ของเขาพุ่งสูงขึ้น
‘ทักษะการต่อสู้ของโลกนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ก่อนหน้าไม่เคยมีผู้ใดสั่งสอนข้า นั่นทำให้ข้าอ่อนแอเกินกว่าจะทำสิ่งใดได้ ตอนนี้ข้าได้รับทักษะเหล่านี้และฝึกฝนมาแล้ว ข้ามีโอกาสหกสิบส่วนที่จะได้รับชัยชนะ’
‘แม้ข้าจะไม่ใช้ท่าไม้ตายดวงตาสีเทา แต่ข้าก็สามารถจัดการคู่แข่งส่วนใหญ่’
เด็กหนุ่มเกลียดชังท่าไม้ตายดวงตาสีเทาเป็นอย่างมากและไม่ต้องการใช้มัน
เขามั่นใจในตัวเองและในไม่ช้าก็ถึงเวลาสำหรับการแข่งขันย่อย
เมื่อเขาก้าวเข้าสู่สนามประลอง ผู้ชมไม่ได้คาดหวังในตัวเขา
บางคนกระทั่งเย้ยหยัน
และคู่ต่อสู้ของเขาก็แสดงออกด้วยความเย่อหยิ่ง เขาชี้นิ้วไปที่เด็กหนุ่ม “เจ้าขยะ ยอมแพ้เดี๋ยวนี้ แล้วข้าจะไม่ทำให้ขาของเจ้าหัก!”
เด็กหนุ่มยืนอยู่ที่เดิมโดยไม่ขยับเขยื้อน
ผู้ชมเริ่มหัวเราะ
“เขากลัว เขาไม่แม้แต่จะสามารถเคลื่อนไหว”
“ดูเขา เขาผ่านการทดสอบการเนรเทศของเผ่ามาได้อย่างไร?”
“คงเพราะความโชคดี ข้าได้ยินว่าในช่วงเวลาสำคัญเขาได้รับการช่วยเหลือจากผู้ใช้วิญญาณของเผ่า”
ภายใต้บรรยากาศเช่นนี้ คู่ต่อสู้ของเด็กหนุ่มยิ่งเย้ยหยัยมากขึ้น
แต่ในวินาทีต่อมา เด็กหนุ่มกลับกำหมัดแน่น
‘ในที่สุดข้าก็สามารถควบคุมร่างนี้ได้อีกครั้ง’ ฟางหยวนรู้สึกมีความสุข
ปรากฏว่าการยืนนิ่งของเด็กหนุ่มเป็นเพราะฟางหยวนได้รับอนุญาตให้เข้าควบคุมร่างกายแล้วแต่เวลานั้นเขายังไม่รู้ตัว
เมื่อฟางหยวนรู้สึกตัว เขาก็โจมตีทันที
ท่าไม้ตายดวงตาสีเทา!
ควันสีเทาขาวพุ่งเข้าสู่ใบหน้าของฝ่ายตรงข้าม
คู่ต่อสู้ของเขาไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลา เขารีบถอยออกไปและกรีดร้อง “อา…ข้ามองไม่เห็นสิ่งใดเลย!?”
“หายไปซะ” ฟางหยวนก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าวก่อนจะเตะไปที่ใบหน้าของคู่ต่อสู้อย่างรุนแรง
“ปัง!”
คู่ต่อสู้ของเขาถูกเตะออกจากสนามประลองโดยตรง
ชนะ!