Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 1557 ตอบโต้
บทที่ 1557 ตอบโต้
“ตาย!” จิ้งหลานตะโกนเสียงดัง ดวงตาของนางส่องประกายด้วยความยินดีขณะที่นางมองลําแสงที่ระเบิดขึ้นบนร่างของฟางหยวน
นางเป็นผู้อมตะระดับแปดที่มีพลังการต่อสู้สูงมาก แต่นางต้องอยู่ภายใต้เงาของเทพปีศาจจิตวิญญาณมาตลอดชีวิต นางตื่นขึ้นจากการจําศีลเพราะการระเบิดของภูเขาตงฮันและเมื่อนาง เห็นเทพปีศาจจิตวิญญาณถูกจับโดยไม่สามารถต่อต้าน มันทําให้ความรู้สึกที่นางเก็บซ่อนไว้ในส่วนลึกของหัวใจปะทุออกมา
“เทพปีศาจจิตวิญญาณ เจ้าแข็งแกร่งมาก แต่ตอนนี้เจ้ากลายเป็นนักโทษ ข้าตื่นขึ้นในเวลาที่ดีจริงๆ ด้วยการฆ่าผู้สืบทอดของเจ้าข้าจะสามารถกําจัดความหวาดกลัวที่ มีต่อเจ้าออกจากหัวใจของข้า!”
“ข้าจะตัดหัวฟางหยวนไปให้เจ้าและเจ้าจะถูกข้าฆ่าเช่นกัน! ฮ่าฮ่าฮ่า วันหนึ่งเจ้าจะต้องตายด้วยมือของข้าช่างน่าเหลือเชื่อนัก นี่เหมือนกับความฝันจริงๆ ฮ่าฮ่าฮ่า
จักรพรรดินีอสูรสายฟ้าจึงหลานหัวเราะอย่างบ้าคลั่งอยู่ในใจของนาง
แต่ในจังหวะนี้จึงหลานกลับได้ยินเสียงเตือน “มีบางอย่างผิดปกติ หยุดเดี๋ยวนี้!”
“มันสายไปแล้ว!” ดวงตาของจิ้งหลานเต็มไปด้วยความกระหายเลือดและเจตนาสังหาร แต่ในไม่ช้านางก็รู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย
“เสียงนี้ค่อนข้างคุ้นเคยถูกต้อง มันคือจื่อเว่ย! เดี๋ยว! นางหมายความว่าอย่างไร?” จิ้งหลานคิด
เจตนาสังหารของนางลดลงทันที
นางพยายามถอนตัว
“สายไปแล้ว!” การแสดงออกของฟางหยวนเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน สายตาที่ตื่นตระหนก และหวาดกลัวก่อนหนานี้หายไปอย่างสมบูรณ์และถูกแทนที่ด้วยความมั่นใจ
เขาสะบัดร่างมังกรดาบบรรพกาลแต่เขาไม่ได้หลบ ตรงข้าม เขาพุ่งเข้าไปหาท่าไม้ตายของจิ้งหลาน!
ลําแสงลึกลับปะทะร่างของฟางหยวนอย่างรุนแรง แต่ตอนนี้เกราะหวนคืนของเขากลับมีลักษณะที่แตกต่างไปจากก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง ไม่เพียงมันจะฟื้นคืนสู่สภาพเดิม แต่มันยังปรากฏร่องรอยของแสงลึกลับบางอย่าง
เกราะหวนคืนเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
สถานการณ์กลายเป็นพลิกผัน
การโจมตีของจิ้งหลานไม่สามารถทําลายเกราะหวนคืนและยังถูกสะท้อนกลับไปอย่างราบรื่น
“อันใด!?” รูม่านตาของจิ้งหลานหดเล็กลง แม้นางจะมีประสบการณ์มากมาย แต่การแสดงออกของนางยังเผยให้เห็นถึงตกใจและความหวาดกลัว
ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้แม้ฟางหยวนจะสามารถสะท้อนท่าไม้ตายของนางกลับไป แต่นางก็สามารถดูดซับมันและอดทนต่อความเสียหาย
แต่การโจมตีนี้แตกต่างจากก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง
นี่เป็นท่าไม้ตายอมตะระดับแปดที่นางทุ่มเทสุดกําลัง
หากนางประสบความสําเร็จ แน่นอนว่าไม่เพียงเกราะหวนคืนจะถูกทําลาย แต่มันยังสามารถสังหารฟางหยวน อย่างไรก็ตามท่าไม้ตายที่นางมั่นใจกับถูกสะท้อนกลับมาอย่างสมบูรณ์
จิ้งหลานบังคับให้ฟางหยวนอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่มีเวลาหลบเลี่ยงการโจมตีของนาง ดังนั้นระยะห่างระหว่างคนทั้งสองจึงค่อนข้างแคบ อย่างไรก็ตามตอนนี้มันกลายเป็นจิ้งหลานที่ไม่มีเวลาเพียงพอที่จะหลบเลี้ยง อารมณ์ของนางผันผวนเพราะเงาของเทพปีศาจจิตวิญญาณหยั่งรากลึกอยู่ในหัวใจของนางและยังมีเหตุผลอีกประการหนึ่ง นั่นคือสภาพในปัจจุบันของนางยังห่างไกลจากจุดสูงสุดอยู่มาก
นางเป็นผู้อมตะระดับแปดบนจุดสูงสุด นางมีความสามารถในการเคลื่อนไหวในกําแพงภูมิภาค แต่ร่างกายของนางไม่ใช่ร่างทารกอมตะ นางจะได้รับผลกระทบย้อนกลับไม่มากก็น้อย
ในขณะที่นางเป็นฝ่ายไล่ล่าฟางหยวนและอยู่ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบ นางเต็มไปด้วยความพึงพอใจและความเกลียดชัง ดังนั้นนางจึงมองข้ามบางสิ่ง แต่ตอนนี้นางต้องหลบหนีและเป็นเพียงเวลานี้ที่นางค้นพบว่าสภาพของนางเลวร้ายมาก
ด้วยเหตุผลทั้งหมด จิ้งหลานจึงไม่สามารถหลบและต้องเผชิญหน้ากับลําแสงที่พุ่งเข้ามาเท่านั้น
“บึม!”
ลําแสงปะทะร่างของจิ้งหลานและระเบิดแสงอันเจิดจ้าออกมา กระทั่งฟางหยวนในร่างมังกรดาบบรรพกาลยังต้องปิดเปลือกตาลง
เมื่อเวลาผ่านไป ฟางหยวนพยายามเปิดเปลือกตาขึ้นอีกครั้ง
ฆ่า!
เขาแทบไม่สามารถแยกแยะร่างของจิ้งหลานกับรัศมีแสงสีขาว
ชุดเกราะสีดําทมิฬที่ดุร้ายของนางพังทลายลงอย่างสมบูรณ์แล้ว
เมื่อถูกโจมตี นางจึงได้รับบาดเจ็บสาหัสและหมดสติทันที
ฟางหยวนอ้าปากเผยให้เห็นเขี้ยวอันแหลมคมขณะพุ่งเข้าไปหาจิ้งหลาน
ด้วยร่างกายใหญ่โตของมังกรดาบบรรพกาล ฟางหยวนส่งกรงเล็บออกไป
“บัดซบ! ข้าตกลงสู่หลุมพรางของเขาจริงๆ!” ในวังสวรรค์ ดวงตาของเทพธิดาจื่อเว่ยเบิกกว้างขึ้นด้วยความโกรธ “เกราะหวนคืนถูกแก้ไขทําให้มันก้าวเข้าสู่ระดับใหม่ เกราะหวนคืนก่อนหน้านี้ เป็นกับดักที่เขาเตรียมไว้จัดการข้าฟางหยวน นึกไม่ถึงว่าความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของ เจ้าจะสูงถึงระดับนี้!”
เดิมทีเทพธิดาจ่อเว่ยประเมินฟางหยวนไว้ค่อนข้างสูง แต่ความจริงที่อยู่ตรงหน้ากลับเหมือน การตบหน้านางอย่างแรง
นางคิดว่าตนเองถือไพ่เหนือกว่ามาตลอด ตั้งแต่การต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน นางเริ่มรวบรวมข้อมูลและพยายามอนุมานวิธีตอบโต้เกราะหวนคืนเสมอมา ในการต่อสู้ระหว่างฟางหยวนกับฟงจิ๋วเก้อ เทพธิดาจื่อเว่ยได้อนุมานอย่างเต็มที่อยู่เบื้องหลัง กระทั่งจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าออกเดินทางมาในครั้งนี้ นางรู้สึกว่าความเข้าใจของนางเพียงพอแล้วและในที่สุดก็ถึงเวลาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ แต่นางไม่เคยคาดหวังว่าทั้งหมดจะเป็นกับดักของฟางหยวน
ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของฟางหยวนเหนือความคาดหมายของเทพธิดาจื่อเว่ยไปไกลมาก
“แต่มันเป็นไปได้อย่างไร? เดี๋ยว! เขายืมพลังของวิญญาณสติปัญญาหรือไม่? แต่วิญญาณสติปัญญาดุร้ายมาก มีเพียงผู้อมตะระดับเก้าเท่านั้นที่สามารถปรับแต่งและใช้งานมัน ฟางหยวนเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ด ด้วยความช่วยเหลือจากแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา แม้พวกเขาจะมีพลังงานอมตะระดับเก้า แต่พวกเขาก็ต้องใช้เจตจํานงของผู้อมตะระดับเก้าในการปรับแต่งมันตามบันทึกของวังสวรรค์ หลังจากเทพอมตะกลุ่มดาวกลายเป็นผู้อมตะระดับเก้า นางยังต้องใช้เวลาเกือบหนึ่งร้อยปีในการกําหราบและปรับแต่งวิญญาณสติปัญญาระดับเก้า!”
เทพธิดาจ่อเว่ยรู้สึกมีนงง
เหงื่อเริ่มไหลลงมาจากหน้าผากของนาง
“ผู้อาวุโสจิ้งหลานได้รับความเสียหายครั้งใหญ่จากการโจมตีนี้ นางต้องอดทน!” เทพธิดาจื่อเว่ยเป็นผู้คิดค้นท่าไม้ตายอมตะระดับแปดนี้ แน่นอนว่านางตระหนักถึงพลังอํานาจของมัน ท่าไม้ตายสายตรวจสอบของเทพธิดาอเว่ยที่วางไว้บนร่างของจิ้งหลานถูกทําลายไปในโจมตีครั้งนี้ นี่ทําให้เทพธิดาจื่อเว่ยไม่สามารถตรวจสอบสถานการณ์ได้อีก
นางส่งเร่งเฉินอี้และคนอื่นๆไปยังกําแพงภูมิภาคเพื่อเป็นกําลังเสริมให้กับจักรพรรดินีอสูรสายฟ้า
อย่างไรก็ตามตัวนางยังอยู่ในวังสวรรค์
ราชันมังกรให้ความสําคัญกับการเลี้ยงดูฟงจินฮวง เขาไม่ได้อยู่ที่นี่ เทพปีศาจจิตวิญญาณต้องได้รับการเฝ้าระวังตลอดเวลา ดังนั้นเทพธิดาอเว่ยจึงไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
เสียงแตกหักดังมาจากร่างของจิ้งหลาน
กรงเล็บมังกรของฟางหยวนแทงทะลุหน้าอกของนาง
แต่ในช่วงเวลาสําคัญเกราะสายฟ้ากลับปรากฏขึ้นบนหน้าอกของจิ้งหลานด้วยตัวของมันเอง
เมื่อกรงเล็บมังกรปะทะเกราะสายฟ้าดังกล่าว ฟางหยวนรู้สึกราวกับกําลังโจมตีกําแพงเหล็กที่แข็งที่สุด
นี่เป็นท่าไม้ตายอมตะสายป้องกันระดับแปด แม้ผู้อมตะจะไม่รู้สึกตัว แต่มันสามารถทํางานได้ด้วยตัวของมันเอง
อย่างไรก็ตามตอนนี้เกราะสายฟ้าของจิ้งหลานยังไม่สมบูรณ์
ดังนั้นฟางหยวนจึงใช้กําลังทั้งหมดของเขาฉีกกระชากมัน
กรงเล็บมังกรโจมตีอย่างต่อเนื่องและตัดเนื้อของจิ้งหลานจากไหล่ซ้ายไปถึงเอวด้านขวา เกราะสายฟ้าถูกแยกออก กระดูกซี่โครงสามชิ้นของจิ้งหลานถูกตัดออกจากร่างด้วยกรงเล็บของฟางหยวน
ขณะที่กรงเล็บมังกรไม่บุบสลาย!
พลังงานอมตะถูกใช้ไปอย่างรวดเร็วเพื่อรักษาเกราะหวนคืนเอาไว้
หากปราศจากเกราะหวนคืน กรงเล็บมังกรอาจแตกเป็นชิ้นๆไปแล้ว
ความเจ็บปวดที่รุนแรงปลุกจิ้งหลานให้ตื่นขึ้น นางเป็นผู้อมตะระดับแปดและเคยเป็นคู่ปรับของเทพปีศาจจิตวิญญาณ นางเต็มไปด้วยประสบการณ์ ดังนั้นนางจึงตระหนักถึงสถานการณ์อย่างรวดเร็วและกรีดร้องออกมา
แต่มันไม่ใช่เสียงกรีดร้องธรรมดา มันเป็นท่าไม้ตายอมตะ!
ฟางหยวนขมวดคิ้วแต่เขายังปลอดภัย
ในทางตรงข้ามการโจมตีด้วยเสียงของจิ้งหลานถูกสะท้อนกลับไปด้วยเกราะหวนคืน
แก้วหูของจิ้งหลานระเบิดทันที จิตใจของนางตกสู่ความโกลาหลขณะเลือดจํานวนมากไหลออกมาจากใบหู จมูก และดวงตาของนาง
จิ้งหลานมีพลังการต่อสู้ที่ไม่ธรรมดา แต่อาจเป็นเพราะนางพึ่งตื่นขึ้นจากการจําศีลหรืออาจเป็นเพราะนางสะดุ้งตื่นอย่างกะทันหันจากความเจ็บปวดหลังจากตระหนักถึงอาการบาดเจ็บที่ร้ายแรง จิตใต้สํานึกของนางจึงตอบสนองเพื่อป้องกันตัวเองทันทีโดยลืมการคงอยู่ของเกราะหวนคืนไปอย่างสิ้นเชิง นั่นทําให้นางทําเรื่องผิดพลาด มันกลายเป็นการทําร้ายตัวนางเองอีกครั้ง
ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น เขาต้องการใช้ประโยชน์จากสถานการณ์เพื่อฆ่านาง
เขาสะบัดหางมังกรกระแทกร่างของจิ้งหลานอย่างไร้ปรานี
จิ้งหลานทุ่งกระแทกพื้นและฝากหลุมลึกไว้ที่นั่น
“บัดซบ! จิ้งหลานพยายามลุกขึ้น
อาการบาดเจ็บของนางรุนแรงมาก ชุดเกราะของนางหายไปแล้ว กระดูกซี่โครงสามชิ้นของนางถูกแยกออก หัวใจและปอดของนางสามารถมองเห็นได้จากภายนอก
“โฮก…”
ฟางหยวนเปิดปากและส่งลมหายใจมังกรออกไปอย่างต่อเนื่อง
ลมหายใจมังกรปะทะร่างของจิ้งหลานราวกับน้ำตก
จิ้งหลานที่พึ่งลุกขึ้นถูกบังคับให้คุกเข่าลงข้างหนึ่ง
“ข้าถูกบังคับให้คุกเข่าโดยผู้อมตะระดับเจ็ดงั้นหรือ!?” ความรู้สึกอัปยศทําให้จิตใจของจิ้งหลานเต็มไปด้วยความโกรธและความเกลียดชัง
“อ๊าก….” ด้วยเสียงคํารามแห่งความโกรธ สายฟ้าสีน้ำเงินปะทุออกมาจากทุกรูขุมขนบนร่างกายของนาง
“เปรี้ยง!”
สายฟ้าสีน้ำเงินก่อตัวเป็นกําแพงสายฟ้าครึ่งวงกลมและขับไล่ทุกสิ่งออกไปจากบริเวณนั้น
ลมหายใจมังกรที่ปะทะกําแพงสายฟ้าถูกทําลายทั้งหมด
“ท่าไม้ตายอมตะระดับแปดไม่ธรรมดาจริงๆ แต่การเคลื่อนไหวนี้ควรจะเป็นการเคลื่อนไหวสุดท้ายของเจ้าแล้วถูกต้องหรือไม่? ตายซะ! หมื่นมังกร!” ฟางหยวนคำราม