Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 1578 พลังโจมตีระดับแปดของฟางหยวน
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1578 พลังโจมตีระดับแปดของฟางหยวน
“ผู้ใดจะคิดว่าวันหนึ่งข้าจะได้วิญญาณท่องแดนอมตะกลับมา!” ฟางหยวนถอนหายใจขณะที่เขามองวิญญาณอมตะที่มือปีศาจปล้นวิญญาณปล้นชิงมา
“โอ้ มันถูกเลื่อนเป็นระดับเจ็ดแล้วจริงๆ นี่คือสิ่งที่ข้าเคยอนุมานมาก่อนหน้านี้” ฟางหยวนลอบมีความสุข
แม้เขาจะมีค่ายกลวิญญาณทองรอบทิศซึ่งสามารถใช้แทนวิญญาณท่องแดนอมตะได้ในระดับหนึ่ง แต่มันยังมีข้อบกพร่องมากมาย มันต้องใช้ผู้อมตะสี่คนในการกระตุ้นใช้งาน นอกจากนี้ระยะทางที่มันสามารถขนส่งยังสั้นกว่าวิญญาณท่องแดนอมตะที่สามารถเดินทางไปได้ทั่วโลก
วิญญาณท่องแดนอมตะระดับเจ็ดยังอยู่ในรูปลักษณ์เดียวกับระดับหก
ตอนนี้มันกําลังดิ้นรนอยู่ในมือปีศาจปล้นวิญญาณแต่มันก็ไม่สามารถขยับเขยื้อน
มือปีศาจปล้นวิญญาณบินลงไปยังยอดเขาผนึกสวรรค์ในภาคใต้น้อยที่มีค่ายกลวิญญาณอมตะจัดตั้งอยู่
เมื่อมือปีศาจปล้นวิญญาณมาถึง มันก็ปล่อยวิญญาณท่องแดนอมตะเข้าสู่ค่ายกลวิญญาณ
ค่ายกลวิญญาณนี้ใช้วิญญาณอมตะสองดวงเป็นแกนกลางได้แก่วิญญาณรักตัวเองและวิญญาณความใคร่ พลังอํานาจของมันคือการช่วยมือปีศาจปล้นวิญญาณปรับแต่งวิญญาณอมตะที่ขโมยมาอย่างรวดเร็ว
แม้ฟางหยวนจะสามารถใช้ประโยชน์จากแม่น้ำหวนคืนได้เช่นกัน แต่เขาต้องการเก็บมันไว้ใช้สร้างเกราะหวนคืนในการต่อสู้
ฟางหยวนเคยประสบความสําเร็จในการใช้วิญญาณอมตะรักตัวเองและวิญญาณอมตะความใคร่เพื่อปรับแต่งวิญญาณอมตะของคนอื่นๆมาแล้ว
แผนเดิมของเขาคือการผสานวิญญาณอมตะรักตัวเองและวิญญาณอมตะความใคร่ไว้ในมือปีศาจปล้นวิญญาณเพื่อปรับแต่งวิญญาณอมตะที่ขโมยมาทันที
สิ่งนี้อาจดูเหมือนไม่จําเป็น แต่นั่นไม่เป็นความจริง
หากฟางหยวนสามารถปรับแต่งวิญญาณที่ขโมยมาได้ทันที มือปีศาจปล้นวิญญาณก็ไม่จําเป็นต้องผนึกวิญญาณอมตะและนํามันกลับมาหาฟางหยวน มันจะสามารถขโมยวิญญาณอมตะได้อย่างต่อเนื่อง
หลังจากนําวิญญาณท่องแดนอมตะเข้าสู่ภูเขาผนึกสวรรค์ มันก็ถูกผนึกและปรับแต่งทันที
ฟางหยวนมองไปที่ฟงจิวเก้ออีกครั้ง
ตอนนี้ฟงจิวเก้อตื่นตัวมาก เขาแสดงออกด้วยความเคร่งขรึม ความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อถูกซ่อนไว้ในดวงตาของเขา
“ฟางหยวนมีวิธีขโมยวิญญาณอมตะของผู้อื่นจริงๆ แม้มันจะอยู่ในมิติช่องว่างก็ยังไม่รอด เขาได้รับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์งั้นหรือ?”
สิ่งนี้ทําให้ฟงจิวเก้อรู้สึกถึงภัยคุกคามร้ายแรง
คลื่นเสียงที่เขาเคยใช้บังคับมือปีศาจปล้นวิญญาณให้เผยตัวถูกใช้งานอีกครั้งเพื่อเฝ้าระวัง
ท่านี้น่ากลัวเกินไป หากวิญญาณอมตะที่ถูกขโมยไปก่อนหน้านี้เป็นวิญญาณอมตะหลักของท่าไม้ตายอมตะขยายเสียงสามเท่าของข้า ท่าไม้ตายของข้าจะล้มเหลว มันจะทําให้ข้าได้รับผลกระทบย้อนกลับและได้รับบาดเจ็บสาหัสทันที!”
ฟงจิวเก้อรู้สึกโล่งใจเล็กน้อยแต่ยังมีความกลัวซ่อนอยู่
ฟางหยวนรู้สึกเสียดายแต่มือปีศาจปล้นวิญญาณไม่สามารถเลือกเป้าหมาย หากเขาสามารถขโมยวิญญาณอมตะที่สําคัญของฟงจิวเก้อเช่นเมื่อครั้งที่เขาต่อสู้กับเมิ้งตู๋ ท่าไม้ตายอมตะของฟงจิวเก้อจะล้มเหลว เขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัสและสามารถถูกสังหารได้อย่างรวดเร็ว
แม้ฟางหยวนจะประสบความสําเร็จในการขโมยวิญญาณอมตะครั้งแรกแต่ตอนนี้ฟงจิวเก้อระวังตัวมากขึ้นแล้ว เขาใช้ท่าไม้ตายอมตะทางผ่านแสงเพื่อย้ายตําแหน่งอย่างไม่หยุดยั้ง ในเวลาเดียวกันเขาก็ปลดปล่อยคลื่นเสียงออกมาตลอดเวลาโดยไม่คํานึงถึงค่าใช้จ่าย สําหรับท่าไม้ตายอมตะขยายเสียงสามเท่า ฟงจิวเก้อหยุดใช้มันแล้ว เขามุ่งเน้นไปที่การหลบหนีเท่านั้น
หลังจากร่างจริงของฟางหยวนถูกเปิดเผย เขาใช้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยอีกครั้งเพื่อลอบเคลื่อนที่เข้าไปใกล้ฟงจิวเก้อ
สิ่งนี้สร้างแรงกดดันทางจิตใจต่อฟังจิวเก้อเป็นอย่างมาก
แต่ฟางหยวนก็ไม่รู้สึกดีเช่นกัน
ฟงจิวเก้อไหลลื่นเกินไป เขายังเคลื่อนที่ไปรอบๆ และไม่เปิดโอกาสให้ฟางหยวนสามารถโจมตี
“ดูเหมือนข้าต้องใช้ความพยายามบางอย่างในการปกปิดมือปีศาจปล้นวิญญาณ” ฟงจิวเก้อมีวิธีบังคับให้มือปีศาจปล้นวิญญาณเผยตัว สิ่งนี้ไม่เป็นไปตามความคาดหวังของฟางหยวน แต่มันก็ทําให้เขานึกไปถึงมือปีศาจไร้ลักษณ์
เทพปีศาจปล้นสวรรค์มีท่าไม้ตายสองท่าในการปล้นวิญญาณ เขาสามารถสลับระหว่างท่าไม้ตายอมตะมือปีศาจปล้นวิญญาณกับท่าไม้ตายมือปีศาจไร้ลักษณ์ เขาสามารถเปลี่ยนมือปีศาจปล้นวิญญาณให้กลายเป็นมือภูตผีที่ไร้ตัวตน ด้วยวิธีนี้คลื่นเสียงของฟงจิวเก้อจะกลายเป็นไร้ประโยชน์ นอกจากนั้นท่าไม้ตายอมตะมือปีศาจไร้ลักาณ์ที่ปราศจากกายหยาบยังมีความรวดเร็วเหนือกว่า เมื่อเทพปีศาจปล้นสวรรค์ใช้สิ่งนี้ คู่ต่อสู้ของเขาสามารถทําได้เพียงมองวิญญาณอมตะของพวกเขาถูกขโมยไปทีละดวงเท่านั้น พวกเขาจะกระอักเลือดออกมาด้วยความโกรธและรู้สึกช่วยไม่ได้
แต่มือปีศาจปล้นวิญญาณของฟางหยวนเป็นเพียงร่องรอยแห่งความรุ่งโรจน์เล็กๆของเทพปีศาจจิตวิญญาณเท่านั้น
อย่างไรก็ตามมันก็ยังทําให้ฟงจิวเก้อผู้ยิ่งใหญ่รู้สึกกระวนกระวายใจและหลบหนีด้วยความวิตกกังวล
ฟางหยวนบังคับฟงจิวเก้อให้เคลื่อนย้ายสถานที่ไปรอบๆ แต่เขาไม่รู้สึกเย่อหยิ่งกับความสําเร็จ เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่า เพื่อคว้าความหวังที่จะได้รับชัยชนะ มีเพียงต้องสังหารฟงจิวเก้อและออกไปช่วยแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาอย่างเร่งด่วนที่สุดเท่านั้น
แต่ฟังจิวเก้อไม่ให้โอกาสฟางหยวน เขาเคยเป็นปีศาจอมตะที่สร้างความปั่นป่วนให้กับสิบนิกายโบราณของภาคกลาง เขามีประสบการณ์การต่อสู้มากมาย
อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปขีดจํากัดด้านเวลาของท่าไม้ตายอมตะทางผ่านแสงก็มาถึง
“โอกาสมาแล้ว!” ฟางหยวนรู้สึกทั้งกังวลและมีความสุข เขากังวลเพราะเขาเสียเวลาไปมากแต่ฟงจิวเก้อยังมีชีวิตอยู่ เขามีความสุขเพราะข้อบกพร่องของฟงจิวเก้อปรากฏขึ้นในที่สุด
หัวใจของฟงจิวเก้อจมดิ่งลง
ในอดีตการโจมตีที่รุนแรงของเขาทําให้ศัตรูหมดหนทาง หลังจากที่เขากลายเป็นคนมีชื่อเสียง เขาไม่เคยเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ผู้อมตะระดับเจ็ดไล่ล่าชีวิตเขา
ตอนนี้เมื่อเขาได้สัมผัสประสบการณ์นี้จากฟางหยวน ในที่สุดเขาก็จดจําจุดอ่อนของตนเองได้ นั่นคือวิธีการเคลื่อนไหว
เมื่อท่าไม้ตายอมตะทางผ่านแสงไม่สามารถใช้งาน ความเร็วของฟงจิวเก้อจะลดลงอย่างมาก ในไม่ช้าเขาจะถูกกองทัพบุตรแห่งภูตปิดล้อมและไม่สามารถหลบเลี่ยงการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างง่ายดายอีกต่อไป
ฟงจิวเก้อถูกบังคับให้ปกป้องตัวเอง แม้ท่าไม้ตายอมตะของเขาจะทรงพลังแต่กองทัพบุตรแห่งภูตมีมากเกินไปและยังพุ่งเข้ามาจากทุกทิศทาง
ฟางหยวนซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางพวกมันอย่างสมบูรณ์แบบ มือปีศาจปล้นวิญญาณพร้อมโจมตีทุกเมื่อที่ฟงจิวเก้อเผยช่องโหว่
แต่ในเวลานี้สนามรบราชันภูตกลับเกิดการสั่นสะท้านขึ้นอย่างกะทันหัน
“โอ้ ไม่!” การแสดงออกของฟางหยวนเปลี่ยนแปลงไป
“ท่านหญิงจื่อเว่ยต้องเป็นคนทําสิ่งนี้” ฟงจิวเก้อมีความสุขมาก
สนามรบราชันภูตสั่นสะเทือนแรงขึ้นเรื่อยๆ การเคลื่อนไหวของเทพธิดาจื่อเว่ยมีประสิทธิภาพสูงมาก
“เวลาสั้นๆแต่เทพธิดาจื่อเว่ยกลับสามารถถอดรหัสสนามรบราชันภูตของข้า ด้วยความเร็วนี้ สนามรบราชันภูตไม่สามารถอยู่ได้นานเกินสามสิบลมหายใจ ข้าต้องได้รับชัยชนะเดี๋ยวนี้!”
ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายด้วยความโหดเหี้ยม
ข้าเก็บสิ่งนี้ไว้สําหรับเทพธิดาจื่อเว่ยและคนอื่นๆ แต่ตอนนี้ข้าจะใช้มันกับเจ้าเป็นคนแรก!” ฟางหยวนไม่มีเวลาแล้ว หากสนามรบราชันภูตถูกทําลาย เขาจะเสียโอกาสสังหารฟงจิวเก้อ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจใช้ไพ่ตายใบนี้
ท่าไม้ตายอมตะระเบิดวิญญาณ!
มันยังเป็นการระเบิดวิญญาณ อย่างไรก็ตามฟางหยวนไม่ได้จุดชนวนบุตรแห่งภูตบรรพกาลแต่เป็นบุตรแห่งภูตแรกกําเนิด!
ฟางหยวนมีอสูรวิญญาณแรกกําเนิดสองตัว ก่อนหน้านี้เขาเปลี่ยนอสูรวิญญาณแรกกําเนิดทั้งสองตัวให้เป็นบุตรแห่งภูตเช่นกัน
นี่เป็นสิ่งที่ฟางหยวนเก็บเอาไว้เป็นไพ่ตาย
การระเบิดวิญญาณของบุตรแห่งภูตบรรพกาลมีพลังทําลายล้างระดับเจ็ดขณะที่การระเบิดวิญญาณของบุตรแห่งภูตแรกกําเนิดมีพลังทําลายล้างระดับแปด
แม้ฟางหยวนจะยังไม่ประสบความสําเร็จในการคิดค้นท่าไม้ตายอมตะตราประทับเหล่าโป แต่เขายังมีวิธีการโจมตีระดับแปดซ่อนอยู่!
“บึม!”
บุตรแห่งภูตแรกกําเนิดระเบิดวิญญาณ!
ฟงจิวเก้อถูกโจมตีโดยตรง
กระเด็น!
ในบางพื้นที่ของภาคกลาง ฟงจินฮวงตกอยู่ในความงุนงง ถ้วยชาในมือของนางตกลงบนพื้นและแตกเป็นเสี่ยงๆ
“หือ?” ราชันมังกรส่งสายตาถาม
ฟงจินฮวงจับหน้าอกของนางด้วยความไม่แน่ใจ เมื่อครู่นางรู้สึกราวกับหัวใจหล่นหายไปอย่างกะทันหัน