Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 1589 โจมตีเต็มกําลัง
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1589 โจมตีเต็มกําลัง
ในอดีตฟางหยวนต้องปกปิดและซ่อนตัวเอง แต่ตอนนี้ต่อหน้าผู้อมตะฝ่ายธรรมะของภาคใต้ มันไม่จําเป็นอีกต่อไป
การปรากฏตัวของฟางหยวนทําให้ผู้อมตะฝ่ายธรรมะของภาคใต้ตกตะลึง
ฟางหยวนเคยปลอมตัวเป็นวูอี้ไห่และได้รับผลประโยชน์มากมายในการต่อสู้ที่อาณาจักรแห่งความฝัน เขากลายเป็นผู้นํานิกายเงาและถูกไล่ล่าโดยฝ่ายธรรมะของภาคใต้แต่เขายังสามารถหลบหนี
การไล่ล่าของวังสวรรค์ไร้ประโยชน์
หลายเดือนก่อนฟางหยวนปรากฏตัวขึ้นที่ภาคใต้และสังหารผู้อมตะสองคนของตระกูลฮั่วและตระกูลเฉิง หากไม่ใช่เพราะผู้สืบทอดของเทพอมตะสวรรค์พิภพ กระทั่งไท่เมี่ยนเฉินก็ยังต้องตาย
หลังจากนั้นวังสวรรค์ส่งผู้อมตะระดับแปดจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าออกมา แต่ฟางหยวนยังสามารถจัดการนาง เขาขายกระดูกซี่โครงสามชิ้นของนางและแสดงฉากการต่อสู้ที่เขาทุบตีนางในสวรรค์สีเหลือง นั่นทําให้โลกสั่นสะเทือน ชื่อเสียงของฟางหยวนพุ่งทะยานขึ้นเหนือฟงจิวเก้อ เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดอันดับหนึ่ง ผู้อมตะส่วนใหญ่ตระหนักว่าแม้ฟางหยวนจะมีการบ่มเพาะระดับเจ็ด แต่เขาควรถูกปฏิบัติเหมือนผู้อมตะระดับแปด
นอกจากนี้ฟางหยวนยังเป็นปีศาจต่างโลกที่เดินทางมาจากอนาคตด้วยวิญญาณกาลเวลา เขาเป็นคนเจ้าเล่ห์และชั่วร้าย ผู้คนดูแคลนความไร้ยางอายของเขา แม้เขาจะเป็นผู้อมตะแต่เขากลับโจมตีมนุษย์ธรรมดา
ตอนนี้ฟางหยวนกลายเป็นเจ้าเหนือหัวบนเส้นทางสายปีศาจ
เมื่อบุคคลดังกล่าวปรากฏตัวขึ้น ช่วยไม่ได้ที่ผู้อมตะฝ่ายธรรมะของภาคใต้จะรู้สึกประหลาดใจ ตกใจ และตื่นตระหนก
“ท่านหยางชานมู่เสียสละตนเองอย่างกล้าหาญเพื่อฝ่ายธรรมะ วันหนึ่งเราจะทําให้เขาต้องชดใช้!” เซี่ยฟานกล่าวด้วยความโศกเศร้า
กลุ่มผู้อมตะเงียบ ไม่มีผู้ใดคิดว่ามันเป็นภาพลวงตา การปรากฏตัวของฟางหยวนทําให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัวอย่างรุนแรงและสงสารหยางชานมู่ เหตุใดเขาถึงโชคร้ายวิ่งเข้าไปหาฟางหยวน? เขาสามารถอยู่ในค่ายกลวิญญาณอมตะแต่เขากลับเลือกที่จะออกไป นี่ไม่ใช่การรนหาที่ตายงั้นหรือ?
แต่ความเงียบอยู่ได้ไม่นานเมื่อบางคนตะโกน “ฟางหยวนผู้นี้ยังดุร้ายเช่นเคย เขาล่อลวงท่านหยางซานมู่ออกไป โชคดีที่พวกเรามีท่านเซี่ยฟานและท่านจื่อชิวเป็นผู้นํา ภายใต้การนําของพวกท่าน พวกเราจะสามารถควบคุมสถานการณ์ ป้องกันอาณาเขตของเราและไม่ปล่อยให้วายร้ายผู้นี้เข้ามา!”
กลุ่มผู้อมตะมีการแสดงออกที่แตกต่างกัน บางคนต้องการกล่าวบางสิ่งแต่ในจังหวะนี้ค่ายกลวิญญาณอมตะทั้งหมดกลับสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
นอกค่ายกลวิญญาณอมตะ มังกรดาบบรรพกาลจํานวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้ามาราวกับฝนดาวตก
ใบหน้าของกลุ่มผู้อมตะภาคใต้กลายเป็นซีดขาวเพราะแสงสะท้อนจากเกล็ดสีเงินของหมื่นมังกร
แม้พวกเขาจะได้รับการคุ้มครองจากค่ายกลวิญญาณอมตะ พวกเขาก็ยังรู้สึกราวกับตัวเองตัวเล็กจิ๋วและอ่อนแอมาก
หมื่นมังกรของฟางหยวนมีพลังไม่มากไปกว่าก่อนหน้า แต่ด้วยการคงอยู่ของวิญญาณอมตะหมื่นตัวตน มันง่ายที่จะใช้งาน ขั้นตอนลดลงขณะที่โอกาสประสบความสําเร็จเพิ่มสูงขึ้น ตอนนี้ฟางหยวนสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะหมื่นมังกรได้ห้าหรือหกครั้งในการโจมตีเดียว
ฟางหยวนส่งกองทัพมังกรดาบบรรพกาลจํานวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าโจมตีค่ายกลวิญญาณอมตะอย่างไม่หยุดยั้ง
เกิดการระเบิดขึ้นอย่างต่อเนื่องขณะที่ระลอกคลื่นสีขาวกระจายออกจากค่ายกลวิญญาณอมตะราวกับคลื่นยักษ์และพยายามปิดกั้นการโจมตีของกองทัพมังกรดาบบรรพกาล
“น่าสนใจ” ฟางหยวนสังเกตสนามรบอย่างระมัดระวัง ค่ายกลวิญญาณอมตะสั่นสะเทือนแต่รากฐานของมันยังมั่นคง
“เรามีค่ายกลวิญญาณอมตะ เราสามารถต่อต้านได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง” ผู้อมตะภาคใต้กล่าวด้วยความไม่แน่ใจขณะมองไปที่จื่อชิว
ดวงตาของจื่อชิวส่องประกายขึ้น ตอนนี้ค่ายกลวิญญาณอมตะยังสามารถปกป้องพวก
เขาแต่…
อีกฝ่ายคือฟางหยวน!
ปีศาจอมตะที่กระทั่งวังสวรรค์ก็ไม่สามารถจัดการแม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนานแล้วก็ตาม
“ทุกคน ขอความช่วยเหลือจากตระกูลของพวกเจ้า บอกพวกเขาว่าฟางหยวนอยู่ที่นี่ พวกเจ้าคิดว่าค่ายกลวิญญาณอมตะนี้จะปิดกั้นคนเช่นนี้ได้งั้นหรือ?” จื่อชิวถอนหายใจ
เมื่อได้ยินคํากล่าวของจื่อชิว ทุกคนเร่งขอกําลังเสริมทันที
ก่อนหน้านี้ฟางหยวนยังไม่ได้เปิดเผยตัวตน เขาเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ด แล้วผู้อมตะภาคใต้เหล่านี้จะกล้าขอกําลังเสริมได้อย่างไร? พวกเขาเพียงรายงานการต่อสู้ไปตามปกติเท่านั้น
อย่างไรก็ตามเมื่อฟางหยวนเปิดเผยตัวตน ผู้อมตะเหล่านี้จึงกล้าขอกําลังเสริมอย่างเปิดเผย
“โฮก…”
มังกรดาบบรรพกาลคํารามและโจมตีขณะที่ค่ายกลวิญญาณอมตะปิดกั้นด้วยพลังทั้งหมดของมัน
“ป้องกัน! แม้ตาย เราก็ต้องหยุดเขา!”
“ทิศตะวันตกแนวป้องกันถูกทําลายแล้ว ซ่อมแซมมันเร็วเข้า!”
“ข้าเหลือพลังงานอมตะไม่เพียงพอ ผู้ใดก็ได้มาแทนที่ข้าเร็ว!”
กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ปิดกั้นการโจมตีของฟางหยวนด้วยความสิ้นหวัง เนื่องจากแรงกดดันจากฟางหยวน กลุ่มผู้อมตะเหล่านี้จึงหยุดคิดร้ายต่อกันและรวมใจเป็นหนึ่ง
จื่อชิวพยายามซ่อมแซมค่ายกลวิญญาณอมตะขณะที่เซี่ยฟานพยายามอนุมานจุดอ่อนของท่าไม้ตายอมตะหมื่นมังกร
ผู้อมตะระดับเจ็ดทั้งสองอยู่ในสภาพที่น่าอนาถโดยไม่ต้องกล่าวถึงกลุ่มผู้อมตะระดับหก
ด้านนอกค่ายกลวิญญาณอมตะ ร่างจริงของฟางหยวนเฝ้ามองการต่อสู้อยู่อย่างสงบ
หลังจากได้รับวิญญาณอมตะหมื่นตัวตน ท่าไม้ตายอมตะหมื่นมังกรใช้งานได้สะดวกมาก มันไม่ใช่วิธีการที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาอีกต่อไปแต่มันเป็นท่าไม้ตายอมตะที่สามารถใช้ได้ในสถานการณ์ทั่วไป
ท่าไม้ตายอมตะที่ทรงพลังที่สุดของฟางหยวนในเวลานี้คือการระเบิดวิญญาณของบุตรแห่งภูตแรกกําเนิด แต่ตอนนี้เขาไม่เหลืออสูรวิญญาณแรกกําเนิดที่สามารถใช้งานได้ ก่อนหน้านี้เขาใช้มันโจมตีฟงจิวเก้อรวมถึงจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาโดยหวังที่จะสังหารคนทั้งสอง แต่การโจมตีทั้งสองครั้งกลับไม่ประสบความสําเร็จ
สําหรับการระเบิดวิญญาณบุตรแห่งภูตบรรพกาล มันมีพลังใกล้เคียงกับท่าไม้ตายอมตะหมื่นมังกร แต่เมื่อมันอยู่ในเขตแดนอมตะสนามรบราชันภูต พลังอํานาจของมันจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
พลังอํานาจของฟางหยวนในปัจจุบันเพิ่มขึ้นแล้ว ตอนนี้เขาสามารถปราบปรามผู้อมตะภาคใต้และทําให้ฝ่ายหลังต้องป้องกันตัวเท่านั้น
อย่างไรก็ตามฟางหยวนยังขมวดคิ้วบาง
การโจมตีครั้งนี้ใช้เวลาค่อนข้างนาน เขาต้องการเวลามากกว่านี้เพื่อทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะนี้
ฟางหยวนยังมีสามวิธีที่เหลืออยู่ แต่เกราะหวนคืนไม่มีประโยชน์ ท่าไม้ตายอมตะนําวิญญาณสู่ความฝันเป็นการโจมตีดวงวิญญาณแต่ผู้อมตะภาคใต้ซ่อนตัวอยู่ในค่ายกลวิญญาณอมตะ สําหรับมือปีศาจปล้นวิญญาณ มันไม่สามารถทะลวงเข้าไปในค่ายกลวิญญาณอมตะ
“ท่านจื่อชิวหยู่!” ขวัญกําลังใจของกลุ่มผู้อมตะภาคใต้พุ่งสูงขึ้นเมื่อผู้อมตะระดับแปดของตระกูลจื่อลอบเดินทางมาอย่างลับๆ
“ผู้ใดจะคิดว่าค่ายกลวิญญาณอมตะนี้จะมีประตูหลังซ่อนอยู่ มันทําให้ผู้อมตะระดับแปดเดินทางมาที่นี้ได้โดยตรง! ตระกูลทุ่มเทกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก!” จื่อชิวลอบยกย่องอยู่ในใจ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าประตูที่ซ่อนอยู่ในค่ายกลวิญญาณอมตะนี้จะทําให้ตระกูลจื่อได้รับประโยชน์เป็นอย่างมากจากอาณาจักรแห่งความฝัน
เมื่อฟางหยวนบุกโจมตีที่นี่ จื่อชิวหยูตัดสินใจเปิดเผยไพ่เด็ดที่ซ่อนไว้ใบนี้ออกมาทันที
“ควบคุมค่ายกลวิญญาณอมตะต่อไป ข้าจะล่อปีศาจตนนี้ให้เข้ามาในกับดักของข้า” จื่อชิวหยูยิ้ม
ฟางหยวนมีสมบัติมากมายอยู่กับตัว หากจื่อชิวหยูสามารถใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะจับหรือฆ่าฟางหยวน ไม่เพียงเขาจะได้รับของขวัญมากมายแต่เขายังสามารถยกระดับชื่อเสียงของตนเองและตระกูลจื่อจนถึงขีดสุด
แม้ฟางหยวนจะประสบความสําเร็จเป็นอย่างมาก แต่อชิวหยูเป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งค่ายกลที่มีการบ่มเพาะระดับแปด เขามั่นใจในความสําเร็จของตน หลังจากเรียนรู้เรื่องนี้ เขาตัดสินใจมาที่นี่เพื่อเอาชีวิตฟางหยวน สําหรับผู้อมตะระดับแปดคนอื่นๆของภาคใต้ พวกเขาไม่สามารถเดินทางมาที่นี่ได้ในทันที
การปรากฏตัวของจื่อชิวหยูทําให้กลุ่มผู้อมตะภาคใต้มีความมั่นใจมากขึ้น พวกเขาพยายามต่อต้านฟางหยวนอย่างเต็มที่
แต่เพียงเมื่อพวกเขากําลังจะประสบความสําเร็จ ฟางหยวนกลับหยุดโจมตีและจากไปด้วยวิญญาณท่องแดนอมตะ
“เขาตระหนักถึงการคงอยู่ของข้างั้นหรือ?” จื่อชิวหยูขมวดคิ้ว แต่ด้วยค่ายกลวิญญาณอมตะที่เขาสร้างขึ้นด้วยตนเอง เขามั่นใจว่ามันจะไม่เปิดเผยสิ่งใดออกไป แล้วเหตุใดฟางหยวนถึงล่าถอย?
“ที่นี่คือทะเลสาบสัมผัสใจงั้นหรือ?” แสงสีเขียวหยกส่องประกายระยิบระยับก่อนที่ฟางหยวนจะปรากฏตัวขึ้นบนท้องฟ้า
เขามองลงไปเพื่อพบกับภูเขาที่ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกหนาทึบ
ฟางหยวนสูดหายใจลึกก่อนจะใช้ท่าไม้ตายอมตะหมื่นมังกรอีกครั้ง
กองทัพมังกรดาบบรรพกาลพุ่งลงไปขณะที่กลุ่มเมฆหมอกลอยขึ้นมาปะทะกับมัน
แต่ในไม่ช้ากลุ่มเมฆหมอกก็ไม่สามารถต่อต้านกองทัพมังกรดาบบรรพกาลของฟางหยวนและกระจายหายไป
ภูมิประเทศที่แท้จริงถูกเปิดเผย
ทะเลสาบสีน้ำเงินเข้มตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาสีเขียวอันเงียบสงบ มีหินทรงกลมสีขาวบริสุทธิ์เรียงซ้อนกันอยู่ริมทะเลสาบ
บนผิวน้ำมีวิญญาณสัมผัสใจบนเส้นทางแห่งปัญญาลอยอยู่เป็นจํานวนมาก นอกจากนี้ยังมีกลิ่นอายของผู้อมตะระดับหกของตระกูลจื่อถูกทิ้งไว้อย่างชัดเจน
ฟางหยวนไม่ได้ไล่ล่าพวกเขา เขามองไปที่ทะเลสาบสัมผัสใจและเริ่มปล้น!
ข่าวการปล้นแหล่งทรัพยากรของตระกูลจื่อไปถึงจุอชิวหยูในไม่ช้า แม้ทะเลสาบสัมผัสใจจะมีค่ายกลวิญญาณอมตะปกป้องอยู่ แต่การป้องกันของมันไม่แข็งแกร่งนัก ฟางหยวนสามารถทําลายมันได้อย่างง่ายดาย