Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 1615 ก้าวต่อไป
บทที่ 1615 ก้าวต่อไป
มิติช่องว่างจักรพรรดิ์
ท่าไม้ตายอมตะค้นวิญญาณ!
พลังอํานาจลึกลับพุ่งเข้าสู่ดวงวิญญาณของเซี่ยชา แต่ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของนาง ยังขัดขวางการค้นวิญญาณของฟางหยวน
แต่ฟางหยวนไม่ยอมแพ้ เขายังกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะค้นวิญญาณอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเวลาผ่านไปท่าไม้ตายอมตะค้นวิญญาณของฟางหยวน ก็ค่อยๆทําลายการป้องกันของนาง และบุกเข้าไปได้ในที่สุด
ฟางหยวนเริ่มดูดซับบข้อมูลจํานวนมหาศาลอย่างตะกละตะกลาม แต่ร่องรอยของพลังงาน แห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งกาลเวลายังไม่ยอมแพ้ มันพยายามกีดขวางอย่างเต็มที่และกระทั่งแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้า
ท่าไม้ตายอมตะค้นวิญญาณของฟางหยวนหยุดลง
“เซียชาผู้นี้สมกับเป็นผู้อมตะระดับแปด นางมีรากฐานที่แข็งแกร่ง กระทั่งดวงวิญญาณของนางก็ยังได้รับการปกป้องด้วยวิธีบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่สามารถต่อต้านท่าไม้ตายอมตะ ค้นวิญญาณระดับเจ็ด
“การป้องกันของนางยังสามารถฟื้นฟูและตอบโต้ มันช่างวิเศษนัก”
หลังจากแยกดวงวิญญาณออกจากร่างเชลย ภัยคุกคามของผู้อมตะเหล่านี้ลดน้อยลงอย่างมาก
ดวงวิญญาณของไทซิ่วจง เฉิงหูจาง และคนอื่นๆไม่มีปัญหา ฟางหยวนสามารถดึงความทรงจําของพวกเขาออกมาได้ทั้งหมด
แต่เขาพบปัญหาบางอย่างกับหยางกู้ที่เป็นผู้อมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ โดยธรรมชาติแล้วเขาย่อมมีวิธีต่อต้านการค้นวิญญาณ
อย่างไรก็ตามการค้นวิญญาณของหลิวห่าวกลับยิ่งยากลําบากมากกว่า
ดวงวิญญาณของหลิวห่าวถูกดัดแปลงโดยวังสวรรค์ มันมีการป้องกันที่ถูกจัดตั้งไว้เป็นชั้นๆ
แต่คนทั้งสองยังถูกค้นวิญญาณโดยฟางหยวนในที่สุด
หากภูเขาตงฮันและหุบเขาเหล่าโปเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ของการบ่มเพาะจิตวิญญาณ มรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจ จิตวิญญาณก็คือคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์บนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณอันดับหนึ่งของโลกใบนี้
นั่นทําให้ฟางหยวนสามารถเรียนรู้ตัวตนของหลิวห่าวที่เป็นสายลับของวังสวรรค์
อย่างไรก็ตามดวงวิญญาณของเซี่ยชากลับมีปัญหามากที่สุด
ดวงวิญญาณของนางเต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า บนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่ก่อตัว เป็นปราการป้องกันการโจมตีจากภายนอก
แน่นอนว่าการค้นวิญญาณของฟางหยวนคือการโจมตีและเป็นอันตรายต่อเซี่ยชา
แม้ฟางหยวนจะใช้วิธีการทั้งหมดแต่การค้นวิญญาณของเซี่ยชายังมีปัญหา เขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อเปิดช่องโหว่และดึงความทรงจําของนางออกมาทีละน้อยทีละน้อย
โชคดีที่ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของเซี่ยชาไม่เพิ่มขึ้น นั่นทําให้ฟางหยวนมีโอกาสในการโจมตีครั้งต่อไป
ดวงวิญญาณของคนอื่นๆถูกขุดค้นอย่างสมบูรณ์แล้ว ตอนนี้เหลือเพียงเซี่ยชาผู้เดียวเท่านั้น
ฟางหยวนยุ่งอยู่กับดวงวิญญาณของเซี่ยชา ขณะที่ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของเขาเข้าไปในมิติช่องว่างของผู้อมตะคนอื่นๆโดยใช้วิญญาณท่องแดนอมตะ
ฟางหยวนได้รับข้อมูลจากการค้นวิญญาณ เขารู้จักภูมิประเทศภายในมิติช่องว่างของคนเหล่านั้นเป็นอย่างดีและสามารถใช้วิญญาณท่องแดนอมตะเข้าสู่มิติช่องว่างของพวกเขาได้โดยตรง
นอกจากนี้ฟางหยวนยังตระหนักถึงทรัพยากรที่ซ่อนอยู่ในมิติช่องว่างของพวกเขา
มิติช่องว่างเป็นสิ่งสําคัญในการบ่มเพาะของผู้อมตะ ผู้อมตะเหล่านี้เป็นตัวตนระดับสูงของภาคใต้ รากฐานของพวกเขาเหนือกว่าผู้อมตะทั่วไปอย่างไม่สามารถเปรียบเทียบ
แต่ผู้อมตะเหล่านี้จะถูกปล่อยตัวในที่สุด
หลังจากทั้งหมดการกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขามีประโยชน์น้อยกว่าการรีดไถทรัพยากรจากกองกําลังใหญ่เหล่านั้น
การเพิ่มขึ้นของพลังงานแห่งเต๋าเป็นการเพิ่มรากฐานและสร้างอนาคตที่สดใส
แต่ไม่ว่าอนาคตจะสดใสเพียงใด หากไม่สามารถก้าวข้ามอุปสรรค์ในปัจจุบัน มันก็ไร้ประโยชน์
อุปสรรค์ในปัจจุบันคือวิญญาณชะตากรรม กล่าวให้ชัดเจนมากขึ้นคือเขาต้องหยุดวังสวรรค์ จากการซ่อมแซมวิญญาณชะตากรรม
แต่ฟางหยวนไม่มีความคืบหน้าในเรื่องนี้ ปัจจุบันเขาต้องหลบหนีการไล่ล่าของวังสวรรค์ ขณะที่วิญญาณชะตากรรมได้รับการคุ้มครองอยู่ในส่วนลึกของวังสวรรค์ การหยุดการซ่อมแซมวิญญาณชะตากรรมของวังสวรรค์เกินความสามารถของฟางหยวน
ดังนั้นฟางหยวนจึงต้องหาวิธีเข้าสู่สายธารแห่งกาลเวลาเพื่อรับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง
ในประวัติศาสตร์ สามเทพปีศาจบุกโจมตีวังสวรรค์ แต่มีเพียงเทพปีศาจบัวแดงเท่านั้นที่สามารถทําลายวิญญาณชะตากรรม แม้เขาจะไม่สามารถทําลายมันได้อย่างสมบูรณ์ แต่เขายังทําให้วิญญาณชะตากรรมได้รับบาดเจ็บสาหัส ด้วยเหตุนี้มันจึงมีความเป็นไปได้ที่มรดกของเทพปีศาจบัวแดง จะมีวิธีทําลายวิญญาณชะตากรรม
เพื่อรับสืบทอดมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงและไม่ถูกสังหารโดยวังสวรรค์ระหว่างกระบวนการนี้ ฟางหยวนต้องเพิ่มความแข็งแกร่งบนเส้นทางแห่งกาลเวลาให้กับตนเอง วิธีการบนเส้นทางสายอื่นจะอ่อนแอลงและไม่มีประโยชน์ในสายธารแห่งกาลเวลา
ไม่ว่าจะเป็นสระแก่นแท้ปี คฤหาสน์วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา และอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ฟางหยวนต้องเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากกองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้โดยใช้เชลยอมตะเป็นเครื่องมือ
หลายวันต่อมาในมิติช่องว่างจักรพรรดิ
“โฮก…”
บนท้องห้าของภาคใต้น้อย มังกรหินคํารามเสียงดัง
ภายใต้การควบคุมของฟางหยวน มังกรหินตัวนี้ก็เจาะลึกลงไปใต้พื้นดิน
ฟางหยวนถอนหายใจ “ในที่สุดการขุดสายแร่ก็เสร็จสิ้น”
มังกรหินตัวนี้ไม่ใช่มังกรหินของเผ่ามนุษย์หิน แต่เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากสายแร่ นี่เป็นสายแร่ที่เกิดขึ้นจากทรัพยากรอมตะระดับเจ็ดหินหมึก ฟางหยวนน้ํามันออกมาจากมิติช่องว่างของผู้อมตะภาคใต้ที่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งปฐพี
สําหรับวิธีย้ายสายแร่ขนาดใหญ่ มันมีอยู่ในมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจจิตวิญญาณ แต่วิญญาณอมตะและท่าไม้ตายอมตะที่ฟางหยวนใช้มาจากเชลย
เชลยผู้นี้เคยย้ายสายแร่หมึกดําจากโลกภายนอกไปยังมิติช่องว่างของเขา ฟางหยวนเพียงเลียนแบบเขาเท่านั้น
“ด้วยสายแร่หมึกดํา ข้าจะสามารถสกัดมันออกมาทุกปีและขายมันในสวรรค์สีเหลือง”
มันทํากําไรไม่มากแต่เป็นแหล่งรายได้ที่มั่นคง
สายแร่หมึกดําจะขยายตัวโดยการดูดซับปราณพิภพ ตราบเท่าที่ฟางหยวนสกัดหินหมึกดําออกมาเพียงบางส่วน เขาจะได้รับหินหมึกดําอย่างต่อเนื่อง
แม้หินหมึกดําจะมีราคาไม่สูงนักหากเปรียบเทียบกับทรัพยากรอมตะระดับเจ็ดชนิดอื่น แต่มันก็ยังเป็นทรัพยากรอมตะระดับเจ็ดมูลค่าของมันไม่สามารถมองข้าม
“บางทีข้าอาจย้ายเผ่ามนุษย์หินมาอยู่ใกล้ๆกับสายแร่หมึกดํา” ฟางหยวนเกิดแรงบันดาลใจ
สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเผ่ามนุษย์หิน
ยิ่งสายแร่มีคุณภาพสูงเท่าใด มันก็ยิ่งมีประโยชน์มากขึ้นสําหรับการให้กําเนิด การอยู่อาศัย และความแข็งแกร่งของเผ่ามนุษย์หิน สิ่งที่ยอดเยี่ยมกว่านั้นก็คือเผ่ามนุษย์หินยังสามารถหล่อเลี้ยงสายแร่เหล่านั้นและทําให้พวกมันบริสุทธิ์มากขึ้น
นี่คือสถานการณ์ที่ได้รับผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
ฟางหยวนครุ่นคิดก่อนจะตัดสินใจย้ายที่อยู่ของเผ่ามนุษย์หิน
ผลกําไรของหินหมึกดําไม่มีความสําคัญกับเขา สิ่งที่เขาสนใจมากกว่าคือผลประโยชน์ในอนาคตที่เผ่ามนุษย์หินจะมอบให้เขา
นอกจากสายแร่หมึกดํา ฟางหยวนยังนําภูเขาอีกหลายสิบลูกจากมิติช่องว่างของเชลยมาวางไว้ที่ภาคใต้น้อย
พวกมันเป็นภูเขาธรรมดาแต่เต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งปฐพี นี่ถือเป็นขุมสมบัติ
นอกจากนี้ยังมีภูเขาบางลูกที่มีชื่อเสียง
ตัวอย่างเช่นภูเขาฝนลี้ลับ
ภูเขาลูกนี้ปกคลุมไปด้วยเมฆสีดํา และมีฝนโปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่อง
ฝนที่โปรยปรายลงมาไม่ใช่น้ําฝนทั่วไป แต่เป็นทรัพยากรอมตระระดับหก
ตัวอย่างต่อไปคือภูเขาผนึกทองแดง
ภูเขาลูกนี้เป็นสีทองแดงและรูปร่างเป็นทรงลูกบาศก์สี่เหลี่ยมจตุรัส มันเหมือนกล่องขนาดใหญ่ที่วางอยู่ในภาคใต้น้อย
ภูเขาผนึกทองแดงไม่มีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งปฐพี มันถูกสร้างขึ้นจากทองแดงทุกประเภทตั้งแต่ทองแดงระดับมนุษย์เช่นทองแดงสวรรค์พิโรธ ทองแดงศักดิ์สิทธิ์ ทองแดงบัวหิมะ ตลอดไปถึงทองแดงระดับอมตะเช่นทองแดงบรรพกาลและทองแดงมังกรบิน
ทองแดงระดับมนุษย์มีมากที่สุดขณะที่ทองแดงระดับอมตะมีเพียงเล็กน้อย แต่มันยังมีทองแดงระดับเจ็ดที่เรียกว่าทองแดงจักรพรรดิอยู่บ้าง
ภูเขา สายแร่ และป่าไม้ ทรัพยากรเหล่านี้ถูกขโมยมาจากมิติช่องว่างของผู้อมตะภาคใต้ ทรัพยากรส่วนใหญ่ถูกย้ายมายังภาคใต้น้อยเนื่องจากสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
ทรัพยากรส่วนที่เหลือถูกแบ่งไปยังอีกสีภูมิภาคและเก้าสวรรค์
ตัวอย่างเช่นภาคกลางน้อยมีสวนดอกไม้เงาปลูกอยู่ในดินชาวนาอมตะ
ภาคเหนือน้อยมีเสาวายุสวรรค์ขนาดใหญ่ที่ปลดปล่อยกระแสลมออกไปรอบๆ
ทะเลตะวันออกน้อยมีทะเลแห่งใหม่ มันคือทะเลคลื่นบุปผา มันเป็นทะเลที่เต็มไปด้วยคลื่น และดอกไม้ที่เติบโตขึ้น ฟางหยวนค่อนข้างแปลกใจที่ได้รับสิ่งนี้มาจากอี้หยางที่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ
ทะเลทรายตะวันตกน้อยมีต้นชบายักษ์หลายสิบต้น ไม่ว่าจะเป็นกิ่งก้านหรือใบ พวกมันล้วนเป็นทรัพยากรอมตะ
มิติช่องว่างจักรพรรดิใหญ่โตเกินไป ก่อนหน้านี้การพัฒนามิติช่องว่างจักรพรรดิอยู่ที่สามถึงสี่ในร้อยส่วนเท่านั้น เมื่อเพิ่มทรัพยากรเหล่านี้เข้ามา มันพัฒนาไปถึงแปดหรือเก้าในร้อยสวน ยังมีทรัพยากรอีกมากที่เหลืออยู่ในมิติช่องว่างของผู้อมตะภาคใต้และถ้ําสวรรค์ของเซี่ยชา หากนําทุกสิ่งออกมา มิติช่องว่างจักรพรรดิจะพัฒนาได้ถึงสิบในร้อยส่วน” ฟางหยวนถอนหายใจ
แหล่งทรัพยากรทั้งหมดมีทั้งแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่และแหล่งทรัพยากรขนาดเล็ก พวกมันต่างเป็นแหล่งรายได้หลักของผู้อมตะเหล่านั้น
เวลานี้วังสวรรค์เริ่มดําเนินแผนการของพวกเขาในสวรรค์สีเหลืองแล้วโดยการวางขายปลามังกรทองแดง ปลามังกรเหล็กไหล และปลามังกรเงินด้วยราคาที่ลดต่ําลงอย่างมาก สิ่งนี้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจปลามังกรของฟางหยวน
แต่แล้วอย่างไร?
แหล่งทรัพยากรที่ฟางหยวนได้รับมาใหม่เหล่านี้สามารถสนับสนุนการบ่มเพาะของเขาได้อย่างไม่มีปัญหา