Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 1624 นี่คือกับดัก
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1624 นี่คือกับดัก
ทางเข้ามิติช่องว่างยังเปิดกว้างแต่ระดับการดูดซับปราณสวรรค์พิภพลดลงแล้ว
“เกิดสิ่งใดขึ้น? ศัตรูอยู่ตรงหน้าแต่พวกเจ้ายังลังเลอยู่อีกงั้นหรือ?” ผู้อมตะตระกูลไท่ตะโกนเสียงดัง
หลายคนเริ่มหน้าแดงด้วยความละอายใจ จากนั้นบางคนจึงเปิดปากตะโกน “บุกเข้าไปกันเถอะ!”
“ฟางหยวนกําลังเผชิญหน้ากับภัยพิบัติ เราจะชนะการต่อสู้ครั้งนี้ ผู้ใดที่วิ่งหนีจะเป็นความอับอายของฝ่ายธรรมะของภาคใต้!”
“ถูกต้อง พุ่งเข้าไปในมิติช่องว่างของฟางหยวน แม้ตาย เราก็ต้องทําให้แน่ใจว่าปีศาจตนนี้จะพบการสูญเสียครั้งใหญ่!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า เหตุใดถึงมองโลกในแง่ร้ายนัก ปีศาจตนนี้รีดไถทรัพยากรมากมาย มิติช่องว่างของเขาต้องเต็มไปด้วยสมบัติ ยังไม่ต้องกล่าวถึงแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพ!”
“ผู้อมตะของตระกูลข้ายังถูกจองจําอยู่ ข้าสงสัยว่าเขานําเชลยไปไว้ที่ใด”
“ข้าตรวจสอบแล้ว ไม่มีค่ายกลวิญญาณอมตะอยู่รอบตัวพวกเรา” ฮั่วจื่อเสวียกล่าวด้วยความมั่นใจขณะลูบศีรษะวานรแปดหู
จิตใจของกลุ่มผู้อมตะภาคใต้สงบลงอย่างรวดเร็ว
ค่ายกลวิญญาณอมตะของฟางหยวนทําให้ฝ่ายธรรมะของภาคใต้พบความสูญเสียครั้งใหญ่ เมื่อไม่มีปัญหานี้ ขวัญกําลังใจของพวกเขาจึงพุ่งสูงขึ้น
พวกเขาพุ่งเข้าสู่มิติช่องว่างที่ละคน
“ครืน”
เป็นเพียงเวลานี้ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างกะทันหัน
แสงระยิบระยับส่องประกายขึ้นขณะที่ผู้อมตะภาคใต้จํานวนมากถูกจับโดยไม่ทันตั้งตัว วิสัยทัศน์ของพวกเขาถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีขาวและทําให้พวกเขาสูญเสียการมองเห็นไปชั่วครู่
กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ตกตะลึง พวกเขาพยายามปกป้องตนเองด้วยความตื่นตระหนกขณะเดียวกันก็พยายามโจมตีไปที่จุดศูนย์กลางของแสงสว่าง
อย่างไรก็ตามคนที่อยู่ภายในแสงสว่างไม่ใช่ฟางหยวนแต่เป็นจวินเฉินกวง!
เขาโกรธมาก “ท่าไม้ตายของข้าท่านี้คือแสงกะทันหัน มันจะทํางานด้วยตัวของมันเองเมื่อข้าตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน แสงกะทันหันทํางานเมื่อข้าพยายามลอบเข้าสู่มิติของว่างของฟางหยวน เกิดสิ่งใดขึ้น? ยังมีกับดักซ่อนอยู่งั้นหรือ?”
เขาเป็นผู้อมตะระดับแปด เขาเร่งล่าถอย ขณะเดียวกันเขาก็ต้องปิดกั้นการโจมตีของกลุ่มผู้อมตะภาคใต้
“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้ามีวิธีการที่ยอดเยี่ยม แต่เมื่อเจ้ามาถึงแล้ว เหตุใดต้องรีบจากไป?” เสียงหัวเราะของฟางหยวนดังเข้าสู่จวินเฉินกวง
หัวใจของจวินเฉินกวงสั่นสะท้านขึ้น เขากรีดร้อง “โอ้ ไม่!”
เขาสัมผัสได้ถึงแรงดึงดูดมหาศาลที่ดึงเขาเข้าสู่มิติช่องว่างของฟางหยวน
ทันใดนั้นความสงสัยของจวินเฉินกวงก็หายไปอย่างสมบูรณ์ เขาแน่ใจแล้วว่านี่คือกับดักของฟางหยวน!
จวินเฉินกวงคําราม เขากระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายอมตะอย่างบ้าคลั่งโดยไม่สนใจฟันเฟือนจากเทือกเขาห้าภูมิภาค
จวินเฉินกวงพยายามหลบหนีออกจากสนามรบ แต่กระทั่งเขาจะประสบความสําเร็จในการกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตาย แต่ความเร็วของเขากลับช้าเหมือนหอยทากหรือเต่า
“บัดซบ! นี่เป็นวิธีการบนเส้นทางแห่งกาลเวลา!”
จวินเฉิงกวงบอกได้ทันทีว่ามันเป็นวิธีบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่ทําให้เขาช้าลงเกือบร้อยเท่า
จวินเฉิงกวงตกใจมาก “ข้าคือผู้อมตะระดับแปดที่มีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ระดับแปด เหตุใดข้าจึงช้าลงถึงระดับนี้? วิธีการบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนอยู่ในระดับแปด นี่อยู่นอกเหนือจากข้อมูลทั้งหมด เขาบรรลุสิ่งนี้ได้อย่างไร?
“เกิดสิ่งใดขึ้น?”
“ข้าถูกโจมตี!”
“เวลาข้ามาก มันเหมือนข้าติดอยู่ในโคลนดูด คิดหาวิธีเร็วเข้า!”
เช่นเดียวกับจวินเฉิงกวง กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน
“ฮ่าฮ่าฮ่า พวกเจ้ามาโดยไม่ได้รับเชิญ ข้าควรตอบแทนความกระตือรืนร้นของพวกเจ้าเป็นร้อยเท่า” ฟางหยวเข้าสู่สนามรบ
พวกเขาเห็นผู้อมตะชุดคลุมขาว เส้นผมสีดําปลิวไปตามสายลม ใบหน้าหล่อเหลาจนถึงขั้นงดงาม ดวงตาที่ดูราวกับขุมนรกทั้งเยือกเย็นและเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร
ทุกคนคุ้นเคยกับรูปลักษณ์นี้เป็นอย่างดีและมันก็ทําให้ร่างกายของพวกเขาเริ่มสั่นสะท้านในขณะที่ใบหน้ากลายเป็นซีดขาวด้วยความหวาดกลัว
บางคนตะโกนเสียงสั่น “ฟางหยวน!”
ฟางหยวนเพิกเฉยต่อผู้อมตะระดับเจ็ดแต่มองไปที่จวินเฉินกวง
ใบหน้าของจวินเฉินกวงกลายเป็นแดง เขากําลังใช้พลังทั้งหมดเพื่อต่อต้านวิธีการบนเส้นทางแห่งกาลเวลา
ฟางหยวนยิ้มและค่อยๆยกฝ่ามือข้างซ้ายขึ้น
มือของเขางดงามราวกับดอกบัวหยกที่กําลังเบ่งบาน
กลิ่นอายของวิญญาณจํานวนมากควบแน่นจนกลายเป็นเงาร่างที่ดูเหมือนหุบเขาเหล่โปอยู่กลางฝ่ามือของฟางหยวน
ความรู้สึกของจวินเฉินกวงส่งสัญญาณเตือนภัยอย่างบ้าคลั่ง ความรู้สึกอันตรายที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนเข้าครอบงําร่างกายและจิตใจของเขา ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความประหม่า
ท่าไม้ตายนี้น่ากลัวเกินไป! ความรู้สึกของข้าไม่ผิด ข้าจะไม่รอดหากถูกโจมตีด้วยท่าไม้ตายนี้! หนี ข้าต้องหนี!”
ใบหน้าของจวินเฉิงกวนไม่เหลือความสง่างามใดอยู่อีก
ท่าไม้ตายอมตะแสงเทพสุริยัน!
เขาใช้ท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งที่สุดของตนออกมาทันที ร่างกายของเขาปลดปล่อยแสงสีขาวออกมาราวกับดวงอาทิตย์
ไม่ว่าแสงสีขาวจะเคลื่อนที่ไปที่ใด วิธีการของฟางหยวนก็จะพังทลายลง
กระทั่งเทือกเขาห้าภูมิภาคยังสั่นสะเทือนและเริ่มพังทลาย
ท่าไม้ตายอมตะแสงเทพสุริยันส่งผลกระทบต่อทุกสนามรบ
ผู้อมตะระดับแปดของภาคใต้ที่ต่อสู้กับอสูรปีแรกกําเนิดถูกรบกวนอย่างหนักจากสิ่งนี้
“ผู้อมตะระดับแปดของภาคกลาง?”
“อืม นี่เป็นคนของวังสวรรค์!”
เมื่อแสงสีขาวหายไป ผู้อมตะทั้งหมดก็กรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ
“เดี๋ยว! นั่นมิติช่องว่าง…นั่นคือมิติช่องว่างของผู้อมตะตระกูลข้า!”
“อันใด? มันไม่ใช่มิติช่องว่างของฟางหยวนงั้นหรือ?” ทุกคนรู้สึกหวาดกลัว
“นี่เป็นกับดัก!” จวินเฉิงกวงตะโกนขณะที่เขายังพยายมล่าถอยอย่างบ้าคลั่ง
“ต้องการหนึงั้นหรือ?” ฟางหยวนปรากฏตัวขึ้นเหนือศีรษะของจวินเฉินกวง
หัวใจของจวินเฉินกวงสั่นสะท้านอย่างรุนแรง เขามองฟางหยวนด้วยดวงตาเบิกกว้าง เป็นเพียงเวลานี้ที่เขาตระหนักว่าแทนที่จะกล่าวว่าฟางหยวนซุ่มโจมตีผู้อมตะภาคใต้ มันจะถูกต้องกว่าที่เขาจะกล่าวว่าฟางหยวนซุ่มโจมตีสมาชิกวงสวรรค์ซึ่งก็คือตัวเขาเอง!
ดังนั้นเป้าหมายที่แท้จริงของเขาก็คือข้า!”
“ฮีม เจ้าเผยตัวออกมาแล้ว ข้าเตรียมการป้องกันเอาไว้แล้ว กับดักของเจ้าไม่สามารถล้มข้า เจ้าคิดว่าจะสามารถจับกุมข้างั้นหรือ?”
“เจ้าเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ด…แต่ข้าเป็นผู้อมตะระดับแปด! นอกจากนี้ข้ายังมีเว่ยเฟิงอยู่ที่
เว้นเพียงผู้อมตะภาคใต้จะร่วมมือกับเจ้า มิฉะนั้นเจ้าอย่าคิดว่าจะสามารถสังหารข้า!”
จวินเฉินกวงสุดหายใจลึกและปลดปล่อยแสงสีขาวออกมาปกป้องตนเอง
ผู้อมตะภาคใต้โจมตีในเวลาต่อมา
เป้าหมายของพวกเขาคือฟางหยวน
วุหยงเป็นผู้นําขณะที่จื่อชิวหยูและเฉิงอู๋เจียตามไปอย่างใกล้ชิด พวกเขาโจมตีฟางหยวนโดยไม่คํานึงถึงการโจมตีของอสูรปีแรกกําเนิด นอกจากนั้นยังมีผู้อมตะภาคใต้อีกเป็นจํานวนมาก
จวินเฉินกวงหัวเราะเสียงดัง “ปีศาจฟางหยวน เจ้านําหายนะมาสู่ตนเองด้วยการทําบาปกรรมมากมาย! เจ้าต้องการฆ่าข้างั้นหรือ? ฮ่าฮ่า วันนี้จะเป็นวันตายของเจ้า!”
เช่นนั้นหรือ?” แม้จะตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายแต่ฟางหยวนยังสงบ มุมปากของของเขายกตัวขึ้นเล็กน้อย
“บึม!”
ในเวลาต่อมา กลิ่นอายของเขาก็ปะทุขึ้นสู่ท้องฟ้า
ทุกคนตกใจมาก
“อันใด!?”
“กลิ่นอายระดับแปด!”
“เป็นไปไม่ได้!”
ฟางหยวนชี้นิ้วออกไป
ท่าไม้ตายอมตะกรรไกรฤดูใบไม้ผลิ
จากนั้น
ท่าไม้ตายอมตะพัดฤดูร้อน!
“นี่คือ!?” จื่อชิวหยูและเฉิงอู๋เจียตกตะลึง
“นี่คือท่าไม้ตายอมตะของท่านหญิงเซี่ยชา…” ผู้อมตะระดับเจ็ดของตระกูลเซี่ยกรีดร้อง
กรรไกรฤดูใบไม้ผลิโจมตีจวินเฉินกวงและกําหราบเขาทันที ขณะเดียวกันพัดฤดูร้อนที่อยู่ในมือของฟางหยวนก็สะบัดออกไปสกัดกั้นการโจมตีทั้งหมดของผู้อมตะภาคใต้
เขาต่อสู้กับผู้อมตะกลุ่มใหญ่ด้วยตัวเขาเพียงลําพัง นี่เป็นปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่และไม่น่าเชื่อ!