Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 1652 เลือกภารกิจ
บทที่ 1652 เลือกภารกิจ
เกาะเล็กๆแต่มีทรัพยากรมากมาย
ฟางหยวนและผู้อมตะคนอื่นๆตรวจสอบทรัพยากรทั้งหมดก่อนจะแบ่งปันกัน ชูอิงในฐานะผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง เขาจะได้รับทรัพยากรอมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง
อย่างไรก็ตามเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวข้องกับเส้นทางทั้งหมด นั่นหมายความว่าเขาสามารถใช้งานทรัพยากรบนเส้นทางสายอื่น ตัวอย่างเช่นแก่นแท้อสูรวิญญาณ มันเป็นทรัพยากรอมตะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ แต่เมื่อมันถูกใช้งานโดยผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง มันจะทําให้ผู้อมตะสามารถแปลงร่างเป็นอสูรวิญญาณ
ฟางหยวนใช้ข้อได้เปรียบของเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงเลือกทรัพยากรอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาจํานวนมาก
เจิ้งลั่วซือถาม “สหายชูอิงมีวิธีการเปลี่ยนแปลงบนเส้นทางแห่งกาลเวลางั้นหรือ? เหตุใดเจ้าไม่ใช้มันเมื่อพวกเราอยู่ในภาพลวงตา?”
ฟางหยวนหัวเราะ “มันเป็นเพียงความโลภ ข้าแน่ใจว่าทุกคนรู้เรื่องปีศาจฟางหยวน ตอนนี้ทรัพยากรอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาขายได้ราคาดีในสวรรค์สีเหลือง หากข้าแย่งชิงทรัพยากรชนิดอื่นกับทุกท่านที่นี่ มันอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของเรา”
“ฮ่าฮ่าฮ่า นั่นเป็นความคิดที่ดี ชูอิง เหตุใดข้าถึงคิดเรื่องนี้ไม่ได้?” ถูเทาเทาหัวเราะ
ดวงตาของเจิ้งลั่วซอส่องประกาย เขาหยุดพูด
ตอนนี้ความหวาดกลัวที่มีต่อภาพลวงตาของพวกเขาหายไปแล้วเนื่องจากกําไรของพวกเขาค่อนข้างคุ้มค่า
โดยเฉพาะเมื่อเมี่ยวหมิงเฉิงแบ่งปันผลประโยชน์อย่างเท่าเทียม นี่ทําให้บรรยากาศของกลุ่มกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
ครึ่งวันต่อมากลุ่มผู้อมตะมารวมตัวกันที่หอคอยเกียรติยศอีกครั้ง
“ตามข้อมูล ทรัพยากรเหล่านี้ถูกจัดเตรียมไว้โดยเทพอมตะสวรรค์พิภพเพื่อให้แน่ในว่าผู้อมตะที่ไม่ต้องการรับภารกิจจะได้รับรางวัลบางอย่าง เทพอมตะสวรรค์พิภพเป็นคนดีจริงๆ” ตงฮัวตะลึง
กุ้ยฉีเย่กล่าว “พวกเราทดลองแล้ว แต่เกาะแห่งนี้ไม่สามารถใช้กําลังทําลาย”
“เราไม่สามารถยึดครองคฤหาสน์วิญญาณอมตะด้วยความสามารถของพวกเรา” เพิ่งเจียง กล่าวเสริม
กลุ่มผู้อมตะเงียบ
การจัดเตรียมของเทพอมตะสวรรค์พิภพจะพังทลายโดยง่ายได้อย่างไร? โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้อมตะทั้งหมดยกเว้นฟางหยวนเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ด แม้บางคนจะเป็นตัวตนระดับสูง แต่ พวกเขายังไม่สามารถเปรียบเทียบกับเทพอมตะ
“เมี่ยวหมิงเฉิน ข้าสงสัยว่าเจ้ามีข้อมูลเพิ่มเติมหรือไม่?” ตงฮัวถาม
เมี่ยวหมิงเฉินสายศีรษะ “ข้าไม่รู้สิ่งใดเลยเกี่ยวกับมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะสวรรค์พิภพในความคิดเห็นของข้า เนื่องจากเราไม่สามารถทําลายการจัดเตรียมของเทพอมตะสวรรค์พิภพ เราจึงมีสองทางเลือก หนึ่งคือเพิกเฉยต่อภารกิจและอยู่ที่นี่เป็นเวลาสามร้อยวัน เมื่อถึงเวลา เราจะถูกส่งออกไป สองคือรับภารกิจและทําให้สําเร็จ”
กลุ่มผู้อมตะมองหน้ากัน ทรัพยากรทั้งหมดบนเกาะถูกยึดครองไปแล้ว ผู้ใดจะต้องการอยู่ที่นี่เป็นเวลาสามร้อยวัน? เมื่อได้รับสมบัติบางส่วนแล้ว ความสนใจต่อมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะสวรรค์พิภพของพวกเขาก็เพิ่มสูงขึ้น
ตามความเห็นของพวกเขา ทรัพยากรบนเกาะเป็นเพียงอาหารเรียกน้ําย่อย มรดกที่แท้จริงของเทพอมตะสวรรค์พิภพเป็นสมบัติที่แท้จริง
“แต่ในการรับภารกิจ เราต้องได้รับการยอมรับจากหอคอยเกียรติยศ กระบวนการนี้คล้ายกับป้ายวิญญาณหรือโคมไฟวิญญาณแต่มีข้อจํากัดมากกว่าหากเป็นกับดัก…”
“ความเสี่ยงมาพร้อมกับกําไร เรามาเพื่อสํารวจมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะสวรรค์พิภพเราจะไม่เสี่ยงได้อย่างไร? ข้าจะรับภารกิจ”
“เนื่องจากนี่คือการจัดเตรียมของเทพอมตะสวรรค์พิภพ มันต้องไม่มีปัญหา มรดกที่แท้จริงอยู่ต่อหน้าพวกเรา หากพวกเราหยุดตอนนี้ พวกเราจะเสียใจไปตลอดชีวิต”
หลังจากพูดคุย
ผู้อมตะทั้งแปดทําตามคําอธิบายและวางฝ่ามือบนหอคอยเกียรติยศ
แสงสว่างส่องประกายขึ้นขณะที่ชื่อของพวกเขาปรากฏขึ้นบนหอคอยเกียรติยศ
ชื่อของฟางหยวนอยู่ที่นั่นเช่นกันแต่มันถูกเขียนว่าซูอิง
สิ่งนี้ทําให้ฟางหยวนสามารถถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เขาตรวจสอบหอคอยเกียรติยศมาแล้ว ส่วนใหญ่มันเกี่ยวกับเส้นทางแห่งปฐพีและเส้นทางแห่งเสียง แน่นอนว่ามีโอกาสที่จะทําลายมันด้วยความแข็งแกร่ง แต่ความเสี่ยงสูงเกินไป เขาควรปลอมตัวและสํารวจไปพร้อมๆกับคนอื่น
โลกของผู้อมตะมีวิธีการที่น่าอัศจรรย์มากมาย หอคอยเกียรติยศเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะ ระดับแปดที่สร้างขึ้นโดยเทพอมตะสวรรค์พิภพ มีความเป็นไปได้สูงที่มันจะเปิดเผยชื่อจริงของเขา โชคดีที่สิ่งนี้ไม่เกิดขึ้น มิฉะนั้นฟางหยวนต้องฆ่าทุกคนที่อยู่ที่นี่
ตัวตนของเขาสําคัญเกินไป หากเขาไม่กําจัดคนเหล่านี้ พวกเขาอาจดึงดูดวงสวรรค์เข้ามา
‘ก่อนที่ข้าจะเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด ข้าไม่ควรโจมตีพวกเขา นี่คือมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะสวรรค์พิภพ เขาเป็นคนใจดีและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ หากข้าฆ่าคนโดยไม่คิด สิ่งเลวร้ายอาจเกิดขึ้น’
มีผู้อมตะแปดคนแต่มีเพียงสิบภารกิจจารึกอยู่บนเสา
แต่ละภารกิจมีคําอธิบายที่คลุมเครือ ผู้อมตะต้องตรวจสอบมันด้วยตนเอง
ตัวอย่างเช่นภารกิจแรกคือกําจัดพรายน้ําที่อยู่รอบเมืองอินทรีย์ทะเล
พรายน้ําคล้ายอสูรวิญญาณ หลังจากพรายน้ําตาย พวกมันจะทิ้งแก่นแท้พรายน้ําเอา ไว้เบื้องหลัง มันเป็นทรัพยากรอมตะที่เต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางแห่งวารี
แต่พรายน้ําเหล่านี้อยู่ในระดับสัตว์อสูรเดียวดายหรือสัตว์อสูรบรรพกาล ไม่มีข้อมูลระบุไว้
เมืองอินทรีย์ทะเลอยู่ที่ใด ไม่มีข้อมูลเช่นกัน
นอกจากภารกิจนี้ ภารกิจอื่นก็แปลกประหลาดเช่นกัน
ตัวอย่างเช่นภารกิจสร้างบ่อน้ําบนเกาะปลากลม ภารกิจรวบรวมสมุนไพรสําหรับสาม เผ่า ภารกิจปกป้องขบวนสินค้า และอื่นๆ
กลุ่มผู้อมตะครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนที่เจิ้งลั่วซอจะถอนหายใจกล่าว “วิธีบนเส้นทางแห่งข้อมูลของข้าไม่มีประโยชน์ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับโชคให้ข้าลองก่อน ข้าจะเลือกภารกิจกําจัดพรายน้ํา”
คนอื่นๆเงียบ
แม้เจิ้งลั่วซอจะกล่าวว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับโชค
แต่ตามตรรกะ ยิ่งภารกิจยากเท่าใด แต้มบุญที่ได้รับย่อมมากเท่านั้น อย่างน้อยพรายน้ําก็เป็นสัตว์อสูรเดียวดาย ภารกิจกําจัดพวกมันถือว่ายากพอสมควร แต้มบุญที่ได้รับควรจะค่อนข้างสูง
สําหรับภารกิจสร้างบ่อน้ําหรือรวบรวมสมุนไพร พวกมันเป็นภารกิจระดับมนุษย์ ความ ยากของภารกิจต่ํากว่าการกําจัดพรายน้ําอย่างชัดเจน
เห็นได้ชัดว่าเจิ้งลั่วซอคว้าภารกิจที่ดีที่สุดไป นั่นทําให้บรรยากาศในกลุ่มเปลี่ยนไปทันที
เจิ้งลั่วซอเงียบเช่นกันแต่เขารู้สึกประหม่าเล็กน้อยอยู่ในใจ
เมี่ยวหมิงเฉินพยักหน้าก่อนกล่าว “เชิญทุกคนเลือกได้เลย ข้าจะเป็นคนสุดท้าย
ทุกคนมองเขาด้วยสายตาที่แตกต่าง
เมี่ยวหมิงเฉินโบกมือ “อย่าคิดมาก ข้าเพียงรู้สึกว่าเทพอมตะสวรรค์พิภพสร้างสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาโดยมีเจตนาที่ลึกซึ้ง เขาจะไม่คิดถึงความสมดุลได้อย่างไร? ภารกิจง่ายๆเหล่านี้อาจไม่ง่ายเช่น ที่ทุกคนคิด”
ทุกคนพยักหน้าเมื่อได้ยินคํากล่าวของเมี่ยวหมิงเฉิน
ตงฮัวกล่าว “ข้าเลือกภารกิจที่สอง”
ถูเทาเทาเลือกภารกิจของตนเช่นกัน
การตัดสินใจของพวกเขาเหมือนเจิ้งลั่วซือ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเลือกภารกิจที่ยากที่สุด
“ต่อไป…ชูอิง เชิญเลือก” เมี่ยวหมิงเฉินยิ้ม
“รอก่อน” กุ้ยฉีเย่กล่าวแทรก “ทุกคน ท่านเมี่ยวหมิงเฉิน กล่าวตามตรง ข้าต้องการภารกิจนี้ตั้งแต่แรก”
ทุกคนรู้สึกประหลาดใจ
เมี่ยวหมิงเฉินมองกุ้ยฉีเยู่ด้วยสายตาตําหนิ
แต่กุ้ยฉีเยไม่สนใจ เขามองฟางหยวนด้วยสายตาน่ากลัว
‘เลือกโจมตีคนที่อ่อนแอที่สุดงั้นหรือ?’ ฟางหยวนลอบหัวเราะอยู่ในใจแต่ภายนอกเขา กล่าว “กุ้ยฉีเย่ เนื่องจากเจ้าหมายตามัน นั่นหมายความว่าภารกิจนี้มีความสัมพันธ์กับเจ้า ข้าจะไม่ฉกฉวยมันไปจากเจ้า เอาล่ะข้าจะเลือกภารกิจที่เจ็ด
ทุกคนมองภารกิจที่เจ็ดและพบว่ามันคือภารกิจรวบรวมน้ํามันดิบใต้ทะเลลึก มันเป็นภารกิจ ระดับมนุษย์ที่ง่ายที่สุด
เมี่ยวหมิงเฉินเร่งกล่าว “ซูอิง…”
“ไม่จําเป็นต้องกล่าวสิ่งใด พี่เยี่ยวมีสหายที่ดี ท่านสมควรได้รับมัน หากไม่ใช่เพราะท่าน ข้าจะเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร?” ฟางหยวนหัวเราะ
กุ้ยฉีเย่มองฟางหยวนด้วยสายตาที่ผ่อนคลายลง
แท้จริงแล้วเขาไม่ได้เลือกภารกิจไว้ให้ตนเองแต่ทําเพื่อเมียวหมิงเฉิน
เป็นเช่นที่ฟางหยวนกล่าว ทุกคนมาที่นี่ได้เพราะเมี่ยวหมิงเฉิน เขาสมควรได้รับมัน
เมี่ยวหมิงเฉินปฏิเสธแต่ฟางหยวนยังยืนกราน
สุดท้ายเมี่ยวหมิงเฉินจึงต้องยอมรับเท่านั้น
หลังจากเลือกภารกิจ หอคอยเกียรติยศก็ส่งทุกคนไปยังสถานที่ต่างๆ
วิสัยทัศน์ของฟางหยวนเปลี่ยนไป ตอนนี้เขาอยู่บนเกาะที่ไม่รู้จัก
‘ข้าเป็นผู้อมตะระดับแปดแต่หอคอยเกียรติยศยังสามารถส่งข้ามาที่นี่ ดูเหมือนมันจะเป็นแกนกลางของถ้ําสวรรค์แห่งนี้ รากฐานของเทพอมตะสวรรค์พิภพไม่ธรรมดาจริงๆ’
เกี่ยวกับภารกิจ เขามีสมมติฐานคล้ายเมี่ยวหมิงเฉิน เขาเสียสละภารกิจก่อนหน้าไม่ใช่เพราะ เขาสุภาพแต่เพราะเขาต้องการตรจสอบเมี่ยวหมิงเฉิน
หลังจากฟางหยวนถูกเคลื่อนย้ายสถานที่ หอคอยเกียรติยศจึงเหลือเพียงกุ้ยฉีเยีและเมี่ยวหมิง เฉินเท่านั้น
“เจ้า…”เมี่ยวหมิงเฉินถอนหายใจ
กุ้ยฉีเยีป้องหมัดขึ้น “นายท่าน โปรดอภัยให้ข้าด้วย”
“เจ้าไม่ได้ทําสิ่งใดผิดแต่เพียงประเมินชูอิงต่ำเกินไป เขาเป็นคนแรกที่ตายในภาพลวงตา ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่าเขาอ่อนแอ” เมี่ยวหมิงเฉินสายศีรษะ
“นายท่านคิดว่าซูอิงซ่อนความแข็งแกร่งเอาไว้เช่นนั้นหรือ?”
เมี่ยวหมิงเฉินส่ายศีรษะ “ข้าไม่แน่ใจ มีความเป็นไปได้ไม่มาก แต่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่รู้จัก พวกเราควรร่วมมือกันแทนที่จะสร้างความขัดแย้งภายใน”
“ข้าเข้าใจแล้ว”