Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 1685 ถ้ําสวรรค์นักรบอสูร
บทที่ 1685 ถ้ําสวรรค์นักรบอสูร
ภาคกลาง ร่องลึกใต้พิภพ
“เจี้ยก!”
วานรเดียวดายคํารามเป็นครั้งสุดท้าย มันรู้สึกถึงร่างกายที่ถูกแช่ แข็ง ความหนาวเย็นแทรกซึมเข้าแช่แข็งเลือดที่ไหวเวียนอยู่ในร่างกายของมัน
ท่าไม้ตายอมตะเลือดเย็น!
ผู้อมตะที่ใช้ท่าไม้ตายนี้ไม่ใช่ผู้ใดนอกจากฟางเลิ้งน้องชายของฟางหยวน
“ยินดีด้วย ฟางเจิ้ง เจ้าเชี่ยวชาญท่าไม้ตายอมตะเลือดเย็นหลังจากต่อสู้มาสองสามวัน” จ้าวเหลียนหยุนค่อยๆบินเข้ามาและกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ฟางเจิ้งมองศพของวานรยักษ์ขณะที่แสงสีแดงในดวงตาของเขาค่อยๆจางหายไป เขากล่าวอย่างสงบนิ่ง “ข้าต้องขอบคุณเจ้าที่ช่วยปกป้องข้าจากด้านข้าง มิฉะนั้นข้าจะสามารถฝึกฝนท่าไม้ตายของข้าได้อย่างไร?”
ความปั่นป่วนที่เกิดจากเส้นโลหิตปฐพี่ทําให้กองกําลังทั้งหมดตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจ พวกเขามีกําลังคนไม่พียงพอ เพื่อแก้ปัญหานี้ นิกายกระเรียนอมตะจึงต้องส่งฟางเจิ้งออกมา
แน่นอนว่าทุกการเคลื่อนไหวของฟางเลิ้งอยู่ภายใต้การเฝ้ามองของวังสวรรค์ ตราบเท่าที่ไม่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง วังสวรรค์ก็มีความสุขที่ได้เห็นฟางเจิ้งแข็งแกร่งขึ้น
ฟางเลิ้งได้รับการสนับสนุนจากวังสวรรค์ นอกจากวิญญาณอมตะเลือดล้างเลือด เขายังได้รับวิญญาณอมตะเลือดเย็นระหว่างการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ
เทพธิดาจอเว่ยคิดค้นท่าไม้ตายอมตะเลือดเย็นและมอบให้ฟางเลิ้ง
ทะเลตะวันออก ใต้ทะเลแห่งหนึ่ง
ราชันมังกรและฟงจินฮวงจัดการอาณาจักรแห่งความฝันมาหลายวันแล้ว
อาณาจักรแห่งความฝันที่ปิดล้อมวังมังกรมีขนาดใหญ่โตมาก พวกเขาเปลี่ยนอาณาจักรแห่งความฝันเป็นกายาแห่งความฝันหลายสิบตัว แต่อาณาจักรแห่งความฝันยังแพร่กระจายออกมาจากวังมังกรและเติมเต็มช่องว่างอย่างไม่รู้จบสิ้น
ท่าไม้ตายอมตะเปลี่ยนเป็นกายาแห่งความฝันเป็นท่าไม้ตายอมตะระดับหก มันมีพลังจํากัดเนื่องจากมันใช้วิญญาณอมตะปีกแห่งความฝันระดับหกเป็นแกนกลาง
ในความเป็นจริงราชันมังกรสามารถฉวยโอกาสเข้าสู่วังมังกร แต่เป้าหมายของเขาคือคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดที่สมบูรณ์แบบ หากเขาไม่กําจัดอาณาจักรแห่งความฝันทั้งหมดเขาจะไม่สามารถยึดครองคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ได้อย่างปลอดภัย
ขณะที่ราชันมังกรกําลังจัดการอาณาจักรแห่งความฝัน ฟงจินฮวงยังฝึกฝนตนเองต่อไป
นางกําลังค้นคว้าเกี่ยวกับกายาแห่งความฝัน บางครั้งนางจะย้ายดวงวิญญาณของนางเข้าสู่ร่างกายาแห่งความฝัน บางครั้งนางก็ค้นคว้าด้วยร่างหลักของนาง
“กายาแห่งความฝันเกิดจากนิกายเงาที่พยายามแสวงหาความมั่งคั่ง มันอยู่ได้ไม่นาน
“อาณาจักรแห่งความฝันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ลักษณะพิเศษของมันคือความ ไม่แน่นอนท่าไม้ตายทําลายความฝันของข้านําไปสู่ท่าไม้ตายเปลี่ยนเป็นกายาแห่งความฝัน
ทุกครั้งที่ฟงจินฮวงคิดย้อนกลับไป นางรู้สึกว่าตนเองค่อนข้างโชคดี
“เป็นไปได้หรือไม่ว่านี่คือผลของโชคชะตา? มันหยิบยืมความพยายามของข้าเพื่อทําให้เกิดกายาแห่งความฝันที่สมบูรณ์แบบ
ฟงจินฮวงส่ายศีรษะปัดเป่าความคิดนี้ทิ้งไปอย่างรวดเร็ว
นางนึกถึงคํากล่าวของราชันมังกร
“ฮวงเอ๋อ แม้เจ้าจะประสบความสําเร็จในการค้นคว้ากายาแห่งความฝันที่สมบูรณ์แบบ แต่มันยังไม่เพียงพอ เจ้าต้องทําความเข้าใจมันอย่างลึกซึ้งเพื่อใช้ในการบ่มเพาะของเจ้าเมื่อเจ้าค้น พบวิธีเปลี่ยนร่างกายของตัวเจ้าเองเป็นกายาแห่งความฝัน มันจะเป็นช่วงเวลาที่เจ้าสามารถก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ”
ผู้อมตะ!
รากฐานของฟงจินฮวงเพียงพอแล้วสําหรับการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ แต่นางถูกหยุดไว้โดยราชันมังกรเสมอ
ตอนนี้ราชันมังกรยอมจํานน ฟงจินฮวงรู้สึกตื่นเต้นมาก แต่นางยังรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเพราะเงื่อนไขที่ยากลําบากของเขา
ฟงจินฮวงพยายามคิดวิธีแก้ปัญาอย่างอดทน
“ข้ารีบร้อนเกินไปหรือไม่?
ท้ายที่สุดการเปลี่ยนร่างกายของตนเองให้เป็นกายาแห่งความฝันก็มีความเกี่ยวข้องกับเส้นทางแห่งมนุษย์
“ตํานานกล่าวว่าสิบสุดยอดกายาถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์คนแรก สิ่งเหล่านี้เกี่ยวกับเส้นทางแห่งมนุษย์ บางทีข้าอาจพบบางสิ่งจากการอ่านตํานานมนุษย์คนแรก”
ราชันมังกรคือต้นกําเนิดของเผ่าพันธุ์มนุษย์มังกร ความสําเร็จของเขาเกิดจากการทําความเข้าใจตํานานมนุษย์คนแรก
“แม้ข้าจะรับฟงจินฮวงเป็นศิษย์ แต่ข้าไม่ได้สอนสิ่งใดแก่นาง นางอาจไม่สามารถตอบสนองความต้องการของข้า บางทีข้าควรสอนความลึกซึ้งเกี่ยวกับมนุษย์มังกรให้นาง แน่นอนว่าข้าต้องห้ามไม่ให้นางสร้างมนุษย์มังกร!”
“ไม่ ด้วยธรรมชาติของนาง นางอาจลอบสร้างมนุษย์มังกรขึ้นมา ฮวงเอ๋อแตกต่างจา กหงถึงโดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคลิกและทัศนคติเกี่ยวกับชะตากรรม เห้อ…ใจมนุษย์เปลี่ยนแปลงไปจากยุคโบราณ ความคิดที่อันตรายเช่นนี้ไม่ควรเกี่ยวข้องกับไปชิง มันน่าจะเกิดจากอิทธิพลของฟงจิวเก้อ
เป็นธรรมดาที่ราชันมังกรจะตรวจสอบภูมิหลังของฟงจิวเก้อและเทพธิดาไปชิงมาแล้ว
“ฮัดชิ้ว! ฮัดจิ๋ว!”
ฟงจิวเก้อถูจมูก เขาพึมพํา “ผู้ใดกําลังพูดถึงข้าลับหลัง”
ตอนนี้เขาอยู่ในสภาพที่น่าอนาถ ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยคราบเลือด เสื้อคลุมของเขาฉีกขาดเป็นส่วนใหญ่และเผยให้เห็นมัดกล้ามเนื้อบนร่างกาย
“แค่ก แค่ก”
เขาไอออกมาเป็นเลือด
ผู้อมตะสองคนปรากฏตัวขึ้น พวกเขามองฟงจิวเก้อที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสและแสดงออกด้วยความยินดี “ขอแสดงความยินดีกับท่านฟงจิวเก้อที่ก้าวเข้าสู่ระดับแปด!”
“อืม” ฟงจิวเก้อพยักหน้าเบาๆ เขาไม่รู้สึกตื่นเต้นกับการบ่มเพาะระดับแปดของตน ในความเป็นจริงเขาสามารถก้าวเข้าสู่ระดับแปดมานานแล้ว มันเป็นเพียงว่าเขายังไม่มีโอกาสที่เหมาะสมเท่านั้น
มีโซ่ตรวนมากมายคอยรั้งเขาไว้เสมอ เขามีครอบครัวและเป็นสมาชิกคนสําคัญของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ
“การบ่มเพาะระดับแปดไม่ใช่เรื่องใหญ่ ตอนนี้ข้าสามารถผลิตลิ้นจี่ขาวอมตะ แต่ข้า ยังต้องใช้เวลาปรับตัว
“ข้าไม่มีทุนทรัพย์ที่จะยกระดับวิญญาณหลักของเขาให้เป็นวิญญาณอมตะระดับแปด
“แม้ข้าจะมีเงินแต่ข้ายังต้องขอให้บางคนช่วยข้าหลอมรวมวิญญาณอมตะ”
“บางทีข้าอาจขอความช่วยเหลือจากวังสวรรค์?”
ฟงจิวเก้อคิดถึงสถานะผู้พิทักษ์เต่ําของเขาและรู้สึกว่ามันมีประโยชน์
“แต่สิ่งสําคัญคือแรงบันดาลใจที่ได้รับจากภัยพิบัติใหญ่ครั้งนี้ บางทีข้าอาจแต่งเพลงเกี่ยวกับพรหมลิขิต!”
สวรรค์พิภพมีโชคชะตา ทุกสิ่งถูกจัดการโดยมัน แต่หลังจากเส้นทางแห่งโชคถือกําเนิดมีบาง สิ่งเปลี่ยนแปลงไป ทุกสิ่งและทุกคนบนโลกใบนี้มีโอกาสส่องประกาย
เพลงพรหมลิขิตจะพรรณาถึงความสว่างไสวนี้ มันจะบรรยายถึงความแน่นอนและความไม่แน่นอนของสวรรค์พิภพตลอดจนเส้นทางทั้งหมดของชีวิต”
เวลาผ่านไป
สวรรค์สีขาว
ฟางหยวนมองกระเรียนขาวบินวนเป็นวงกลมด้วยความตื่นเต้น
“พบแล้ว ในที่สุดข้าก็พบถ้ําสวรรค์แห่งที่สอง!”
“นี่คือถ้ําสวรรค์นักรบอสูร?”
“ดี มันไม่เคยกลืนกินเศษชิ้นส่วนของสวรรค์ทั้งเก้า!”