Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 1735 ลําแสงสีทอง
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1735 ลําแสงสีทอง
สมรภูมิแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติ
“ศัตรูกลับเข้ามาในค่ายกล ดูเหมือนพวกเขาต้องการใช้ประโยชน์จากควันห้าสี หลี่ฮวงและคนอื่นๆกําลังมีปัญหา” เฉินอี้เฝ้ามองสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
“เราควรออกไปช่วยพวกเขาหรือไม่? หากรวมมือกัน บางทีเราอาจสามารถทําลายค่ายกลของศัตรู ตราบเท่าที่ค่ายกลของพวกเขาถูกทําลาย พวกเขาจะไม่เหลือโอกาส” เพ่ยกังซุ้ยเสนอ
เฉินอี้พิจารณาก่อนส่ายศีรษะ “ไม่จําเป็นต้องเสี่ยง พวกเรายังเป็นฝ่ายได้เปรียบ นําพวกเขาเข้าสู่ค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบ”
เฉินอี้ไม่เต็มใจออกไปและต้องการนํากลุ่มของหลี่ยวงเข้ามา
เขาต้องการใช้กลยุทธ์ถ่วงเวลาต่อไป
ฟางหยวนเริ่มต่อสู้กับหลี่ฮวงอีกครั้ง
ท่ามกลางควันห้าสี พลังการต่อสู้ของหลี่ฮวงและคนอื่นๆถูกจํากัดอย่างมาก
หลี่ฮวงต้องออกคําสั่งล่าถอยเข้าสู่ค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบ
ทั้งสองฝ่ายเข้าสู่ค่ายกลของตนเอง สนามรบเหลือเพียงวายุไร้ขอบเขต
วูหยงและฟางหยวนปกป้องค่ายกลวิญญาณอมตะห้าภูมิภาค
วูหยงควบคุมวายุไร้ขอบเขตโจมตีค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบ
ฟางหยวนซ่อนตัวและเคลื่อนที่ไปข้างหน้าพร้อมกับควันห้าสีที่แผ่ขยายออกไปเรื่อยๆ
“อดทนไว้ ตราบเท่าที่การต่อสู้ในวังสวรรค์สิ้นสุดลง พวกเราจะชนะ” เฉินอี้ปลุกขวัญกําลังใจ
แต่เพียงเมื่อเขากล่าวจบประโยค เสียงระเบิดกลับดังขึ้น
มันเป็นการระเบิดจากค่ายกลวิญญาณอมตะห้าภูมิภาค ร่างหนึ่งพุ่งออกมาราวกับลูกศรจากภายในกลุ่มควันห้าสี
“องค์ชายฟงเซี่ยน เจ้าทําสิ่งใด?”
“ฆ่าเขาซะ เขาเป็นสายลับของวังสวรรค์!”
“ท่านจื่อซิวหยู ท่านเป็นอย่างไรบ้าง? เร็วเข้า ช่วยท่านจือชิวหยู!”
เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างกะทันหัน กองกําลังพันธมิตรภาคใต้และภาคเหนือตกอยู่ในความโกลาหล
“องค์ชายฟงเซี่ยน อย่าคิดหนี!” ฟางหยวนและวุหยงปิดล้อมองค์ชายฟงเซี่ยน
เพ่ยกังซุ้ยมีความสุขมาก “องค์ชายฟงเซียนทําลายค่ายกลของศัตรูจากภายใน ทําได้ดีมาก!”
ผู้อมตะบางคนที่ไม่รู้ข้อมูลตกตะลึงกับเหตุการณ์นี้
“เร็วเข้า องค์ชายฟงเซี่ยนเป็นสมาชิกของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ ไปช่วยเขา!” ผู้อาวุโสของนิกายคฤหาสน์วิญญาณกระตุ้น
แม้เขาจะไม่กล่าว เฉินอี้ก็ออกคําสั่งไปแล้ว
หลี่ฮวง ชิงเย่ และเพ่ยกังซุ้ยบินออกไปเพื่อนําองค์ชายฟงเซี่ยนกลับมา
ฟางหยวนและวูหยงถูกขัดขวางโดยคนทั้งสาม
องค์ชายฟงเซี่ยนไม่อ่อนแอ ด้วยความช่วยเหลือจากกําลังเสริม เขาประสบความสําเร็จในการเข้าสู่ค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบ
อย่างไรก็ตามผู้อมตะของวังสวรรค์ไม่รู้ว่าองค์ชายฟงเซี่ยนที่ถูกนําเข้าสู่ค่ายกลวิญญาณอมตะของพวกเขาเป็นตัวปลอม!
ในที่สุดข้าก็เข้ามา” ฟางหยวนลอบเย้ยหยันอยู่ภายใน
ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคย!
ท่าไม้ตายนี้ได้รับการดัดแปลงครั้งใหญ่โดยฟางหยวน ด้วยการเพิ่มร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงที่เขาได้รับจากถ้ำสวรรค์นักรบอสูร พลังอํานาจของใบหน้าที่คุ้นเคยจึงพุ่งทะยานขึ้นอีกหลายเท่า
แม้วังสวรรค์จะเตรียมตัวรับมือมาแล้ว แต่พวกเขายังไม่พบตัวตนที่แท้จริงของฟางหยวน
สําหรับองค์ชายฟงเชี่ยนตัวจริง ตอนนี้เขายังอยู่ในค่ายกลวิญญาณอมตะห้าภูมิภาค
ค่ายกลวิญญาณอมตะห้าภูมิภาคถูกแก้ไขโดยฟางหยวนอีกครั้ง เขาผนวกค่ายกลอื่นเข้าไป ค่ายกลนี้เป็นกรงที่กักขังองค์ชายฟงเชี่ยนเอาไว้
ฟางหยวนที่อยู่ในควันห้าสีเป็นการปลอมตัวของอี้ห่าวฟาง
อี้ห่าวฟางเป็นผู้อมตะระดับแปดของภาคใต้ที่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งกาเปลี่ยนแปลง
แม้เขาจะไม่มีท่าไม้ตายอมตะที่เหมือนกับท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคย แต่ควันห้าสีช่วยปกป้องเขาจากการตรวจสอบของฝ่ายตรงข้าม
สําหรับค่ายกลวิญญาณอมตะห้าภูมิภาค มันระเบิดจริงๆ วิญญาณระดับมนุษย์จํานวนมากจเสียชีวิต วิญญาณอมตะบางดวงได้รับความเสียหายเช่นกัน
การกระทํานี้เป็นการหลอกลวงศัตรู
กลุ่มของเฉินอี้ได้รับการแจ้งเตือนจากเทพธิดาจื่อเว่ยเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงขององค์ชายฟงเซียน ดังนั้นพวกเขาจึงให้ความสําคัญกับองค์ชายฟงเซี่ยนตลอดเวลา
หากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ พวกเขาจะร่วมมือกับองค์ชายฟงเซียนเพื่อต่อต้านศัตรู
ตอนนี้องค์ชายฟงเชี่ยนทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะของศัตรูโดยตรง นี่ถือเป็นผลงานชิ้นใหญ่
กลุ่มของเฉินอี้เตรียมใจมาแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงยอมรับฟางหยวนทันที
“เนื่องจากความลับเรื่องการกําเนิดใหม่ของข้าถูกเปิดเผย วังสวรรค์ย่อมระวังการเปิดเผยตัวตนขององค์ชายฟงเชี่ยนเช่นกัน สงครามครั้งนี้เกี่ยวข้องกับวิญญาณชะตากรรม ในช่วงเวลาสําคัญ วังสวรรค์จะใช้องค์ชายฟงเชี่ยนเพื่อรักษาสถานการณ์อย่างแน่นอน! นี่คือสิ่งที่ข้าสามารถใช้ประโยชน์!”
ฟางหยวนลอบเย้ยหยันอยู่ภายใน เขาปลอมตัวเป็นองค์ชายฟงเซียนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสด้วยความมั่นใจ
ผู้อาวุโสของนิกายคฤหาสน์วิญญาณต้อนรับเขาด้วยรอยยิ้ม “ยินดีต้อนรับกลับบ้าน”
ฟางหยวนเตรียมเคลื่อนไหว
“ข้าไม่ใช่องค์ชายฟงเซี่ยนตัวจริง ข้าจะถูกเปิดเผยหากพูดคุยกับพวกเขา”
“ข้าไม่มีวิธีปกปิดกลิ่นอายเช่นวุหยง กลิ่นอายของข้าจะรั่วไหลออกมาเมื่อข้าเตรียมท่าไม้ตาย”
ดังนั้นเวลาที่เหมาะสมที่จะลงมือมากที่สุดคือทันทีที่ข้าเข้ามาในค่ายกลของศัตรูเพราะตอนนี้กลิ่นอายจากก่อนหน้าของเขายังไม่สลายไป
ฟางหยวนกําลังจะเคลื่อนไหวแต่การเปลี่ยนแปลงกลับเกิดขึ้นอีกครั้ง
การแสดงออกของทุกคนในสนามรบเปลี่ยนไป
“มันคือสิ่งใด?”
“ท่าไม้ตายอมตะระดับเก้า! ดูเหมือนมันจะมาจากภาคเหนือ!”
“กลิ่นอายบนเส้นทางแห่งโชค!”
“ทิศทางของมันดูเหมือนจะเป็นวังสวรรค์!”
ทุกคนมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
ลําแสงขนาดมหึมาพุ่งผ่านท้องฟ้าไปทางวังสวรรค์ด้วยความเร็วสูง
ลําแสงสายนี้มีขนาดเท่าแม่น้ำสายใหญ่ที่เคลื่อนผ่านท้องฟ้า ไม่ว่ามันจะไปที่ใด มันจะผลักอากาศทั้งหมดออกไปและสร้างเสียงที่น่าสะพรึงกลัวออกมา
ท่าไม้ตายอมตะที่ทรงพลังเช่นนี้ทําให้ทุกคนตกใจและมีนงง
เฉินอี้ วูหยง รวมถึงฟางหยวนรู้สึกว่าตนเองตัวเล็กและกลายเป็นไร้นัยสําคัญในเวลานี้
นี่คือพลังอํานาจของเทพอมตะ!
ลําแสงสายนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากสวรรค์สีดําของภาคเหนือ มันเจาะทะลวงกําแพงภูมิภาคและโจมตีวังสวรรค์โดยตรง
วังสวรรค์เกิดการสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ คฤหาสน์วิญญาณอมตะจํานวนนับไม่ถ้วนแตกสลายทันที
“นี่คือ!?” ราชันมังกรมองขึ้นไปด้านบน
เขาสามารถกําหราบแท่นบูชาแห่งโชคและความสิ้นหวังทั้งเจ็ดอย่างราบคาบ แต่ใบหน้าของเขากลับซีดเผือดเมื่อเขาเห็นลําแสงพุ่งเข้ามาหาเขา เขากลายเป็นปลาที่วางอยู่บนเขียงและไม่สามารถเคลื่อนไหว
“ท่าไม้ตายอมตะระดับเก้า! มันเป็นท่าไม้ตายของเทพอมตะ!”
“เทพอมตะตะวันเดือดทิ้งวิธีการบางอย่างไว้เบื้องหลัง ไม่ เป้าหมายของมันไม่ใช่ข้าแต่เป็นวิญญาณชะตากรรม!”
ราชันมังกรพยายามดิ้นรนกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะของเขาอย่างสิ้นหวัง
แต่สิ่งที่เขากลัวยังเกิดขึ้น ท่าไม้ตายอมตะของเขาล้มเหลวทั้งหมด เขาได้รับผลกระทบย้อนกลับและบาดเจ็บสาหัสทันที
กลุ่มผู้อมตะในวังสวรรค์รู้สึกสับสนและตกตะลึง บางคนประเมินตนเองสูงเกินไปและพยายามกีดขวางลําแสงจนถูกเผาทําลายกลายเป็นเถ้าถ่าน
ผู้อมตะระดับแปดไม่สามารถกีดขวางลําแสงสายนี้
“ท่านเทพอมตะตะวันเดือด!”
“นายท่าน…”
ดวงตาของปิงชายฉวนและเหมาหลี่ชิวส่องประกายขึ้น
แต่ในจังหวะที่ลําแสงกําลังจะปะทะค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอม รวมเสียงถอนหายใจสายหนึ่งพลันดังขึ้น
ภาพเงาร่างสองร่างที่กําลังเล่นหมากรุกปรากฏขึ้นในศาลาแห่งความเสียใจอีกครั้ง
เทพอมตะกลุ่มดาวคว้าตัวหมากรุกและโยนมันออกไป
แสงดาวจํานวนนับไม่ถ้วนรวมตัวกันและกลายใยแมงมุมกีดขวางการเคลื่อนที่ของลําแสงสีทองที่พุ่งเข้ามา
“เทพอมตะกลุ่มดาว!”
“มันคือความช่วยเหลือจากเทพอมตะกลุ่มดาว!”
กลุ่มผู้อมตะของวังสวรรค์รู้สึกยินดี พวกเขามองไปยังศาลาแห่งความเสียใจด้วยความเคารพและตื่นเต้น
ราชันมังกรถอนหายใจ ลําแสงสีทองเกือบสัมผัสใบหน้าของเขา แต่สุดท้ายมันถูกหยุดโดยใยแมงมุมแสงดาว
“บัดซบ! เกือบแล้ว” ปิงช่ายฉวนอารมณ์เสีย
หากราชันมังกรตาย ขวัญกําลังใจของฝายวังสวรรค์จะลดลงอย่างมาก ถ้ำสวรรค์นิรันดรจะยังมีความหวัง
“นางสารเลวกลุ่มดาว!” เหมาหลี่ชิวกัดฟันแน่น
เป็นเพียงเวลานี้ที่ลําแสงสีทองเกิดการเปลี่ยนแปลง มันเริ่มหมุนวนรอบตัวเอง
ภายในศาลาแห่งความเสียใจ ใบหน้าของเทพอมตะกลุ่มดาวปรากฏให้เห็นถึงความประหลาด
ลําแสงที่หมุนวนระเบิดขึ้นในที่สุด กระแสปราณสีทองนับร้อยสายพุ่งเข้าสู่ร่างกายของปิงช่ายฉวน เหมาหลี่ชิว และผู้อมตะภาคเหนือทั้งหมด
เหมาหลี่ชิวตกตะลึง
อาการบาดเจ็บทั้งหมดของมันหายไป พลังงานอมตะจํานวนมากควบแน่นขึ้นในมิติช่องว่างของมัน
รัศมีแสงสีทองปรากฏขึ้นบนร่างกายของผู้อมตะภาคเหนือและช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับพวกเขา
มันกระทั่งยอดเยี่ยมกว่าท่าไม้ตายอมตะวีรบุรุษท่ามกลางผู้คนของวังสวรรค์หลายเท่า
“ราชันมังกร มาสู้กันอีกครั้ง!” ปิงช่ายฉวนตะโกนเสียงดัง
แท่นบูชาแห่งโชคเรืองแสงสีทองออกมาเช่นกัน ภายใต้การควบคุมของปิงช่ายฉวน มันบินขึ้นสู่ท้องฟ้า
ราชันมังกรไม่หลบแต่เผชิญหน้ากับแท่นบูชาแห่งโชคโดยตรง
แต่แท่นบูชาแห่งโชคยังถูกส่งลอยกลับหลังราวกับกระสุนปืนใหญ่ มันหยุดลงก่อนจะปะทะกําแพงปราณ
อย่างไรก็ตามใบหน้าของราชันมังกรกลับซีดขาวขณะที่เขาพ่นเลือดคําโตออกมาจากปาก
หน้าอกของเขายุบ ซี่โครงของเขาหักเกือบทั้งหมด