Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 1742 จํานนต่อโชคชะตา
บทที่ 1742 จํานนต่อโชคชะตา
ในหอคอยดวงตาสวรรค์
ราชันมังกรลูบไล้วิญญาณชะตากรรมด้วยน้ําตาที่ไหลลงมาจากใบหน้าอย่างเงียบๆ
ตอนนี้บาดแผลบนร่างของวิญญาณชะตากรรมหายไปอย่างไร้ร่องรอย มันนอนอยู่อย่างเงียบๆ ด้วยกลิ่นอายที่ยิ่งใหญ่
ชีวิตและความตายถูกกําหนดโดยชะตากรรม
สรรพสิ่งในโลกจะดําเนินไปตามวิถีของมันและไม่สามารถเปลี่ยนแปลง
นี่คือชะตากรรม
วิญญาณชะตากรรมเป็นตัวแทนหลายสิ่งหลายอย่างของวังสวรรค์
ด้วยการพึ่งพาวิญญาณชะตากรรม เทพอมตะแรกกําเนิดสามารถเปลี่ยนความคิดของผู้คนนำ เผ่ามนุษย์ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุด และก่อตั้งวงสวรรค์
ด้วยการพึ่งพาวิญญาณชะตากรรม เทพอมตะกลุ่มดาวสามารถรับมือเทพปีศาจสามคนที่บุกวังสวรรค์
ด้วยการพึ่งพาวิญญาณชะตากรรม เทพอมตะบัวสวรรค์สามารถนําวงสวรรค์ครอบครองบัลลังก์กองกําลังอันดับหนึ่งของโลกใบนี้
วิญญาณชะตากรรมคือสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของสมาชิกวังสวรรค์ทั้งหมด
“หลายปีมาแล้ว นานมากจริงๆ…” ราชันมังกรพึมพํา
ความปั่นป่วนในหัวใจของเขาค่อยๆสงบลง
ตอนนี้เขารู้สึกราวกับสามารถปลดภาระลงจากบ่า
การฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรมมีความหมายสําหรับราชันมังกรมากกว่าสมาชิกวังสวร รค์คนอื่นๆ เพราะเขาเป็นหนึ่งในต้นเหตุที่ทําให้วิญญาณชะตากรรมได้รับบาดเจ็บ
หลายปีที่ผ่านมาราชันมังกรโทษตัวเองมาตลอด เพื่อฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรมและลบความผิดบาปในใจของตน เขาไม่ลังเลที่จะสละชีวิตด้วยการใช้ท่าไม้ตายอมตะมังกรสวรรค์
แม้เขาจะจําศีล เขาก็ยังไม่รู้สึกสบายใจ
“ข้าจะสามารถกู้คืนวิญญาณชะตากรรมได้หรือไม่?
“ข้าต้องทําให้สําเร็จ!”
“มิฉะนั้นข้าจะเผชิญหน้ากับราชันอีกสองคนได้อย่างไร? ข้าจะเผชิญหน้ากับสามัญชนได้อย่างไร? ข้าจะเผชิญหน้ากับสมาชิกวงสวรรค์รุ่นหลังได้อย่างไร? ข้าจะเผชิญหน้ากับมนุษยชาติทั้งหมดได้อย่างไร?
นี่คือความคิดของราชันมังกร
และตอนนี้เขาทําสําเร็จแล้ว
“ไม่ใช่ข้าเพียงผู้เดียวแต่มันเป็นความสําเร็จของทุกคน! การเสียสละทั้งหมดของพวกเราคุ้มค่า!” ราชันมังกรเผยรอยยิ้มพึงพอใจ
ตอนนี้เขาอยู่ในสภาพที่น่าอนาถ เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและใกล้ตาย
แต่ในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต เขายังสามารถผ่อนคลาย
เป็นธรรมดาที่เขาจะรู้สึกถึงความเหน็ดเหนื่อย
ภาระและความยากลําบากตลอดหลายปีที่ผ่านมาทําให้เขารู้สึกเหนื่อยมาก
“ข้าอยากพักผ่อนเหลือเกิน” ดวงตาของราชันมังกรเผยอารมณ์ที่ซับซ้อน
เขามองวิญญาณชะตากรรมเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะค่อยๆหันหลังกลับ
สายตาของเขากวาดผ่านสนามรบ
แม้การต่อสู้จะยังดําเนินอยู่แต่แท่นบูชาแห่งโชคถอยห่างออกไปแล้ว
“ถึงเวลายุติทุกสิ่ง” ราชันมังกรสูดหายใจลึกและตะโกนเสียงดัง “ถ้ําสวรรค์นิรันดร อย่าคิดว่าจะสามารถจากไป ฮ่าฮ่าฮ่า”
ราชันมังกรควบคุมหอคอยดวงตาสวรรค์บินขึ้นสู่ท้องฟ้า
ภายใต้การจ้องมองของกลุ่มผู้อมตะทั้งหมด หอคอยดวงตาสวรรค์ส่องประกายระยิบระยับราวกับเทพเจ้าที่ก้าวเข้าสู่สนามรบ
คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเก้า หอคอยดวงตาสวรรค์!
“นี่คือหอคอยดวงตาสวรรค์ที่แท้จริง!”
“นานมากแล้ว ในที่สุดมันก็กลับมา…”
“ข้าช่างโชคดีนักที่ได้เห็นฉากนี้ในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต”
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของสมาชิกวงสวรรค์
“ถอย!” เสียงของปิงชายฉวนดังขึ้น
พวกเขาต้องล่าถอย
“ไร้สาระ!” ราชันมังกรกล่าวเบาๆ
หอคอยดวงตาสวรรค์ระเบิดแสงสว่างออกมา
ท่าไม้ตายอมตะจํานนต่อโชคชะตา!
แสงสีขาวกลืนกินทุกสิ่ง
นี่เป็นท่าไม้ตายอมตะระดับเก้าที่แท้จริง!
การโจมตีของวิญญาณชะตากรรมไม่สามารถหลบเลี่ยง
หากโชคชะตาต้องการให้ผู้ใดพ่ายแพ้ พวกเขาจะพบกับความสูญเสียไม่ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้น
เมื่อแสงสีขาวจางหาย ร่างของผู้อมตะภาคเหนือที่ถูกอัญเชิญมาจากอดีตก็สลายไป
สายธารแห่งกาลเวลาค่อยๆเลือนหายไปเช่นกัน
แท่นบูชาแห่งโชคอยู่ในสภาพพังยับเยิน มันเหมือนกระท่อมไม้ที่ถูกโจมตีโดยพายุใหญ่
ภายในแท่นบูชาแห่งโชค ชิงช่ายฉวน ปีศาจกระทิง และปรมาจารย์ห้าธาตุกระอักเลือดคําโตออกมา
“ไป!” ปิงช่ายฉวนควบคุมแท่นบูชาแห่งโชคที่เหลืออยู่
แสงสีทองส่องประกายขึ้นกลางอากาศ นี่คือแผนสํารองที่ถูกจัดเตรียมไว้โดยเทพอมตะตะวันเดือด
แท่นบูชาแห่งโชคบินเข้าไปหาแสงสีทอง
“ต้องการหลบหนึ่งั้นหรือ?”
“พวกเจ้าจะไปที่ใด?”
ผู้อมตะวังสวรรค์ต้องการไล่ล่า
“ไปเร็ว!” เหมาหลี่ชิวปิดกั้นกลุ่มผู้อมตะของวังสวรรค์
“ทุกคน ถอยออกมา” ราชันมังกรออกคําสั่ง
ผู้อมตะวังสวรรค์รู้สึกประหลาดใจ
ราชันมังกรถอนหายใจ “รักษารากฐานของวังสวรรค์”
กลุ่มผู้อมตะเงียบ
วังสวรรค์ประสบความสูญเสียครั้งใหญ่ในการต่อสู้ครั้งนี้
ผู้อมตะระดับแปดจํานวนมากเสียสละตนเองเพื่อปกป้องวังสวรรค์จากการบุกโจมตีของถ้ําสวรรค์นิรันดร
แม้พวกเขาจะมีผู้อมตะระดับแปดจําศีลอยู่ในสุสานอมตะจํานวนนับไม่ถ้วน แต่ผู้อมตะระดับแปดที่สามารถใช้งานมีไม่เพียงพอ
ราชันมังกรยังจําคํากล่าวของเทพอมตะกลุ่มดาวได้ดี นางสั่งให้เขาเก็บผู้อมตะระดับแปดเอาไว้ในสุสานอมตะ ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามีเหตุผลลึกซึ้งอยู่เบื้องหลังคําสั่งนี้ แต่ในการต่อสู้ครั้งนี้มีผู้อมตะระดับแปดที่ตื่นขึ้นจากสุสานอมตะมากเกินไปและหลายคนยังถูกสังเวย
แม้วิญญาณชะตากรรมจะได้รับการกู้คืน แต่ราชันมังกรยังรู้สึกไม่สบายใจ
“วิญญาณชะตากรรมฟื้นตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์แล้ว ข้าสามารถใช้หอคอยดวงตาสวรรค์กําจัดศัตรู ทุกท่าน โปรดกลับไปจําศีลที่สุสานอมตะ ข้าจะเรียกพวกท่านหากมีเหตุจําเป็น” ราชันมังกรกล่าว
“เป็นเช่นนั้น”
“มีวิญญาณชะตากรรมและราชันมังกรอยู่ที่นี่ ผู้ใดจะสามารถหยุดพวกเรา?”
“พวกเรากลับไปจําศีลกันเถอะ”
ผู้อมตะส่วนใหญ่กลับไปที่สุสานอมตะ ผู้อมตะบางคนที่กําลังจะสิ้นอายุขัยเช่นเดียวกับราชันมังกรยังรั้งอยู่ต่อเพราะการจําศีลไม่มีประโยชน์สําหรับพวกเขาอีกต่อไป
ราชันมังกรนํากลุ่มเล็กๆไล่ล่าแท่นบูชาแห่งโชค
ความเร็วของแท่นบูชาแห่งโชคไม่สามารถแข่งขันกับหอคอยดวงตาสวรรค์ นอกจากนั้นพวกเขายังอยู่ในภาคกลาง
ราชันมังกรต้องการจับเป็นคนเหล่านี้เพื่อแสดงพลังอํานาจของวังสวรรค์
“กระไรนะ!? ถ้ําสวรรค์นิรันดรถอยกลับด้วยความพ่ายแพ้ วังสวรรค์ได้รับวิญญาณชะตากรรมที่สมบูรณ์งั้นหรือ?”
“เห้อ…การต่อสู้ครั้งนี้เป็นความพ่ายแพ้ของพวกเรา ถอยกันเถอะ”
“หอคอยดวงตาสวรรค์เป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะอันดับหนึ่งของโลกยุคปัจจุบัน!”
“ไม่ว่าจะเป็นราชันมังกรหรือหอคอยดวงตาสวรรค์ เราก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา!”
หลังจากได้รับข่าวนี้ สถาการณ์ที่แดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ผู้อมตะภาคใต้และภาคเหนือต้องการล่าถอย กระทั่งฟางหยวนก็เช่นกัน
เขารู้สึกหดหูมากแต่เขาไม่สามารถทําสิ่งใด
ทันใดนั้นแท่นบูชาแห่งโชคพลันปรากฏขึ้นในมุมมองสายตาของฟางหยวน นอกจากนี้ยังมีหอคอยดวงตาสวรรค์ที่ไล่ล่ามาจากด้านหลัง
ด้วยเหตุผลบางประการ เทพอมตะตะวันเดือดสร้างเส้นทางหลบหนีมายังภูเขาขนดก
ทุกคนมาพบกัน ณ สถานที่แห่งนี้
“ดี เช่นนั้นข้าก็จะนําพวกเจ้าไปทั้งหมด!” ราชันมังกรหัวเราะเสียงดัง