Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 1826 การทดสอบของวังมังกร
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1826 การทดสอบของวังมังกร
คลื่นน้ําสาดซัดอยู่ในทะเลอันกว้างใหญ่ นกนางนวลบินอยู่บนท้องฟ้าที่ไร้ขอบเขต
ผู้อมตะผู้หนึ่งดําลงไปใต้น้ํา
หนึ่งร้อยเมตร หนึ่งพันเมตร หนึ่งหมื่นเมตร!
ทะเลแห่งนี้ลึกมากและเต็มไปด้วยสัตว์อสูรที่ดุร้าย
แน่นอนว่ามีสมบัติล้ําค่าซ่อนอยู่ที่นี่เช่นกัน
“ทะเลตะวันออกเป็นอันดับหนึ่งในแง่ของทรัพยากรอย่างแท้จริง” ผู้อมตะถอนหายใจขณะดําลงไปใต้น้ํา
ท่ามกลางความมืดมิดของทะเลลึก อาณาจักรแห่งความฝันส่องประกายด้วยสีสันที่งดงาม
“วังมังกรอยู่ที่นี่!” ดวงตาของผู้อมตะกลายเป็นเร้าร้อน
เขาเป็นชายที่หล่อเหลาและดูแข็งแกร่ง เขามีเกล็ดมังกรสีทองอยู่บนร่างกาย เขามีดวงตามังกรที่ดูคล้ายบุษราคัม นอกจากนี้เขายังมีเขามังกรสีทองคล้ายปะการังอยู่บนศีรษะ
นี่คือร่างแยกมนุษย์มังกรของฟางหยวน
ฟางหยวนรู้ว่าวังมังกรถูกซ่อนไว้ในทะเลตะวันออก แต่เขาไม่รู้ตําแหน่งที่แน่ชัดของมัน
ย้อนกลับไปในชีวิตก่อนหน้าเมื่อฟางหยวนมาถึง ราชันมังกรก็ไล่ล่าวังมังกรไปไกลจากตําแหน่งเดิมของมันแล้ว
หลังจากกําเนิดใหม่ฟางหยวนวางแผยที่จะยึดครองวังมังกร เขาทํางานอย่างหนักและรวบรวมข้อมูลที่เป็นไปได้ทั้งหมด เขากระทั่งส่งลูกน้องมาสํารวจทะเลตะวันออกอย่างลับๆ ในที่สุดความพยายามของเขาก็ได้รับผลตอบแทน เขาค้นพบที่ตั้งของวังมังกรเมื่อเร็วๆนี้
ร่างแยกมนุษย์มังกรสํารวจรอบๆและไม่พบสัตว์อสูรอยู่ใกล้ๆ ที่นี่ปลอดภัยมาก
ท่าไม้ตายอมตะเปลี่ยนเป็นกายาแห่งความฝัน
เขาเริ่มเปลี่ยนอาณาจักรแห่งความฝันให้เป็นกายาแห่งความฝันทันที
ทางเลือกของเขาเหมือนกับราชันมังกร เขาต้องการแยกอาณาจักรแห่งความฝันออกจากวังมังกรโดยตรง
บนท้องฟ้าเหนือทะเลแห่งนี้ ร่างหลักของฟางหยวนซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางกลุ่มเมฆ เขากําลังตรวจสอบพื้นที่รอบๆและปกป้องร่างแยกมนุษย์มังกร
ในทางกลับกัน หากเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด ร่างหลักของฟางหยวนจะสามารถหลบหนีได้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตามฟางหยวนไม่รู้รายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับวังมังกร มันไม่เหมือนแผนการในสายธารแห่งกาลเวลาหรือมรดกที่แท้จริงของเต๋จูที่เขามีข้อมูลที่เพียงพอ
จะเกิดสิ่งใดขึ้นหากวังสวรรค์ซุ่มโจมตี?
แม้มันจะไม่เป็นเช่นนั้น แต่วังมังกรก็ยังอันตรายด้วยตัวของมันเอง ดังนั้นฟางหยวนจึงต้องระวังตัวเป็นอย่างมาก
กายาแห่งความฝันถูกสร้างขึ้นทีละร่าง ความคืบหน้าของร่างแยกมนุษย์มังกรเป็นไปอย่างรวด
แต่อาณาจักรแห่งความฝันนี้ใหญ่โตเกินไป เขาต้องใช้เวลาหลายวันก่อนจะเปลี่ยนพวกมันทั้งหมดให้เป็นกายาแห่งความฝัน
“ยังไม่ต้องกล่าวถึงสิ่งใด เพียงอาณาจักรแห่งความฝันเหล่านี้ก็ถือเป็นโชคลาภมหาศาลแล้วในชีวิตก่อนหน้าวังสวรรค์ได้รับมันไปแต่พวกเขาไม่สามารถใช้ประโยชน์จากมัน แต่ในมือของ ข้ามันจะแตกต่างออกไป
ร่างหลักของฟางหยวนมองเห็นสถานการณ์ทั้งหมดอย่างชัดเจน
ต่อมาเขาใช้วิธีบนเส้นทางแห่งโชคและเห็นหม้อปรุงโชคที่อยู่เหนือศีรษะของเขา
ฟางหยวนไม่สามารถตรวจสอบโชคของตนเองแต่เขาสามารถตรวจสอบโชคของร่าง แยกมนุษย์มังกร
โชคมังกรสีม่วงของร่างแยกมนุษย์มังกรขดตัวอยู่กลางอากาศโดยไม่เคลื่อนไหว มัน มองไปรอบๆและแสดงออกด้วยความกังวล
นอกจากนั้นยังมีกลุ่มเมฆหมอกสีดําก่อตัวอยู่รอบๆมังกรม่วง
“เมฆสีดําคือเค้ารางแห่งความตาย ดูเหมือนร่างแยกมนุษย์มังกรกําลังเผชิญหน้ากับหายนะ!” ฟางหยวนขมวดคิ้ว
เขาเร่งคิด หลังจากกําเนิดใหม่ พิจารณาจากช่วงเวลา ข้าพบวังมังกรเร็วกว่าวังสวรรค์ในชีวิตก่อนหน้านี้และดําเนินการล่วงหน้า”
“ข้าควรนําหน้าพวกเขา แต่ดูเหมือนการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันหลังจากนี้
โชคเมฆสีดําพยายามกลืนกินโชคมังกรสีม่วงของร่างแยกมนุษย์มังกร
ดังนั้นฟางหยวนจึงกระตุ้นใช้งานหม้อปรุงโชค
มังกรทองของหม้อปรุงโชคเริ่มทํางาน พวกมันกลืนกินเมฆสีดําและคายเข้าไปในหม้อ
โชคเมฆสีดําถูกปรุงแต่งและกลายเป็นโชคที่มีประโยชน์ต่อฟางหยวน
โชคชนิดใหม่ถูกมังกรทองกลืนกินอีกครั้งก่อนที่พวกมันจะส่งไปยังโชคมังกรม่วง
เมื่อมังกรม่วงได้รับความช่วยเหลือดังกล่าว มันกลายเป็นกระปรี้กระเปร่าและเต็มไปด้วยพลังงาน แม้เมฆสีดําจะยังอยู่ แต่มังกรม่วงก็ไม่อ่อนแออีกต่อไป
ฟางหยวนอ้าปากค้างและคิด “หม้อปรุงโชคของข้าเป็นเพียงคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับหกแต่มันสมเป็นมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะตะวันเดือดอย่างแท้จริง มันสามารถควบคุมโชคของผู้อมตะระดับหกและส่งอิทธิพลต่อโชคของผู้อมตะระดับเจ็ด”
“ตอนนี้ร่างแยกมนุษย์มังกรของข้าเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด ดังนั้นหม้อปรุงโชคจึงส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อโชคมังกรม่วง แต่เมฆสีดําเหล่านี้
ฟางหยวนขมวดคิ้วไตร่ตรอง “โชคเมฆสีดําได้รับอิทธิพลจากข้า แต่ผลกระทบของมันไม่รุนแรงนักนี่คือวิกฤตเกี่ยวกับผู้อมตะระดับแปด อย่างไรก็ตามโชคมังกรม่วงส่งอิทธิพลต่อโชคเมฆสีดําเช่นกัน”
“ดูเหมือนท่ามกลางโชคร้ายยังมีโชคดีซ่อนอยู่!”
แน่นอนว่านี่เป็นกรณีที่ร่างหลักของฟางหยวนจะไม่ดําเนินการใดๆ
หากร่างหลักของฟางหยวนเคลื่อนไหว โชคจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก
เนื่องจากฟางหยวนไม่ใช่ผู้อมตะระดับแปดทั่วไป ทุกการกระทําของเขาจะส่งอิทธิพลครั้งใหญ่ต่อสถานการณ์
“เห้อ…น่าเสียดายที่ข้าไม่สามารถตรวจสอบโชคของตนเอง มรดกที่แท้จริงโชคของตนเองมีเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะตรวจสอบโชคระดับหนึ่งถึงเก้า แตวิญญาณอมตะตรวจสอบโชคของข้าเป็นเพียงวิญญาณอมตะระดับหก แม้ข้าจะใช้ท่าไม้ตายอมตะ มันก็สามารถตรวจสอบโชคของผู้อมตะระดับเจ็ดเท่านั้น
“หม้อปรุงโชคยังอยู่ในระดับต่ําเกินไป
“ในอนาคตข้าต้องยกระดับวิญญาณอมตะที่เป็นแกนกลางทั้งหมดของมัน ข้าต้องเพิ่มโชคของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดเข้าไปด้วยเพื่อให้มันสามารถส่งอิทธิพลต่อคนอื่นๆ”
ฟางหยวนวางแผน
ฟางหยวนสามารถใช้หม้อปรุงโชคช่วยร่างแยกของเขา นั่นเป็นเพราะร่างแยกของเขาถือเป็นหนึ่งเดียวกันกับเขา มันเหมือนกับการช่วยตัวเขาเอง นี่คือโชคของตนเอง มันไม่ใช่โชคของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด
ฟางหยวนตระหนักถึงวิกฤตที่ร่างแยกมนุษย์มังกรกําลังเผชิญ แต่เขาเลือกที่จะไม่เคลื่อนไหวเขาจะดูแลภาพรวมและใช้หม้อปรุงโชคสนับสนุนเท่านั้น
แม้มันจะมีประโยชน์ต่อโชคมังกรม่วงไม่มาก แต่โชคเมฆสีดําก็ลดน้อยลงอย่างมีนัยสําคัญ
ท้ายที่สุดมันก็ดีกว่าไม่ทําสิ่งใดเลย
ร่างแยกมนุษย์มังกรติดต่อร่างหลักตลอดเวลาขณะเปลี่ยนอาณาจักรแห่งความฝันให้เป็นกายาแห่งความฝัน
หลังจากผ่านไปหนึ่งวันกับอีกครั้งคืน ผู้อมตะของทะเลตะวันออกสี่คนก็พุ่งเข้ามาจากทิศทางที่แตกต่างกัน
ทิศตะวันออกเป็นชายหนุ่มชุดขาวที่หล่อเหลา เขาคือหยางจื่ออี้
ทิศตะวันตกเป็นหญิงชราหลังค่อม ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่นเหมือนอสรพิษสีม่วง นางคือยายหรง
ทิศเหนือเป็นผู้อมตะมัดกล้ามที่มีดวงตาสามเหลี่ยม เขาคือชื่อเดี่ยว
ทิศใต้เป็นผู้อมตะในชุดคลุมดําที่มองไม่เห็นใบหน้า เขาปลดปล่อยพลังงานแห่งความมืดออกมารอบๆเขาคือจางหยิน
ผู้อมตะระดับแปดสี่คน? มันคือพวกเขา!” ร่างหลักของฟางหยวนไม่ขยับเพราะเขารู้สึกบางสิ่งที่แปลกประหลาดจากโชคมังกรม่วง
ตอนนี้โชคมังกรมวงถูกปิดล้อมด้วยชั้นเมฆสีดําขนาดใหญ่ มันไม่สามารถทะลวงออกมา
แต่โชคเมฆสีดํานี้เปลี่ยนไปเล็กน้อย
มีเสียงน้ําดังขึ้นจากโชคเมฆสีดําทางทิศตะวันออก มีเงาอสรพิษสีม่วงอยู่ในเมฆสีดําทางทิศตะวันตก มีเงาภูเขาอยู่ในเมฆสีดําทางทิศเหนือ และมีหลุมดําก่อตัวขึ้นในเมฆสีดําทางทิศใต้
“ผู้อมตะระดับแปดทั้งสี่ไม่ปกติ!”
โชคของพวกเขาล้วนเป็นส่วนหนึ่งของเมฆสีดํา พวกเขาเป็นพันธมิตรกันงั้นหรือ?”
ฟางหยวนไม่รู้เรื่องสี่นักรบมังกรของวังมังกร เขาไม่ได้รับข้อมูลนี้ในชีวิตก่อนหน้า
แต่ไม่นานเขาก็ค้นพบบางสิ่ง
เมื่อผู้อมตะระดับแปดทั้งสี่มาถึงและเห็นร่างแยกมนุษย์มังกร การแสดงออกที่เย็นชาของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นผ่อนคลายลงเล็กน้อย
“เขาเป็นมนุษย์มังกรจริงๆ!”
“เจ้าเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด เจ้ามีคุณสมบัติที่จะเข้ารับการทดสอบ!”
“อาณาจักรแห่งความฝันเหล่านี้เป็นบททดสอบของเจ้า หากเจ้าผ่านการทดสอบ เจ้าจะได้รับการยอมรับจากจิตวิญญาณมังกรและกลายเป็นเจ้าของวังมังกร!”
“รีบเปลี่ยนมันกลับเป็นอาณาจักรแห่งความฝันและทําการทดสอบ มิฉะนั้นพวกเราสี่แม่ทัพมังกรจะทําให้แน่ใจว่าเจ้าจะเสียใจที่มาที่นี่!”
ผู้อมตะระดับแปดทั้งสี่เปิดเผยตัวตนของพวกเขาออกมาทันที
ไม่ว่าจะเป็นร่างหลักหรือร่างแยกของฟางหยวน ทั้งสองต่างตกตะลึง