Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 1927 ขอความช่วยเหลือจากฟางหยวน
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1927 ขอความช่วยเหลือจากฟางหยวน
“เกิดสิ่งใดขึ้น?”
“ทั้งหมดคือผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ของภาคเหนือ พวกเขาถูกเรียกตัวมาที่นี่จริงๆ!”
กลุ่มผู้อมตะของวังสวรรค์ตกตะลึง
ราชันมังกรกล่าวด้วยเสียงจริงจัง “ทุกคน นี่คือท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของเทพปีศาจบัวแดง มันเรียกว่าอัญเชิญอดีต มันสามารถเรียกผู้อมตะจากอดีตมายังปัจจุบัน!”
“น่าสนใจ” นักลงทัณฑ์เลียริมฝีปาก จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของนางพุ่งสูงขึ้น
“ให้ข้าลอง” จางเฟยซ่งพร้อมกับนักลงทัณฑ์พุ่งเข้าไปหาแท่นบูชาแห่งโชคจากด้านซ้ายและขวา
แต่แท่นบูชาแห่งโชคได้รับการปกป้องแล้ว
นูเอ๋อเปาซึ่งคํารามและยิงบอลสายฟ้าออกไปทุกหนทุกแห่ง
จางเฟยซ่งและนักลงทัณฑ์ถูกหยุด
จชิวเอ๋อกรีดร้องเสียงแหลม นางกลายเป็นดวงแสงสีแดงบินวนเวียนอยู่รอบๆแท่นบูชาแห่งโชค
“อย่าแม้แต่จะคิด!” ผู้อมตะหนุ่มเดินออกมากจากสายธารแห่งกาลเวลาและปิดกั้นจูชิวเอ่อ
เขามีใบหน้าที่หล่อเหลาและดูสง่างาม เขาคือตงฟางหมู
“บีม ทีม บีม!”
จูชิวเอ่อและตงฟางหูต่อสู้กันอย่างดุเดือด
ท่าไม้ตายอมตะกินดื่มบนภูเขาที่ว่างเปล่า!
จ้าวซานอี้และอวจจ่อใช้ท่าไม้ตายอมตะของพวกเขามาจากระยะไกล
อย่างไรก็ตามครั้งนี้แท่นบูชาแห่งโชคสามารถป้องกันท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางอาหารของพวกเขา
เย่เซียวจื่อสร้างเสาไม้ขึ้นรอบๆแท่นบูชาแห่งโชค ก่อนที่เถาวัลย์สีเขียวจํานวนมากจะงอกขึ้นจากเสาไม้ และพยายามเคลื่อนที่ไปยังสายธารแห่งกาลเวลา
“ไร้ประโยชน์ สายธารแห่งกาลเวลาจะไม่ถูกโจมตี มีเพียงการทําลายแท่นบูชาแห่งโชคเท่านั้นที่จะทําให้เราได้รับชัยชนะ” ราชันมังกรกล่าว
แต่ผู้อมตะของวังสวรรค์อีกคนพุ่งเข้าไปหาสายธารแห่งกาลเวลาแล้ว
เขาอยู่ในรูปลักษณ์ของเด็กชายที่ดูน่ารัก เขาคือผู้อมตะหลุมด่า
ผู้อมตะหลุมด่าสร้างวังวนแสงสีด่าขนาดใหญ่ขึ้นเหนือศีรษะ มันมีแรงดึงดูดมหาศาลราวกับสามารถดูดกลืนทุกสิ่งเข้าไป
อย่างไรก็ตามสายธารแห่งกาลเวลายังนิ่งเฉย มันไม่ได้รับผลกระทบใดๆ
ผู้อมตะของภาคเหนือที่พึ่งเดินออกมาจากสายธารแห่งกาลเวลาไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลา ก่อนที่เขาจะถูกหลุมดําดูดกลืน
“ฮ่าฮ่าฮ่า อย่างน้อยข้าก็ได้รับกําไรอยู่บ้าง” ผู้อมตะหลุมด่าหัวเราะ
ผู้อมตะภาคเหนือที่ติดอยู่ภายในหลุมดําคือเหนียงเอ๋อตงฟู
เขาดูเหมือนชาวนาแก่ๆ กางเกงของเขาถูกม้วนขึ้น ขาของเขาเต็มไปด้วยโคลน แผ่นหลังโค้งงอ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่น
เขาถอนหายใจ “โอ้ ข้าจะตายทันทีที่ออกมางั้นหรือ? ท่ามกลางผู้อมตะของภาคเหนือ ข้ามีพลังการต่อสู้ต่ําที่สุด”
ใบหน้าของผู้อมตะหลุมดําพองโตขึ้นขณะที่เขาพยายามบดขยี้เหนียงเอ๋อตงฝ
เหนียงเอ๋อตงผู้ได้รับการปกป้องโดยรัศมีแสงสีเหลือง มันแผ่วเบาแต่แข็งแกร่งมาก มันสามารถต่อต้านแรงเหวี่ยงของหลุมดําได้อย่างมั่นคง
ผู้อมตะของภาคเหนือคนใหม่ที่พึ่งเดินออกมาจากสายธารแห่งกาลเวลาเห็นเหนียงเอ๋อตงฝูติดอยู่และกําลังจะช่วย แต่ในจังหวะนี้โจวซ่งชิ้นของวังสวรรค์กลับเข้ามาหยุดเขาเอาไว้
เย่หลิวเกาที่มีผิวสีแทนและดวงตาเหมือนเหยี่ยวเดินออกมา เขาสารวจสนามรบและพบผู้อมตะที่อ่อนแอที่สุดของวังสวรรค์ฉันซึ่งทันที
สภาพที่อ่อนแอของฉันซึ่งไม่สามารถปกปิด
เย่หลิวเกาเย้ยหยันและโจมตีฉินซ่งโดยไม่ลังเล
“คู่ต่อสู้ของเจ้าคือข้า” ผู้อมตะหญิงของวังสวรรค์เข้ามาปิดกั้นเย่หลิวเกา
เย่หลิวเกามองผู้อมตะหญิงผู้นี้และรู้สึกถึงภัยคุกคาม “เจ้าเป็นผู้ใด?”
ผู้อมตะหญิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ผู้ที่จะฆ่าเจ้า หว่านชื่อหง!”
ทั้งสองต่อสู้กันท่ามกลางแสงสีทองและกลีบดอกไม้
เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างไม่รู้จบสิ้น ประกายไฟปะทุขึ้นทุกหนทุกแห่ง
ผู้อมตะภาคเหนือต่อสู้กับผู้อมตะของวังสวรรค์อย่างชุลมุนวุ่นวาย
นักลงทัณฑ์ใช้แสไม้ตบหยวนเปยอย่างแรง เกราะกระดูกบนร่างของเขาแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เขาถูกบังคับให้ล่าถอย
เหนี่ยงเอ๋อตงฟูยังต่อต้านหลุมดําขณะที่ผู้อมตะหลุมดํากัดฟันแน่นและไม่ยอมแพ้
สถานการณ์กลายเป็นชะงักงัน
ผู้อมตะทั้งหมดเริ่มได้รับบาดเจ็บ อากาศเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด
“แม้เราจะใช้ท่าไม้ตายอมตะอัญเชิญอดีตแต่เรายังถูกกดดันอย่างหนัก!” ปิงชายฉวนกัดฟันแน่นด้วยความหนักใจ
ไพ่ตายของเขาไม่สามารถเปลี่ยนสถานการณ์ มันทําให้สถานการณ์ที่เลวร้ายกลายเป็นชะงักงันเท่านั้น
ในชีวิตก่อนหน้า ผู้อมตะของวังสวรรค์ตื่นขึ้นจากสุสานอมตะอย่างเร่งรีบ แม้พวกเขาจะได้รับวิญญาณอมตะ บางดวงมาอย่างฉุกเฉินแต่ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็ยังไม่สมบูรณ์
แต่ชีวิตนี้แตกต่างออกไป ผู้อมตะของวังสวรรค์อยู่ในสภาพที่ดีและสามารถสร้างความร่วมมือ ขณะที่ผู้อมตะของภาคเหนือพึ่งถูกอัญเชิญมา พวกเขาแทบไม่เคยพบกันมาก่อน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถร่วมมือกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากนัก
“เราไม่สามารถปล่อยให้สิ่งนี้ดําเนินต่อไป ยิ่งนานเท่าใด ผู้อมตะภาคเหนือก็ยิ่งจะถูกอัญเชิญมามากเท่านั้น” เทพธิดาจอเว่ยขมวดคิ้ว
โชคดีที่นางให้ความสําคัญกับสนามรบวงสวรรค์ มิฉะนั้นกําลังรบที่เหลืออยู่ในวังสวรรค์จะมีน้อยมาก หยวนเชียงตู้และคนอื่นๆต้องดูแลการฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรม ผู้ที่สามารถปิดกั้นแท่นบูชาแห่งโชคมีเพียงราชันมังกรเท่านั้น
ราชันมังกรมองสายธารแห่งกาลเวลาและถอนหายใจ
“หากไม่สามารถทําลายได้โดยตรง สิ่งที่เราต้องทําก็คือรื้อถอนแท่นบูชาแห่งโชค” เมื่อคิดได้เช่นนี้ ราชันมังกรก็ก้าวเข้าสู่สนามรบ
เย่เซียวจอกระอักเลือดและได้รับบาดเจ็บสาหัสจากท่าไม้ตายอมตะที่ล้มเหลว
เขาร่วมมือกับราชันมังกรตรวจสอบและหยุดแท่นบูชาแห่งโชค แต่คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดจะถูกต่อต้านโดยง่ายได้อย่างไร?
เย่เซียวจอต้องล่าถอยกลับเข้าไปในกําแพงปราณขณะที่แท่นบูชาแห่งโชคพยายามเคลื่อนที่ไปข้างหน้า
ราชันมังกรเคลื่อนที่เข้าไปหาแท่นบูชาแห่งโชคอย่างเงียบๆ
“ปิดกั้นเขา!” ปิงชายฉวนออกคําสั่ง
เขาเป็นคนรุ่นเดียวกับเทพอมตะตะวันเดือด ขณะที่ผู้อมตะของภาคเหนือล้วนเป็นบุตรหลานของเทพอมตะตะวันเดือด ดังนั้นพวกเขาจึงต้องรับคําสั่งของปิงชายฉวน
นูเอ่อเปาซึ่งเป็นคนแรกที่โจมตี เขายิงบอลสายฟ้าหลายร้อยลูกไปยังราชันมังกร
“เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง!”
ด้วยเสียงระเบิดที่ดังสนั่นและฝุ่นควันที่ลอยคละคลุ้ง นูเอ่อเปาซ่งหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “เจ้าได้ลิ้มลองรสชาติพลังของข้าแล้วหรือยัง? ฮ่าฮ่าฮ่า”
ร่างหนึ่งค่อยๆเดินออกมาจากกลุ่มฝุ่นควัน
ใบหน้าของราชันมังกรยังสงบนิ่ง ร่างกายของเขายังตั้งตรงเหมือนหอก เกล็ดมังกรสีม่วงทองของเขายังส่องประกายสดใส
นูเอ่อเปาซึ่งโกรธจัด “รับท่าไม้ตายของข้าอีกครั้ง!”
เขายกฝ่ามือขึ้นเหนือศีรษะและควบรวมบอลสายฟ้าขนาดใหญ่
จากนั้นนูเอ่อเปาซึ่งก็เหวี่ยงบอลสายฟ้าพุ่งลงไปราวกับดาวตก
ราชันมังกรชําเลืองมองมันเล็กน้อยและโบกมือเบาๆ
“บีม!”
บอลสายฟ้าถูกส่งออกไปอย่างง่ายๆ
หลังจากนั้นผู้อมตะของภาคเหนือก็โจมตีราชันมังกรทีละคน ขณะที่ราชันมังกรยังเดินตรงไปยังแท่นบูชาแห่งโชคอย่างไม่แยแส
มีเพียงการทําลายแท่นบูชาแห่งโชคเท่านั้นที่จะสามารถหยุดท่าไม้ตายอมตะอัญเชิญอดีต
“บม!”
แท่นบูชาแห่งโชคถูกราชันมังกรต่อยและจมลงสู่พื้น
วิญญาณระดับมนุษย์จํานวนมากถูกทําลาย กระทั่งวิญญาณอมตะยังได้รับความเสียหาย
ท่าไม้ตายอมตะของกลุ่มผู้อมตะภาคเหนือร่วงหล่นลงมายังราชันมังกรราวกับสายฝน
แต่ราชันมังกรยังยืนอยู่ที่เดิมราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น
“นี่เป็นไปได้อย่างไร?”
“คนผู้นี้ช่างแข็งแกร่งนัก!”
“เขาคือราชันมังกร อาจารย์ของเทพปีศาจบัวแดง!”
บางคนสามารถระบุตัวตนของราชันมังกรและต้องสูดหายใจลึก
เขาเป็นสัตว์ประหลาดเฒ่า!
แต่หลังจากไม่นานขวัญกําลังใจของกลุ่มผู้อมตะภาคเหนือก็พุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง พวกเขามีธรรมชาติที่กล้าหาญ ยิ่งราชันมังกรแข็งแกร่งเท่าใด พวกเขาก็ยิ่งตื่นเต้นเท่านั้น
“ฆ่า!”
“ฆ่าตาแก่ผู้นี้!”
“ปกป้องแท่นบูชาแห่งโชค”
กลุ่มผู้อมตะภาคเหนือโห่ร้องและเริ่มต่อสู้อย่างบ้าคลั่ง
“คนเหนือช่างบ้าคลั่งนัก!”
“ฮีม พวกคนเถื่อน!”
ผู้อมตะของวังสวรรค์ถูกบังคับให้ล่าถอย
เผชิญหน้ากับจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ที่ไม่เกรงกลัวต่อความตายของผู้อมตะภาคเหนือ ราชันมังกรไม่สามารถเพิกเฉยได้อีกต่อไป
เขากล่าวเบาๆ “หนอนแมลงที่น่ารําคาญ”
หลังกล่าวจบค่า กลิ่นอายของเขาก็เปลี่ยแปลงไป
พลังปราณพวยพุ่งออกมาจากร่างของเขา
ราชันมังกรโบกมือเบาๆ
อากาศถูกแยกออก พลังปราณห้าสายพุ่งไปข้างหน้าด้วยพลังทําลายล้างที่น่าสะพรึงกลัว
ทุกที่ที่พวกมันเคลื่อนผ่าน ผู้อมตะภาคเหนือจะถูกแยกร่างออกเป็นชิ้นๆ
ท่าไม้ตายอมตะกรรไกรปราณ!
ราชันมังกรชี้นิ้วออกไป
ท่าไม้ตายอมตะภูเขาปราณ!
“ครื้น…”
ภูเขาโปร่งแสงที่เกิดจากพลังปราณปรากฏขึ้นและตกลงมา
ผู้อมตะภาคเหนือเร่งหลบหนี้แต่หลายคนไม่สามารถหลบได้ทันเวลา พวกเขาถูกภูเขาปราณกดทับและกลายเป็นเนื้อบดไป ณ จุดนั้น
แท่นบูชาแห่งโชคถูกกดทับและไม่สามารถเคลื่อนที่
ราชันมังกรปลดปล่อยท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณสองท่าออกมาพร้อมกัน มันทําให้สถานการณ์เปลี่ยนไปทันที
หัวใจของปิงชายฉวนจมดิ่งลง ราชันมังกรเหมือนภูเขาที่พวกเขาไม่สามารถก้าวข้าม
ไม่ใช่ว่าปีงชายฉวนไม่มีไพ่ตายใบอื่น
ในชีวิตก่อนหน้าเขาขอให้เทพปีศาจไร้ขอบเขตช่วยเหลือ
แต่ในชีวิตนี้แท่นบูชาแห่งโชคอยู่ห่างจากศาลาแห่งความโศกเศร้ามากเกินไป วิธีนี้ไม่สามารถใช้งานได้
เราต้องขอความช่วยเหลือจากฟางหยวนเท่านั้น!! ปิงชายฉวนตัดสินใจ