Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 1935 เทพอมตะกลุ่มดาวปะทะเทพปีศาจไร้ขอบเขต
ตั้งแต่การต่อสู้เริ่มขึ้น นี่เป็นครั้งแรกที่ราชันมังกรถูกส่งลอยกลับหลังจากการโจมตีของศัตรู
ฟางหยวนไม่เพียงสามารถป้องกันการโจมตีของราชันมังกรแต่เขายังสามารถส่งราชันมังกรลอยกลับหลัง!
นี่อยู่นอกเหนือจากความคาดหวังของทุกคนไปไกลมาก
“แข็งแกร่งนัก! เขาเติบโตถึงระดับนี้ได้อย่างไร!?” เหมาลี่หิวอ้าปากค้าง มันยืนขึ้นจากพื้นโดยไม่รู้ตัว
“บุคคลสําคัญที่เทพอมตะตะวันเดือดรอคอย…เขาทําตามความคาดหวังของเทพอมตะได้จริงๆ!” ปิงชายฉวนถอนหายใจและแสดงออกด้วยความรู้สึกซับซ้อน
อีกด้านหนึ่ง ความเร็วในการไล่ล่าฟางหยวนของฉินติงหลิงลดลงโดยไม่รู้ตัว
ฟางหยวนสามารถส่งราชันมังกรลอยกลับหลัง นี่หมายความว่าอย่างไร?
แม้ฉินติงหลิงจะแข็งแกร่ง แต่นางยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับราชันมังกร ย้อนกลับไปเพื่อตรวจสอบโชคของราชันมังกรนางต้องจ่ายด้วยราคามหาศาลและใช้เวลาพักฟื้นหลายวันตอนนี้ผลลัพธ์ของการปะทะระหว่างฟางหยวนกับราชันมังกรทําให้นางปัดเป่าความคิดที่จะตรวจสอบโชคของฟางหยวนทันที
หากนางไม่หยุดเคลื่อนไหว นางจะกลายเป็นเพียงตัวตลก
ฉินติงหลิงหยุดเคลื่อนไหวและไม่กล้าเข้าใกล้ฟางหยวนอีกต่อไป
ฟางหยวนแสดงความแข็งแกร่งในการต่อสู้ระยะประชิดออกมา ฉินติงหลิงไม่กล้าต่อสู้กับเขา
“สัตว์ประหลาด!”
“ผู้ใดจะคิดว่าหลังจากที่ข้าตาย ตัวตนเช่นนี้จะปรากฏขึ้น น่าสนใจมาก”
“ไปกันเถอะ เขาไม่ต้องการความช่วยเหลือจากพวกเรา”
กลุ่มผู้อมตะของภาคเหนือหันหลังกลับและกระจัดกระจายกันไปอย่างรวดเร็ว
เทพธิดาจอเว่ยขมวดคิ้วแน่น ผู้อมตะภาคเหนือแยกย้ายกันไปทุกทิศทุกทาง หากพวกเขาทําลายทุกสิ่งบนเส้นทาง วังสวรรค์จะหยุดพวกเขาอย่างไร
แม้ผู้อมตะจํานวนมากจะตื่นขึ้นมาจากสุสานอมตะในเวลานี้ พวกเขาก็ยังต้องการเวลารวบรวมวิญญาณอมตะ ทุกอย่างสายเกินไปแล้ว
“ตอนนี้ข้าทําได้เพียงปกป้องสถานที่สําคัญเท่านั้น!” เทพธิดาจอเว่ยกัดฟันแน่น นางตัดสินใจด้วยความเจ็บปวด
เมื่อฝุ่นควันจางหายไปจากหลุมขนาดใหญ่ ราชันมังกรก็ยืนขึ้นอย่างช้าๆ
“ฟางหยวน เจ้าทําให้ข้าประหลาดใจซ้ําแล้วซ้ําอีก” ราชันมังกรเงยหน้ามองไปยังฟางหยวนและกล่าวด้วยน้ําเสียงที่น่าขนลุก
เขาถูกต่อยด้วยหมัดตรงของฟางหยวน หน้าอกของเขายุบลงไป อย่างไรก็ตามเมื่อเขากล่าวจบประโยคหน้าอกของเขาก็กลับสู่สภาพปกติเรียบร้อยแล้ว
ความเร็วในการฟื้นตัวของราชันมังกรน่ากลัวมาก
การแสดงออกของฟางหยวนเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเห็นสิ่งนี้
แต่ทุกอย่างอยู่ในความคาดหวังของเขา
ราชันมังกรได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่โต
คลื่นน้ําเชี่ยวกรากนําเรือรบหมื่นปีพุ่งทะยานออกไปและทิ้งเส้นสายสีรุ้งเอาไว้เบื้องหลังมันกําลังมุ่งหน้าไปยังสุสานอมตะ
ราชันมังกรก่นเสียงเย็น จิตสังหารของเขาระเบิดออกมาราวกับคลื่นยักษ์
ด้วยการจู่โจมของฟางหยวน ราชันมังกรไม่มีทางเลือกนอกจากต้องป้องกัน
ท่าไม้ตายอมตะภูเขาปราณ!
“ครืน…”
กระแสปราณรวมตัวกันและกลายเป็นภูเขาโปร่งแสง
ภูเขาปราณร่วงหล่นลงจากท้องฟ้าโดยมีฟางหยวนอยู่ด้านล่าง
ฟางหยวนไม่มีความคิดที่จะหลบเลี่ยงมัน
เขาเปลี่ยนร่างเป็นหมูป่าดาราสวรรค์
หมูป่าดาราสวรรค์อาศัยอยู่ในสวรรค์สีขาว พวกมันเป็นสัตว์อสูรบนเส้นทางแห่งพลังปราณที่สามารถเดินทางผ่านกําแพงปราณสวรรค์ได้อย่างอิสระ
ขาทั้งสี่ของหมูป่าดาราสวรรค์ฟางหยวนเหยียบอยู่บนเรือรบหมื่นปี มันเงยหน้าขึ้นและคํารามเพียงเล็กน้อย
ท่าไม้ตายอมตะเสียงคํารามลมปราณคลั่ง!
นี่เป็นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณ มันมาจากคลังสมบัติของนิกายหลางหยา
ในอดีต จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเคยใช้ยักษ์สวรรค์ปลดปล่อยท่าไม้ตายนี้และสามารถสังหารสัตว์อสูรบรรพกาลได้ในการเคลื่อนไหวเดียว
ตอนนี้ฟางหยวนใช้มันด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋มากกว่าหนึ่งล้านห้าแสนร่องรอยพลังอานาจของมันถูกขยายขึ้นมากกว่าหนึ่งพันห้าร้อยเท่า!
“บึม!”
ภูเขาปราณระเบิดและกลายเป็นสายลมกรรโชกแรงพุ่งออกไปทุกทิศทุกทาง
เมื่อท่าไม้ตายอมตะถูกทําลาย ราชันมังกรจึงได้รับบาดเจ็บจากผลกระทบย้อนกลับ
แต่เขายังเต็มไปด้วยขวัญกําลังใจและกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะต่อไปทันที
ท่าไม้ตายอมตะกรรไกรปราณ!
เขาฟาดกรงเล็บทั้งสิบออกไป
กระแสปราณสีซีดจํานวนมากพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนอย่างพร้อมเพรียง
หากสัตว์อสูรแรกกําเนิดถูกโจมตีด้วยท่าไม้ตายนี้ พวกมันจะถูกแยกร่างออกเป็นชิ้นๆ
หมูป่าดาราสวรรค์ไม่มีประโยชน์อีกต่อไป ดังนั้นฟางหยวนจึงต้องเปลี่ยนร่างอีกครั้ง
คราวนี้เขากลายเป็นนกกระเรียน
มันคือสัตว์อสูรแรกกําเนิดกระเรียนปราณ
นกกระเรียนที่มีขนาดร่างกายเท่ากับม้ากางปีกของมันออกราวกับคันธนู
ท่าไม้ตายอมตะขนนกศักดิ์สิทธิ์!
ฟางหยวนสะบัดปีกและส่งขนนกแสงจํานวนนับไม่ถ้วนพุ่งออกไป
“บิ้ม ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม!”
เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างไม่รู้จบสิ้น
การโจมตีส่วนใหญ่แตกสลายไป มีเพียงส่วนเล็กๆที่พุ่งผ่านอากาศและโจมตีราชันมังกรกับเรีอรบหมื่นปี
แต่ทั้งสองฝ่ายไม่แยแสต่อการโจมตีเล็กๆน้อยๆเหล่านั้น
ท่าไม้ตายอมตะกงล้อปราณกะทันหัน!
ฟางหยวนพ่นพลังปราณออกมาจากปาก
พลังปราณสีขาวพุ่งเข้าปกคลุมเรือรบหมื่นปีและทําให้ความเร็วของมันเพิ่มสูงขึ้นทันที
การแสดงออกของราชันมังกรเปลี่ยนแปลงไป เขาตระหนักถึงปัญหาและเร่งออกไล่ล่า
ตามตรรกะ ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณจะไม่เป็นประโยชน์ต่อคฤหาสน์วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลามากนัก แต่ฟางหยวนดัดแปลงท่าไม้ตายอมตะกงล้อปราณกะทันหันด้วยตนเอง มันเป็นท่าไม้ตายอมตะระดับแปดที่ได้รับการสนับสนุนโดยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งพลังปราณมากกว่าหนึ่งล้านห้าแสนร่องรอยนี่ทําให้มันสา มารถผลักดันเรือรบหมื่นปีให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้าและท้าทายตรรกะพื้นฐานของโลกใบนี้
ฟางหยวนไปถึงสุสานอมตะในที่สุด
สุสานอมตะมีหลุมศพจํานวนนับไม่ถ้วนอยู่บนทุ่งหญ้าสีเขียว บรรยากาศของมันดูศักดิ์สิทธิ์และลึกลับ
ฟางหยวนเผยรอยยิ้มเย็นชา เขาเปลี่ยนร่างเป็นวานรลายพยัคฆ์อีกครั้งและพร้อมโจมตีสุสานอมตะ
เป็นเพียงเวลานี้ที่เทพอมตะกลุ่มดาวถอนหายใจ นางคว้าตัวหมากรุกสามชิ้นขึ้นมาและโยนออกไป
ตัวหมากเหล่านี้ไม่ได้โจมตีฟางหยวนแต่พวกมันพุ่งเข้าไปในค่ายกลวิญญาณอมตะทางผ่านดาราและหลอมรวมเข้ากับกระดานหมากรุกกลุ่มดาว
เทพธิดาจอเว่ยดีใจมาก นางกระตุ้นใช้งานค่ายกลวิญญาณอมตะทางผ่านดาราโดยมีเป้าหมายอยู่ที่ฟางหยวน
แสงดาวพุ่งเข้ากลืนกินเรือรบหมื่นปีและนํามันหายไปจากจุดนั้น
ในเวลาต่อมา แสงดาวก็ส่องประกายขึ้นด้านหลังราชันมังกรและนําเรือรบหมื่นปีกับฟางหยวนปรากฏตัวขึ้น
“นี่คือวิธีขนส่งกลุ่มผู้อมตะของวังสวรรค์งันหรือ?” ฟางหยวนถอนหายใจ
“ข้ามีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋จํานวนมาก แต่มันยังสามารถขนส่งข้า น่าประทับใจ อย่างไรก็ตามข้าเกรงว่าระยะทางนี้คือขีดจํากัดของมันแล้ว” ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายเย็นเยียบ
ต่อมา เขาเห็นผู้อมตะภาคเหนือหลายคนถูกเคลื่อนย้ายออกจากสุสานอมตะเช่นกัน
แต่คนเหล่านั้นถูกส่งออกไปนอกวังสวรรค์โดยตรง
ฟางหยวนกวาดตามองไปรอบๆ
ผู้อมตะภาคเหนือหลายคนประสบความสําเร็จแล้ว พวกเขาสามารถทําลายแหล่งทรัพยากรหรือคฤหาสน์วิญญาณอมตะของวังสวรรค์
ฟางหยวนตระหนักถึงบางสิ่งอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนฝ่ายของวังสวรรค์จะได้รับความช่วยเหลือจากเทพอมตะกลุ่มดาวเพื่อปกป้องสถานที่สําคัญบางแห่ง
แต่ถึงกระนั้นมันก็เพียงพอแล้ว
วังสวรรค์สามารถรักษาเสถียรภาพ ความสูญเสียของพวกเขาไม่รุนแรงนัก
ภายในศาลาแห่งความโศกเศร้า เทพปีศาจไร้ขอบเขตของเทพอมตะกลุ่มดาว “เจ้าค่อนข้างใจกว้าง เจ้าใช้ตัวหมากถึงสามชิ้น”
“แต่ตอนนี้เจ้ากลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบแล้ว” เทพปีศาจไร้ขอบเขตยิ้มและกลับไปนั่งประจําที่
“ย้อนกลับไป ข้าขู่ว่าจะทําลายวังสวรรค์และบังคับให้เจ้าเล่มเกมส์นี้ ผ่านไปหนึ่งล้านปีพลังของเราหลอมรวมอยู่ในกระดานหมากรุกเราติดอยู่ในทางตันตอนนี้ข้าใช้ตัวหมากเพียงชิ้นเดียวแต่เจ้าใช้ไปแล้วสามชิ้นหากข้าโจมตีตอนนี้เจ้าจะต้องประสบปัญหาอย่างแน่นอน”เทพปีศาจไร้ขอบเขตวางนิ้วลงบนกระดานหมากรุกขณะที่ตัวหมากรุกชิ้นใหม่ปรากฏขึ้นในตําแหน่งนั้น
ตัวหมากชิ้นนี้มีพลังของเทพปีศาจไร้ขอบเขตสถิตอยู่ จุดที่มันครอบครองคือหนึ่งในตําแหน่งเดิมของตัวหมากที่เทพอมตะกลุ่มดาวใช้ไปก่อนหน้านี้
เทพอมตะกลุ่มดาวเผยรอยยิ้ม “ในเวลานั้นร่างหลักของเจ้าต้องการรากฐานบนเส้นทางสวรรค์ของวังสวรรค์ ดังนั้นเจ้าจึงสร้างเกมส์นี้ขึ้นมาและลอบเชื่อมต่อกับถ้ำปีศาจคลั่งยิ่งเจ้าชนะมากเท่าใดเจ้าก็ยิ่งได้รับรากฐานบนเส้นทางสวรรค์มากเท่านั้นสิ่งนี้ทําให้เจ้าได้รับประโยชน์มากขึ้นในถ้ำปีศาจคลั่ง”
“ถูกต้อง เจ้าพูดถูกจริงๆ” เทพปีศาจไร้ขอบเขตยอมรับโดยไม่ปิดบัง
เทพอมตะกลุ่มดาวเผยรอยยิ้มอีกครั้ง “ในสถานการณ์นั้น มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้อย่างไรก็ตามเวลานี้ทุกอย่างแตกต่างออกไป ตอนนี้ร่างหลักของเจ้าจากไปนานแล้วเจ้าตายแล้ว”
ดวงตาของเทพปีศาจไร้ขอบเขตส่องประกายแหลมคม “วังสวรรค์เตรียมการบางอย่างไว้ในถ้ำปีศาจคลั่งของข้าจริงๆ”
เทพอมตะกลุ่มดาวยกย่อง “ถ้ำปีศาจคลั่งเป็นสถานที่พิเศษอย่างแท้จริง ผู้อมตะระดับเก้าที่ถือกําเนิดขึ้นหลังจากเจ้าไม่เต็มใจที่จะทําลายมันมีเพียงไม่กี่คนที่ทิ้งโลกแห่งเต๋ของพวกเขาเอาไว้เบื้องหลัง มันจะเกิดการแข่งขันครั้งใหญ่ระหว่างพวกเราอย่างแน่นอนแต่นั่นเป็นเรื่องของอนาคต”