Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 1948 การฟื้นฟูถูกหยุด
สนามรบวงสวรรค์
ท่าไม้ตายอมตะมังกรวายุ!
รูหยงกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะต่อสู้กับสามผู้อมตะของวังสวรรค์
“วูหยง ตาย!” องค์ชายฟงเซียนพ่นไฟออกมาอย่างไม่สิ้นสุด
โจวซ่งซินโจมตีจากด้านหลังด้วยพยัคฆ์ข่าวลือ
เย่เซียวจื่อส่งเถาวลัย์พุ่งผ่านอากาศมาจากระยะไกล
วูหยงลอบถอนหายใจอยู่ภายใน เขาต้องล่าถอยกลับเข้าไปในบ้านไม่ไผ่สายลม
ด้วยความช่วยเหลือจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะ เขาสามารถต่อต้านการโจมตีที่รุนแรงของผู้อมตะทั้งสาม
แต่ด้วยเหตุนี้แผนการของเขาที่จะเข้าไปหาหอคอยดวงตาสวรรค์จึงถูกหยุด
“ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางมนุษย์ของวังสวรรค์ช่วยเพิ่มพลังให้พวกเขามากเกินไป เดี๋ยว! นี่!?” ขณะที่วหยงกําลังปวดหัว แสงสีขาวก็ส่องประกายขึ้นบนร่างกายของเขารวมถึงบ้านไม่ไผ่สายลม
ท่าไม้ตายอมตะความหวังของผู้คน!
ท่าไม้ตายอมตะวีรบุรุษท่ามกลางผู้คน!
“อา…” ภายในคฤหาสน์วิญญาณอมตะของภาคใต้หลังอื่นๆ ทุกคนต่างโห่ร้องอย่างมีชีวิตชีวา
“แข็งแกร่งนัก!” ปาเต่อที่ต่อสู้อยู่ด้านนอกมองมือของตนเองด้วยความตกใจ
อี้ห่าวฟางรู้สึกมึนงงเช่นกัน “เหตุใดท่าไม้ตายของวังสวรรค์จึงช่วยเหลือพวกเรา?”
ความสงสัยกดทับจิตใจของผู้อมตะวังสวรรค์ราวกับภูเขา
“เฉินซาน เจ้าไม่ทําให้ข้าผิดหวังจริงๆ” ฟางหยวนหัวเราะอย่างเต็มที่ เขาได้รับการขยายพลังเช่นกัน นี่ทําให้สถานการณ์ของเขาดีขึ้นทันที
ราชันมังกรหน้าซีด
เขาเป็นมนุษย์มังกร เขาเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ เขาไม่ได้รับความช่วยเหลือจากท่าไม้ตายอมตะ วีรบุรุษท่ามกลางผู้คน สําหรับฟางหยวน แม่ร่างกายของเขาจะเกิดจากวิญญาณทารกอมตะ แต่เขาก็ยังเป็นมนุษย์
“ปัง!”
ราชันมังกรถูกส่งลอยกลับหลังโดยฟางหยวน
“เกิดสิ่งใดขึ้น?” ฉินติงหลิงตะโกนถามเฒ่าเพิ่งหยวนด้วยความกังวล
เฒ่าเพิ่งหยวนยังไม่ตาย เขาย้ายออกจากวิหารกลางแล้ว เขาเป็นผู้รับผิดชอบวิธีบนเส้นทางมนุษย์ของวังสวรรค์
เฒ่าเพิ่งหยวนส่งคําตอบไปยังราชันมังกรและฉินติงหลิงด้วยความตื่นตระหนก “เมืองจักรพรรดิมีปัญหา บางคนสร้างปัญหาขึ้นที่นั่น เจตจํานงของมนุษย์อีกสี่ภูมิภาคถูกดึงดูดเข้าสู่ภาคกลาง ตอนนี้มันกลายเป็นเจตจํานงของมนุษย์ทั้งห้าภูมิภาคไปแล้ว ดังนั้นทุกคนจึงได้รับการขยายพลังอํานาจ!”
ราชันมังกรหลบการโจมตีของฟางหยวนและถาม “เราจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร?”
เฒ่าเพิ่งหยวนตอบกลับอย่างจริงจัง “ข้าทุ่มสุดตัวแล้วแต่ข้าไม่มีความมั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จ!”
หัวใจของราชันมังกรจมดิ่งลง “ผู้ใดที่สามารถดัดแปลงวิธีบนเส้นทางมนุษย์ของเทพอมตะได้ถึงระดับนี้”
เขาไม่เคยจินตนาการว่าท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางมนุษย์ที่เทพอมตะทิ้งไว้เบื้องหลังจะถูกต่อต้าน ศัตรไม่ได้ทําลายมันแต่ใช้ประโยชน์จากมันซึ่งไม่ต่างจากการทําลาย
“เฉินซานงั้นหรือ?” ดวงวิญญาณในมือของเทพธิดาจ๋อเว่ยหัวเราะเบาๆ
ย้อนกลับไปเทพธิดาจอเว่ยมอบข้อมูลเกี่ยวกับเฉินซานให้กับเฉินกงเจ๋งภายใต้อิทธิพลของเทพปีศาจจิตวิญญาณ
ในเวลานั้นราชันมังกรเชื่อใจเทพธิดาจอเว่ยอย่างเต็มที่และไม่พบสิ่งผิดปกติ สุดท้ายเฉินซาน จึงถูกปลดปล่อยออกจากถ้ําสวรรค์วาฬมังกรฟ้าและประสบความสําเร็จในการดัดแปลงท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางมนุษย์ของวังสวรรค์
“บางที่ข้าควรกล่าวว่าสมกับเป็นเทพอมตะสวรรค์พิภพ” ดวงวิญญาณกล่าวอีกครั้ง
เทพธิดาจ๋อเว่ยถือดวงวิญญาณเอาไว้ในมือ พร้อมกับใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาเลียนแบบวิธีบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณเพื่อรักษามันไว้
ดวงวิญญาณค่อยๆแข็งแกร่งขึ้นทีละเล็กทีละน้อย
อีกด้านหนึ่ง ประตูสวรรค์ยังนําผู้อมตะจากโลกภายนอกเข้าสู่วังสวรรค์อย่างต่อเนื่อง
“ฮ่าฮ่าฮ่า นําพวกเขาเข้ามา ให้พวกเขาเข่นฆ่า ให้พวกเขาตกตาย ยิ่งฆ่า ยิ่งดี ยิ่งตายมาก ยิ่งดีมาก ฮ่าฮ่าฮ่า” ดวงวิญญาณหัวเราะอย่างบ้าคลัง
กลุ่มแรกที่มาถึงคือผู้อมตะภาคใต้จากภูเขาขนดกรวมถึงอู่ส่วยและเจิ้งปู่ต์
ตอนนี้กลุ่มที่สองมาถึงแล้ว พวกเขาเป็นกําลังเสริมของภาคเหนือ ซึ่งเคยเป็นพันธมิตรของผู้อมตะภาคใต้ในชีวิตก่อนหน้า
ผู้นํากลุ่มผู้อมตะภาคเหนือที่พึ่งมาถึงคือเหยากวง
จักรพรรดิสวรรค์ไปซุเดินไปข้างหน้าด้วยความภาคภูมิใจ
ด้านหลังผู้อมตะระดับแปดทั้งสองยังมีจักรพรรดิอมตะชุติที่โด่งดัง ผู้อมตะคลื่นทมิฬ และคนอื่นๆ
“ผู้อมตะระดับเจ็ดเข้าสู่คฤหาสน์วิญญาณอมตะ” เหยากวงกวาดตามองสนามรบและออกคําสั่ง
กระทั่งชูก็ต้องทําตามอย่างเชื่อฟัง
การต่อสู้นี้ไม่ใช่สิ่งที่ผู้อมตะระดับเจ็ดจะสามารถเข้าแทรกแซง
“ตามข้ามา เราจะเสริมกําลังให้กับแท่นบูชาแห่งโชค!” จักรพรรดิสวรรค์ไปซูพุ่งไปข้างหน้า
เหยากวงและคฤหาสน์วิญญาณอมตะอีกสามหลังติดตามไปอย่างใกล้ชิด
ปิงช่ายฉวนโห่ร้องเสียงดังขณะใช้แท่นบูชาแห่งโชคโจมตีศัตรูจากทุกทิศทาง
“ฆ่า” จักรพรรดิสวรรค์ไปซูแยกร่างจํานวนนับไม่ถ้วนออกมาจัดการกองทัพทหารไข่มุกทองคํา
เหยากวงโบกไม้เท้าของเขาและปลดปล่อยกลิ่นยาออกไปทั่วสนามรบ
คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามหลังปกป้องแท่นบูชาแห่งโชคและทําให้กองกําลังหลักของวังสวรรค์ถูกแยกออกเป็นกลุ่มย่อย
“อย่าฝันว่าจะสามารถจากไป” วูหยงใช้ท่าไม้ตายอมตะเชื่อกวายุจับศัตรู
ปาเต่อ อี้ห่าวฟาง และคนอื่นๆเลียนแบบวูหยง
“บัดซบ! กองกําลังหลักของวังสวรรค์ถูกพันธนาการเอาไว้และทําได้เพียงสบถสาปแช่ง
หากเป็นก่อนหน้า ผู้อมตะภาคใต้จะไม่สามารถทําสิ่งนี้ แต่หลังจากได้รับการสนับสนุนจากท่าไม้ตายอมตะวีรบุรุษท่ามกลางผู้คน ความแตกต่างระหว่างพวกเขาก็ลดลงอย่างมาก พวกเขากลายเป็นภัยคุกคามของวังสวรรค์
“ไป!” วังมังกรพุ่งเข้าสู่สนามรบ
ฟงจิวเก้อต้องหลบเลี่ยงการปะทะ เพลงพรหมลิขิตเริ่มช้าลง
เมื่อแรงกดดันลดลง ฟางหยวนสามารถส่งราชันมังกรลอยกลับหลังอีกครั้งและอีกครั้ง
ทันใดนั้นร่างใหญ่โตก็ปรากฏขึ้น
“นี่!?” รูม่านตาของราชันมังกรหดเล็กลงเมื่อเขาเห็นร่างที่ใหญ่โตนี้
มังกรปีศาจตจางเฉิงมาถึงแล้ว!
“ราชันมังกร!” จางเฉิงตะโกนด้วยเสียงมนุษย์ เสียงคํารามของมันสร้างคลื่นกระแทกออกไปรอบๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุด กรงเล็บของมันพุ่งเข้าหาราชันมังกรราวกับมันกําลังเล่นลูกบอลยาง
กรงเล็บของจางเจ๋งถูกโจมตีด้วยดาบเขี้ยวมังกรขณะที่ราชันมังกรพุ่งชนพื้นและสร้างหลุดลึกสามสิบเมตร
ร่างกายอันใหญ่โตของจางเฉิงพุ่งตามไป
“บึม!”
วังสวรรค์เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ฝุ่นควันลอยคละคลุ้งไปทั่ว
ตี้จางเฉิงบินขึ้นมาอย่างช้าๆ พื้นดินที่มันกดทับกลายเป็นร่องลึกทอดตัวยาวจากทิศตะวันออกไปยังทิศตะวันตกของวังสวรรค์ ไม่ว่าจะเป็นอาคาร ภูเขา หรือแม่น้ํา ทุกสิ่งกลายเป็นกองขยะ
“เขาอยู่ข้างบน!” เจิ้งปู่ต์ชี้นิ้วออกไป
ราชันมังกรลอยอยู่กลางอากาศและมองไปยังที่จางเฉิง
ในช่วงเวลาสําคัญเขาหลบหนีจากสถานการณ์อันตรายด้วยประตูมังกร
“มังกรปีศาจตัวนี้!” ราชันมังกรกัดฟันแน่น หน้าอกที่ยุบลงไปของเขาฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
อีกด้านหนึ่ง เรือรบหมื่นปีบินกลับมารับฟางหยวน
ฟางหยวนเย้ยหยันราชันมังกรก่อนจะพุ่งไปยังหอคอยดวงตาสวรรค์
เปลือกตาของราชันมังกรกระตุกเมื่อเห็นสิ่งนี้
กองกําลังหลักของวังสวรรค์ที่ปกป้องหอคอยดวงตาสวรรค์แทบไม่สามารถต่อต้านศัตรู หากฟางหยวนเข้าร่วม สถานการณ์จะพังทลายลงทันที
“ฟางหยวน หยุด! ทุกคนปกป้องหอคอยดวงตาสวรรค์!” ราชันมังกรออกค่าสัง เขาเป็นคนแรกที่เข้าไปปิดกั้นเรือรบหมื่นปีด้วยประตูมังกร
“หายไปซะ!” วังมังกรเข้ามาเสริมกําลังโดยการกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งความฝัน
หมอกชวนฝันพุ่งเข้าหาราชันมังกร
หัวใจของราชันมังกรเต้นอย่างบ้าคลั่ง เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องหลบมันและปล่อยให้ฟางหยวนเดินหน้าต่อไป
“บัดซบ! นี่เป็นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งความฝัน วิธีการของข้าไม่มีประโยชน์!” ห่างออกไป ฟงจินฮวงซ่อนตัวอยู่ในคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ไม่สะดุดตา นางกระทืบเท้าด้วยความกังวล
ในเวลาต่อมา เพลงพรหมลิขิตก็ดังกังวานไปทั่วสนามรบอีกครั้ง
สมาชิกวงสวรรค์รวมถึงราชันมังกรได้รับประโยชน์จากมัน ฟางหยวนและคนอื่นๆถูกสะกดข่มทันที
“พวกเราเข้ามาในวังสวรรค์จริงๆ!” เป็นเพียงเวลานี้ที่ผู้อมตะระดับแปดของทะเลตะวันออกเข้าสู่สนามรบผ่านประตูสวรรค์
“ฝ่ายของวังสวรรค์กําลังถูกปิดล้อม!” ดวงตาของพวกเขาส่องประกายขึ้นโดยเฉพาะเมื่อพวกเขาเห็นฟางหยวน จางเฉิง เรือรบหมื่นปี และวังมังกรกําลังบังคับให้ราชันมังกรและฟงจิวเก้อล่าถอย
“ดี เราจะเข้าร่วมและปิดฉากการต่อสู้!” ผู้อมตะของทะเลตะวันออกเต็มไปด้วยขวัญกําลังใจ และเข้าร่วมในการต่อสู้ที่วุ่นวาย
“พวกเขามาที่นี่ได้อย่างไร?” ฟางหยวนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จางหยิน ยายหรง และแม่ทัพมังกรคนอื่นๆจะเข้าสู่การต่อสู้ที่ดุเดือด อย่างไรก็ตามชิงอรี่อันและผู้อมตะฝ่ายธรรมะของทะเลตะวันออกที่เหลือขี้ขลาดมาก แต่เหตุใดพวกเขาจึงเข้าสู่การต่อสู้เช่นกัน?
“ฮ่าฮ่าฮ่า นี่คือผลข้างเคียงของท่าไม้ตายอมตะวีรบุรุษท่ามกลางผู้คน มนุษย์ของสี่ภูมิภาคเกลียดชังวังสวรรค์มาก เจตจํานงของพวกเขาช่วยขยายจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของผู้อมตะ!” เสียงของเฉินซานถูกส่งมายังฟางหยวน “น่าเสียดายที่กองกําลังของทะเลทรายตะวันตกติดอยู่ในการต่อสู้กับกองกําลังของภาคกลางและไม่สามารถเข้าร่วมในการต่อสู้ที่วังสวรรค์”
“เฉินซาน ทําได้ดีมาก” ฟางหยวนไม่ลังเลที่จะสรรเสริญ
เฉินซานหัวเราะ “แท้จริงแล้วต้องขอบคุณประตูสวรรค์ สิ่งนี้อยู่นอกเหนือจากความคาดหมายของข้า อา…ข้ารู้สึกได้ถึงพลังการขนส่งของประตูสวรรค์ เราจะเข้าร่วมในสนามรบวังสวรรค์และพลิกคว่าสถานการณ์ ฮ่าฮ่าฮ่า”
ฟางหยวนยิ้ม “เช่นนั้นก็รีบมา!”
การเปลี่ยนแปลงของประตูสวรรค์เหนือความคาดหมายของฟางหยวน แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจว่าผู้ใดอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ เขาต้องเคลื่อนไหวไปตามกระแสและให้ความสําคัญกับการเอาชนะวังสวรรค์เพื่อทําลายวิญญาณชะตากรรม
“บัดซบ! เหตุใดต้องเป็นเวลานี้…” ทันใดนั้นเพลิงสีดําพลันลุกไหม้ขึ้นบนร่างกายของเฉินซานอย่างกะทันหัน
“ข้าใช้กําลังทั้งหมดเพื่อถอดรหัสท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางมนุษย์ของเทพอมตะ นี่อาจกระตุ้นอาการบาดเจ็บของข้า…” นี่เป็นความคิดสุดท้ายของเฉินซานก่อนที่เขาจะเสียสติ
ขณะที่เฉินซานกลายเป็นบ้า เฒ่าเพิ่งหยวนสัมผัสได้ถึงบางสิ่ง
“พลังของศัตรูหายไป! ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ข้าก็สามารถใช้โอกาสนี้เพื่อควบคุมมันและพลิกสถานการณ์! หือ…ผู้ใด?”
เฒ่าจิ้งหยวนตะโกนขณะที่เทพธิดาจอเว่ยปรากฏตัวขึ้นและเผยรอยยิ้มบาง
“จ่อเว่ย? ไม่ เจ้าไม่ปกติ!” ดวงตาของเฒ่าเพิ่งหยวนส่องประกายขึ้นขณะที่เขาเร่งล่าถอย
แต่ในเวลาต่อมา ดวงวิญญาณสีดาสนิทก็ปรากฏขึ้นด้านหลังเขาและพุ่งเข้าไปในร่างกายของเขา
“ไม่!” เฒ่าเพิ่งหยวนทรุดตัวลงบนพื้นด้วยร่างกายที่สั่นสะท้านอย่างไม่หยุดยั้ง
ร่างของเฒ่าเพิ่งหยวนกระตุกก่อนที่ดวงตาของเขาจะกลายเป็นสีดําสนิทเหมือนเทพธิดาจือเว่ย
เขายืนขึ้นอย่างเงียบๆและทักทายดวงวิญญาณที่ลอยออกมา “ข้ารับใช้เฒ่าผู้นี้คารวะนายท่าน
เทพปีศาจจิตวิญญาณทําให้เฒ่าเพิ่งหยวนกลายเป็นทาสผู้จงรักภักดีต่อเขาอย่างสมบูรณ์
“ตอนนี้เราควรกําหราบฟงจินฮวง ข้ารู้ตําแหน่งที่อยู่ของนางและสามารถหยุดความสามารถในการเคลื่อนไหวของคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่นางอยู่” เทพธิดาจื่อเว่ยเสนอความคิด
“ไม่จําเป็นต้องรีบร้อน” อย่างไรก็ตามเทพปีศาจจิตวิญญาณกลับปฏิเสธ “ฟงจินฮวงไม่เพียงได้รับการสนับสนุนจากเตสวรรค์แต่นางยังเป็นบุตรแห่งมนุษยชาติ นางมีโชคที่แข็งแกร่งรองจากเทพปีศาจบัวแดง แม้ตอนนี้นางจะอยู่เพียงลําพัง แต่ตราบเท่าที่พวกเราสร้างปัญหาให้นาง พวกเราจะพบอุปสรรค ยังไม่ต้องกล่าวถึงสิ่งใด เพียงฟงจิวเก้อคนเดียวก็เป็นปัญหาใหญ่แล้ว คนผู้นี้มีความแข็งแกร่งพอๆกับราชันมังกร ตอนนี้เราจะสังเกตการเปลี่ยนแปลงในสนามรบและปล่อยให้พวกเขาเข่นฆ่ากันเอง เมื่อโชคของพวกเขาถูกใช้ไป เราอาจมีโอกาสจัดการฟงจินฮวง”
เทพปีศาจจิตวิญญาณและคนรับใช้ทั้งสองเดินออกจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะและสังเกตส นามรบอยู่ในระยะไกล
ตอนนี้ฝ่ายของวังสวรรค์กําลังปกป้องหอคอยดวงตาสวรรค์อยู่รอบๆ สถานการณ์ของพวกเขาอันตรายมาก
พวกเขาถูกโจมตีจากทุกทิศทางโดยมีฟางหยวนและที่จางเฉิงเป็นผู้นํา นี่ทําให้ฝ่ายของวังสวรรค์รู้สึกกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ
ราชันมังกรและฟงจิวเก้อเป็นเหมือนเสาหลักของวังสวรรค์ คนหนึ่งปิดกั้นฟางหยวน ขณะที่อีกคนปราบปรามจางเฉิง แต่ทั้งคู่ต่างตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเพราะพวกเขาต้องปกป้องหอคอยดวงตาสวรรค์
หอพิพากษาปีศาจดิ้นรนป้องกันการโจมตีร่วมของเรือรบหมื่นปีและ็จางเฉิง
กองทัพทหารไข่มุกทองคําถูกทําลายลงอย่างสมบูรณ์ กองกําลังหลักของวังสวรรค์ถูกบังคับให้ล่าถอยอย่างต่อเนื่อง
“ความพ่ายแพ้ของวังสวรรค์ใกล้เข้ามาแล้ว” เทพธิดาจื่อเว่ยแสดงความคิดเห็น
ตอนนี้เหลือเพียงหยวนเชียงตูเท่านั้นที่ยืนอยู่ชั้นบนสุดของหอคอยดวงตาสวรรค์ เช่อเวียนอนอยู่บนพื้นและเกือบตายแล้ว ไม่มีผู้ใดสามารถรักษาเขา ขณะเดียวกันวังสวรรค์ก็ไม่มีกําลังเสริม
เดิมที่ฉีซีหลางกําลังต่อต้านแสงสีเขียวจากภาพวาด แต่เมื่อกองกําลังหลักของวังสวรรค์มาถึง ฉีซีหลางถูกจัดการอย่างง่ายดาย เขาถูกตัดศีรษะและเสียชีวิตด้วยความคับข้องใจ
ค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมถูกทําลายไปแล้ว หยวนเชียงตูต้องฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรมด้วยความสามารถของตนเองเท่านั้น
“เกือบแล้ว!” หยวนเชียงพึมพําขณะที่เปลวเพลิงลุกไหม้อยู่บนฝ่ามือ
“บีม!”
เป็นเพียงเวลานี้ที่หอคอยดวงตาสวรรค์ถูกโจมตีอย่างหนักและเกิดการสั่นสะเทือนขึ้นอย่างรุนแรง การหลอมรวมของหยวนเชียงตุถูกรบกวน เขากระอักเลือดคําโตออกมาจากปากและล้มลงหมดสติอยู่บนพื้น
การฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรมถูกหยุด!