Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 1950 ดูดกลืนพลังปราณทั้งสาม

“ท่านราชันมังกร!” เสียงกรีดร้องของสมาชิกวงสวรรค์ดังขึ้น

ราชันมังกรรู้สึกถึงความตาย

ความคิดพุ่งผ่านจิตใจของเขา

“ข้าจะตายที่นึ่งั้นหรือ?”

“เหนื่อย เหนื่อยเหลือเกิน

เขาเดินมาถึงจุดนี้โดยแบกรับความคาดหวังที่ยิ่งใหญ่และอดทนต่อบาปกรรมของตนเองมาตลอด

หลายครั้งที่เขารู้สึกอยากตายจริงๆ

ครั้งแรกที่เขาก้าวเข้าสู่สสานอมตะและจําศีล เขาคิดว่าหากเขาตายไปเช่นนี้ มันอาจดี

แต่เขาทําไม่ได้

เขาไม่สามารถ

เขาถามตัวเองและตอบว่าไม่

เขาไม่สามารถตาย

เขาแบกรับความทะเยอทะยานอันยิ่งใหญ่ของวังสวรรค์และมนุษยชาติเอาไว้ เขาต้องรับโทษสําหรับการทรยศของศิษย์ เขากระทั่งทําลายล้างบุตรหลานของตนด้วยมือของเขาเอง

เขาได้รับบาดเจ็บ เขาเริ่มแก่ แผ่นหลังของเขาเริ่มโค้งงอ สายตาค่อยๆพร่ามัว

เขานอนหลับอยู่ในสุสานอมตะ แต่เมื่อถึงเวลา เขาจะคลานขึ้นมาและแบกรับสิ่งเหล่านั้นต่อไป

“ถูกต้อง ข้าไม่สามารถตาย ข้าไม่สามารถ!”

“ข้ายังต้องกําจัดศัตรู ข้ายังไม่ได้ล้างบาป ข้ายังไม่ได้แก้ไขความผิดพลาดของข้า!”

สุสานอมตะถูกทําลายไปแล้ว หากข้าล้มลงตอนนี้ ฟงจิวเก้อจะไม่สามารถกอบกู้สถานการณ์ วังสวรรค์จะถูกทําลาย!”

“ข้าจะล้มลงตอนนี้ได้อย่างไร

“ข้าล้มไม่ได้!

สหายของข้าต้องการข้า วังสวรรค์ต้องการข้า มนุษยชาติต้องการข้า!”

“พวกเขาต้องการข้า ราชันมังกร!”

ดังนั้น…”

“ไม่ว่าข้าจะเหนื่อยเพียงใด แม้ข้าจะเหนื่อยมาก แม้ข้าจะจําศีลอยู่ในสุสานอมตะ แม้ข้าจะถูกตัดหัว ข้าก็ไม่สามารถตาย!”

“ข้า ราชันมังกร ไม่สามาถล้มลง!”

“สู้ต่อไป!”

ทันใดนั้นราวกับสวรรค์พิภพตอบสนองต่อเจตจํานงอันแน่วแน่ของเขา
ปาฏิหาริย์เกิดขึ้น!
ม่านตาที่มืดมิดของราชันมังกรระเบิดแสงสว่างพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า เลือดที่ไหลออกมาจากลําคอของเขาย้อนกลับเข้าไปด้วยความเร็วสูง ปราณจํานวนมากนําศีรษะของเขากลับไปที่ลําคอ
พลังงานลึกลับนํามรดกที่แท้จริงเข้าสู่ร่างกายนของเขา บาดแผลบนร่างกายของเขาฟื้นตัวขึ้น และหายเป็นปกติภายในเวลาไม่กี่ลมหายใจ
“มันเป็นการจัดเตรียมของเทพอมตะแรกกําเนิด! พลังปราณเหล่านี้เป็นมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งพลังปราณ ดังนั้นท่าไม้ตายอมตะดูดกลืนพลังปราณทั้งสามก็สามารถใช้งานในลักษณะนี้!! ราชันมังกรเข้าใจทันที
“ราชันมังกรฟื้นคืนชีพ!” ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าทําให้ขวัญกําลังใจของผู้อมตะวังสวรรค์กลับมา

การแสดงออกของฟาหงยวนยังสงบ “มันเป็นการจัดเตรียมของเทพอมตะแรกกําเนิด

“นี่คือรากฐานของวังสวรรค์งั้นหรือ?” วูหยงพึมพํา ใบหน้าของเขากลายเป็นมืดมน

ราชันมังกรเงยศีรษะขึ้นและกางแขนขาออก “ข้า ราชันมังกร จะไม่ล้มลงในเวลานี้ ฟางหยวน ให้ข้าแสดงพลังที่แท้จริงของข้าให้เจ้าดู ดูดกลืนพลังปราณทั้งสาม!”

“ดูดกลืนพลังปราณทั้งสาม!?” นี่เป็นท่าไม้ตายที่มีชื่อเสียง เมื่อราชันมังกรกล่าวถึงมัน ผู้อมตะของสามภูมิภาคกลายเป็นหยุดชะงักด้วยความตกใจ

การแสดงออกของฟางหยวนกลายเป็นเคร่งขรึมเช่นกัน เขาเคยเห็นพลังอานาจของท่าไม้ตายนี้มาแล้ว

ย้อนกลับไปราชันมังกรใช้ท่าไม้ตายนี้เพื่อเอาชนะราชนภูเขาม่วง

“ท่าไม้ตายอมตะดูดกลืนพลังปราณทั้งสามสามารถดึงปราณมนุษย์ ปราณพิภพ ปราณสวรรค์ออกจากมิติช่องว่างของผู้อมตะด้วยความเร็วสูง มันจะสร้างความเสียหายครั้งใหญ่ให้กับมิติช่องว่างโดยตรง หากถูกโจมตีครั้งแรก การโจมตีครั้งที่สองและครั้งที่สามจะไม่สามารถหลีกเลี่ยง ดังนั้นกุญแจของมันก็คือการโจมตีครั้งแรก!”

ข้อมูลทุกประเภทพุ่งผ่านจิตใจของฟาหงยวน

เขาเร่งล่าถอยด้วยร่างมังกรคาบแรกกําเนิด

“ฟื้ว…”

พลังปราณจํานวนมากพุ่งเข้าสู่ร่างกายของราชันมังกรและช่วยขยายพลังอํานาจของเขา

ฟางหยวนหรี่ตามอง มันคือสิ่งใด? การโจมตีสามครั้งรวมเป็นหนึ่งงั้นหรือ? ใช้พลังปราณจากสภาพแวดล้อมเพื่อเพิ่มพลังให้กับตนเอง นี่น่าจะเป็นวิธีการของเทพอมตะแรกกําเนิด

ตอนนี้พลังอานาจของท่าไม้ตายอมตะดูดกลืนพลังปราณทั้งสามเหนือกว่าความสามารถสั่งเดิมของมันไปแล้ว

ราชันมังกรที่เต็มไปด้วยพลังงานก้าวไปข้างหน้า
“บึม!”

อากาศบนพื้นระเบิดและส่งร่างราชันมังกรพุ่งทะยานออกไปราวกับดาวตกสีม่วง

เขาปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าฟางหยวนแทบจะในทันที

เร็วมาก!

แต่ฟางหยวนไม่กลัวเพราะเขามีเกราะหวนคืน

“ปัง!”

หมัดของราชันมังกรปะทะศีรษะของฟางหยวน

ฟางหยวนกลายเป็นกระสุนปืนใหญ่พุ่งลงบนพื้นและสร้างหลุมลึกเอาไว้

เกราะหวนคืนบางลงอย่างเห็นได้ชัดภายใต้การโจมตีเดียว

ฟางหยวนส่ายศีรษะสะบัดอาการวิงเวียนออกไป แต่ในจังหวะนี้ราชันมังกรกลับปรากฏตัวขึ้น ต่อหน้าเขาอีกครั้ง ทั้งสองอยู่ห่างกันในระยะหนึ่งร้อยก้าว

ราชันมังกรพุ่งเข้าโจมตีด้วยพลังปราณที่ลุกโชติช่วงอยู่บนร่างกาย

ดวงตาของฟางหยวนกลายเป็นเย็นชา

“บึม!”

ในช่วงเวลาสําคัญเรือรบหมื่นปีพุ่งเข้าโจมตีราชันมังกรอย่างกะทันหัน

ราชันมังกรย่อตัวลง เขาใช้มือข้างหนึ่งยันพื้นขณะที่มืออีกข้างคว้าส่วนหัวเรือเอาไว้

เขาแบกน้ําหนักของเรือรบหมื่นปีด้วยมือเพียงข้างเดียว!
ในเวลาต่อมาเสียงแตกร้าวก็เริ่มดังขึ้น มัดกล้ามเนื้อแขนของราชันมังกรโป่งพองขึ้นขณะที่เขาค่อยๆผลักเรือรบหมื่นปีกลับไปอย่างช้าๆ

รม่านตาของฟางหยวนหดเล็กลง ตอนนี้เรือรบหมื่นปีไม่เหมือนในอดีต มันรวมตัวกับสนามรบสิบสองราศีและเพียงพอที่จะติดอันดับหนึ่งในห้า
คฤหาสน์วิญญาณอมตะที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก

แต่ราชันมังกรกลับสามารถต่อต้านการพุ่งชนของมันได้ด้วยมือเพียงข้างเดียว

พลังอานาจที่เพิ่มขึ้นจากท่าไม้ตายอมตะดูดกลืนพลังปราณทั้งสามของราชันมังกรเหนือกว่าความคาดหมายของฟางหยวนไปไกลมาก

“ฮ่า!” ราชันมังกรตะโกนและใช้มืออีกข้างช่วยผลักเรือรบหมื่นปีออกไป

ฟางหยวนสังเกตกระบวนการทั้งหมดอย่างเฉยเมยก่อนจะสะบัดหางพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

ความเร็วของราชันมังกรในปัจจุบันเหนือกว่าฟางหยวนไปแล้ว แต่ในจังหวะที่เขากําลังจะไล่ล่าฟางหยวน วังมังกรและคฤหาสน์วิญญาณอมตะอีกสามหลังพุ่งเข้าโจมตีฟงจิวเก้อและทําให้เพลงพรหมลิขิตหยุดลง จางเฉิงที่ได้รับอิสรภาพพุ่งเข้าโจมตีหอคอยดวงตาสวรรค์อีกครั้ง

“มังกรปีศาจ หยุด!” แทบจะในเวลาเดียวกันที่ราชันมังกรปรากฏตัวขึ้นบนศีรษะของจางเฉิง

ท่าไม้ตายอมตะภูเขาปราณ!

“บึม!”

ภูเขาพลังปราณร่วงหล่นลงมาและกดศีรษะของจางเฉิงลงบนพื้น

ท่าไม้ตายอมตะดูดกลืนพลังปราณทั้งสามทําให้ความแข็งแกร่งของราชันมังกรพุ่งขึ้นสู่ระดับที่น่าสะพรึงกลัว

อย่างไรก็ตามหลังจากใช้ท่าไม้ตายนี้ พลังปราณที่อยู่รอบๆราชันมังกรก็ลดลงไปสามสิบส่วน
“โอกาสมาแล้ว!” เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ปรมาจารย์ห้าธาตุ วุหยง และจางหยินโจมตีจากระยะไกลในเวลาเดียวกัน

ราชันมังกรไม่หลบและไม่ได้ใช้กําแพงปราณมังกร เขาปล่อยให้การโจมตีเหล่านั้นปะทะร่างของเขาโดยตรง

การระเบิดปะทุขึ้น แต่ราชันมังกรยังสามารถยืนอยู่ในตําแหน่งเดิมราวกับเสาที่ค้ํายันท้องฟ้า

“พวกเจ้าช่วยเกาที่คันให้ข้างั้นหรือ?” ราชันมังกรเย้ยหยันเสียงดัง ใบหน้าของวูหยง ปรมาจารย์ห้าธาตุ และจางหยินกลายเป็นแดงกําด้วยความโกรธและตกใจ

“ดูดกลืนพลังปราณทั้งสาม!” ราชันมังกรตะโกนอีกครั้ง

ทันใดนั้นพลังปราณทางทุกมุมของวังสวรรค์ก็พุ่งเข้ามาหลอมรวมกับร่างกายของราชันมังกร

ความแข็งแกร่งของราชันมังกรเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

เส้นผมสีม่วงของราชันมังกรสะบัดไปมา ดวงตาของเขาส่องประกายเจิดจ้า

ด้วยท่าไม้ตายอมตะมังกรสวรรค์ ตอนนี้ร่างกายของเขามีขนาดใหญ่โตกว่ามนุษย์ธรรมดาหลายเท่าและสร้างแรงกดดันให้แก่ผู้คนที่พบเห็น

ที่จางเฉิงคารามและยกศีรษะของมันออกจากหลุม

ราชันมังกรปรากฏตัวขึ้นด้วยข้างศีรษะของจางเฉิงและชกมันด้วยหมัดตรง จางเฉิงถูกส่งลอยออกไปและทําลายล้างอาคารจํานวนมากของวังสวรรค์ที่กีดขวางอยู่บนเส้นทาง

แต่ราชันมังกรไม่สนใจสิ่งเหล่านั้น สิ่งสําคัญที่สุดมีเพียงหอคอยดวงตาสวรรค์

ในชีวิตก่อนหน้า ความแข็งแกร่งของจางเฉิงเท่ากับราชันมังกร แต่ในชีวิตนี้ มันถูกกำหราบอย่างง่ายดาย

ฟงจิวเก่อใช้เพลงพรหมลิขิตเอาชนะที่จางเฉิงแต่ราชันมังกรกําหราบจางเฉิงด้วยความแข็งแกร่งโดยตรง

“ข้าเข้าใจแล้ว แม้ข้าจะทําลายสุสานอมตะ แต่วังสวรรค์ก็ยังอยู่ เมื่อผู้อมตะเข้าร่วมกับวังสวรรค์ พวกเขาจะส่งมอบมิติช่องว่างของตนให้กับวังสวรรค์ ถ้ําสวรรค์จํานวนนับไม่ถ้วนรวมเข้าด้วยกัน และกลายเป็นวังสวรรค์ในปัจจุบัน ทุกถ้ําสวรรค์มีพลังปราณทั้งสามชนิด ปัจจุบันราชันมังกรกําลังดูดกลืนพลังปราณทั้งสามจากถ้ําสวรรค์เหล่านั้น” ฟางหยวนสามารถอนุมานรายละเอียด

ภายในวังสวรรค์ ราชันมังกรสามารถดูดกลืนพลังปราณทั้งสามจากถ้ําสวรรค์แห่งนี้ได้อย่างไม่รู้สิ้นสุด นั่นทําให้พลังอํานาจของเขาเพิ่มขึ้นถึงระดับที่สามารถกําหราบจางเฉิงได้ด้วยร่างกาย

แต่หากราชันมังกรอยู่นอกวังสวรรค์ เขาจะไม่มีแหล่งพลังงานให้ดูดกลืน

นี่หมายความว่าราชันมังกรไม่สามารถออกจากวังสวรรค์

อย่างไรก็ตามแม้ฟางหยวนจะมองเห็นจุดอ่อนนี้แต่มันไร้ประโยชน์

หอคอยดวงตาสวรรค์อยู่ในวังสวรรค์ ฟางหยวนต้องการทําลายวิญญาณชะตากรรมที่อยู่ในหอคอยดวงตาสวรรค์ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถออกจากวังสวรรค์หรือหลีกเลี่ยงราชันมังกร