Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 1951 ทางตัน
“ไม่ว่าราชันมังกรจะแข็งแกร่งเพียงใด เขาก็มีเพียงคนเดียว บุก! เราจะโจมตีพร้อมกัน วังสวรรค์กว้างใหญ่มาก มาดูกันว่าพวกเขาจะป้องกันมันได้อย่างไร” วูหยงตะโกนด้วยสายตาแหลมคม
วุหยงนําบ้านไม้ไผ่สายลมพุ่งเข้าไป การเคลื่อนไหวนี้ทําให้คฤหาสน์วิญญาณอมตะที่อยู่รอบๆเริ่มโจมตีอีกครั้ง
ราชันมังกรก่นเสียงเย็น เขาหายตัวไปก่อนจะปรากฏตัวขึ้นด้านหน้าบ้านไม่ไผ่สายลมและกดขวางมัน แต่การแสดงออกของเขากลับเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมเมื่อวังมังกรฉวยโอกาสโจมตีเขา
ท่าไม้ตายอมตะหมอกชวนฝัน!
ราชันมังกรเบิกตากว้าง เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องหลบ
ทักษะเดียวปกครองโลก!
ไม่ว่าราชันมังกรจะแข็งแกร่งเพียงใด เขาก็ไม่กล้าทดสอบท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งความฝัน
การหลบเลี่ยงของเขาทําให้อู่ส่วย วุหยง และคนอื่นๆ สามารถถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ผู้อมตะของสามภูมิภาครวมตัวกันอีกครั้ง
“โชคดีที่เขาหลบ” เหงื่อเม็ดเล็กๆผุดพรายขึ้นบนหน้าผากของคู่ส่วย
หมอกชวนฝันอาจเป็นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งความฝัน แต่มันมีพลังอํานาจที่จํากัด เผชิญหน้ากับราชันมังกร มันเหมือนกับการใช้อวนจับปลาขนาดเล็กเพื่อจับฉลามยักษ์
ราชันมังกรไม่สามารถต่อต้านท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งความฝัน ฉลามยักษ์อาจติดกับ แต่หลังจากนั้นจะเป็นอย่างไร ฉลามยักษ์จะพยายามดิ้นรนหลบหนีและอาจสามารถทําลายอวนจับปลาเล็กๆปากนี้
กระทั้งอู่ส่วยจะจับกุมราชันมังกร แต่ความสามารถของมันยังห่างไกลจากการกําหราบตัวตนที่ทรงพลังเช่นราชันมังกร
สุดท้ายวังมังกรอาจพังทลายลงขณะที่ราชันมังกรถูกกักขังเพียงชั่วครู่ นอกจากนี้ยังมีฟงจินฮวงที่สามารถจัดการอาณาจักรแห่งความฝัน
ดังนั้นการเคลื่อนไหวของอู่ส่วยจึงเป็นเพียงการหลอกลวง ราชันมังกรตกเป็นเหยื่อเพราะเขาไม่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับมัน
นี่เป็นเหตุผลที่ผู้อมตะมักซ่อนท่าไม้ตายของตนเอาไว้ หากพวกเขาแสดงมันออกไป ฝ่ายตรงข้ามจะสามารถคลี่คลายมันได้ในที่สุด
ราชันมังกรถอยกลับ ผู้อมตะของสามภูมิภาคบุกโจมตีอีกครั้งภายใต้การนําของวูหยง
“ซึม นอกจากท่านราชันมังกร วังสวรรค์ยังมีพวกเรา!”
“พวกเจ้าต้องชดใช้สําหรับการดูถูกพวกเรา!”
“พวกเราอยู่ที่นี่ อย่าคิดว่าจะประสบความสําเร็จ!”
ในช่วงเวลาสําคัญ จุชิวเอ๋อ เพ่ยกังซุย จ้าวซาน และกองกําลังหลักของวังสวรรค์คนอื่นๆก้าวออกมารับการโจมตีโดยไม่เกรงกลัวต่อความตาย
“คนแก่กลุ่มหนึ่ง พวกเจ้าจะเหลือเวลาอีกเท่าใด?” ฮัวช่ายหยุนเย้ยหยันและส่งเมฆสายฟ้าจํานวนมากพุ่งออกไป
“บึ้ม บึ้ม บึ้ม บึ้ม!”
เมฆสายฟ้าถูกทําลายล่วงหน้าโดยอวจจ่อ
“เหลือเวลาเท่าใดเราไม่เคยสน! ตราบเท่าที่เรายังมีลมหายใจ เราจะคลานขึ้นมาจากหลุม!” อวี่จื่อตะโกนและผลักฝ่ามือส่งสายหมอกสีเขียวหยกออกไป
“ถอย!” เมื่อเผชิญหน้ากับท่าไม้ตายที่ไม่รู้จัก ฮัวช่ายหยุนไม่กล้าทดสอบและรีบล่าถอยไปยังสถานที่ปลอดภัยทันที
“เราจะไม่แพ้การต่อสู้ครั้งนี้! รู้หรือไม่ว่าเพราะเหตุใด?” โจวซ่งซินยิงลูกศรสีขาวจํานวนนับไม่ถ้วนออกไป
“เพราะเราคือกระดูกสันหลังของมนุษยชาติ เราคือวีรบุรุษของภาคกลางมาตลอดสามล้านปี เราไม่มีวันลืมความอัปยศที่ตกเป็นทาสของมนุษย์กลายพันธุ์ เราจะต่อสู้เพื่ออิสรภาพ เราจะไม่มีวันลืมว่าเราต้องปกป้องความสุขของมนุษยชาติ!”
“สําหรับพวกเจ้า พวกเจ้าเป็นผู้คนที่ไม่สนใจเผ่าพันธุ์และเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว คนโง่สายตาสั้นที่ไม่สามารถมองเห็นอนาคต ไม่ว่าพวกเจ้าจะโจมตีกครั้ง พวกเจ้าก็จะพบกับความพ่ายแพ้เท่านั้น!”
โจวซ่งซินตะโกนเสียงดังขณะใช้ลูกศรสีขาวป้องกันการโจมตีของปรมาจารย์ห้าธาตุ อีห่าวฟาง และผู้อมตะระดับแปดคนอื่นๆของสามภูมิภาค
“ด นี่คือความมุ่งมั่นของวังสวรรค์!” จชิวเอ๋อและองค์ชายฟงเซียนร่วมมือกันใช้เปลวเพลิงเป็น แนวป้องกันปิดกั้นการจู่โจมของคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเจ็ดหลายหลัง
“น่าขัน ฝูงห่านพูดพล่ามไร้สาระ สุสานอมตะถูกทําลายแล้ว หลังจากฆ่าพวกเจ้า ให้ข้าดูว่าผู้ใดจะยืนอยู่เป็นคนสุดท้าย” ผู้อมตะภาคเหนือที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์หลิวอุ้ยเย้ยหยัน
แต่ในจังหวะนี้ราชันมังกรกลับปรากฏตัวขึ้นด้านหน้าเขา
“ปัง!”
ท่าไม้ตายอมตะกรงเล็กมังกร!
ร่างของหลิวฮัยส่องแสงสีเขียวออกมาแต่ท่าไม้ตายอมตะสายป้องกันของเขากลับอยู่ได้เพียงวินาทีเดียว ก่อนที่มันจะแตกสลาย ร่างกายของเขาถูกตัดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
หลิวฮียเสียชีวิตในการโจมตีเดียวของราชันมังกร
ปรมาจารย์ห้าธาตุและคนอื่นๆ ล่าถอยเข้าไปในคฤหาสน์วิญญาณอมตะด้วยความตกใจ
ราชันมังกรกวาดตามองสนามรบและตะโกน “พวกเจ้าร่วมมือกับปีศาจต่างโลกและพยายามโค่นล้มวังสวรรค์ พวกเจ้าเป็นคนทรยศของมนุษยชาติ ตายไปซะ ดูดกลืนพลังปราณทั้งสาม!”
“ครืน…”
พลังปราณจากทุกหนทุกแห่งของวังสวรรค์พุ่งเข้าสู่ร่างกายของราชันมังกร
ท่าไม้ตายอมตะระเบิดพลังปราณ!
เขากางนิ้วทั้งห้าและเล็งไปที่คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเจ็ด
วินาทีต่อมา เขากําหมัดแน่น
“บึม!”
คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเจ็ดระเบิดเป็นชิ้นๆ ผู้อมตะที่อยู่ภายในเสียชีวิต มีเพียงเศษเนื้อ กระดูก และเลือดที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง
ผู้อมตะของทั้งสามภูมิภาคตกตะลึง
ฝ่ายของวังสวรรค์โห่ร้องเสียงดัง
“นี่คือพลังอํานาจของวังสวรรค์!” ภายในหอพิพากษาปีศาจ ดวงตาของฉินติงหลิงส่องประกายสดใส อย่างไรก็ตามฟางเพิ่งกลับเงียบและรู้สึกสันสะท้านอยู่ในจิตใจ
ฟางเพิ่งเริ่มเข้าใจจิตวิญญาณของผู้อมตะวังสวรรค์!
“ถูกต้อง” ฟางเพิ่งคิด หากไม่มีวังสวรรค์ เผ่ามนุษย์จะดํารงอยู่มาถึงปัจจุบันได้อย่างไร? ผู้อมตะของวังสวรรค์รุ่นก่อนทําลายอุปสรรคด้วยชีวิตของพวกเขา การเสียสละมากมายนํามาซึ่งความรุ่งโรจน์ของมนุษยชาติ เปรียบเทียบกับฟางหยวนและคนเหล่านี้ที่ต้องการทําลายวิญญาณ ชะตากรรมพวกเขาเป็นคนทรยศของเผ่ามนุษย์
“ฟื้ว…”
เป็นเพียงเวลานี้ที่ดาบแสงพุ่งผ่านสนามรบและสร้างเสียงอันแผ่วเบา
จชิวเอ๋อค่อยๆล้มลงบนพื้นด้วยร่างที่ถูกแยกออกเป็นสองส่วน
ท่าไม้ตายอมตะดาบห้าดัชนี้!
มันคือฟางหยวน! เขาเคลื่อนไหวอยู่บริเวณรอบนอกของสนามรบในร่างมังกรคาบแรกกําเนิด
“ฟางหยวน!” ผู้อมตะของวังสวรรค์โกรธจัด
ฟางหยวนเย้ยหยัน “ข้ามาที่นี่เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง! ข้าไม่สนว่าพวกเจ้าเป็นสิ่งใด พวกเจ้าจะมีเกียรติหรือไม่ ข้าไม่สนใจ วันนี้ข้าจะทําลายวิญญาณชะตากรรม ข้าจะฆ่าทุกคนที่กล้าขวางทางข้า หากผู้อมตะมา ข้าจะฆ่าผู้อมตะ หากปีศาจมา ข้าจะฆ่าปีศาจ! วังสวรรค์ เมื่อพวกเจ้า กีดขวางเส้นทางของข้า พวกเจ้าก็จะพบกับผลลัพธ์เดียวกัน!”
“ซึม ปีศาจ เจ้าต้องถูกประหาร!”
“ฆ่ามัน!”
“ข้าจะแยกร่างเจ้าออกเป็นชิ้นๆ!”
ผู้อมตะของวังสวรรค์สาปแช่ง
“โฮก…”
ตี้จางเฉิงที่ฟื้นตัวแล้วพุ่งเข้าไปหาแนวป้องกันของวังสวรรค์อีกครั้ง
วังมังกรร่วมมือกับมันและปลดปล่อยหมอกชวนฝันออกไป
ไม่ว่าท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งความฝันจะเคลื่อนที่ไปที่ใด ผู้อมตะของวังสวรรค์ก็ต้องหลีกทางให้มัน ฟงจิวเก้อถอนหายใจและต้องเปลี่ยนเพลงเพื่อส่งนักรบเพลงออกไป
นักรบเพลงจํานวนมากถูกกลืนกลืนโดยหมอกชวนฝัน นั่นทําให้หมอกชวนฝันไม่สามารถก้าวไปข้างหน้า มันกลายเป็นงูเหลือมที่กินจนอิ่มและต้องการเวลาย่อย
ฟงจิวเก้อไม่สามารถทําลายท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งความฝันแต่เขาสามารถหยุดมันได้ด้วยวิธีนี้
หลังจากนั้นเพลงพรหมลิขิตก็ดังขึ้นอีกครั้ง จางเฉินค่ารามด้วยความโกรธ แต่มันไม่มีทางเลือกและถูกหยุดอีกครั้ง
ไกลออกไป เทพปีศาจจิตวิญญาณและคนรับใช้ของเขาอยู่หน้าคลังสมบัติของวังสวรรค์
เมื่อมองย้อนกลับไปที่สนามรบ เทพธิดาจื่อเว่ยถอนหายใจ “ข้าไม่เคยคิดว่าท่าไม้ตายอมตะดูดกลืนพลังปราณทั้งสามจะมีประโยชน์เช่นนี้ พลังการต่อสู้ของราชันมังกรเพิ่มขึ้นถึงระดับที่น่าสะพรึงกลัว ด้วยความช่วยเหลือจากฟงจิวเก้อ พวกเขายังสามารถรักษาสถานการณ์ไว้ได้อีกนาน
ฝ่ายของวังสวรรค์แข็งแกร่งมาก แต่พวกเขาต้องปกป้องหอคอยดวงตาสวรรค์ ดังนั้นพวกเขาจึงตกเป็นฝ่ายตั้งรับและเสียเปรียบเล็กน้อย
ราชันมังกรสามารถสังหารผู้อมตะระดับแปดและคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเจ็ดได้อย่างง่ายดาย แต่ฟางหยวนก็สามารถฆ่าสมาชิกวงสวรรค์ได้อย่างง่ายดายเช่นกัน ดังนั้นราชันมังกรจึงต้องละทิ้งแนวป้องกันและออกไปต่อสู้กับฟางหยวน
หากคนทั้งสองได้รับอนุญาตให้เข่นฆ่าผู้อมตะของฝ่ายตรงข้าม ฟางหยวนจะมีความสุขเพราะวังสวรรค์จะเหลือกําลังคนไม่มากพอที่จะปกป้องสถานที่แห่งนี้ ราชันมังกรไม่สามารถปล่อยให้ฟางหยวนทําเช่นนั้น
ฟางหยวนและราชันมังกรเผชิญหน้ากันอีกครั้ง
ฟงจิวเก้อกลายเป็นแกนกลางของแนวป้องกัน เขาแสดงพลังการต่อสู้ที่เหนือกว่าความคาดหมายของศัตรูและพันธมิตรออกมาซ้ําแล้วซ้ําอีก
เฒ่าเพิ่งหยวนหรี่ตามอง “ตอนนี้เราต้องดูว่าฝ่ายใดจะสามารถทําลายทางต้น จุดสําคัญคือ วิญญาณชะตากรรม วังสวรรค์ได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเต่ความสําเร็จมาแล้ว แต่ค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมถูกทําลาย หยวนเชียงต์เป็นคนเดียวที่สามารถฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรม นายท่าน หากเราเข้าแทรกแซงในเวลานี้ เราอาจสามารถยึดครองวิญญาณชะตากรรม”
เทพปีศาจจิตวิญญาณหัวเราะ “เราจะได้สิ่งใดจากการคว้ามันมา? อย่าคิดว่าพวกเรากําลังต่อสู้กัน เพียงเพราะสิ่งที่พวกเขาต้องการ สถานการณ์นี้มีมากกว่าที่ตาเห็น! เทพในอดีตล้วนเกี่ยวข้องกับการต่อสู้ครั้งนี้ พวกเราจะพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้หลังจากปล้นคลังสมบัติและได้รับประตูแห่งชีวิตและความตายกลับคืนมา
“รับทราบ!”