Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 1981 ผู้นํากองกําลังพันธมิตร
การแทรกแซงของอู่ส่วยทําให้จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งต้องยอมรับความพ่ายแพ้เดิมที่เขาคิดว่าแผนการของเขาล้มเหลวแต่ผู้ใดจะคิดว่าอู่ส่วยจะมีเจตนาเดียวกันกับเขา
หลังจบการต่อสู้ อู่ส่วยใช้วงเงือกศักดิ์สิทธิ์เป็นสถานที่พูดคุยกับจักรพรรดิผลึกน้ำแข็ง
อู่ส่วยได้เรียนรู้ว่าจักรพรรดิผลึกน้ำแข็งเคยจัดการประชุมของกองกําลังในสวรรค์สีดํามาแล้วดังนั้นเขาจึงกระตุ้นให้จักรพรรดิผล็กน้ำแข็งจัดการประชุมครั้งที่สอง
จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งคิด ด้วยชื่อเสียงของคู่ส่วย ข้าสามารถใช้ประโยชน์จากมันและผลักดันให้เกิดการประชุมได้อย่างไม่มีปัญหา
อย่างไรก็ตามจักรพรรดิผลึกน้ำแข็งตระหนักถึงภัยคุกคามซ่อนเร้น นั่นคือกองกําลังเผ่ามนุษย์ที่อยู่ในสวรรค์สีดําและสวรรค์สีขาว
“แต่กระทั่งเผ่ามนุษย์จะรวมตัวกัน พวกเขาก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอู่ส่วย”
อู่ส่วยโจมตีวังสวรรค์ในฐานะมนุษย์มังกรและจบลงด้วยชัยชนะผลลัพธ์นี้ทําให้ชื่อเสียงของเขาโด่งดังและได้รับการยกย่องในวงกว้าง
หลังจากนั้นจักรพรรดิผลึกน้ำแข็งก็จัดการประชุมครั้งที่สองในถ้ำสวรรค์ผลึกน้ำแข็งครั้งนี้มีผู้คนมากมายมารวมตัวกัน
“จักรพรรดิขนทองมาถึงแล้ว!”
“เจ้าสวรรค์เมฆาสายฟ้ามาถึงแล้ว!”
“มารดาอมตะแห่งปัญญามาถึงแล้ว!”
“นักพรตป่าเขียวมาถึงแล้ว!”
ผู้อมตะระดับแปดเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์หลายคนมาร่วมงาน
จักรพรรดิขนทองเป็นมนุษย์ขนร่างกายของเขาปกคลุมไปด้วยขนสีทองเจ้าสวรรค์เมฆาสายฟ้าเป็นมนุษย์วิหคเขาอยู่ในรูปลักษณ์ของชายหนุ่มรูปงามที่มีปีกอยู่บนแผ่นหลัง มารดาอมตะแห่งปัญญาเป็นมนุษย์หมีกหญิงชรานักพรตป่าเขียวเป็นมนุษย์จิ๋วร่างกายของเขาเรื่องแสงสีเขียวออกมาตลอดเวลา
นี่เป็นครั้งแรกที่คนทั้งสี่เข้าประชุม
นอกจากพวกเขายังมีผู้อมตะระดับแปดเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์คนอื่นๆรวมถึงผู้อมตะระดับแปดเผ่ามนุษย์ได้แก่ราชาหมาป่าราตรีสวรรค์ท่านหญิงธุลีเย็นและคนใหม่เช่นจักรพรรดิข้ามสวรรค์ที่ บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งแสงราชาตกแตนทมิฬที่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งไม้ และราชินีปฐพีสีรุ้งที่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งปฐพี
มีผู้อมตะระดับแปดเผ่ามนุษย์จํานวนห้าคนแต่มีผู้อมตะระดับแปดเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เกือบสิบคนแม้ท่านหญิงธุลีเย็นจะพยายามรวมรวบกองกําลังเผ่ามนุษย์แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถแข่งขันกับเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ในความเป็นจริงมันมีช่องว่างขนาดใหญ่
หลังจากพูดคุยเป็นเวลานาน จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งประกาศ “นอกจากเราจะพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์ของโลกยุคปัจจุบัน ยังมีเรื่องสําคัญอีกเรื่องขอจะแนะนําพวกเจ้าให้รู้จักกับผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่!”
ทุกคนมองไปยังบุคคลที่จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งชี้นํา
อส่วยเดินออกมาจากหลังม่านและนั่งลงบนเก้าอี้ตัวหลักภายใต้สายตาของทุกคน
“นี่…” กลุ่มผู้อมตะตกใจ
“เช่นนั้นก็คือ ส่วย”ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ที่อยู่ด้านข้างจักรพรรดิผลึกน้ำแข็งกล่าว
จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งแสดงออกด้วยความไม่พอใจ “เรียกผู้อาวุโสอู่ส่วย!”
ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ผู้นั้นรู้สึกละอายใจและเร่งเปลี่ยนคํากล่าว“ผู้น้อยคารวะผู้อาวุโส
“ดี” อู่ส่วยพยักหน้า “ความอาวุโสเป็นสิ่งสําคัญแต่ข้าอยากให้ทุกคนเรียกข้าว่าผู้นํา!”
“ผู้นํา!?” กลุ่มผู้อมตะมองหน้ากัน
อู่ส่วยหัวเราะ “ถ้ำสวรรค์ถูกเปิดเผย ผู้อมตะของห้าภูมิภาคจะโจมตีพวกเรา พวกเขายังไม่เคลื่อนไหวเพราะกระแสลมปราณ ตอนนี้พวกเราต้องเสริมความแข็งแกร่งและปกป้องตนเอง เราต้องจัดตั้งกองกําลังพันธมิตรเพื่อต่อต้านห้าภูมิภาค!”
“ตั้งแต่โบราณ คนที่มีความสามารถที่สุดจะกลายเป็นผู้นํา ข้าเห็นว่าไม่มีผู้ใดในที่นี่ที่สามารถแข่งขันกับข้าหากผู้ใดไม่เห็นด้วย พวกเจ้าสามารถท้าทายข้า!
ก่อนที่ทุกคนจะสามารถตอบสนองคํากล่าวของอู่ส่วย เสียงคํารามของมังกรก็ดังขึ้น
ร่างกายขนาดมหึมาของจางเฉิงปรากฏต่อหน้าทุกคน
จากนั้นคฤหาสน์วิญญาณอมตะขนาดเล็กก็บินออกมาจากมิติช่องว่างของอู่ส่วยและลอยอยู่ในฝ่ามือของเขา
มันคือวังมังกรขนาดจิ๋ว!
อู่ส่วยมองวังมังกรในมือก่อนจะหันหน้าไปทางกลุ่มผู้อมตะอีกครั้งด้วยสายตาที่แสดงให้เห็นถึงภัยคุกคาม
การแสดงออกของกลุ่มผู้อมตะเปลี่ยนเป็นน่าเกลียด บางคนเงียบ บางคนโกรธแต่ไม่มีผู้ใดกล้าเปิดปากกล่าว
แม้อู่ส่วยจะเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด แต่ทุกคนรู้จักพลังอํานาจของวังมังกรและมังกรปีศาจเป็นอย่างดีหากทุกคนร่วมมือกัน พวกเขาอาจสามารถต่อต้านแต่พวกเขาไม่คุ้นเคยกันและไม่สามารถสร้างความร่วมมือ
“ฮ่าฮ่าฮ่า” เมื่อเห็นว่าไม่มีคนคัดค้าน อู่ส่วยก็หัวเราะเสียงดัง “พวกเจ้ายังไม่ยอมรับผู้นํางั้นหรือ?”
กลุ่มผู้อมตะเงียบ
คร่ต่อมาจักรพรรดิผลึกน้ำแข็งก็ยืนขึ้นและป้องหมัดกล่าว “จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งคารวะท่านผู้นํา!”
“ดี ดี” อู่ส่วยชี้นิ้วไปที่เขา “เจ้าจะเป็นรองผู้นํากองกําลังพันธมิตร!”
ต่อมาเขาก็กวาดตามองผู้อมตะคนอื่นๆด้วยสายตาแหลมคม
มังกรปีศาจสะบัดร่างของมันอยู่ด้านนอกและทําให้เกิดพายุกรรโชกแรง
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ผู้อมตะคนอื่นๆก็ถูกบังคับให้ยอมรับสถานะของอู่ส่วย
อู่ส่วยที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวหลักกวาดมองกลุ่มผู้อมตะ “ข้ารู้ว่าพวกเจ้ากําลังคิดสิ่งใดอยู่พวกเจ้ายอมรับตําแหน่งผู้นํากองกําลังพันธมิตรของข้าเนื่องจากสถานการณ์แต่ข้าไม่ต้องการบังคับพวก เจ้าอย่างแท้จริง”
“นี่เป็นโอกาสที่หายากสําหรับทุกคน มันเป็นโอกาสเดียวที่เราจะต่อต้านห้าภูมิภาคหากเราไม่ใช้โอกาสนี้เมื่อหาภูมิภาคออกไล่ล่าและปิดล้อมถ้ำสวรรค์ของพวกเราทุกคนจะเสียใจ
“ด้วยการหารือของพวกเจ้าก่อนหน้านี้ เมื่อใดที่พวกเจ้าจะสามารถเริ่มดําเนินการ เมื่อใดที่พวกเจ้าจะสามารถบรรลุข้อตกลง เมื่อกระแสลมปราณสิ้นสุดลงหากปราศจากผู้นําเช่นข้าที่รวบรวมทุกคนเข้าด้วยกันเราจะทําอย่างไรเราจะสามารถดําเนินการอย่างรวดเร็วได้อย่างไร?”
อู่ส่วยกล่าวด้วยน้ำแข็งที่แข็งกร้าวแต่เขามีเหตุผลที่ดี นั่นทําให้การแสดงออกของกลุ่มผู้อมตะผ่อนคลายลงเล็กน้อย
“เอาล่ะ หมดเรื่องไร้สาระแล้ว มาคุยเกี่ยวกับเป้าหมายที่เราจะโจมตีกันต่อ”อู่ส่วยกล่าว
เมื่ออู่ส่วยกล่าวถึงเรื่องนี้ แม้แต่จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งยังรู้สึกประหลาดใจ “ท่านผู้นํามันยังเร็ว เกินไปหรือไม่ที่จะโจมตี? สวรรค์สีดําและสวรรค์สีขาวกว้างใหญ่เกินไปยังมีอีกหลายกองกําลังที่ยังไม่ได้เข้าร่วมกับพวกเรา”
“เรารอไม่ไหวแล้ว ตราบเท่าที่เราโจมตีและสามารถสร้างความโกลาหล คนเหล่านั้นจะเข้าหาพวกเราเองนี่คือวิธีกระตุ้นจิตใจ” อู่ส่วยโบกมือ
กลุ่มผู้อมตะเงียบ
จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งถามต่อ “เช่นนั้นในความคิดเห็นของท่านผู้นํา เราควรโจมตีที่ใด?”
“แน่นอนว่าวังสวรรค์!” อู่ส่วยตอบโดยปราศจากความลังเล
“วังสวรรค์!?” กลุ่มผู้อมตะอุทานด้วยความประหลาดใจ
“วังสวรรค์อ่อนแอมากในเวลานี้ ตราบเท่าที่เราสามารถล้มล้างวังสวรรค์ ทั้งห้าภูมิภาคจะสันสะเทือน ผู้ใดจะกล้าโจมตีพวกเรา?”อู่ส่วยหัวเราะเสียงดัง
“นี่ไม่ฉลาด!”
“วังสวรรค์มีรากฐานที่ยิ่งใหญ่ มันไม่ใช่สถานที่ที่เราสามารถกําหนดเป้าหมาย!”
“ท่านผู้นําโปรดพิจารณาใหม่”
กลุ่มผู้อมตะส่ายศีรษะไม่เห็นด้วย
“ฮัม พวกขี้ขลาด!” อู่ส่วยไม่พอใจ “เช่นนั้นเราจะไปเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์!”
“คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ใหญ่โตที่สุดมันเกิดจากการรวมตัวระหว่างวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์และเมืองจักรพรรดิมันมีความสําคัญมากต่อวัง สวรรค์และเป็นจุดศูนย์รวมของเส้นโลหิตมนุษย์หากเราสามารถยึดครองเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ ภาคกลางจะตกสู่ความโกลาหล นอกจากนั้นเรายังจะได้รับคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดและ มรดกที่แท้จริงของเทพอมตะบัวสวรรค์!”
ท่านหญิงธุลีเย็นไตร่ตรองก่อนกล่าว “เมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์มีความสําคัญหากเราโจมตีมันเราจะสร้างความขุ่นเคืองให้กับภาคกลางพวกเขาจะต่อต้านและโจมตีพวกเรานี่ไม่ต่างจากการโจมตีวังสวรรค์โดยตรงงั้นหรือ?”
“แน่นอนว่าแตกต่าง หากผู้คนถูกดึงดูดมายังเมืองจักรพรรดิสวรรค์ เราจะสามารถส่งคนอีกกลุ่มหนึ่งไปโจมตีวังสวรรค์!” อู่ส่วยตอบ
กลุ่มผู้อมตะรู้สึกเย็นเยียบเมื่อได้ยินคํากล่าวของอู่ส่วย
“เขายังต้องการโจมตีวังสวรรค์!”
“นี่หมายความว่ากลุ่มที่โจมตีเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์จะกลายเป็นเหยื่อบูชายัญงั้นหรือ?”
“ผู้อาวุโสอู่ส่วยก้าวร้าวเกินไป เขาต้องการต่อต้านวังสวรรค์ไม่ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้น!”
อู่ส่วยไม่พอใจ “อันใด! พวกเจ้าไม่กล้าโจมตีเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์งั้นหรือ?”
จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งเร่งกล่าว “ท่านผู้นําโปรดพิจารณาใหม่ พวกเรา…”
อู่ส่วยโบกมือและกล่าวอย่างไม่พอใจ “พอแล้ว ข้าไม่ต้องการได้ยินข้อแก้ตัวใดๆอีกต่อไปเอาล่ะกำจัดตระกูลเซียของทะเลตะวันออกเป็นอันดับแรก”
ในที่สุดอู่ส่วยก็เปิดเผยเป้าหมายที่แท้จริงของเขาออกมา
ตระกูลเซี่ยของภาคใต้กับตระกูลเซี่ยของทะเลตะวันออกไม่เกี่ยวข้องกันแต่ทั้งสองเป็นกองกําลังใหญ่เช่นเดียวกัน
หากเขากล่าวเป้าหมายนี้ออกมาตั้งแต่แรก เขาจะเผชิญหน้ากับการคัดค้านแต่สองเป้าหมายแรกของเขาคือวังสวรรค์และเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์หากเปรียบเทียบการโจมตีตระกูลเซียของ ทะเลตะวันออกง่ายกว่ามาก
อู่ส่วยวิเคราะห์ “ตระกูลเซียของทะเลตะวันออกมีรากฐานอ่อนแอที่สุดท่ามกลางกองกําลังใหญ่ทั้งหมด นอกจากนี้ที่ตั้งฐานทัพใหญ่ของพวกเขายังอยู่ในพื้นที่ตะวันออกสุดของทะเลตะวันออก มันค่อนข้างห่างไกลและเหมาะสมกับการเป็นฐานทัพของพวกเรา”
“อาณาเขตของตระกูลเซียอยู่ติดกับวังเงือกศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นพันธมิตรของพวกเราในเวลานี้พวกเขาสามารถสนับสนุนพวกเรา”
เมื่อกล่าวมาถึงจุดนี้ อู่ส่วยก็ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ใดคัดค้านอีก “ข้าตัดสินใจแล้วเป้าหมายของเราคือตระกูลเซีย!”
เมื่อเผชิญหน้ากับผู้นําที่เผด็จการเช่นนี้ กลุ่มผู้อมตะรู้สึกไม่พอใจ แต่ภายใต้แรงกดกันจากที่จางเฉิงและวังมังกร พวกเขาไม่มีทางเลือก
สิ่งสําคัญที่สุดคือพวกเขาถูกบังคับโดยสถานการณ์ พวกเขารู้ว่าหากพวกเขาไม่ฉวยโอกาสนี้พวกเขาจะสูญเสียความได้เปรียบห้าภูมิภาคจะไม่ปล่อยพวกเขาไปในอนาคต
“จักรพรรดิผลึกน้ำแข็ง ตําแหน่งผู้นํากองกําลังพันธมิตรควรเป็นของเจ้า เจ้าจะปล่อยให้เขาได้รับมันไปจริงๆงั้นหรือ?”หลังการประชุมผู้อมตะบางคนไม่พอใจบางคนกระตุ้นจักรพรรดิผลึกน้ำ แข็ง
จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งเผยรอยยิ้มเย็นชากับตนเอง “ตะปูถูกตอกลงไปแล้วท่านอู่ส่วยกําลังช่วยนําทางกองกําลังพันธมิตรของพวกเรา แม้ข้าจะมอบตําแหน่งผู้นําให้เขาแล้วอย่างไร? ไม่ใช่ว่าตอนนี้พวกเราได้รับความช่วยเหลือกจากวังมังกรและมังกรปีศาจแล้วงั้นหรือ?”
“หากแผนการของเราล้มเหลวในอนาคตและผู้อมตะของห้าภูมิภาคออกไล่ล่าพวกเราในเวลานั้นเราจะสามารถตําหนิอู่ส่วยและหลบหนีไป”