Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 1998 สํารวจถ้ำสวรรค์ฉีเจีย
ท้องฟ้าเป็นสีน้ําเงิน สายลมกรรโชกแรงจิตสังหารลอยอบอวลอยู่ในอากาศ
คฤหาสน์วิญญาณอมตะสองหลังกําลังเผชิญหน้ากัน
หนึ่งคือวังมังกร อีกหนึ่งคือบ้านไม้ไผ่สายลม
มีผู้อมตะระดับแปดหลายคนอยู่ในคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสองหลัง
อู่ส่วยนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรและมีผู้อมตะของสองสวรรค์นั่งอยู่สองแถวด้านล่างเก้าอี้ทางซ้ายตัวแรกคือจักรพรรดิผลึกน้ําแข็ง เก้าอี้ทางขวาตัวแรกคือผู้อมตะที่พึ่งเข้าร่วม เซียวเหอเจี้ยน สําหรับท่านหญิงธุลีเย็น ราชาหมาป่าราตรีสวรรค์ และคนอื่นๆพวกเขานั่งผสมผสานอยู่ระหว่างของกลุ่มนี้
หลังจากอู่ส่วยเจรจากับเซียวเหอเจี้ยน พวกเขาก็ออกเดินทางมายังถ้ําสวรรค์ฉีเจีย
อีกด้านหนึ่งวูหยงเร่งระดมพลเดินทางมาเช่นกัน
บ้านไม้ไผ่สายลมเร็วกว่าวังมังกร กุหยงมาถึงเร็วกว่าคู่สวย แต่ถ้ําสวรรค์ฉีเจียไม่สามารถเข้าไปโดยง่าย ในช่วงเวลานี้วังมังกรก็เดินทางมาถึง
ทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากันในสวรรค์สีขาวและติดอยู่ในสถานการณ์ชะงักงัน
“วหยง” อู่ส่วยส่งเสียงออกมาจากวังมังกร “มรดกที่แท้จริงของฉีเจียอยู่ตรงหน้าเหตุใดเราไม่ส่งตัวแทนสามคนออกมาสู้กัน? ฝ่ายใดชนะสองในสาม ฝ่ายนั้นจะได้รับมรดกที่แท้จริงนี้ สําหรับผู้แพ้จะได้รับถ้ําสวรรค์เจ้าคิดอย่างไร?”
“อู่ส่วย เหตุใดเจ้าจึงขี้ขลาดนัก?” วูหยงหัวเราะ “ผู้ชนะย่อมได้รับมรดกที่แท้จริงมาสู้กันโดยใช้ความสามารถทั้งหมดของเรา!”
หลังกล่าวจบค่าบ้านไม้ไผ่สายลมก็พุ่งเข้าสู่ถ้ําสวรรค์ฉีเจียทันที
แม้วหยงจะมีบ้านไม้ไผ่สายลม แต่ชนชั้นสูงของตระกูลวและตระกูลถั่วมีจํานวนจํากัด พวกเขาไม่สามารถแข่งขันกับฝ่ายตรงข้ามไม่ว่าจะเป็นปริมาณหรือคุณภาพ
หากพวกเขาใช้กฎของอู่ส่วย วูหยงจะกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
นอกจากนี้การต่อสู้ระหว่างผู้อมตะที่แข็งแกร่งจะดึงดูดกระแสลมปราณเข้ามา เมื่อเวลานั้นมาถึง ผู้อมตะของสองสวรรค์จะยิ่งได้เปรียบ
วหยงเป็นคนฉลาด เขาจะปล่อยให้ฝ่ายของตนเองเสียเปรียบตั้งแต่เริ่มต้นได้อย่างไร
“ท่านผู้นํา ไม่มีเวลาแล้วออกเดินทางกันเถอะ!” เซียวเหอเจี้ยนกระตุ้นด้วยความกังวล
อู่ส่วยมองรูช่องโหว่ของถ้ําสวรรค์ฉีเจียหลายแห่งที่ปรากฏขึ้น
ก่อนหน้านี้บ้านไม้ไผ่สายลมใช้รูช่องโหว่ขนาดใหญ่ที่สุดเพื่อเข้าสู่ถ้ําสวรรค์ฉีเจีย
หลังจากไตร่ตรอง อู่ส่วยก็เข้าใจบางสิ่ง
“รช่องโหว่มีขนาดแตกต่างกัน จํานวนของพวกมันก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นี่เป็นทางเข้าถ้ําสวรรค์ฉีเจีย
ร่างหลักและร่างแยกของฟางหยวนมีความทรงจําที่แตกต่างกันแต่พวกเขามีความสําเร็จเท่ากัน อู่ส่วยมีความสาเร็จบนเส้นทางแห่งพลังปราณเท่ากับร่างหลัก ดังนั้นเขาจึงเข้าใจมันชัดเจนกว่าคนอื่นๆ
“ถ้ําสวรรค์ฉีเจียมีวิธีขยายช่องทางเชื่อมต่อกับโลกภายนอกที่มีประสิทธิภาพ”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ส่วยก็ยิ่งอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น โดยปราศจากความลังเล เขานำวังมังกรพุ่งเข้าไปทันที
ในชีวิตห้าร้อยปีของฟางหยวน ถ้าสวรรค์ฉีเจียระเบิดตัวเอง มันทําให้ผู้อมตะระดับแปดจํานวนมากเสียชีวิต
ถ้ําสวรรค์ฉีเจียเป็นสถานที่อันตรายนี่เป็นสาเหตุที่ฟางหยวนไม่มีความคิดที่จะสํารวจมันก่อนสงครามชะตากรรม
แต่ตอนนี้เป็นโอกาสดีที่จะสํารวจมัน
วังมังกรบินเข้าสู่ถ้ําสวรรค์ฉีเจียผ่านรูช่องโหว่แคบๆโดยมีกระแสลมปราณเคลื่อนไหวอยู่รอบๆ
“โครงสร้างของถ้ําสวรรค์ฉีเจียค่อนข้างพิเศษ มันมีกระแสลมปราณพัดอยู่ทุกหนทุกแห่งและก่อตัวเป็นอุโมงค์ลมปราณจํานวนนับไม่ถ้วน มันเหมือนเขาวงกตขนาดมหึมา เราต้องเดินทางผ่านอุโมงค์เหล่านี้เพื่อไปยังจุดศูนย์กลางของมันมรดกที่แท้จริงของฉีเจียถูกซ่อนอยู่ที่นั่น” เซียวเหอเจี้ยนอธิบาย
กลุ่มผู้อมตะในวังมังกรตั้งใจฟัง
เซียวเหอเจี๊ยนไม่ได้กล่าวทุกสิ่งที่เขารู้ออกมาก่อนหน้านี้เพื่อป้องกันไม่ให้อู่ส่วยคว้ามรดกที่แท้จริงของฉีเจียไปเพียงผู้เดียว เขาเก็บความลับมากมายเอาไว้แต่สัญญาว่าจะอธิบายสถานการณ์หลังจากที่พวกเขามาถึง
วังมังกรเคลื่อนที่ไปตามอุโมงค์ลมปราณก่อนจะพบกับทางแยก
“เราจะเลือกเส้นทางที่ถูกต้องได้อย่างไร?” จักรพรรดิผลึกน้ําแข็งถาม
เซียวเหอเจี้ยนตอบ “ข้าไม่แน่ใจเช่นกัน เราต้องทดสอบกฎข้อเดียวของที่นี่คือยิ่ง เราเข้าใกล้จุดศูนย์กลางมากเท่าใดสัตว์อสูรและทรัพยากรที่เราพบก็จะยิ่งล้ําค่ามากเท่านั้น พื้นที่ส่วนกลางของมันมีผลไม้ปราณเติบโตขึ้นถึงระดับเก้าแล้ว!”
“สถานการณ์ของตระกูลถั่วเป็นอย่างไร?” จักรพรรดิผลึกน้ําแข็งถามต่อ
“ตระกูลถั่วไม่มีวิธีที่ดีเช่นกัน ในความเป็นจริงความเร็วในการสํารวจของพวกเขากว่าพวกเรามาก คราวก่อนมันเป็นเพราะโชคที่ท่าให้พวกเขาไปถึงพื้นที่ส่วนกลางได้อย่างรวดเร็ว เผ่าของข้าเกือบได้รับมรดกที่แท้จริงของฉีเจียมาแล้ว” เซียวเหอเจี้ยนถอนหายใจและรู้สึกเสียดาย
“ในกรณีนี้แม้พวกเขาจะเข้ามาก่อนแต่เรายังเป็นฝ่ายได้เปรียบ” มารดาอมตะแห่งปัญญาวิเคราะห์
“อย่าประมาทบ้านไม้ไผ่สายลม มันเร็วมาก” อู่ส่วยกล่าว
เขาเลือกเส้นทางแบบสุ่มและนวังมังกรเคลื่อนที่ไปข้างหน้า
ระหว่างทาง อุโมงค์ลมปราณค่อยๆกว้างและสูงขึ้น สิ่งมีชีวิตที่อยู่ภายในก็ แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
“โฮก…”
ทันใดนั้นฝูงอสูรปราณก็พุ่งเข้ามาปิดล้อมวังมังกรเอาไว้ทุกด้าน
อสูรปราณเหล่านี้มีรูปร่างที่หลากหลาย บางตัวเหมือนวัว บางตัวเหมือนแพะบางตัวเหมือนนก และบางตัวเหมือนปลาร่างกายของพวกมันราวกับก่อตัวขึ้นจากลมปราณสีส้มทอง
“นี่คืออสูรปราณที่เกิดจากปราณโชค” เซียวเหอเจี้ยนกล่าว “มันค่อนข้างรับมือได้ยาก หากไม่มีวิธีบนเส้นทางแห่งโชค เมื่อเราฆ่าพวกมัน โชคของเราจะลดลง”
ท่าไม้ตายอมตะหมอกชวนฝัน!
อสูรปราณโชคทั้งหมดถูกจับกุมและนําเข้าสู่วังมังกรทันที
“อา..” เซียวเหอเจี้ยนตะลึง แต่เขายังตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว “ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งความฝัน! สมกับเป็นวังมังกร!”
ขณะที่เขากล่าวถ้อยคําเหล่านี้ อสรุปราณสีดในร่างปลาวาฬก็ปรากฏตัวขึ้น
การแสดงออกของเซียวเหอเจี้ยนกลายเป็นเคร่งขรึม “ระวัง! นี่คืออสูรปราณแรกกำเนิดที่ถูกสร้างขึ้นจากปราณความแข็งแกร่งโชคดีที่ตอนนี้มันหลับอยู่ข้อแนะนําให้เราอ้อมมันไปอย่าให้…”
“ปัง!”
วังมังกรเร่งความเร็วและพุ่งชนอสูรปราณปลาวาฬแรกกาเนิดโดยตรง
อสูรปราณปลาวาฬแรกกาเนิดตอบโต้ด้วยความโกรธ
แต่วังมังกรยังพุ่งชนมันอีกครั้งและอีกครั้ง!
ในที่สุดร่างของอสูรปราณปลาวาฬแรกกาเนิดก็ระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย อู่ส่วยเก็บปราณความแข็งแกร่งเหล่านั้นไว้ในวังมังกร
“พวกเจ้าสามารถแบ่งปันทรัพยากรทั้งหมดที่เราได้รับ” อู่ส่วยแจกจ่ายทรัพยากร ณ จุดนั้น
“ท่านผู้นําแข็งแกร่งมาก!”
“วังมังกรทรงพลังนัก!”
“ผู้ใต้บังคับบัญชาขอบคุณท่านผู้น่า”
“ท่านผู้นําอยู่ที่นี่เหตุใดเราต้องกลัววหยง?”
กลุ่มผู้อมตะสรรเสริญ
จักรพรรดิผลึกน้ําแข็งมองเซียวเหอเจี้ยนและกล่าวอย่างมีความหมาย “พยายามอย่าตกใจกับสถานการณ์เล็กๆน้อยๆเหล่านี้ มันจะทําให้เราเสียหน้า”
เซียวเหอเจี้ยนพยักหน้ารับรู้แต่เขายังลอบตกใจอยู่ภายใน แม้ข้าจะเห็นสงครา มชะตากรรมมาแล้ว แต่พลังอํานาจของวังมังกรยังทําให้ข้ารู้สึกตกใจมาก หากวังมัง กรแข็งแกร่งถึงระดับนี้ แล้วราชันมังกร ฟางหยวน และฟงจิวเก้อจะเป็นอย่างไร?
เซียวเหอเจี้ยนรู้สึกซับซ้อน
ด้านหนึ่งยิ่งวังมังกรแข็งแกร่ง พวกเขาก็ยิ่งมีความหวัง อีกด้านหนึ่ง ในฐานะชนชั้นสูงการมองเห็นความแตกต่างระหว่างพวกเขาและการดํารงอยู่ของผู้ยิ่งใหญ่ทําให้เขารู้สึกหดหูใจ
ระหว่างทาง อู่ส่วยปล้นสะดมทุกสิ่ง
ถ้ําสวรรค์ฉีเจียเป็นขุมสมบัติบนเส้นทางแห่งพลังปราณ มันเหมือนกับทะเลปราณในยุคโบราณ
อู่ส่วยตั้งใจแสดงพลังอํานาจของเขาออกมาเพื่อข่มขู่เซียวเหอเจี้ยน ทรัพยากรบนเส้นทางแห่งพลังปราณที่เขารวบรวมได้ล้วนเป็นสมบัติล้ําค่าที่หายาก แต่น่าเสียดายที่เซียวเหอเจี๊ยนไม่สามารถใช้งานพวกมัน
“นี่คือจุดศูนย์กลางของถ้ําสวรรค์ฉีเจียงั้นหรือ?” บ้านไม้ไผ่สายลมนํากลุ่มของวิหยงมาถึงแล้ว แต่รูม่านตาของเขากลับหดเล็กลงอย่างกะทันหัน “ฮึม พวกเขาก็มาถึงเช่นกัน”
วังมังกรมาถึงแทบจะในเวลาเดียวกัน
จุดศูนย์กลางของถ้ําสวรรค์ฉีเจียมีกลุ่มก้อนพลังปราณทรงกลมที่มีเสาปราณจำนวนนับไม่ถ้วนเชื่อมต่อกับอุโมงค์ลมปราณทั้งหมด
บ้านไม้ไผ่สายลมและวังมังกรเหมือนแมลงวันสองตัวที่เข้ามาในรั้งยักษ์
“เสาปราณเหล่านี้อย่างน้อยก็เป็นทรัพยากรอมตะระดับแปด เราไม่สามารถสัมผัสมันโดยประมาทมิฉะนั้นมันจะสร้างปัญหาที่ไม่จําเป็น” เซียวเหอเจี๊ยนเร่งกล่าว
สถานที่แห่งนี้ไม่เหมาะสมสําหรับการต่อสู้ ด้วยเหตุนี้ในการต่อสู้ครั้งก่อนเซียวเหอเจี้ยนจึงใช้ท่าไม้ตายเขตแดนอมตะกักขังผู้อมตะของตระกูลถั่วเอาไว้ภายใน
อย่างไรก็ตามหนึ่งในสามผู้อมตะของตระกูลถั่วบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งห้วงมิติเขาสามารถน่าผู้อมตะอีกสองคนหลบหนีออกไป
“ไม่จําเป็นต้องทําเรื่องยุ่งยากเช่นนั้น” อู่ส่วยโบกมือ
ในเวลาต่อมาเสียงคารามของมังกรก็ดังขึ้น
“บีม บีม บีม บีม!”
มังกรปีศาจจางเจ๋งพุ่งเข้าปะทะเสาปราณโดยตรง ไม่ว่ามันจะบินไปที่ใด เสาป ราณทั้งหมดจะแตกเป็นเสี่ยงๆ มันช่วยเปิดเส้นทางให้กับวังมังกร
“หือ?” วูหยงขมวดคิ้ว
ปากของเซียวเหอเจี้ยนอ่าค้าง เขากลายเป็นพูดไม่ออก