Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2013 รอดชีวิตจากความตาย
กลุ่มของเซียวซึ่งเดินไปตามเส้นทางถนน
การต่อสู้ครั้งใหญ่พึ่งจบลง ถนนที่เคยคึกคักกลายเป็นรกร้างว่างเปล่า ไม่มีผู้คนสัญจรไปมาแม้จะมีบางคนแต่ส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บ
“ฟางตี้เฉิงไม่คู่ควรเป็นฝ่ายธรรมะของทะเลทรายตะวันตก!เขาสังหารผู้บริสุทธิ์และทําให้คนตายมากมายการปล่อยให้เขาตายเช่นนี้เป็นการปล่อยเขาไปง่ายเกินไป” เงินต้าเจียงกล่าวด้วยความเกลียดชัง
อิงเฉิงจื้อถอนหายใจและกล่าวเสริม “ถูกต้อง ครั้งหนึ่งที่นี่เคยเต็มไปด้วยชีวิตชีวา”
“ฮ่าฮ่าฮ่า พวกเจ้าช่างตลกนัก” เว่ยอู่ซางหัวเราะ “ที่นี่เป็นเพียงโลกในภาพวาดมันเป็นท่าไม้ตายของเทพอมตะบัวสวรรค์ผู้คนที่นี่ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่แท้จริงไม่ว่าผู้คนจะตายหรือได้รับบาดเจ็บมากเท่าใด อีกไม่กี่ปีข้างหน้ามันก็จะกลับมาเหมือนเดิม”
“ถูกต้อง เปรียบเทียบกับสิ่งเหล่านี้ ข้าอยากรู้เกี่ยวกับรับรางวัลที่นิกายจะมอบให้เรามากกว่า” ถึงกล่าว
ดวงตาของเซียวซึ่งส่องประกายขึ้น“เราสังหารผู้อมตะและกําจัดภัยพิบัติที่ซ่อนอยู่ในเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ด้วยผลงานนี้ไม่เพียงนิกายแต่กระทั่งวังสวรรค์ก็ควรให้รางวัลพวกเราถูกต้องหรือไม่ ฮ่าฮ่าฮ่า”
เซียวซึ่งหัวเราะอย่างเต็มที่
เขามีผลงานและมีส่วนร่วมมากที่สุดในการกําจัดทหารถั่วศักดิ์สิทธิ์และฟางตี้เฉิง
ในแง่ของรางวัลเมื่อพิจารณาตามผลงาน รายชื่อของเขาจะอยู่ด้านบนสุด
ในตรอกที่คนกลุ่มนี้เดินผ่าน ขอทานสองคนนั่งอยู่ที่มุมหนึ่งและมองดูทุกสิ่งอย่างไม่แยแส
การเคลื่อนไหวของเมล็ดพันธุ์อมตะของสิบนิกายโบราณอยู่ในสายตาของขอทานทั้งสอง
“ข้าต้องขอบคุณพี่เฉิน” ขอทานผู้หนึ่งกล่าว
ขอทานอีกคนหัวเราะ “ข้าควรเรียกเจ้าว่าฟางหยวนหรือฟางตี้เฉิง?”
ขอทานคนก่อนตอบ “ข้าเป็นเพียงร่างแยกกล่าวตามตรงตอนนี้ข้าไม่แม้แต่จะถูกมองว่าเป็นร่างแยกข้าเป็นเพียงเจตจํานงที่เหลืออยู่ ดังนั้นท่านไม่จําเป็นต้องเรียกข้าว่าฟางหยวนสําหรับฟางตี้เฉิงเขาตายไปแล้วเขาเสียชีวิตด้วยการระเบิดตัวเองตอนนี้ข้าเป็นคนไร้นามและเป็นขอท่านที่ต่ําต้อยผู้หนึ่งเท่านั้น”
ดวงตาของเฉินซานส่องประกายขึ้น “เจ้าถ่อมตัวเกินไป แม้จะไม่มีข้า เจ้าก็ยังสามารถใช้ความตายเพื่อหลบหนี”
ขอทานฟางหยวนพยักหน้า“ตามแผนเดิมของข้าหากขาสามารถยึดครองโลกภาพวาดด้วยทหารถั่วศักดิ์สิทธิ์ มันจะดีที่สุดแต่โอกาสประสบความสําเร็จมีไม่มากเมื่อพิจารณาว่ามีโอกาสพ่ายแพ้ค่อนข้างสูงข้าก็เตรียมพร้อมสําหรับการระเบิดตัวเองและดวงวิญญาณเอาไว้ล่วงหน้าขณะที่เจตจํานงจะถูกทิ้งไว้เบื้องหลังอย่างลับๆ”
ขอทานฟางหยวนหยุดก่อนกล่าวต่อ “ข้าต้องขอบคุณสําหรับความช่วยเหลือของท่านหากข้าอาศัยเพียงวิธีการของข้ามีความเป็นไปได้สูงที่เทพอมตะบัวสวรรค์จะค้นพบข้าแต่ท่านทําให้ทุกอย่างแตกต่างออกไปพี่เฉินความสําเร็จบนเส้นทางมนุษย์ของท่านก้าวหน้าขึ้นอีกครั้ง”
เฉินซานหัวเราะ “นั่นเป็นเรื่องจริงตั้งแต่สงครามชะตากรรมหลังจากข้าถอดรหัสท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางมนุษย์ของเทพอมตะได้สําเร็จความสําเร็จบนเส้นทางมนุษย์ของข้าเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หลังจากที่ข้าอยู่ในโลกภาพวาดแห่งนี้ข้าทําตัวเป็นขอทานและเฝ้าสังเกตสิ่งแวดล้อมข้าได้รับประสบการณ์และข้อคิดมากมาย ขอทานมีความได้เปรียบของขอทานขอทานยืนอยู่ในจุดต่าสุดของสังคมและสามารถสังเกตทัศนคติของผู้คน”
เฉินซานเปลี่ยนเรื่องและถาม “เจ้าจะทําสิ่งใดต่อไป อยู่ที่นี่หรือออกไป?”
ขอทานฟางหยวนตอบโดยไม่ลังเล “ข้าไม่สามารถออกจากที่นี่ แม้ข้าจะรอดจากการสังเกตของเทพอมตะบัวสวรรค์มันก็เป็นเรื่องชั่วคราวเท่านั้นข้าไม่รู้วิธีจากไปเช่นกันท่านมีแผนการหรือไม่?”
เฉินซานส่ายศีรษะ “ข้ายังไม่พบวิธีจากไปข้าลอบตรวจสอบเมล็ดพันธุ์อมตะของสิบนิกายโบราณพวกเขาสามารถเข้าและออกจากที่นี่ได้เพราะพวกเขาได้รับอนุญาตจากเจตจํานงของเทพอมตะบัวสวรรค์แต่ข้าเชื่อว่าตราบเท่าที่ข้ายังซ่อนตัวอยู่ที่นี่และค้นคว้าต่อไปความสําเร็จบนเส้นทางมนุษย์ของข้าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเมื่อเวลานั้นมาถึงข้าจะสามารถหาวิธีออกจากที่นี้”
ขอทานฟางหยวนมองเฉินซานอย่างลึกซึ้ง เขาตระหนักว่าเฉินซานมีความสุขที่ได้อยู่ที่นี่
นี่ไม่ใช่เรื่องแปลก
หลังจากทั้งหมดเทพอมตะบัวสวรรค์สร้างโลกใบเล็กแห่งนี้ขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อพัฒนาเส้นทางมนุษย์
ที่นี่เส้นทางมนุษย์รุ่งเรืองที่สุด เส้นทางสายอื่นเป็นเส้นทางรอง
ในเวลาเดียวกันโลกนี้มีกฎของมันเอง มีช่องว่างระหว่างผู้อมตะกับผู้ใช้วิญญาณเพียงเล็กน้อยมันมีประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาเส้นทางมนุษย์
เฉินซานบ่มเพาะบนเส้นทางมนุษย์ เขาเป็นเหมือนสัตว์ประหลาดที่พบเหยื่ออันโอชะและหายากเขาเหมือนปลาในน้ําและรู้สึกผูกพันกับสถานที่แห่งนี้
เจตจํานงของฟางหยวนอยู่ในร่างขอทานที่ถูกสร้างขึ้นจากวิญญาณขอทานของเฉินซ่าน
ตอนนี้เขามีทางเลือกสองทาง หนึ่งคือรอให้ร่างหลักมาช่วย สองคือฝึกฝนไปพร้อมกับเฉินซานและใช้ความแข็งแกร่งของเฉินซานเพื่อปลดปล่อยตนเอง
วังสวรรค์
ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับภัยพิบัติทหารถั่วศักดิ์สิทธิ์ถูกรวบรวมไว้ในมือของฉินติงหลิง
“ฟางเฉิงเสียชีวิตด้วยการระเบิดตัวเองงั้นหรือ?” ฉินติงหลิงขมวดคิ้ว
ผลลัพธ์นี้ค่อนข้างน่าผิดหวัง นางหวังว่าจะจับร่างแยกของฟางหยวนและใช้เขาอนมานตําแหน่งของร่างหลัก
“ข้าไม่ได้คาดหวังว่าร่างแยกของฟางหยวนจะฆ่าตัวตายอย่างเด็ดเดี่ยวแต่สิ่งนี้สอดคล้องกับบุคลิกที่โหดร้ายของเขาเช่นกัน”ฉินติงหลิงไม่มีข้อสงสัย
“หากเราสามารถจับเขาทั้งเป็น มันจะดีที่สุด ในโลกภาพวาด ช่องว่างระหว่างผู้อมตะกับผู้ใช้วิญญาณมีไม่มากน่าเสียดายที่เมล็ดพันธุ์อมตะเหล่านี้ยังเด็กเกินไปและไม่สามารถคว้าโอกาส”ฉินติงหลิงถอนหายใจ
กลุ่มของเซียวฉีซิงคิดว่าพวกเขาทําผลงานใหญ่โดยการสังหารผู้อมตะแต่ฉินติงหลิงกลับคิดว่ามันไม่ใช่ผลลัพธ์ที่ดี
แต่ถึงกระนั้นฉินติงหลิงก็ยังต้องให้รางวัลเมล็ดพันธุ์อมตะเหล่านั้น
หลังจากจัดการเรื่องรางวัลเรียบร้อยแล้ว จินติงหลิงก็กลับไปให้ความสนใจเกี่ยวกับความขัดแย้งในทะเลตะวันออกอีกครั้ง
ทะเลตะวันออกเกิดความขัดแย้งระหว่างมนุษย์กับมนุษย์กลายพันธุ์
ด้านหนึ่งนําโดยบรรชนทะเลปราณ อีกด้านนาโดยอู่ส่วย พวกเขาต่อสู้กันหลายครั้งในสองสวรรค์และทะเลตะวันออกการต่อสู้ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากบรรพชนทะเลปราณช่วยถ่าสวรรค์วรรณกรรม เขาสามารถรวบรวมกองกำลังเผ่ามนุษย์ของสองสวรรค์
แม้อู่ส่วยจะพ่ายแพ้ แต่เขาไม่ได้แสดงจุดอ่อนใดๆออกมา ด้านหนึ่งเขาสามารถรวบรวมกองกาลังพันธมิตรสองสวรรค์อีกด้านหนึ่งเขาบุกโจมตีถ้ำสวรรค์ที่นิ่งเฉย
ทิศทางของอู่ส่วยชัดเจนมาก
ก่อนโจมตีห้าภูมิภาค เขาต้องเก็บกวาดสองสวรรค์เพื่อทําให้มันเป็นฐานที่มัน
ด้านหนึ่ง อส่วยต่อการรักษาฐานทัพของกองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์และไม่เปิดโอกาสให้ศัตรูโจมตีในช่วงเวลาสําคัญ
อีกด้านหนึ่ง เขาใช้ถ้ำสวรรค์เหล่านั้นเพื่อทดสอบวิธีกําจัดผลไม้ปราณด้วยการลองผิดลองถูก
เนื่องจากอู่ส่วยใช้กลยุทธ์ที่ก้าวร้าวรุนแรง กองกําลังเผ่ามนุษย์ในสองสวรรค์จึงหันไปหาบรรพชนทะเลปราณ
บรรพชนทะเลปราณปกป้องถ้ำสวรรค์และรวบรวมกองกําาลังต่างๆ แต่ในภาพรวมเขายังเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
กองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์ของคู่ส่วยแข็งแกร่งกว่ากองกําลังของบรรพชนทะเล ปราณ
อู่ส่วยกลังปกป้องผลประโยชน์ของเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์นั่นทําให้ถสวรรค์ของเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เข้าร่วมกับเขามากขึ้นหลังจากทั้งหมดถ้ำสวรรค์ของเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์มีมากกว่าถ้ำสวรรค์ของเผ่ามนุษย์
กองกําลังเผ่ามนุษย์ส่วนหนึ่งเข้าร่วมกับอู่ส่วยเพราะถูกบังคับด้วยสถานการณ์หากพวกเขาไม่ยอมจำนนพวกเขาจะเผชิญหน้ากับภัยพิบัติผลไม้ปราณ
ชื่อเสียงของอู่ส่วยพุ่งทะยานขึ้นเรื่อยๆ แต่ปัญหาเกี่ยวกับผลไม้ปราณยังไม่ได้รับการแก้ไขกองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์ทดลองวิธีการมากมายแต่พวกมันล้มเหลวทั้งหมด
ด้านบรรพชนทะเลปราณ ความคืบหน้าในการค้นคว้าเกี่ยวกับผลไม้ปราณของเขาก็ล่าช้ามากเช่นกัน
อู่ส่วยและบรรพชนทะเลปราณต่อสู้กันหลายครั้งแต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บล้มตายมากนักเพราะทั้งสองฝ่ายไม่ได้มุ่งเน้นที่การกําจัดฝ่ายตรงข้ามแต่ให้ความสําคัญกับการกาจัดผลไม้ปราณ
“บุคคลที่เข้าใจผลไม้ปราณมากที่สุดควรเป็นปีศาจอมตะฉีเจีย น่าเสียดายข้าไม่สามารถจัดการเขาในเวลานี้”ฟางหยวนถอนหายใจ
เขาสามารถแก้ปัญหาเกี่ยวกับเจตจํานงสวรรค์แต่เขายังไม่สามารถปรับแต่งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์
อย่างไรก็ตามตอนนี้ปีศาจอมตะฉีเจียมาถึงทะเลทรายตะวันตกแล้ว
“มันควรจะอยู่แถวนี้” ปีศาจอมตะฉีเจียก่าลังค้นหาบางสิ่ง
เขาไม่ประสบความสําเร็จในการยืมวิญญาณของบรรพชนทะเลปราณดังนั้นเขาจึงใช้วิธีตรวจสอบของตนเพื่อค้นหาวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณดวงอื่น
ในการค้นหาครั้งนี้ เขาพบวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณหลายดวงส่วนใหญ่เป็นวิญญาณอมตะป่าที่เกิดขึ้นจากกระแสลมปราณส่วนที่เหลือเขาปล้นมาจากผู้อมตะคนอื่นๆ
ปีศาจอมตะฉีเจียไม่ได้สังหารผู้อมตะเหล่านั้น เขาเพียงปล้นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณจากพวกเขา
“ข้าสัมผัสได้ว่ามีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณอยู่ในบริเวณนี้” ปีศาจอมตะฉีเจียพิมพา
เป็นเพียงเวลานี้ที่ผู้อมตะระดับแปดผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้น
มันคือนักพเนจรหัวใจสีชาติ!