Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2018 ภัยพิบัติที่คืบคลานเข้ามา

ภาคกลาง ร่องลึกใต้พิภพ

แท่นบูชาแห่งโชคลอยอยู่กลางอากาศ มีหน้าผาสูงอยู่สองฝั่งขณะที่ด้านล่างเป็นความมืดที่ไม่อาจหยั่งถึง

คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดปลดปล่อยกลิ่นอายอันยิ่งใหญ่ของมันออกมาโดยไม่ปิดบังทําให้สัตว์ร้ายไม่กล้าเข้าใกล้

ถ้ำขนาดใหญ่ถูกสร้างขึ้นโดยเทพธิดาจอเว่ยและคนอื่นๆ

แสงสีม่วงส่องประกายออกมาจากค่ายกลวิญญาณอมตะที่อยู่ภายในถ้ำเทพธิดาจอเวียนั่งอยู่บนพื้นโดยมีเฒ่าเพิ่งหยวนนั่งอยู่ด้านข้างเพื่อให้ความช่วยเหลือและป้องกันปิงชายฉวน

หลังจากทั้งหมดนี้เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองฝ่ายร่วมมือกัน พวกเขาต้องระวังตัว

ไปหนิงปิง ไหลั่วหลัน และองอู่เซียนั่งอยู่ตรงกลางค่ายกลวิญญาณอมตะ

หลังจากไม่นาน เทพธิดาจื่อเว่ยก็เปิดเปลือกตาขึ้นอย่างช้าๆ แสงสีม่วงค่อยๆเลือนหายไป

“เป็นอย่างไรบ้าง?” ปิงชายฉวนถามมาจากแท่นบูชาแห่งโชค

เทพธิดาจื่อเว่ยถอนหายใจ “มันยังไม่เพียงพอ แต่วิธีนี้ได้ผลแน่นอน ทั้งสามมีข้อตกลงพันธมิตรกับฟางหยวน ความสัมพันธ์ของพวกเขาแน่นแฟ้นมากตราบเท่าที่เราจับผู้อมตะได้มากขึ้นเราจะสามารถอนุมานตําแหน่งของฟางหยวน”

ค่ายกลวิญญาณอมตะถูกรื้อถอน วิญญาณจํานวนมากบินกลับเข้าไปในมิติช่องว่างเทียมของเทพธิดาจอเว่ย

อิงเซี่ยและคนอื่นๆยื่นขึ้น

ไปหนิงปิงยิ้ม “นี่ไม่ใช่เรื่องยาก ในสงครามชะตากรรม ฟางหยวนไม่ได้ส่งเพียงพวกเราออกมาแต่ยังมีผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงอีกหลายคน

ไหลั่วหลันกล่าวเสริม “จากที่ข้าร์ ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มาจากถ้ำสวรรค์ที่ฟางหยวนกลืนกิน หลังสงครามชะตากรรมฟางหยวนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยแต่คน เหล่านี้ยังกระจัดกระจายอยู่ในภาคกลาง”

อิงอู่เซียส่ายศีรษะ “แต่ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นไม่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับฟางหยวน มันจะดีกว่าหากเราตามหาเทพธิดาเมี่ยวหยินและเทพธิดากระต่ายขาวทั้งสองเป็นตัวละครสําคัญรองจากพวกเรา”

หลังจากไม่นาน ปิงช่ายฉวนก็ตอบสนอง “เอาล่ะ ครั้งต่อไป เราจะสื่อสารกับมากขึ้น”

เทพธิดาจ๋อเว่ยพยักหน้า “แน่นอน”

แม้ความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นความร่วมมือเล็กๆและใช้ระยะเวลาสั้นๆ แต่มันมีความสําคัญมากมันทําให้ทั้งสองฝ่ายเริ่มไว้วางใจซึ่งกันและกัน

แท่นบูชาแห่งโชคนําไหลั่วหลันจากไปขณะที่ไปหนิงปังและอิงอู่เซี่ยอยู่กับเทพธิดาจอเว่ย

ถ้ำสวรรค์จันทร์เสี้ยว

“เทพธิดาจันทร์เสี้ยว เจ้าไม่ยอมจํานนแต่เลือกที่จะตายงั้นหรือ?” เซียวเหอเจี้ยน ท่านหญิงธุลีเย็นและคนอื่นๆมองผู้อมตะที่กําลังจะตาย

เทพธิดาจันทร์เสี้ยวเป็นผู้อมตะระดับแปดและเป็นผู้นําถ้ำสวรรค์จันทร์เสี้ยว นางมีความได้เป รียบด้านภูมิประเทศ แต่นางเสียงเปรียบด้านจํานวนคน ตอนนี้นางเหลือเพียงลมหายใจสุดท้าย เท่านั้น

นางกล่าวด้วยความเกลียดชัง “ถ้ำสวรรค์ของข้าไม่มีความขัดแย้งกับโลกภายนอกและไม่เคยยั่วยพวกเจ้าหรือมีแผนการทะเยอทะยานใดๆข้าไม่มีวันยอมจํานนต่อพวกเจ้า!”

“เช่นนั้นก็ตายซะ!” ท่านหญิงธุลีเย็นชี้นิ้วส่งล่าแสงสีเทาพุ่งเข้าโจมตีเทพธิดาจันทร์เสี้ยวทันที

จากนั้นนางก็ดึงดวงวิญญาณของเทพธิดาจันทร์เสียวออกมาจากซากศพ

“นี่คือดวงวิญญาณของผู้อมตะระดับแปด การกลืนกินดวงวิญญาณนี้จะช่วยฟื้นฟูความแข็งแกร่งของข้าได้เป็นอย่างดี”เทพปีศาจจิตวิญญาณในร่างท่านหญิงธุลีเย็นคิด

เซียวเหอเจี้ยนมองนาง “ท่านหญิงธุลีเย็น เจ้าต่อสู้อยู่ในแนวหน้า เจ้ารวบรวมดวงวิญญาณของผู้ใช้วิญญาณและผู้อมตะจํานวนมาก เจ้าสามารถเก็บดวงวิญญาณเหล่านั้นแต่ดวงวิญญาณของผู้อมตะระดับแปดต้องมอบให้ท่านผู้นําเจ้าเก็บไว้ไม่ได้”

เทพปีศาจจิตวิญญาณตกตะลึงเล็กน้อยก่อนจะเผยรอยยิมและส่งดวงวิญญาณของเทพธิดาจันทร์เสี้ยวให้เซียวเหอเจี้ยน“เมื่อท่านผู้นําต้องการข้าจะกล้าเก็บไว้ได้อย่างไร?”

เทพปีศาจจิตวิญญาณลอบก่นเสียงเย็นอยู่ในใจ “ข้าจะมอบสิ่งนี้ให้เจ้าในเวลานี้แต่ในอนาคตข้าจะคิดบัญชีทั้งเก่าและใหม่!”

เซียวเหอเจี้ยนพยักหน้าปลอบโยนท่านหญิงธุลีเย็น “ไปกันเถอะ ให้คนอื่นๆทําความสะอาดสนามรบตามข้าไปพบท่านผู้นํา”

ในที่สุดข้าก็สามารถเข้าใกล้อู่ส่วย นี่เป็นโอกาสที่ดี!”อารมณ์ของเทพปีศาจจิตวิญญาณดีขึ้นเมื่อได้ยินเรื่องนี้

อย่างไรก็ตามเมื่อทั้งสองเข้าไปในวังมังกร พวกเขากลับพบเพียงเจตจํานงของอู่ส่วย

เจตจํานงของอู่ส่วยได้ยินรายงานและยกย่อง “ท่านหญิงธุลีเย็น ครั้งนี้เจ้าทําได้ดีมาก”

“เป็นหน้าที่ของเราที่จะทํางานให้กับท่านผู้นํา” เทพปีศาจจิตวิญญาณรู้สึกผิดหวังแต่ภายนอกยังเผยรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้า

“เอาล่ะ ออกไปได้ เมื่อเราแจกจ่ายรางวัล เจ้าจะไม่ผิดหวัง” เจตจํานงของส่วยโบกมือ

เทพปีศาจจิตวิญญาณรู้สึกไม่พอใจ “น่าเสียดายที่เราไม่สามารถพบท่านผู้นํา”

เซียวเหอเจี้ยนชําเลืองมองท่านหญิงธุลีเย็นและรู้สึกรังเกียจความคิดที่จะประจบประแจงของ นางเขากล่าว “ท่านผู้นําจะอยู่รอพบเจ้าทุกครั้งที่เจ้าต้องการได้อย่างไรท่านกําลังปิดประตูฝึกตนและคิดหาวิธีแก้ปัญหาเกี่ยวกับภัยคุกคามจากผลไม้ปราณเราเพียงต้องปฏิบัติตามคําสั่งเท่านั้น”

“ทราบแล้ว”

การแสดงออกของเซียวเหอเจี้ยนอ่อนลงเล็กน้อย “ติดตามข้าและทํางานให้ดีวันหนึ่งเจ้าจะมีบทบาทสําคัญในกองกําลังพันธมิตร!”

“ข้าจะทําตามคําแนะนําของท่าน”เทพปีศาจจิตวิญญาณตอบแต่ภายในกําลังวางแผนว่าเขาจะจับเซียวเหอเจี้ยนเมื่อใด

“ดีแล้วที่เจ้าเข้าใจ” เซียวเหอเจี้ยนยิ้มและเดินไปข้างหน้า

เซียวเหอเจี้ยนเป็นผู้อมตะระดับแปดที่แข็งแกร่งและมีชื่อเสียง หลังจากเข้าร่วมกองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์เขาค่อยๆรวบรวมผู้อมตะบางส่วนเพื่อคานอํานาจของจักรพรรดิผลึกน้ําแข็ง

ท่านหญิงธุลีเย็นแสดงผลงานได้ดีในการต่อสู้ครั้งนี้ ดังนั้นแม้นางจะเป็นมนุษย์แต่เซียวเหอเจี้ยนก็ต้องการผูกมัดนางไว้กับเขา

อีกด้านหนึ่ง

“ยายกระดูกมาถึงแล้ว!” ยามเฝ้าประตูตะโกน

ยายกระดูกเข้าไปในห้องโถงเพื่อพบกับบรรพชนทะเลปราณ นางป้องหมัดและโค้งคํานับก่อนจะกล่าวเข้าประเด็น“ถ้ำสวรรค์กระดูกสลายยินดีเข้าร่วมกับบรรพชนทะเลปราณ”

บรรพชนทะเลปราณพยักหน้า “ฮ่าฮ่าฮ่า ยายกระดูก เจ้าเป็นคนฉลาดเจ้าจะไม่เสียใจที่เข้าร่วมกับข้า”

ยายกระดูกถอนหายใจถาม “ข้าสงสัยว่าบรรพชนสามารถกําจัดผลไม้ปราณหรือไม่?

“ข้ามีความก้าวหน้าเป็นอย่างมากในเรื่องนี้ เจ้าวางใจได้” บรรพชนทะเลปราณเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ถ้ำสวรรค์กระดูกสลายอยู่ใกล้กับถ้ำสวรรค์จันทร์เสี้ยวตอนนี้ถ้ำสวรรค์จันทร์เสี้ยวตกเป็นของอู่ส่วยแล้วข้าจะส่งกองกําลังไปปกป้องถ้ำสวรรค์กระดูกสลายเราจะร่วมมือกัน”

ยายกระดูกถอนหายใจ แม้บรรพชนทะเลปราณจะไม่สามารถแก้ปัญหาเกี่ยวกับผลไม้ปราณแต่ยายกระดูกก็ทําได้เพียงก้มศีรษะลงและเข้าร่วมกับเขาเท่านั้น

สถานการณ์ปัจจุบันไม่มีสิ่งใดที่ข้าสามารถทําได้ แทบไม่มีถ้ำสวรรค์ใดในสองสวรรค์ที่สามารถแยกตัวอยู่เพียงลําพัง พวกเขาเข้าร่วมกับอู่ส่วยหรือบรรพชนทะเลปราณ เห้อ…ข้าสงสัยว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร?”ยายกระดูกจากไปพร้อมกับความกังวล

แรงกดดันของฟางหยวนเพิ่มขึ้นเช่นกัน

“ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ยิ่งใหญ่กําลังอนุมานตําแหน่งของข้าดูเหมือนมันจะเป็นเทพธิดาจอเว่ย

เทพธิดาจอเว่ยพยายามอนุมานตําแหน่งของฟางหยวน แน่นอนว่าเขาสัมผัสได้ถึงสิ่งนี้

“พิจารณาจากโชคของข้า สถานการณ์นี้ดูไม่ดีนัก ภัยพิบัติร้ายแรงกําลังคืบคลานเข้ามาอันตรายซ่อนอยู่ทุกหนทุกแห่ง ข้ามีความหวังเพียงเล็กน้อย

หม้อปรุงโชคของฟางหยวนอาจเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเจ็ดแต่เขาสามารถใช้มันตรวจสอบโชคบางส่วนของตนเองและประเมินสถานการณ์จากมัน

ฟางหยวนมีความก้าวหน้าในการค้นคว้าเกี่ยวกับผลไม้ปราณ สําหรับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์เขาเริ่มมองเห็นร่องรอยของความหวังแล้ว

มีเพียงการปรับแต่งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์และฟื้นความแข็งแกร่งของตนเองเท่านั้นที่จะทําให้เขาสามารถก้าวข้ามภัยพิบัติร้ายแรงในอนาคต

“แต่ข้าจะผ่านจุดนี้ไปได้อย่างไร?