Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2019 วิญญาณความเกลียดชัง
ทะเลทรายตะวันตก
การต่อสู้ระดับแปดยังดําเนินต่อไป
ชิงโจวค่ารามและส่งลิ้นสีม่วงของมันพุ่งออกไปด้วยความเร็วสูง
“ป ป ป ป”
ร่างสีแดงเลือดที่อยู่รอบตัวชิงโจวถูกทําลายด้วยลิ้นของมัน
ทุกครั้งที่ร่างสีแดงเลือดระเบิด ใบหน้าของนักพเนจรหัวใจสีชาติจะซีดลงอย่างไรก็ตามจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเขายังไม่ได้ลดน้อยลงเขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรักษาเขตแดนอมตะเอาไว้
“เจ้าจะทนได้อีกนานเท่าใด?” เทพธิดาเก่าวิญญาณที่กําลังต่อสู้กับชิงโจวถามอาการของนักพเนจรหัวใจสีชาติ
นักพเนจรหัวใจสีชาติใช้ท่าไม้ตายเขตแดนอมตะกักขังชิงโจวเอาไว้ภายในเมื่อชิงโจวพบว่ามันไม่สามารถหลบหนีมันจึงตั้งใจโจมตีนักพเนจรหัวใจสีชาติเพื่อทําให้เขตแดนอมตะพังทลาย
“บัดซบ! ข้าต้องใช้ท่านั้น” เทพธิดาเก่าวิญญาณตัดสินใจ
ท่าไม้ตายอมตะการเปลี่ยนแปลงเก่าวิญญาณ!
ร่างของนางสั่นสะท้านขึ้นก่อนที่นางจะเปลี่ยนร่างกลับเป็นมนุษย์ นางเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงตามตรรกะนางจะแข็งแกร่งขึ้นเมื่อนางเปลี่ยนเป็นสิ่งมีชีวิตรูปแบบอื่นอย่างไรก็ตามตอนนี้เมื่อนางเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์กลิ่นอายของนางกลับแข็งแกร่งขึ้น
เป็นเพียงเวลานี้ที่ดวงวิญญาณเก้าดวงพุ่งออกมาจากมิติช่องว่างของนางและกลายเป็นปราการแสงเก้าชั้นอยู่บนร่างของนาง
ชิงโจวตกใจกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นและพยายามขัดขวางท่าไม้ตายของนาง
เทพธิดาเก่าวิญญาณคํารามปราการแสงเก้าชั้นหลอมรวมเป็นหนึ่งและส่องแสงระยิบระยับ
จากนั้นปราการแสงก็กลายเป็นแรดแสงตัวโตพุ่งเข้าหาชิงโจว
ชิงโจวยอมแพ้นักพเนจรหัวใจสีชาติชั่วคราวและพุ่งเข้าเผชิญหน้ากับแรดแสง
การปะทะทําให้เขตแดนอมตะเกิดการสั่นสะเทือนขึ้นอย่างรุนแรง
ชิงโจวถอยหลังเล็กน้อยขณะที่แรดแสงหยุดอยู่ที่เดิม
ชิงโจวโกรธและตกใจมาก มันไม่คิดว่าแรดแสงตัวนี้จะแข็งแกร่งถึงระดับนี้ มันยังสามารถมองเห็นเทพธิดาเก่าวิญญาณอยู่ภายในแรดแสงโดยไม่แสดงความกังวลใดๆออกมา
“ชิงโจวเป็นฝ่ายเสียเปรียบ นี่เป็นการเสียเปรียบครั้งแรกของมันตั้งแต่การต่อสู้เริ่มขึ้น ท่าไม้ตายอมตะการเปลี่ยนแปลงเก่าวิญญาณสมกับเป็นท่าไม้ตายอมตะในตํานานจริงๆ”นักพเนจรหัวใจ ชาติมีความสุขเมื่อเห็นเหตุการณ์นี้
ในความเป็นจริงท่าไม้ตายอมตะการเปลี่ยนแปลงเก่าวิญญาณมีราคาที่ต้องจ่ายสูงมากมันใช้ได้เพียงเก่าครั้งตลอดชีวิตของผู้อมตะ
แต่เทพธิดาเก่าวิญญาณตัดสินใจใช้โอกาสหนึ่งในเก้าครั้งกับชิงโจวนี่แสดงให้เห็นถึงความแน่วแน่ของนาง
ชิงโจวคํารามและพุ่งเข้าหาเทพธิดาเก่าวิญญาณอีกครั้ง
แรดแสงเปลี่ยนเป็นวิหคเพลิง
วิหคเพลิงสบายปีกบินขึ้นสู่ท้องฟ้า
ชิงโจวกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะสายป้องกันโดยไม่เงยหน้ามอง
ในเวลาต่อมาวิหคเพลิงก็พุ่งชนแผ่นหลังของชิงโจวและทําลายการป้องกันของมันภายในเวลาไม่กี่ลมหายใจ
ชิงโจวโต้กลับอย่างดุเดือด สถานการณ์กลายเป็นชะงักงัน
นักพเนจรหัวใจสีชาติใช้เวลาพักฟื้นและเฝ้าสังเกตการต่อสู้
“ชิงโจวแข็งแกร่งเกินไป แม้มันจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบแต่มันยังแข็งแกร่งมาก”
“ในทางตรงข้าม เทพธิดาเก่าวิญญาณไม่สามารถอยู่ในสภาพนี้ได้นานนัก หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากภายนอกนางจะไม่สามารถอดทนและจะถูกสังหารในที่สุด”
นักพเนจรหัวใจสีชาติตัดสินใจเสี่ยง
เขาอดทนรอเป็นเวลาสองชั่วโมงก่อนจะพบโอกาส
โอกาสปรากฏขึ้นเพียงชั่วครู่แต่นักพเนจรหัวใจสีชาติสามารถคว้ามันไว้
เขาพ่นเลือดออกมาจากปาก เลือดรวมตัวกันเหมือนดวงอาทิตย์สีแดงพุ่งเข้าไปหาชิงโจว
แม้ชิงโจวจะอยู่ในการต่อสู้ที่ดุเดือดกับเทพธิดาเก่าวิญญาณแต่มันไม่เคยละการเฝ้าระวังนักพเนจรหัวใจสีชาติ
อย่างไรก็ตามเมื่อมันใช้ท่าไม้ตายเพื่อสกัดกั้นการโจมตีของนักพเนจรหัวใจสีชาติดวงอาทิตย์สีเลือดกลับกลายเป็นภาพลวงตาและทะลุผ่านสิ่งกีดขวางทั้งหมดก่อนจะพุ่งเข้ากระแทกหน้าอก ของชิงโจวและกลายเป็นสัญลักษณ์รูปดวงอาทิตย์สีเลือด
การแสดงออกของชิงโจวเปลี่ยนแปลงไป มันรู้สึกราวกับถูกพันธนาการเอาไว้ความเร็วของมันลดลงการกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะกลายเป็นยากลําบากกระทั่งจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของมันยังได้รับผลกระทบ
“บัดซบ!” ชิงโจวคํารามด้วยความโกรธและเริ่มโจมตีอย่างบ้าคลั่ง
เทพธิดาเก่าวิญญาณใช้กําลังทั้งหมดของนางเพื่อหยุดชิงโจวแต่นางกลับเป็นฝ่ายถูกทุบตี
ด้วยการระเบิดครั้งใหญ่ ในที่สุดชิงโจวก็สามารถทําลายเขตแดนอมตะของนักพเนจรหัวใจสีชาติ
แต่นักพเนจรหัวใจสีชาติกลับเผยรอยยิ้มราวกับผู้ชนะขึ้นบนใบหน้า
ร่างของชิงโจวถูกมัดด้วยด้ายสีเลือดโดยมีจุดศูนย์กลางคือสัญลักษณ์รูปดวงอาทิตย์สีเลือดบนหน้าอกของมัน
“แค่ก แค่ก” นักพเนจรหัวใจสีชาติไอออกมาเป็นเลือด ใบหน้าของเขาซีดราวกับซากศพ
เทพธิดาเก่าวิญญาณตะโกนถาม “นักพเนจรหัวใจสีชาติ เจ้าต้องการความช่วยเหลือหรือไม่?”
นักพเนจรหัวใจสีชาติส่ายศีรษะและกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของตนอย่าง ยากลําบาก
เทพธิดาเก่าวิญญาณใช้ความพยายามอย่างมากก่อนที่ชิงโจวจะถูกกําหราบได้ในที่สุด
เมื่อเห็นชิงโจวถูกด้ายสีเลือดมัดไว้อย่างแน่นหนาและไม่สามารถขยับเขยื้อนเทพธิดาเก้าวิญญาณก็เปิดปากชื่นชม“นี่เป็นวิธีการที่ดี มันสามารถจับชิงโจวได้จริงๆ มันมีชื่อเรียกหรือไม่?”
นักพเนจรหัวใจสีชาติแทบไม่สามารถตอบโต้ “นี่เป็นท่าไม้ตายที่ข้าพึ่งคิดค้นขึ้นข้ายังไม่ได้ตั้งชื่อ
เทพธิดาเก่าวิญญาณมองนักพเนจรหัวใจสชาติด้วยดวงตาเบิกกว้าง“ยอดเยี่ยมเกินไปแล้ว!”
นักพเนจรหัวใจสีชาติเผยรอยยิ้มขมขึ้น “อย่าประเมินข้าสูงเกินไป ข้าค้นพบว่าวิญญาณหลักของชิงโจวคือวิญญาณความเกลียดชังระดับแปดดังนั้นข้าจึงคิดค้นท่าไม้ตายนี้ขึ้นมาเพื่อต่อต้านมันหากเป็นสัตว์อสูรแรกกาเนิดในตํานานตัวอื่นท่าไม้ตายนี้จะกลายเป็นเรื่องตลกข้าสามารถใช้ท่าไม้ตายนี้เพราะเจ้าไม่ลังเลที่จะใช้ท่าไม้ตายอมตะการเปลี่ยนแปลงเก่าวิญญาณ”
เทพธิดาเก่าวิญญาณส่ายศีรษะ “การจับชิงโจวเกี่ยวข้องกับแผนการจับตัวฟางหยวนนี่เป็นเรื่องสําคัญสําหรับวังสวรรค์ ราคาที่ข้าต้องจ่ายเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยแต่วิญญาณความเกลียดชังดวงนี้ถูกบันทึกไว้ในตํานานมนุษย์คนแรกใช่หรือไม่?”
“ใช่” นักพเนจรหัวใจสีชาติพยักหน้า
เทพธิดาเก่าวิญญาณถอนหายใจ “นี่เป็นเหตุผลที่ชิงโจวสามารถแยกแยะศัตรูของมันน่าเสียดายที่มันไม่มีท่าไม้ตายอมตะที่สามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ได้อย่างเต็มที่ตอนนี้เราจับมันได้ แล้วเราสามารถใช้มันเพื่อค้นหาฟางหยวนรวมถึงเทพปีศาจจิตวิญญาณ”
นักพเนจรหัวใจสีชาติกล่าว “ไปกันเถอะ เราไม่ควรอยู่ที่นี่นานเกินไป”
พวกเขาต่อสู้มาเป็นเวลานาน แม้พวกเขาจะมีท่าไม้ตายเขตแดนอมตะแต่ผู้อมตะที่มาตรวจสอบสถานที่อาจค้นพบมัน
หลังจากพวกเขาออกเดินทางไปได้ไม่นาน ผู้อมตะตระกูลโม่ก็มาถึงที่เกิดเหตุพร้อมกับคฤหาสน์วิญญาณอมตะ
“เกิดการต่อสู้ที่ดุเดือดขึ้นที่นี่!”
“แม้มันจะมีร่องรอยเพียงเล็กน้อยแต่เรายังสามารถบอกได้ว่ามันเป็นการต่อสู้ระดับแปด”
“ไม่แปลกใจเลยที่ผู้อมตะของตระกูลเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว”
“เรามีคฤหาสน์วิญญาณอมตะ เราต้องไล่ล่าพวกเขา!”
กลุ่มผู้อมตะตระกูลโม่ออกไล่ล่าสองผู้อมตะของวังสวรรค์
หลายวันผ่านไป
ผู้ใช่วิญญาณผู้หนึ่งกําลังดิ้นรนอยู่ท่ามกลางพายุทราย
เขาไปถึงใจกลางของสนามรบและเห็นหลุมลึกที่ถูกพายุทรายกลบทับเขาเงยหน้าและคํารามขึ้นสู่ท้องฟ้า
คนผู้นี้ก็คือโม่หลี่ที่ฆ่าเพิ่งต้าและยึดครองมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์
เขาพยายามเดินทางมาที่นี่อย่างรวดเร็วที่สุดเพื่อดูรูปลักษณ์ที่แท้จริงของฆาตกรที่สังหารภรรยาและบุตรชายของเขา
“ข้าจะสับเจ้าเป็นชิ้นๆ!”
“ไม่ว่าเจ้าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์อสูร ข้าก็จะฆ่าเจ้า!”
โม่หลี่คุกเข่าลงบนพื้นทรายและคํารามราวกับคนบ้า
ดวงวิญญาณของเผิงต้าที่ลอยอยู่ด้านข้างหัวเราะเย้ยหยัน “ฮ่าฮ่า เจ้าเป็นมนุษย์แต่ต้องการแก้แค้นสัตว์อสูรจิ้นหรือ?”
“สัตว์อสูรแล้วอย่างไร?” ดวงตาสีแดงของโม่หลีจ้องมองดวงวิญญาณของเผิงตาอย่างดุเดือด“ข้ามมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์!ข้าจะกลายเป็นผู้อมตและประสบความสําเร็จใน การแก้แค้นอย่างแน่นอน!”
เผิงตาหัวเราะอีกครั้ง “มีความเป็นไปได้อีกประการ สัตว์อสูรตัวนี้อาจถูกฆ่าไปแล้วโดยผู้อมตะบางคนเจ้าสูญเสียเป้าหมายที่จะแก้แค้นไปแล้ว”
โม่หลี่ตกตะลึง
หลังจากไม่นานเขาก็ยกมือขึ้นคว้าลาคอดวงวิญญาณของเผิงต่า “ไม่! มันยังไม่ตาย! ข้าไม่ยอมให้มันตาย! มันต้องตายด้วยมือข้าเท่านั้น!”
โม่หลี่ตะโกนต่อ “ข้าจะกลายเป็นผู้อมตะ ข้ามีมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ข้าจะแก้แค้นได้อย่างแน่นอน!บอกข้าว่าข้าจะใช้วิญญาณดวงต่อไปได้อย่างไร?”
ฝ่ามือของโม่หลี่ปลดปล่อยความร้อนออกมาทําให้ดวงวิญญาณของเผิงต้ากรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
เขาเปิดปากกล่าวทันที “ข้าบอก ข้าจะบอก มันเรียกว่าวิญญาณวงจรไฟฟ้า”
“วิญญาณวงจรไฟฟ้าคือสิ่งใด?”
เผิงต้าลังเลเล็กน้อย “ข้าจะอธิบายเรื่องนี้อย่างไร เจ้าไม่ใช่ปีศาจต่างโลกเจ้าไม่สามารถทําความเข้าใจว่าวงจรไฟฟ้าคือสิ่งใด กล่าวอย่างง่ายๆ มันคือเส้นทางที่กระแสไฟฟ้าเคลื่อนที่
โม่หลี่เย้ยหยัน “มีสิ่งใดเข้าใจยาก? ข้าเคยอ่านตํานานมนุษย์คนแรกบุตรชายของมนุษย์คนแรกร่วมมือกับวิญญาณสายฟ้าเพื่อหาทางออกจากสวรรค์สีน้ำเงินนี่ควรจะเป็นความหมายที่อยู่เบื้องหลังวงจรไฟฟ้า!”
เพิ่งต้าตะลึง
โม่หลี่กล่าวต่อ “เทพปีศาจปล้นสวรรค์มีแนวคิดที่น่าอัศจรรย์จริงๆ เขาได้รับแรงบันดาลใจจากตํานานมนุษย์คนแรกและสามารถสร้างวิญญาณวงจรไฟฟ้า!”
เพิ่งต้าพูดไม่ออก “…”