Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2031 ไล่ล่าและหลบหนี
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2031 ไล่ล่าและหลบหนี
ฟางหยวนทําทุกอย่างตามแผนการเสมอ แม้การมาที่วังสวรรค์จะอันตราย แต่เขาก็เตรียมตัวมาอย่างเพียงพอ
ผลไม้ปราณกลายเป็นร่างแยกบนเส้นทางแห่งพลังปราณของเขาขณะที่ร่างหลักเข้าไปในวังมังกรแม้สนามรบจะเต็มไปด้วยผู้อมตะ แต่ไม่มีผู้ใดค้นพบความจริงเรื่องนี้
ร่างแยกบนเส้นทางแห่งพลังปราณของฟางหยวนสูดหายใจลึก พลังปราณสีขาวทั้งหมดถูกุดูดซับเข้าสู่ร่างกายนของเขา
ต่อมาเขาก็สร้างกําแพงปราณและใช้มันผลักวังมังกรและเทพปีศาจจิตวิญญาณออกไป
ดวงตาของเทพปีศาจจิตวิญญาณส่องประกายแหลมคม ปราณสีดําพุ่งออกจากร่างของเขาและปะทะกําแพงปราณทําให้เกิดเสียงดังไปทั่ว
วังมังกรใหญ่โตมาก มันไม่ง่ายที่จะหลบหรือทะลวงผ่านกําแพงปราณ
เมื่อกําแพงปราณกําลังจะพุ่งชนวังมังกร ประตูวังมังกรก็เปิดออก ฟางหยวนปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน
ท่าไม้ตายอมตะทะเลปราณไร้ขอบเขต!
ฟางหยวนเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี เขายกแขนขวาขึ้นและบีบนิ้วทั้งห้า
กําแพงปราณพังทลายลง กระแสลมปราณจํานวนนับไม่ถ้วนถูกดึงโดยพลังงานไร้รูปลักษณ์เข้าสู่มิติช่องว่างของฟางหยวน
“ฟางหยวน!”
“เขาอยู่ที่นี่มาตลอด!”
“ท่านี้อีกครั้ง เขาเคยใช้ท่านทําลายก่าแพงปราณของเทพอมตะแรกกําเนิดระหว่างสงครามชะตากรรม!”
หัวใจของผู้อมตะทั้งหมดสั่นไหว
ใบหน้าของผู้อมตะวังสวรรค์กลายเป็นมืดครึม หลังจากพ่ายแพ้ในสงครามชะตากรรมฟางหยวนกลายเป็นฝันร้ายสําหรับพวกเขา
ผู้อมตะของกองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์มีความสุขเมื่อเห็นฟางหยวนยืนอยู่ข้างพวกเขา
รูม่านตาของเทพปีศาจจิตวิญญาณหดเล็กลง การแสดงของฟางหยวนทําให้เขารู้สึกประหลาดใจ ฟางหยวนถูกกดดันโดยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์เหตุใดเขายังมีพลังการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้
สนามรบตกสู่ความเงียบ
ฟางหยวนและบรรพชนทะเลปราณปรากฏตัวพร้อมกัน สถานการณ์เปลี่ยนไปทันที
วังสวรรค์ปกป้องบรรพชนทะเลปราณ เทพปีศาจจิตวิญญาณในร่างท่านหญิงธุลีเย็นอยู่เพียงลําพังขณะที่ฟางหยวนยืนอยู่หน้าประตูวังมังกรผู้อมตะที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งสามพร้อมที่จะเผชิญหน้ากัน
ในโลกใบนี้ความแข็งแกร่งสําคัญที่สุดการต่อสู้หลังจากนี้จะขึ้นอยู่กับสามคนนี้
“ผู้ใดจะคิดว่าวังสวรรค์จะไม่สามารถเป็นผู้นําในการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้ ฉินติงหลิงลอบถอนหายใจก่อนจะถ่ายทอดเสียงไปหาบรรพชนทะเลปราณเพื่อสอบถามสถานการณ์ของเขา
บรรพชนทะเลปราณตอบกลับทันที “แม้ข้าจะสามารถกําจัดผลไม้ปราณแต่ข้าก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อยข้าต้องการให้สมาชิกของวังสวรรค์ร่วมมือกันเพื่อก้าวข้ามวิกฤตนี้”
ฉินติงหลิงกล่าวอีกครั้ง “จุดอ่อนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวังสวรรค์ได้รับการแก้ไขแล้ว เรื่องนี้ต้องขอบคุณบรรพชนหลังจากเหตุการณ์นี้ผ่านไปวังสวรรค์จะตอบแทนท่านอย่างเหมาะสม!”
ฉินติงหลิงพยายามให้ความช่วยเหลือบรรพชนทะเลปราณอย่างเต็มที่แต่ในจังหวะนี้วังมังกรกลับบินผ่านรูช่องโหว่ของวังสววรค์และหลบหนีเข้าสู่สวรรค์สีขาวอย่างกะทันหัน
ทุกคนมองวังมังกรด้วยความตกตะลึง
แม้ฟางหยวนจะปรากฏตัวและร่วมมือกับอู่ส่วย แต่พวกเขายังเลือกที่จะหลบหนี
“ดูเหมือนพลังของฟางหยวนยังไม่ฟื้นคืน”
“แม้ท่าไม้ตายก่อนหน้านี้จะดูดุร้ายและสามารถทําลายกําแพงปราณของบรรพชนทะเลปราณแต่นั่นน่าจะเป็นขีดจํากัดของเขาแล้ว!”
“พวกเราควรไล่ล่าหรือไม่? ฟางหยวนเจ้าเล่ห์เกินไป ข้าเกรงว่าจะเป็นแผนการล่อลวงพวกเรา เขาอาจจัดตั้งค่ายกลวิญญาณอมตะไว้ด้านนอกและใช้มันซุ่มโจมตีพวกเรา”
ผู้อมตะของวังสวรรค์ลังเลขณะที่ผู้อมตะของกองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์ลอบสาปแช่งอยู่ใน
หลังจากทั้งหมดผู้นําที่พวกเขาคาดหวังหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
ผู้อมตะของกองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์ถูกทิ้งไว้ในวังสวรรรค์
“ฟางหยวน เจ้าจะหนีไปที่ใด ไม่ว่าอย่างไรวันนี้เจ้าก็ต้องตาย!” เทพปีศาจจิตวิญญาณหัวเราะและใช้ร่างของท่านหญิงธุลีเย็นไล่ล่าวังมังกร
“โฮก…”
ชิงโจวคําราม พลังของมันกลับมาแล้ว แม้วิญญาณความเกลียดชังระดับเก้าจะยังไม่สมบูรณ์แต่กลิ่นอายของมันยังแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้า
“เทพปีศาจจิตวิญญาณ ข้าจะฆ่าเจ้า!” ชิงโจวไม่ลังเลที่จะไล่ล่าเทพปีศาจจิตวิญญาณ
ดังนั้นในสนามรบวงสวรรค์จึงเหลือเพียงบรรพชนทะเลปราณ ผู้อมตะวังสวรรค์และผู้อมตะของกองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์
จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งและเซียวเหอเจี้ยนมองหน้ากัน
ตอนนี้พวกเขาอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจ
“เราจะตามไป!”
“ปกป้องวังมังกร!”
จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งและเซียวเหอเจี้ยนทํางานร่วมกันเป็นครั้งแรก พวกเขาตะโกนออกมาพร้อมกันและพุ่งออกจากวังสวรรค์ทันที
กองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์ที่เหลือเร่งติดตามพวกเขาออกไป
“เราจะฆ่าผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เหล่านี้หรือไม่?” องค์ชายฟงเซี่ยถามฉินติงหลิง
ฉินติงหลิงมองไปทางบรรพชนทะเลปราณ นางไตร่ตรองก่อนตัดสินใจ “ไม่ ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ กลายพันธุ์เป็นเพียงปัญหาเล็กๆ สิ่งสําคัญที่สุดคือฟางหยวน ทั้งสองคนไว้ข้างหลังเพื่อดูแล สถานที่ คนที่เหลือตามข้าออกไปไล่ล่าฟางหยวน!”
ฟางหยวนไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีในขณะนี้ มันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะฆ่าเขา
หากพวกเขาสามารถกําจัดฟางหยวน มันจะส่งผลดีต่อวงสวรรค์ พวกเขาจะได้รับมรดกและข้อ มูลมากมาย
กระทั่งวังสวรรค์จะไม่ได้รับสิ่งใดจากฟางหยวน เพียงความจริงที่ว่าเขาเสียชีวิตด้วยน้ำมือของวังสวรรค์ มันก็ยังสามารถยกขวัญกําลังใจพวกเขาจะหลุดออกจากเงามืดจากความพ่ายแพ้ในสงครามชะตากรรมและกลับมาเป็นกองถ่าลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอีกครั้ง
“บรรพชน…” ฉินติงหลิงกําลังจะกล่าวแต่บรรพชนทะเลปราณกลับขัดจังหวะ
“ไม่จําเป็นต้องกล่าวสิ่งใด ไม่ว่าจะเป็นเทพปีศาจจิตวิญญาณหรือฟางหยวนพวกเขาต่างเป็นปีศาจพวกเราเป็นสมาชิกฝ่ายธรรมะ พวกเราต้องกําจัดพวกเขาสถานการณ์เร่งด่วนเราต้องไล่ล่าพวกเขาเดี๋ยวนี้!”ในช่วงเวลาสําคัญบรรพชนทะเลปราณแสดงท่าทีของผู้นําฝ่ายธรรมะที่กล้าหาญออกมา
ผู้อมตะของวังสวรรค์รู้สึกใกล้ชิดกับเขามากขึ้นหลังจากได้ยินถ้อยคําเหล่านี้
ฉินติงหลิงพยักหน้าอย่างจริงจัง หากปราศจากความช่วยเหลือจากบรรพชนทะเลปราณพวกเขาจะไม่สามารถไล่ล่าฟางหยวนได้อย่างปลอดภัย
“สถานการณ์ของร่างหลักแปลกมาก ข้าต้องดูแลเขาผู้อมตะวังสวรรค์เป็นเหยื่อสังเวชที่ดีกว่ากองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์!” บรรพชนทะเลปราณลอบวางแผนอยู่ภายใน
ด้วยวิธีนี้ วังมังกรจึงอยู่ด้านหน้าสุด ติดตามมาด้วยเทพปีศาจจิตวิญญาณ
ถัดมาก็เป็นชิงโจว บรรพชนทะเลปราณ และผู้อมตะของวังสวรรค์
สําหรับกองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์ พวกเขาหลบหนีกลับไปหมดแล้ว ไม่มีผู้ใดกล้าเข้าร่วมในการต่อสู้ครั้งนี้
ในวังมังกร
ฟางหยวนนั่งไขว้ขาปิดเปลือกตาอยู่บนพื้น เขากําลังใช้ท่าไม้ตายมนุษย์สัมผัสสวรรค์และมนุษย์ทํางานแทนสวรรค์
ฟางหยวนเชื่อมต่อกับสวรรค์สีเหลืองและรวบรวมวิญญาณที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็วหลังจากได้รับวิญญาณที่จําเป็นและดัดแปลงท่าไม้ตายอมตะให้เป็นท่าไม้ตายระดับมนุษย์ความยาก ของมันก็แทบไม่มี
ฟางหยวนหยุดการทํางานของค่ายกลวิญญาณอมตะที่กําลังกําจัดเจตจํานงสวรรค์ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ
ในไม่ช้าเจตจํานงสวรรค์ก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
ฟางหยวนส่งเจตจํานงส่วนหนึ่งของเขาเข้าไปหาเจตจํานงสวรรค์
ต่อมาเขาก็ใช้ท่าไม้ตายมนุษย์สัมผัสสวรรค์และหลอมรวมเจตจํานงของตนเองเข้ากับเจตจํานงสวรรค์
จากนั้นเขาก็ใช้ท่าไม้ตายมนุษย์ทํางานแทนสวรรค์
หลังจากไม่นาน ดวงตาของฟางหยวนก็ส่องประกายขึ้น “ข้าสัมผัสได้…เจตจํานงของเทพอมตะกลุ่มดาว!”
หากฟางหยวนต้องเปลี่ยนคําว่า สัมผัส เขาจะใช้คําว่า จับ
ก่อนหน้านี้ฟางหยวนไม่สามารถทําสิ่งใดกับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์แต่ตอนนี้เขาสามารถควบคุมมันได้เป็นการชั่วคราว
ด้วยความก้าวหน้าครั้งสําคัญและความเชี่ยวชาญด้านการหลอมรวมของฟางหยวนมันเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้นในการปรับแต่งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์เหล่านี้