Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2055 ตอบโต้เทพปีศาจจิตวิญญาณ
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2055 ตอบโต้เทพปีศาจจิตวิญญาณ
ร่างกายบางส่วนของเทพปีศาจจิตวิญญาณแตกออก ปราณสีดํารั่วไหลออกมาจากบาดแผล
อย่างรวดเร็ว
เมื่อปราณสีดํารั่วไหลออกมา ร่างกายของเทพปีศาจจิตวิญญาณก็หดเล็กลงด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ดวงตาของลั่วเว่ยหยินก็ส่องประกายขึ้น “ไม่แปลกใจเลยที่เทพปีศาจจิตวิญญาณใช้กายเนื้อต่อสู้ก่อนหน้านี้และไม่ใช้ร่างดวงวิญญาณทันที วิธีนี้ทําให้พลังการต่อสู้ของ
เขาเพิ่มขึ้นชั่วคราวแต่มันอยู่ได้ไม่นาน มันมีปัญหาร้ายแรงซ่อนอยู่!” เทพปีศาจจิตวิญญาณรักษาบาดแผลของตนอย่างรวดเร็วและป้องกันไม่ให้ปราณสีดํารั่วไหลออกไป
หลังจากนั้นเขาก็เริ่มโจมตีลั่วเว่ยหยินและคนอื่นๆอีกครั้งทําให้ทุกคนกระจัดกระจายไป
เทพปีศาจจิตวิญญาณดุร้ายกว่าก่อนหน้า แต่ขวัญกําลังใจของลั่วเว่ยหยินและคนอื่นๆกลับพุ่งสูงขึ้น พวกเขาเริ่มเห็นความหวังที่จะได้รับชัยชนะ!
“สร้างโอกาสให้ข้า!” ปีศาจอมตะฉีเจียถ่ายทอดเสียงไปยังลั่วเว่ยหยินและคนอื่นๆ ลั่วเว่ยหยินไม่ลังเล เขากระตุ้นใช้งานเขตแดนอมตะสร้างพายุทรายขึ้นปิดบังร่องรอยของปีศาจอมตะฉีเจีย
ภายในพายุทราย ปีศาจอมตะฉีเจียเริ่มเตรียมท่าไม้ตายใหม่ของเขาอย่างระมัดระวัง
เทพปีศาจจิตวิญญาณสัมผัสได้ถึงสิ่งผิดปกติ เขาพุ่งเข้าไปในพายุทรายและพยายามขัดขวางปีศาจอมตะฉีเจีย
บรรพชนทะเลปราณและอู๋ส่วยพยายามหยุดเทพปีศาจจิตวิญญาณแต่พวกเขากลับไม่สามารถ
ขัดขวางฝ่ายตรงข้าม
ชิงโจวพุ่งเข้าหาเทพปีศาจจิตวิญญาณแต่ฝ่ายหลังหลบได้อย่างง่ายดาย
เมื่อเห็นเทพปีศาจจิตวิญญาณเข้าใกล้ปีศาจอมตะฉีเจีย ลั่วเว่ยหยินก็ก้าวออกมา เขาไม่มีวิธีการโจมตีแต่มีวิธีป้องกันที่โดดเด่น เขาเป็นคนที่สามารถกีดขวางเทพปีศาจจิต
วิญญาณได้นานที่สุด
เทพปีศาจจิตวิญญาณต่อสู้กับลั่วเว่ยหยินและทําให้ฝ่ายหลังได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เขาก็ไม่สามารถเดินหน้าผ่านสิ่งกีดขวางนี้
ในที่สุดปีศาจอมตะฉีเจียก็เตรียมท่าไม้ตายสําเร็จ
ท่าไม้ตายอมตะซี่!
แดนซี่ส่องประกายขึ้นเหนือศีรษะของปีศาจอมตะฉีเจีย เมื่อเห็นสิ่งนี้เทพปีศาจจิตวิญญาณ
คํารามด้วยความตื่นตระหนก
แดนซี่ดูดปราณสีดําาออกจากร่างของเทพปีศาจจิตวิญญาณอย่างดุเดือด
ร่างของเทพปีศาจจิตวิญญาณหดเล็กลงอย่างรวดเร็ว
การแสดงออกของเทพปีศาจจิตวิญญาณกลายเป็นน่าเกลียด เขาปลดปล่อยท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางอาหารกินความขมขื่นและกลืนความสูญเสียออกไป
ปีศาจอมะตฉีเจียถูกโจมตี ร่างกายของเขาสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรงขณะที่ท่าไม้ตายของเขาเกือบล้มเหลว
แต่ในช่วงเวลาสําคัญ ลั่วเว่ยหยินชี้นิ้วยิงล่าแสงสีเหลืองสองสายออกไป ล่าแสงสายหนึ่งพุ่ง
เข้าหาปีศาจอมตะฉีเจียก่อนจะกระจายไปทั่วสนามรบ
ท่าไม้ตายอมตะทุกชีวิตช่างขมขื่น!
ทันใดนั้นผู้อมตะทั้งหมดต่างรู้สึกขมขื่น แม้แต่เขตแดนอมตะสนามรบทรายลวงตาก็ยังได้รับผลกระทบ
ความขมขื่นถูกแบ่งปันไปยังทุกคนรวมถึงสนามรบทรายลวงตา
ล่าแสงอีกสายหนึ่งพุ่งเข้าหาปีศาจอมตะฉีเจียเช่นกัน
ท่าไม้ตายอมตะความสูญเสียคือพร!
ปีศาจอมตะฉีเจียได้รับประโยชน์จากสิ่งนี้ อาการบาดเจ็บของเขาฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาหัวเราะเสียงดังด้วยความพึงพอใจ
การแสดงออกของเทพปีศาจจิตวิญญาณกลายเป็นมืดครึ้ม
ลั่วเว่ยหยินหายตัวไปจากสนามรบหลังจากใช้ท่าไม้ตายทั้งสอง
เสียงของลั่วเว่ยหยินดังมาจากพายุทราย “เทพปีศาจจิตวิญญาณ เจ้าทําบาปมามากเกินไป เจ้าสังหารผู้อมตะนับไม่ถ้วนด้วยท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางอาหารทั้งสองของเจ้า! ดังนั้นท่านเทพอมตะสวรรค์พิภพจึงสร้างท่าไม้ตายอมตะทั้งสองท่านี้ขึ้นมาเพื่อจัดการกับเจ้าโดยเฉพาะ!” พวกมันมีไว้เพื่อตอบโต้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางอาหารของเทพปีศาจจิตวิญญาณ
เมื่อท่าไม้ตายถูกทําลาย ผู้ใช้งานจะได้รับผลกระทบย้อนกลับ แม้แต่เทพปีศาจจิตวิญญาณก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
นี่เป็นการตอบโต้จากเทพอีกคนที่ต่อต้านเขามาทั้งชีวิต
เมื่อท่าไม้ตายอมตะกินความขมขื่นและกลืนความสูญเสียถูกตอบโต้ เทพปีศาจจิตวิญญาณต้องการใช้ท่าไม้ตายอมตะกินหัวใจ ท่าไม้ตายนี้ถูกสร้างขึ้นในภายหลัง เทพปีศาจจิตวิญญาณแทบไม่เคยใช้มันออกมา มันแทบเป็นไปไม่ได้ที่เทพอมตะสวรรค์พิภพจะสามารถตอบโต้สิ่งนี้
แต่เทพปีศาจจิตวิญญาณไม่สามารถใช้ท่าไม้ตายนี้
ก่อนหน้านี้ท่าไม้ตายอมตะกินหัวใจล้มเหลว วิญญาณอมตะหลายดวงถูกทําลาย เขาต้องจ่าย
ด้วยราคามหาศาล
เขาไม่สามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะกินหัวใจได้ในช่วงเวลาสั้นๆ
เทพปีศาจจิตวิญญาณปล้นคลังสมบัติของวังสวรรค์และถ้ําสวรรค์วิญญาณสงบ เขาได้รับผลประโยชน์มหาศาล อย่างไรก็ตามกําไรบนเส้นทางอาหารของเขากลับน้อยมาก เขาไม่สามารถแสดงพลังอ่านาจบนเส้นทางสายนี้ได้อย่างเต็มที่
เส้นทางอาหารถูกเก็บซ่อนเอาไว้ นี่เป็นทั้งข้อดีและข้อเสียสําหรับเทพปีศจจิตวิญญาณ เนื่องจากมีผู้อมตะบนเส้นทางอาหารอยู่น้อยเกินไป มรดกและทรัพยากรบนเส้นทางอาหารจึงมีอยู่น้อยมาก
สิ่งสําคัญก็คือเทพปีศาจจิตวิญญาณมีเวลาฟื้นตัวน้อยเกินไป
ตั้งแต่การต่อสู้เพื่อไล่ล่าฟางหยวนเริ่มขึ้น เทพปีศาจจิตวิญญาณใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณนับไม่ถ้วนซึ่งยากที่จะรับมือ แต่ในแง่ของเส้นทางอาหารเทพปีศาจจิต
วิญญาณมีเพียงสามกระบวนท่า ท่ามกลางพวกมัน ท่าไม้ตายอมตะกินหัวใจใช้งานได้ยากที่สุด มันเป็นไพ่ตายของเขา
เมื่อลั่วเว่ยหยินสามารถตอบโต้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางอาหารทั้งสองของเทพปีศาจจิตวิญญาณ มันทําให้เทพปีศาจจิตวิญญาณได้รับบาดเจ็บจากผลกระทบย้อนกลับที่รุนแรง แต่นี่ไม่ใช่ความผิดของเทพปีศาจจิตวิญญาณ ในสถานการณ์ก่อนหน้านี้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณไม่สามารถเปลี่ยนสถานการณ์ วิธีบนเส้นทางอาหารเป็นทางเลือกที่ฉลาดที่สุด แต่ลั่วเว่ยหยินเป็นคนเจ้าเล่ห์ที่เต็มไปด้วยกลอุบาย ท้ายที่สุดเขาก็เป็นเพียงผู้สืบทอดของเทพอมตะสวรรค์พิภพ เขาไม่ใช่เทพอมตะสวรรค์พิภพ บุคลิกของพวกเขาไม่เหมือนกัน ดังนั้น ลั่วเว่ยหยินจึงเลือกที่จะซ่อนท่าไม้ตายอมตะทั้งสองไว้เป็นไพ่ตาย แม้เทพปีศาจจิตวิญญาณจะใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางอาหารทั้งสองออกมาก่อนหน้านี้ ลั่วเว่ยหยินก็ยังไม่เคยเปิดเผยเบาะแสใดๆออกมาเพียงเมื่อถึงช่วงเวลาสําคัญ เขาจึงปลดปล่อยพวกมันออกมาและสามารถบรรลุผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
“หมิงโหย่ว ข้าจะฆ่าเจ้า ข้าจะฆ่าเจ้า!” ในจังหวะนี้ชิงโจวพุ่งเข้าโจมตีเทพปีศาจจิตวิญญาณอีกครั้ง
มันเหมือนสัตว์ร้ายที่บ้าคลั่ง ใบหน้าของมันบิดเบี้ยว ดวงตาแดงก่ํา เลือดสีเขียวคล้ําไหลออกมาจากร่างกายของมันอย่างต่อเนื่อง
“เป็นการสร้างสรรค์ที่น่าอัศจรรย์” เทพปีศาจจิตวิญญาณหรี่ตามอง
ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของเทพปีศาจจิตวิญญาณไม่มีผู้ใดสามารถเปรียบเทียบ เขาเป็นผู้สร้างเส้นทางแห่งจิตวิญญาณและอสูรวิญญาณขึ้นมา เขาเข้าใจอสูรวิญญาณอย่างลึกซึ้ง แต่ชิงโจวแตกต่างออกไป เขารู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพในตัวของมัน เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีของชิงโจว เทพปีศาจจิตวิญญาณไม่กังวลแต่กลับรู้สึกมีความสุข
ตั้งแต่การต่อสู้เริ่มต้น เทพปีศาจจิตวิญญาณได้รับประโยชน์เป็นอย่างมากจากชิงโจว สําหรับคนอื่นๆ ชิงโจวอาจเป็นปัญหาใหญ่ มันค่อนข้างอันตราย แต่สําหรับเทพปีศาจจิตวิญญาณ มันเหมือนสายฝนที่โปรยปรายลงมาบนพื้นดินที่แห้งแล้ง มันมาในช่วงเวลาที่เหมาะสมและทําให้
เทพปีศาจจิตวิญญาณสามารถดูดซับความแข็งแกร่งและฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
ชิงโจวพุ่งเข้าโจมตีเทพปีศาจจิตวิญญาณด้วยความเร็วสูงโดยไม่สนใจชีวิตของตัวมันเอง ศัตรูตลอดชีวิตอยู่ตรงหน้า นี่ทําให้ความทรงจําผุดขึ้นในใจของมันอีกครั้ง
“หนี! หนีเร็ว!”
“ผู้ใดก็ได้ช่วยข้าด้วย บรรพชนตระกูลชิง เหตุใดพวกท่านไม่ลงมือ!”
“ท่านพ่อ ท่านแม่ พวกท่านอยู่ที่ใด?”
เสียงกรีดร้องดังขึ้นในโอเอซิสของตระกูลชิง
พายุกําลังโหมกระหน่ําอยู่ในทะเลทรายแต่มีเพียงลมอุ่นที่พัดเข้ามาในโอเอซิส
นี่คือฐานทัพใหญ่ของตระกูลชิง
มันเป็นเหมือนโลกใบเล็กที่อุดมสมบูรณ์และงดงามท่ามกลางทะเลทรายที่แห้งแล้งอย่างไร
ก็ตามตอนนี้มันกลับไม่ต่างจากขุมนรก
การสังหารหมู่ที่น่าสยดสยองยังดําเนินต่อไป เลือดไหลลงสู่แม่น้ํา ผู้ใช้วิญญาณจํานวนนับไม่ถ้วนต่อสู้อย่างสิ้นหวังแต่ไม่มีผู้ใดสามารถหลบหนีจากความตาย
หมิงโหย่วในชุดคลุมดําลอยอยู่บนท้องฟ้าด้วยความภาคภูมิใจ ทุกครั้งที่เขาโจมตี เขาจะพรากชีวิตไปหลายพันชีวิต
เขามองลงไปบนพื้น ผู้คนจํานวนนับไม่ถ้วนวิ่งเข้าหาความตาย พวกเขาเหมือนมดที่น่าสมเพช
“ผู้อมตะตระกูลชิง พวกเจ้าเป็นกองกําลังใหญ่ของทะเลทรายตะวันตก พวกเจ้าจะซ่อนตัวอีกนานเพียงใด?” หมิงโหย่วหัวเราะเย้ยหยัน “ช่างน่าผิดหวังนัก พวกเจ้าจะมองดูผู้คนของตนเองถูกสังหารเช่นนี้งั้นหรือ? ฮ่าฮ่าฮ่า สุดท้ายตระกูลชิงก็ไม่มีสิ่งใดน่าประทับใจ!”
ไป”
ผู้อมตะของตระกูลชิงเหลืออยู่ไม่มาก
ตอนนี้พวกเขาอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์ เมื่อได้ยินคํากล่าวของหมิงโหย่ว พวกเขารู้สึกโกรธมาก
“ปีศาจร้ายตนนี้ช่างเย่อหยิ่งและน่ารังเกียจนัก!”
“ผู้ใดจะคิดว่าผู้อาวุโสสูงสุดลําาดับที่สองของเราจะตายด้วยน้ํามือของเขา มันน่าเหลือเชื่อเกิน
“ตระกูลชิงที่ยิ่งใหญ่ของเรากลับตกอยู่ในสภาพนี้ ไม่มีผู้ใดสามารถต่อสู้กับหมิงโหย่วได้เลย” “ไม่ นี่ไม่ใช่ฝีมือของหมิงโหย่วเพียงผู้เดียว พวกเจ้าไม่รู้สึกแปลกๆงั้นหรือ? เหตุใดข่าวเกี่ยวกับวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์จึงรั่วไหลออกไป?”
ผู้อมตะตระกูลชิงพูดคุยกัน บางคนโศกเศร้า บางคนหดหู่ บางคนรู้สึกหมดสิ้นหนทาง
“แค่ก แค่ก เจ้าพูดถูก” ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลชิงตื่นขึ้นจากอาการบาดเจ็บ “ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่ง!” ผู้อมตะตระกูลชิงดีใจมาก “ในที่สุดท่านก็ฟื้น!”
ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลชิงค่อยๆลุกขึ้นจากเตียง “หมิงโหย่วน่าจะร่วมมือกับ
กองกําลังอื่น เขาเป็นดาบที่แหลมคมขณะที่กองกําลังอื่นวางแผนทําลายล้างพวกเราอย่างลับๆ พวกเขาชั่วร้ายเกินไป การต่อสู้เพื่อยุติข้อพิพาทเรื่องอาณาเขตก่อนหน้านี้ทําให้ข้าได้รับบาดเจ็บสาหัส แหล่งทรัพยากรทั้งหมดของเราถูกโจมตีโดยปีศาจอมตะหลายคน เราส่งคฤหาสน์วิญญาณ
อมตะออกไปจัดการพวกเขาแต่ฐานทัพใหญ่ของเรากลับถูกโจมตีอย่างกะทันหันและทําให้เราตก
อยู่ในสภาพเช่นนี้…แค่ก แค่ก”
“ผู้อาวุโสสูงสุดลําาดับที่หนึ่ง ท่านต้องพักผ่อน อย่าออกแรง!”
“ถูกต้อง เราจะจัดการเรื่องนี้เอง!”
“ตราบเท่าที่ตระกูลชิงรอดจากวิกฤตนี้ เราจะแก้แค้นคนชั่วเหล่านั้นอย่างสาสม!”
ผู้อมตะของตระกูลชิงกล่าวด้วยความมั่นใจ
แต่ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลชิงกลับส่ายศีรษะ “อย่าเอาชีวิตไปทิ้ง หมิงโหย่ว
แข็งแกร่งมาก เขามีโชคที่ยิ่งใหญ่ เขาไม่ใช่ตัวละครธรรมดา ก่อนหน้านี้เราประมาทเกินไป เราต้องเรียนรู้จากสิ่งนี้และดําเนินการอย่างระมัดระวัง!”
กลุ่มผู้อมตะของตระกูลชิงไตร่ตรอง จากคํากล่าวของผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่ง ดูเหมือนเขาจะมีแผนการอื่น