Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2062 คนบ้า
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2062 คนบ้า
แท่นบูชาแห่งโชคและปีศาจอมตะฉีเจียร่วมมือกันโดยใช้ประโยชน์จากเส้นโลหิตปฐพีเพื่อหาทางออกจากวงล้อมของวังสวรรค์
ทั้งสองบินขึ้นไปชั้นบนขณะที่วังสวรรค์ไล่ล่าอยู่ด้านหลัง
ฉินติงหลังถ่ายทอดเสียงไปหาฟางเจิ้ง “หยุดพวกเขา!”
ก่อนที่นางจะออกคําสั่ง ฟางเจิ้งก็เตรียมพร้อมอยู่แล้ว
“บึม!”
หอพิพากษาปีศาจยิงลําแสงสีแดงเลือดพุ่งเข้าโจมตีปีศาจอมตะฉีเจียและแท่นบูชาแห่งโชคพลังอันน่าสะพรึงกลัวของมันทําให้หัวใจของเทพธิดาเมี่ยวหยินและนางเสือดําสั่นไหว
เพื่อจับพวกนางทั้งเป็น ฟางเจิ้งต้องระงับพลังอํานาจของหอพิพากษาปีศาจเอาไว้แต่การ
โจมตีครั้งนี้เป็นการปลดปล่อยพลังอํานาจที่แท้จริงของมันออกมา
ล่าแสงสีแดงเลือดโจมตีแท่นบูชาแห่งโชคและปีศาจอมตะฉีเจีย การเคลื่อนไหวของพวกเขาหยุดลงขณะที่ฉินติงหลิงมาถึงในที่สุด
“ทําได้ดีมาก ฟางเจิ้ง หลังจากจับกุมคนทั้งสาม มาที่นี่และร่วมมือกับพวกเราจัดการคนเหล่านี้!” ฉินติงหลิงออกคําสั่งอีกครั้ง
พลังการต่อสู้ของปีศาจอมตะฉีเจียลดลงอย่างมากหลังการต่อสู้กับเทพปีศาจจิตวิญญาณแต่
ตราบเท่าที่เขาร่วมมือกับแท่นบูชาแห่งโชค พวกเขายังสามารถต่อสู้กับวังสวรรค์ได้อย่างเท่าเทียม
“ทราบแล้ว!” ฟางเจิ้งตอบรับคําสั่งและเริ่มโจมตีไป่หนิงปิงอีกครั้ง
ไป่หนิงปิงเตรียมท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งน้ำแข็งของนางมาระยะหนึ่งแล้วแต่ฟางเจิ้งไม่แยแสเขาเคยใช้หอพิพากษาปีศาจต่อสู้กับผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งน้ำแข็งเช่น
จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งมาแล้วขณะที่ไป่หนิงปิงเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ดนางยังด้อยกว่ามากอย่างไรก็ตามเมื่อไป่หนิงปิงปลดปล่อยท่าไม้ตายของนางออกมาการแสดงออกของฟางเจิ้งก
ลับเปลี่ยนแปลงไป
ไป่หนิงปิงไม่ได้โจมตีหอพิพากษาปีศษจแต่นางโจมตีเทพธิดาเมี่ยวหยินและนางเสือดําฟางเจิ้งทําได้เพียงเปลี่ยนกลยุทธ์โดยส่งหมอกสีแดงเลือดออกไปขัดขวางการโจมตีของไป่
หนิงปิงเท่านั้น
“ไป่หนิงปิง เจ้าบ้าไปแล้วงั้นหรือ?” เทพธิดาเมี่ยวหยินกรีดร้อง “ไม่นี่อาจเป็นกลยุทธ์ที่ดีที่สุด!”นางเสือด่าตระหนักถึงบางสิ่ง
เทพธิดาเมี่ยวหยินมึนงงก่อนจะสามารถทําความเข้าใจ
ฟางเจิ้งรู้จักไปหนิงปิงและคนอื่นๆ แต่ไป่หนิงปิงและคนอื่นๆก็รู้จักฟางเจิ้งกับหอพิพากษาปีศาจเช่นกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีการของคฤหาสน์วิญญาณอมตะเป็นเรื่องยากที่จะเปลี่ยนแปลง
เทพธิดาเมี่ยวหยินไม่ใช่คนโง่ แม้นางจะไม่สามารถตอบสนองได้ในทันทีแต่นางก็เข้าใจได้ในที่สุด “ตระกูลไท่ของภาคใต้มีหอปราบมาร มันมีความสามารถในการคุมขังแต่หอพิพากษาปีศาจ ของวังสวรรค์ไม่มีความสามารถดังกล่าววังสวรรค์สั่งให้ฟางเจิ้งจับพวกเราทั้งเป็นดังนั้นฟางเจิ้งจึงถูกจํากัดอย่างมากเพียงเมื่อแท่นบูชาแห่งโชคและปีศาจอมตะฉีเจียปรากฏตัวขึ้นเขาจึง
สามารถใช้พลังอํานาจของหอพิพากษาปีศาจออกมาได้อย่างเต็มที่!”
สําหรับเหตุผลที่ฟางเจิ้งต้องจับพวกเขาทั้งเป็น คําตอบชัดเจนมาก พวกเขาต้องการค้นหาฟางหยวน!
เทพธิดาจื่อเว่ยสามารถอนุมานตําแหน่งของฟางหยวนโดยใช้คนเหล่านี้แล้วเหตุใดฉินติงหลิงจะไม่สามารถเหตุใดฉินติงหลิงจะไม่รู้คุณค่าของคนเหล่านี้?
เทพธิดากระต่ายขาวคาดเดา “ดูเหมือนฟางหยวนจะประสบความสําเร็จในการหลบหนีวัง
สวรรค์ต้องการจับพวกเราและใช้พวกเราค้นหาฟางหยวน แม้พวกเขาจะขาดผู้อมตะบนเส้นทาง
แห่งปัญญาในเวลานี้ แต่สิบนิกายโบราณยังมีผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาอยู่มากมายนอกจาก
นมรดกของเทพธิดาจื่อเว่ยก็สามารถช่วยเหลือวังสวรรค์”
บ้า!”
เมื่อตระหนักถึงเรื่องนี้ เทพธิดาเมี่ยวหยินก็นึกถึงไป่หนิงปิงและกัดฟันแน่น “ไป่หนิงปิงเจ้าคน
แต่ในเวลาต่อมาดวงตาของเทพธิดาเมี่ยวหยินก็เบิกกว้างขึ้น
ความวิกลจริตของไป่หนิงปิงเหนือความคาดหมายของนาง
ไป่หนิงปิงยกเลิกท่าไม้ตายอมตะไปเซียงและกลับสู่ร่างมนุษย์ที่มีเลือดเนื้อ!
“มานี่ ฟางเจิ้ง เข้ามาโจมตีข้า!” ไป่หนิงปิงตะโกนขณะบินวนเวียนไปรอบๆหอพิพากษาปีศาจพร้อมกับยิงหอกนําแข็งจํานวนนับไม่ถ้วนออกไป
หอกน้ำแข็งปะทะหอพิพากษาปีศาจแต่ไม่สามารถทําสิ่งใด มันทิ้งเพียงเศษน้ำแข็งบางส่วนไว้
บนพื้นผิวของหอพิพากษาปีศาจเท่านั้น
“ฮ่าฮ่าฮ่า” นางเสือด่าหัวเราะ นางท่าเช่นเดียวกับไป่หนิงปิง
“เจ้าก็บ้าเช่นกัน!” เทพธิดาเมี่ยวหยินถอนหายใจ
นางเสือด่ามีธรรมชาติที่ตรงข้ามกับเทพธิดากระต่ายขาว นางตัดสินใจด้วยตัวของนางเองนาง
กระทั่งไม่สนใจชีวิตตน
ด้วยเหตุนี้สามผู้อมตะหญิงจึงบุกโจมตีหอพิพากษาปีศาจโดยละทิ้งการป้องกันพวกนาง
ทุ่มเทกับการโจมตีเท่านั้น นี่ทําให้ฟางเจิ้งรู้สึกลําบากใจ
เขาต้องการจับคนทั้งสามทั้งเป็น เขาไม่สามารถสังหารพวกนาง โดยปราศจากพวกนางการค้นหาฟางหยวนอาจล้มเหลว หากเป็นเช่นนั้นฟางเจิ้งต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
แต่จุดอ่อนของหอพิพากษาปีศาจคือมันขาดวิธีจับกุม หอพิพากษาปีศาจถูกสร้างขึ้นโดยไม่มี
ความคิดเกี่ยวกับการจับกุมปีศาจ มันมีไว้เพื่อสังหารเท่านั้น
ในแง่มุมนี้ มันอาจเป็นความผิดพลาดของฉินติงหลิงที่ขอให้หอพิพากษาปีศาจจับศัตรูแต่นางไม่มีทางเลือกอื่น
ท่ามกลางคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งหมดของวังสวรรค์ หอพิพากษาปีศาจมีความเชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบมากที่สุด แม้ระดับการบ่มเพาะของฟางเจิ้งจะค่อนข้างต่ำแต่หอพิพากษาปีศาจมีพลังงานอมตะระดับแปดเก็บไว้เป็นจํานวนมากรวมถึงเจตจํานงของเจ้าของรุ่นก่อน
อย่างไรก็ตามมันยังไม่ยืดหยุ่นพอในแง่ของวิธีการ
ฟางเจิ้งตกอยู่ในจุดที่น่าอึดอัดใจ
ไป่หนิงปิงและคนที่เหลือไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหอพิพากษาปีศาจแต่หอพิพากษาปีศาจก็ไม่สามารถจับกุมพวกนางได้โดยง่ายเช่นกัน
ในแง่ของความยืดหยุ่น ผู้อมตะมีความยืดหยุนมากกว่าคฤหาสน์วิญญาณอมตะ
ในอดีตเมื่อหอพิพากษาปีศาจเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ เจ้าของหอพิพากษาปีศาจจะลงมือด้วยตนเองแต่ฟางเจิ้งเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ดหากเขาออกจากหอพิพากษาปีศาจไป่
หนิงปิงและคนอื่นๆจะสามารถพลิกสถานการณ์
หากฟางเจิ้งมีผู้อมตะระดับแปดให้ความช่วยเหลือ สถานการณ์จะแตกต่างออกไป
แต่ผู้ใดจะสามารถช่วยเขา?
วังสวรรค์กําลังขาดกําลังรบอย่างมาก พวกเขาไม่สามารถจัดการสถานการณ์ได้อย่างง่ายดาย
แล้วผู้ใดจะสามารถให้ความช่วยเหลือฟางเจิ้ง
‘ไม่ การตัดสินใจของท่านหญิงฉินสมเหตุสมผลแล้ว แต่ข้าต้องเผชิญหน้ากับคนบ้า!มันทําให้
การใช้ตรรกะกลายเป็นไร้ประโยชน์!’ ฟางเจิ้งคิด
โดยทั่วไปผู้ใดจะบ้าพอที่จะละทิ้งการป้องกันจากศัตรูที่แข็งแกร่งและเลือกที่จะโจมตีอย่างบ้าคลั่ง
นั่นเป็นเพียงการรนหาที่ตายแต่ไป่หนิงปิงกับคนอื่นๆเลือกที่จะทําเช่นนั้น
อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ของมันกลับค่อนข้างดี
ระหว่างการต่อสู้ที่ดุเดือด ไป่หนิงปิงหัวเราะเสียงดัง “ฟางเจิ้ง เจ้าไม่อยากแก้แค้นแล้วงั้นหรือ? ฆ่าข้า ไม่ใช่ว่าเจ้าต้องการฆ่าข้างั้นหรือ? รีบลงมือ! ฮ่าฮ่าฮ่า”
ฟางเจิ้งเงียบ
ไป่หนิงปิงยั่วยุต่อไป “นี่คือเหตุผลที่เจ้าเป็นได้เพียงสุนัขเลี้ยงของวังสวรรค์ศัตรูของเจ้าอยู่ตรงหน้าแต่เจ้ากลับไม่กล้าแม้แต่จะฆ่าข้าเจ้าไม่สามารถเปรียบเทียบกับพี่ชายของเจ้าฟางหยวน!”
เมื่อได้ยินค่ายั่วยุนี้กระทั่งเทพธิดาเมี่ยวหยินและนางเสือดํายังตกตะลึง
พวกนางคิด “ข้าคิดว่าข้าบ้าพอแล้วที่ยกเลิกการป้องกัน แต่ขากลับไม่สามารถเปรียบเทียบกับไป่หนิงปิง!’
เทพธิดาเมี่ยวหยินและนางเสือดํากังวลมากขณะที่ฟางเจิ้งจมลงสู่ความเงียบ
เมื่อได้ยินชื่อของฟางหยวนอีกครั้ง ฟางเจิ้งต้องเงยหน้ามองไปยังรายชื่อบนหอพิพากษาปีศาจอีกหนรายชื่อเหล่านั้นมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ไม่นานมานี้ชื่อของเทพปีศาจจิตวิญญาณอยู่ในอันดับหนึ่ง แต่ตอนนี้ชื่อของเขาหายไปและถูก
แทนที่ด้วยชื่อของอันดับที่สอง
มันคือฟางหยวน!
ฟางหยวนมอบความพ่ายแพ้ให้กับวังสวรรค์ ทําลายวิญญาณชะตากรรม และสังหารเทพปีศาจจิตวิญญาณ
เขาเป็นจักรพรรดิปีศาจอันดับหนึ่งของโลกใบนี้
ฟางเจิ้งเผยรอยยิ้มขมขื่นเมื่อเห็นชื่อของฟางหยวน
โดยไม่คํานึงถึงเวลาและสถานที่ แม้เขาจะกลายเป็นเจ้าของหอพิพากษาปีศาจแต่ชื่อของฟางหยวนยังอยู่เหนือศีรษะของเขา ฟางหยวนยังเป็นเงามืดอยู่ในชีวิตของเขา
“ฆ่าปีศาจทุกคน นี่เป็นความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่ของเจ้าหอทุกรุ่น แต่ข้ารู้ว่าตนเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฟางหยวนข้าทําได้เพียงมองเงาของเขาและรับฟังตํานานของเขาเท่านั้นแต่…”
“ไป่หนิงปิง!”
“เจ้าอยู่นอันดับที่ยี่สิบเจ็ด”
“เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าฆ่าเจ้าจริงๆงั้นหรือ?”
“เจ้าเอาความมั่นใจนี้มาจากที่ใด!”
ฟางเจิ้งตะโกนเสียงดังและนําหอพิพากษาปีศาจพุ่งเข้าหาไป่หนิงปิงทันที
ไป่หนิงปิงไม่มีเวลาหลบเลี่ยง วินาทีต่อมาหอพิพากษาปีศาจก็พุ่งเข้าบดขยี้ร่างกายของนาง
“ไม่!” เทพธิดาเมี่ยวหยินกรีดร้องขณะที่มือทั้งเจ็ดของนางยิงคลื่นเสียงออกไป
แต่การโจมตีของนางไม่สามารถหยุดหอพิพากษาปีศาจ
นางเสือดําพยายามปิดกั้นหอพิพากษาปีศาจเช่นกันแต่ฝ่ายหลังยังอาละวาดไม่หยุด
ผู้อมตะหญิงทั้งสองทําได้เพียงเฝ้ามองหอพิพากษาปีศาจพุ่งชนไป่หนิงปิงอย่างสิ้นหวังเท่านั้น