Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2066 ไม่ยอมแพ้จนกว่าจะหมดสิ้นหนทาง
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2066 ไม่ยอมแพ้จนกว่าจะหมดสิ้นหนทาง
ฟางหยวนถือวิญญาณที่บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการต่อสู้ไล่ล่าครั้งก่อนเอาไว้ในมือ
เนื้อหาคร่าวๆระบุว่า วังสวรรค์ได้รับชัยชนะครั้งใหญ่เทพปีศาจจิตวิญญาณตายฟางหยวนเทพธิดาจื่อเว่ยและอิงอู๋เซี่ยสามารถหลบหนีปีศาจอมตะฉีเจียเหมาลี่ชิวและเฒ่าเจิ้งหยวนถูกจับบรรพชนทะเลปราณไป่หนิงปิงเทพธิดากระต่ายขาวและเทพธิดาเมี่ยวหยินหายตัวไปมีโอกาสสูงที่พวกเขาจะเสียชีวิตแล้ว
“ในยุคปัจจุบันแม้จะไม่มีการจัดอันดับคฤหาสน์วิญญาณอมตะอย่างเป็นทางการแต่เมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ก็คู่ควรกับการเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะอันดับหนึ่งของโลก”ฟางหยวนถอนหายใจ
ในชีวิตห้าร้อยปีของฟางหยวน ระหว่างสงครามห้าภูมิภาคผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งข้อมูลร่วมมือกันจัดอันดับคฤหาสน์วิญญาณอมตะจํานวนมากมีการแข่งขันที่ดุเดือดบนตารางอันดับ แต่เมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ปรากฏขึ้นในเวลานั้น
การเกิดใหม่ของฟางหยวนทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทุกประเภท ก่อนที่การจัดอันดับ
คฤหาสน์วิญญาณอมตะจะเกิดขึ้น เมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์จะยังครอบครองตําแหน่งอันดับหนึ่ง
เอาไว้อย่างมั่นคง
“หากเป็นเช่นนี้ต่อไปแม้จะมีการจัดอันดับคฤหาสน์วิญญาณอมตะ ตําแหน่งอันดับหนึ่งของ
เมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ก็จะไม่เปลี่ยนแปลง” ฟางหยวนประเมิน
เมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์สามารถกําหราบปีศาจอมตะฉีเจียและเหมาลี่ชิวฟางหยวนไม่แปลก
ใจกับสิ่งนี้
เมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์เกิดจากการรวมตัวกันระหว่างวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์และเมืองจักรพรรดิแม้มันจะไม่มีวิญญาณอมตะระดับเก้าและไม่ใช่คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเก่าแต่มันมีโลกภาพวาด
โลกภาพวาดคือท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งภาพวาดที่ส่งผลกระทบบนเส้นทางมนุษย์
ของเทพอมตะบัวสวรรค์ มันเป็นท่าไม้ตายระดับเก้า!
เผชิญหน้ากับวิธีการของเทพ ราชันมังกรยังพ่ายแพ้ ตี้จางเฉิงถูกกําหราบแดนซี่ของปีศาจอม
ตะฉีเจียก็ไม่สามารถต่อต้าน
“เรือรบหมื่นปีและวังมังกรพังทลายไปแล้วแม้พวกมันจะยังอยู่แต่พวกมันก็อยู่บนจุดสูงสุดของระดับแปดเท่านั้นเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ถือเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะกึ่งระดับเก้าหากวันแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงยังอยู่มันจะสามารถแข่งขันเพื่อชิงตําแหน่งอันดับหนึ่ง”
แม้แต่ฟางหยวนก็ต้องระวังคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้เหตุผลที่วังสวรรค์เผยแพร่ข้อมูลการต่อสู้ครั้งนี้ออกมาฟางหยวนเข้าใจอย่างถ่องแท้
วังสวรรค์ต้องการยกขวัญกําลังใจและชื่อเสียงของตน
ตั้งแต่วังสวรรค์พ่ายแพ้ในสงครามชะตากรรมพวกเขาถูกปลดออกจากการเป็นกระดูกสันหลัง
ของโลก พวกเขาสูญเสียสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจและถูกฟางหยวนเหยียบย่ํา
ผลลัพธ์นี้ส่งอิทธิพลอย่างมาก ภาคกลางถูกปกคลุมไปด้วยเงามืด ผู้อมตะของวังสวรรค์เต็มไปด้วยความโกรธและความเกลียดชัง ขณะเดียวกันพวกเขาก็รู้สึกหวาดกลัวขวัญกําลังใจของสิบนิกายโบราณตกต่ําลงจนถึงจุดต่ําสุด
ภาคกลางต้องเผชิญหน้ากับอีกสี่ภูมิภาค สถานการณ์ของพวกเขาอยู่ในอันตรายเมื่อสงคราม
ห้าภูมิภาคเริ่มขึ้นภาคกลางจะถูกปิดล้อมโดยอีกสี่ภูมิภาคในเวลานั้นแม้ภาคกลางจะแข็งแกร่ง
เหมือนเสือแต่พวกเขาก็จะถูกไฮยีน่าฉีกเป็นชิ้นๆ
การเปิดเผยข้อมูลนี้จะช่วยยกขวัญกําลังใจของพวกเขาฉินติงหลิงต้องทําสิ่งนี้!การซ่อนผลการต่อสู้อาจทําให้วังสวรรค์มีข้อได้เปรียบทางยุทธวิธีแต่ฉันติงหลิงเป็นผู้นําของวังสวรรค์และ
ต้องพิจารณาภาพรวมดังนั้นนางจึงเลือกที่จะละทิ้งความได้เปรียบทางยุทธวิธีเพื่อฟื้นฟูสถานการณ์
“วังสวรรค์เต็มไปด้วยอัจฉริยะ แม้ตอนนี้พวกเขาจะไม่มีผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งปัญญาเช่น
เทพธิดาจื่อเว่ยแต่ฉินติงหลิงก็ยังสามารถรักษาเสถียรภาพของสถานการณ์โดยรวมรากฐานของ
วังสวรรค์ไม่สามารถดูแคลน”ฟางหยวนถอนหายใจและเห็นด้วยกับการตัดสินใจของฉินติงหลิงในระดับของพวกเขาห้าภูมิภาคและสองสวรรค์คือกระดานหมากรุกการต่อสู้โดยปราศจากแผนการหรือวิสัยทัศน์อาจทําให้พวกเขาแสดงความแข็งแกร่งได้ชั่วระยะเวลาหนึ่งแต่มันจะนํา
พวกเขาไปสู่ความพ่ายแพ้ในที่สุด
มองย้อนกลับไปในการต่อสู้ไล่ล่าฟางหยวน
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้แพ้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือนิกายเงาเทพปีศาจจิตวิญญาณตายขณะที่สมาชิกของนิกายเงาบางส่วนเสียชีวิตบางส่วนหายตัวไปบางส่วนหลบหนีและบางส่วนถูกจับถัดมาคือฟางหยวน
การสูญเสียของฟางหยวนรุนแรงมาก
ปัจจุบันมิติช่องว่างจักรพรรดิอยู่ในสภาพที่น่าสังเวช ภาคใต้น้อยที่เคยมีชีวิตชีวากลายเป็นซากปรักหักพังมันเหลือแหล่งทรัพยากรน้อยมากอีกสี่ภูมิภาคน้อยและเก้าสวรรค์น้อยก็ไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีไปกว่ากัน
มนุษย์และมนุษย์กลายพันธุ์จํานวนมากเสียชีวิตแม้พวกเขาจะได้รับการคุ้มครองจากฟางหยวน
ราชาอสูรได้รับบาดเจ็บสาหัสและยังไม่ตื่นจนถึงตอนนี้
มันเป็นการสูญเสียวิญญาณอมตะครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่ฟางหยวนเคยประสบมา
คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดทั้งสองหลังถูกทําลาย วิญญาณอมตะป้ายคําสั่งแห่งความ
ฝันของวังมังกรและวิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ําของเรือรบหมื่นปีถูกเก็บกลับมาแต่
พวกมันได้รับความเสียหายและต้องการเวลาพักฟื้น วิญญาณอมตะหลายดวงถูกทําลายระหว่างการต่อสู้
วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปฐพีจํานวนมากได้รับความเสียหายเช่นกัน แม้ป้อมปราการบนภูเขาที่สงบสุขจะยังอยู่แต่การระเบิดตัวเองของเทพปีศาจจิตวิญญาณน่ากลัวเกินไปการสกัดกั้น
การโจมตีนี้ทําให้ฟางหยวนสูญเสียวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปฐพีไปถึงเจ็ดดวง
พลังอํานาจของป้อมปราการบนภูเขาที่สงบสุขลดลงมาก
พลังงานอมตะในคลังของเขาเกือบหมดสิ้น
อสูรปีแรกกําเนิดที่เขาพยายามรวบรวมเพื่อสร้างสนามรบสิบสองราศีถูกกําจัดโดยเทพปีศาจ
จิตวิญญาณเขาต้องรวบรวมพวกมันใหม่อีกครั้ง
แม่น้ําหวนคืนเหลือปริมาณน้ําอยู่เพียงเล็กน้อย มันไม่สามารถใช้งานได้ในเวลานี้
ความแข็งแกร่งของทะเลปราณไร้ขอบเขตตกลงสู่ก้นบึ้งและไม่สามารถใช้เป็นไพ่ตายได้อีก
ฟางหยวนไม่ได้รับสิ่งใดจากเทพปีศาจจิตวิญญาณ การระเบิดตัวเองของเทพปีศาจจิต
วิญญาณทําลายทุกสิ่ง
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเทพปีศาจจิตวิญญาณเป็นตัวตนที่รับมือได้ยาก แม้เขาจะตายแต่เขาก็ไม่
ทิ้งผลประโยชน์ใดๆไว้ให้ศัตรู
ผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฟางหยวนคือการรักษาชีวิตของเขาเอาไว้สําหรับร่องรอยของ
พลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางสวรรค์และร่างแยกบรรพชนทะเลปราณเขาไม่ได้ครอบครองพวกมัน
ตั้งแต่แรก เขาได้รับพวกมันมาจากสงครามชะตากรรมและแผนการของวังสวรรค์ทั้งสองสิ่งไม่มี
ความเกี่ยวข้องกับเทพปีศาจจิตวิญญาณ
นิกายเงาและฟางหยวนเป็นผู้แพ้ เช่นเดียวกับถ้ำสวรรค์นิรันดร พวกเขาสูญเสียเหมาลี่ชิวแต่เปรียบเทียบกับนิกายเงาและฟางหยวนถ้ำสวรรค์นิรันดรยังถือว่าพบความสูญเสียน้อยกว่ามาก ถัดมาก็เป็นปีศาจอมตะฉีเจีย คนผู้นี้ได้รับมรดกมากมายจากการรีดไถเทพปีศาจจิตวิญญาณ
และฟางหยวน แต่แดนซี่ของเขาได้รับความเสียหายอย่างหนักขณะที่เขาถูกขังไว้ในเมือง จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์
ดังนั้นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการต่อสู้ครั้งนี้ก็คือวังสวรรค์
วังสวรรค์ได้รับชัยชนะครั้งใหญ่ เทพปีศาจจิตวิญญาณตาย ฟางหยวน เทพธิดาจื่อเว่ย และอิง อู๋เซียสามารถหลบหนี ปีศาจอมตะฉีเจีย เหมาลี่ชิว และเฒ่าเจิ้งหยวนถูกจับ บรรพชนทะเลปราณ ไป่หนิงปิง เทพธิดากระต่ายขาว และเทพธิดาเมี่ยวหยินหายตัวไป มีโอกาสสูงที่พวกเขาจะเสียชีวิต แล้ว
นี่เป็นผลการต่อสู้ที่น่าประทับใจ มันสามารถยกขวัญกําลังใจของคนภาคกลาง
ข้อมูลนี้แพร่กระจายไปทั่วโลก ไม่เพียงฟางหยวนแต่ผู้อมตะทั้งหมดกําลังวิเคราะห์
สถานการณ์เช่นกัน
ท่ามกลางพวกเขา คนผู้หนึ่งมีความสุขมากที่สุด
“ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยม!” บนเก้าอี้หลักของห้องโถง ผู้อมตะผู้หนึ่งถือวิญญาณบนเส้นทางแห่ง ข้อมูลเอาไว้ในมือและยกย่องซ่าๆ
เขาเป็นชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างหน้าตาธรรมดา บุคลิกของเขาบ่งบอกถึงความเผด็จการและ
ความโหดเหี้ยม
เขาคือผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลวูผู้อมตะบนเส้นทางแห่งวายุ ผู้นํากองกําลังพันธมิตรฝ่ายธรรมะของภาคใต้ที่น่าเกรงขามวูหยง!
ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองวูป่าชงถามวูหยง“ข้าไม่แน่ใจว่ามีสิ่งใดดีผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่
หนึ่งโปรดชี้แนะด้วย
วูหยงอธิบาย “ในห้าภูมิภาคและสองสวรรค์การต่อสู้ครั้งนี้คือจุดสูงสุดเมื่อกองกําลังที่แข็งแกร่งเหล่านี้ล้มลงกองกําลังที่อ่อนแอกว่าจะมีโอกาสเติบโต”
“ในยุคปัจจุบันไม่มีการคงอยู่ของเทพตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดคือดวงวิญญาณของเทพปีศาจิตวิญญาณฟางหยวนปีศาจอมตะฉีเจีย และบรรพชนทะเลปราณนอกจากพวกเขายังมีกองกําลังพิเศษเช่นวังสวรรค์และถ้ำสวรรค์นิรันดรในการต่อสู้ครั้งนี้คฤหาสน์วิญญาณอมตะเช่นแท่น
บูชาแห่งโชคและเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์สามารถส่งอิทธิพลต่อภาพรวม”
วูป่าชงถามต่อ“เมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ได้รับการยอมรับจากสาธารณชนว่าเป็นคฤหาสน์
วิญญาณอมตะอันดับหนึ่งเนื่องจากมันสามารถกําหราบปีศาจอมตะฉีเจียแท่นบูชาแห่งโชคด้อยกว่าเล็กน้อยแต่มันก็แสดงความแข็งแกร่งออกมาในสงครามชะตากรรมเหตุใดวังสวรรค์และถ้ำ
สวรรค์นิรันดรจึงถูกจัดอันดับให้อยู่ต่ํากว่าคนทั้งสี่?”
วูหยงตอบด้วยรอยยิ้ม “คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสองหลังแข็งแกร่งจริงๆแต่พวกมันสามารถ
ปลดปล่อยพลังอํานาจออกมาได้บางเวลาเท่านั้นข้อบกพร่องที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคฤหาสน์วิญญาณอมตะก็คือวิธีการที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงของพวกมันหากฝ่ายตรงข้ามรู้จักวิธีการเหล่านั้นแล้ว พวกเขาจะสามารถต่อต้านคฤหาสน์วิญญาณอมตะด้อยกว่าผู้อมตะที่มีพลังการต่อสู้กึ่งระดับเก้าเพราะมนุษย์สามารถปรับตัวตามสถานการณ์”
“เมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์สามารถกําหราบปีศาจอมตะฉีเจียแต่เมื่อฝ่ายตรงข้ามรู้จักวิธีการของมันแล้วภัยคุกคามของมันจะลดลงในระดับหนึ่งวังสวรรค์ขาดตัวตนบนจุดสูงสุดนี่เป็นจุดอ่อนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขาหากบรรพชนทะเลปราณไม่ยืนอยู่ข้างวังสวรรค์ในครั้งนี้ฉินติงหลิงจะไม่ประสบความสําเร็จเช่นนี้”
“เป็นเช่นนั้น”วูป่าชงเข้าใจในที่สุด“ตอนนี้ข้าเข้าใจความสุขของผู้อาวุโสสูงสุดลําบที่หนึ่งดั
แล้ว ในการต่อสู้ไล่ล่าฟางหยวนเทพปีศาจจิตวิญญาณเสียชีวิต ฟางหยวนสามารถหลบหนีปีศาจอมตะฉีเจียถูกจับบรรพชนทะเลปราณหายสาปสูญและมีโอกาสตายสูงนี่หมายความว่าตัวตนบนจุดสูงสุดส่วนใหญ่หายไปแล้วมันเป็นโอกาสที่เราจะพัฒนา”
วูหยงพยักหน้า“ถูกต้องมันจะดีที่สุดหากคนเหล่านั้นตายไปทั้งหมดสิ่งที่น่าเศร้าที่สุดคือฟางหยวนสามารถหลบหนีเห้อ…ปีศาจตนนี้ไม่สามารถประเมินได้ด้วยสามัญสํานึกบางทีเมื่อเขา
ปรากฏตัวอีกครั้งเขาจะแข็งแกร่งกว่าเดิม”
วูหยงรู้สึกหนักใจเมื่อกล่าวถึงฟางหยวน
วูป่าชงเต็มไปด้วยความกังวลเช่นกัน
ฟางหยวนมีความขัดแย้งกับตระกูลวูอย่างลึกซึ้งตอนนี้เทพปีศาจจิตวิญญาณตายไปแล้วฟางหยวนกลายเป็นจักรพรรดิปีศาจอันดับหนึ่งของโลกหากเขาฟื้นตัวขึ้นเขาอาจโจมตีตระกูลวูวูหยงกล่าวต่อ “เราไม่สามารถทําสิ่งใดกับผู้อมตะกึ่งระดับเก้าดังนั้นเราควรใช้โอกาสนี้พัฒนาตนเองเมื่อฟางหยวนปรากฏตัวขึ้นในอนาคตและมาสร้างปัญหาให้กับพวกเราอย่างน้อยพวกเรา ก็จะมีกําลังพอที่จะต่อสู้ หากสถานการณ์ดังกล่าวไม่เกิดขึ้นมันจะเป็นการเตรียมตัวสําหรับ
สงครามห้าภูมิภาค”
“ภาคกลางและภาคเหนือมีวังสวรรค์และถ้ำสวรรค์นิรันดรตามลําดับพวกเขาเป็นป้อมปราการ
ที่แข็งแกร่ง สําหรับอีกสามภูมิภาค ไม่มีฝ่ายใดสามารถรวมตัวกันได้อย่างมั่นคง”
“คลื่นแห่งยุคที่ยิ่งใหญ่มาถึงแล้วตระกูลวูจําเป็นต้องขี่คลื่นลูกนี้และลุกขึ้นทะเลทรายตะวันตกเต็มไปด้วยทรายและโอเอซิสมันง่ายที่จะป้องกันและยากที่จะโจมตีทะเลตะวันออกมี
ทรัพยากรมากมายแต่ที่นั่นไม่เคยมีเทพถือกําาเนิดขึ้นโดยธรรมชาติแล้วพวกเขาอ่อนแอที่สุดอันดับแรกเราควรรวมโลกผู้อมตะของภาคใต้เข้าด้วยกันจากนั้นเราจะจัดการทะเลตะวันออกและ ทะเลทรายตะวันตก ด้วยทรัพยากรของสามภูมิภาคข้าจะกลายเป็นผู้อมตะกึ่งระดับเก้าได้อย่างแน่นอนเมื่อเราสามารถเลี้ยงดูผู้อมตะระดับแปดและสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะบนจุดสูงสุด เรา
จะโจมตีภาคกลางและภาคเหนือ!”
ดวงตาของวูป่าชงส่องประกายขึ้นด้วยความตื่นเต้นเมื่อได้ยินเรื่องนี้
นี่เป็นความทะเยอทะยานที่จะครองโลก!
วูหยงจะนําตระกูลวูก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของโลกใบนี้หรือพวกเขาจะกลายเป็นขยะที่ถูกคลื่นแห่งยุคใหม่กวาดออกไป?
“ไม่เคยมีเทพอมตะบนเส้นทางแห่งวายุ หากมีโอกาส ข้าจะปิดช่องว่างนี้ ผู้ใดจะรู้ว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร?’ วูหยงคิด
วูหยงมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
ในเวลาต่อมาวูป่าชงก็ได้ยินบทกวีดังออกมาจากปากของวูหยง
“ปาฏิหาริย์แห่งชีวิตนิรันดรไม่ใช่การแสวงหาของข้า การมีอายุยืนยาวโดยปราศจากความสําเร็จไม่ใช่สิ่งใดนอกจากความอับอาย
“กําแพงภูมิภาคหายไปทําให้เกิดความโกลาหล วิญญาณชะตากรรมถูกทําลายนําเสรีภาพมาสู่ผู้คน”
“อินทรีย์ปกครองท้องฟ้า ปลาวาฬปกครองมหาสมุทร ผู้ใดจะรู้ว่าข้าจะเป็นมังกรหรือหนอนตัวน้อย”
“สามัญชนจะเข้าใจได้อย่างไร ข้าจะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะหมดสิ้นหนทาง!” หัวใจของวูป่าชงสั่นไหวเขาเร่งคุกเข่าลงกับพื้นและกล่าวด้วยเสียงสั่นเทา“ผู้ใต้บังคับบัญชาผู้นี้จะติดตามนายท่าน เพื่อความทะเยอทะยานอันยิ่งใหญ่ของตระกูลวูข้าจะทุ่มเททุกสิ่งแม้แต่
ชีวิตของตนเอง!”