Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2072 สร้างท่าไม้ตายอย่างง่ายดาย
เทพปีศาจหวนคืนบทที่ 2072 สร้างท่าไม้ตายอย่างง่ายดาย
ฟางหยวนเริ่มสร้างท่าไม้ตายผสมอีกครั้ง
เขาส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เข้าสู่มิติช่องว่างจักรพรรดิและเฝ้ามองวิญญาณระดับมนุษย์ทุกประเภท
เขาสุ่มหยิบวิญญาณบนเส้นทางแห่งวายุขึ้นมาสองดวง
มันคือวิญญาณกงล่อวายุระดับหนึ่งและวิญญาณกงล่อวายุหยกระดับสอง
วิญญาณกงล้อวายุระดับหนึ่งจะสร้างกงล้อสายลมขึ้นใต้เท้าของผู้ใช้วิญญาณและช่วยเพิ่ม
ความเร็วในการเคลื่อนที่ของพวกเขา
วิญญาณกงล้อวายุหยกระดับสองจะสร้างกงล้อสายลมสีเขียวขึ้นรอบๆแขนของผู้ใช้วิญญาณ
และช่วยเพิ่มความเร็วในการเจาะทะลวงให้กับพวกเขา
“ตอนนี้ข้าขาดความสามารถในการเคลื่อนที่เหตุใดข้าไม่ใช้สิ่งนี้เป็นรากฐานและสร้างมัน
ขึ้น?” ฟางหยวนเกิดแรงบันดาลใจ
ตั้งแต่การต่อสู้กับบรรพชนทะเลปราณครั้งก่อนเขาคิดเรื่องนี้มาตลอด
แม้มันจะเป็นเพียงการแสดงแต่ฟางหยวนยังต้องต่อสู้กับบรรพชนทะเลปราณจริงๆ
หากมันไม่ใช่เรื่องจริง ปรากฏการณ์ที่น่ากลัวเหล่านั้นจะเกิดขึ้นได้อย่างไร?ในการประลองฝีมือครั้งนี้ฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายทุกประเภทและสามารถแสดงผลงานที่ยอด
เยี่ยม กระทั่งท่าไม้ตายที่แย่ที่สุดก็ยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
อย่างไรก็ตามมันทําให้ฟางหยวนพบข้อบกพร่องของตนเองแม้เขาจะสามารถสร้างท่าไม้ตายผสมหลายท่าแต่ส่วนใหญ่เป็นวิธีโจมตีหรือป้องกันเขายังขาดท่าไม้ตายสายเคลื่อนไหว
วิญญาณบนเส้นทางแห่งวายุทั้งสองดวงทําให้ฟางหยวนเกิดแรงบันดาลใจ
ตามแนวคิดของเขา เมื่อเขาใช้วิญญาณบนเส้นทางแห่งวายุทั้งสองกับแขนและขาอย่างต่อเนื่องเมื่อเวลาผ่านไปกงล้อสายลมจะหมุนเร็วขึ้นเรื่อยๆและทําให้ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“มาดูกันว่าข้ามีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งวายุดวงใดอยู่บ้าง”
เดิมทีฟางหยวนมีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งวายุน้อยมากแต่หลังจากการต่อสู้ครั้งใหญ่
ก่อนหน้านี้เขาได้รับวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งวายุจํานวนมาก
หากมันยังไม่เพียงพอฟางหยวนยังสามารถรีดไถกองกําลังฝ่ายธรรมะของทะเลตะวันออก
กล่าวได้ว่าเขามีตัวเลือกมากเกินไป
ในไม่ช้าฟางหยวนก็ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งวายุในคลังสมบัติจากผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาพวกมันล้วนเป็นวิญญาณอมตะระดับเจ็ด
หลังจากไตร่ตรองและทดลองใช้งานท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งวายุก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างในการทดลองใช้งานครั้งแรกกงล้อสายลมปรากฏขึ้นใต้เท้าทั้งสองข้างและสามารถนําเขาพุ่ง
ไปข้างหน้า
ฟางหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อยหลังการทดลองเขาตระหนักถึงข้อบกพร่องร้ายแรง
แม้การเคลื่อนที่จะเร็วขึ้นเรื่อยๆแต่ความเร็วเริ่มต้นของมันช้าเกินไปและต้องใช้เวลาสักครู่ก่อนที่มันจะค่อยๆพัฒนาขึ้น
นี่คือปัญหาทั่วไปของท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งวายุ มันต้องใช้เวลาระยะหนึ่งก่อนที่ความรุนแรงของลมพายุจะพัฒนาไปถึงจุดสูงสุด
มีหลายวิธีที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับมันตั้งแต่เริ่มต้น หากความสําเร็จบนเส้นทางแห่ง
วายุสูงพอ พวกเขาสามารถดัดแปลงมันได้ พวกเขายังสามารถเพิ่มเวลาเตรียมท่าไม้ตายล่วงหน้าก่อนจะปลดปล่อยมันออกมาในครั้งเดียวนอกจากนี้พวกเขายังสามารถใช้พลังงานอมตะมากขึ้นเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของมัน
อย่างไรก็ตามฟางหยวนโยนวิธีเหล่านี้ทิ้งไปทันที
เพราะนั่นเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ธรรมดาเกินไป
ฟางหยวนคิดไปถึงเส้นทางแห่งไฟ
พลังจุดระเบิดของเส้นทางแห่งไฟเหนือกว่าเส้นทางแห่งวายุ ในแง่นี้เส้นทางแห่งไฟอาจอยู่ในลําดับที่หนึ่งหรือสองจากเส้นทางทั้งหมด
หลังจากเลือกวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งไฟ ท่าไม้ตายผสมก็ถูกสร้างขึ้น
“ข้าจะเรียกมันว่ากงล้อวายุเพลิง” ฟางหยวนตั้งชื่อ
ท่าไม้ตายนี้สามารถระเบิดความเร็วได้อย่างกะทันหัน สิ่งสําคัญคือมันใช้พลังงานอมตะและพลังจิตน้อยมาก
ฟางหยวนทดลองอีกครั้งและค่อนข้างพอใจกงล้อวายุเพลิงเป็นท่าไม้ตายอมตะระดับเจ็ดแต่พลังอํานาจของมันเหนือกว่าท่าไม้ตายอมตะระดับเจ็ดทั่วไป
แต่มันจะแตกต่างออกไปหากมันอยู่ในมือของคนอื่น
สําหรับผู้อมตะทั่วไป ความขัดแย้งระหว่างร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งวายุ
และเส้นทางแห่งไฟจะทําให้ผลลัพธ์ของท่าไม้ตายนี้ตกลงสู่ระดับหก
ท่าไม้ตายอมตะระดับเจ็ดที่ปลดปล่อยพลังอํานาจเท่ากับท่าไม้ตายอมตะระดับหกมันถือเป็น
ท่าไม้ตายที่ต่ำกว่ามาตรฐาน
นี่คือข้อได้เปรียบที่เกิดจากร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางสวรรค์มากกว่าสามพันร่องรอย
มัดช่วยลดแรงเสียดทานภายใต้ระหว่างร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่แตกต่างกันได้เป็นอย่างมาก
สิ่งสําคัญที่สุดคือมันทําให้ความยากลําบากในการคิดค้นท่าไม้ตายผสมลดลง
หากผู้อมตะทั่วไปที่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งวายุเป็นเส้นทางหลักต้องการสร้างท่าไม้ตาย
อมตะเช่นกงล้อวายุเพลิง พวกเขาย่อมไม่เลือกวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งไฟเป็นแกนกลาง
แต่พวกเขาจะใช้วิญญาณอมตะบนเส้นทางสายอื่นที่สนับสนุนกัน
อย่างมากที่สุดพวกเขาก็จะใช้วิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางไฟจํานวนมากแทนวิญญาณ
อมตะ แต่วิธีนี้จะเพิ่มความยุ่งยากในการกระตุ้นใช้งาน นอกจากนั้นพลังอํานาจของท่าไม้ตายก็จะลดลงเช่นกัน
ยิ่งใช้วิญญาณมากเท่าใดภาระที่ผู้อมตะต้องแบกรับก็ยิ่งมากเท่านั้น
ท่าไม้ตายที่ดีต้องใช้วิญญาณไม่มากเกินไป พลังงานอมตะที่ใช้จ่ายต้องไม่สูงเกินไปผลลัพธ์ที่ได้ต้องดีและไม่มีข้อบกพร่องที่เห็นได้ชัด
ดังนั้นการสร้างท่าไม้ตายอมตะจึงเป็นเรื่องยาก
แต่สําหรับฟาหงยวนเขาสามารถสร้างท่าไม้ตายผสมที่สามารถใช้วิญญาณอมตะหลากหลาย
เส้นทางเป็นแกนกลางโดยไม่มีข้อจํากัด
นี่ทําให้สถานการณ์ปัจจุบันของฟางหยวนแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
เนื่องจากแรงเสียดทานภายในลดลงอย่างมาก มันจึงมีที่ว่างให้พัฒนาได้มากกว่าด้วยเหตุนี้
ฟางหยวนจึงสามารถสร้างท่าไม้ตายผสมจํานวนมากได้ในระยะเวลาสั้นๆ
เขามีเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะและท่าไม้ตายอมตะจํานวนนับไม่ถ้วนแม้ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งวายุและเส้นทางแห่งไฟของเขาจะไม่สูงแต่เขาก็สามารถใช้สิ่งเหล่านั้น
เป็นข้อมูลอ้างอิงเพื่อคิดค้นท่าไม้ตายอมตะเช่นกงล้อวายุเพลิงได้อย่างง่ายดาย
เมื่อฟางหยวนต่อสู้กับบรรพชนทะเลปราณเขาใช้ท่าไม้ตายอมตะดาบขนนกหัวใจร้องไห้เป็นสายเลือดท่วงท่านองอสนีและผีเสื้อหลอมรวมพวกมันเป็นเพียงส่วนเล็กๆในคลังท่าไม้ตายของเขาเท่านั้น
ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางสวรรค์สามพันร่องรอยอาจดูเหมือนน้อยแต่พวกมัน
ช่วยเปิดโลกใบใหม่ให้กับฟางหยวน!
ตั้งแต่อดีตกาลอัจฉริยะที่เข้าถึงโลกใบนี้มีน้อยมากพวกเขาสามารถสํารวจเพียงไม่กี่ก้าวก่อน
จะถูกบังคับให้หยุดอย่างช่วยไม่ได้
แต่ด้วยความช่วยเหลือจากร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางสวรรค์ฟางหยวนสามารถเดินไปข้างหน้าได้มากกว่าร้อยก้าวและได้รับความสําเร็จอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน
“เส้นทางสวรรค์คือการรวมกันของทุกสิ่งมันมุ่งเน้นไปที่การรักษาสมดุลช่างมหัศจรรย์นัก!”
ในช่วงเวลาไม่กี่วันนี้ฟางหยวนลอบสร้างและดัดแปลงท่าไม้ตายผสมจํานวนมากขณะที่นําบรรพ
ชนทะเลปราณและอู๋ส่วยออกไปทําความสะอาดถ้ำสวรรค์ทุกแห่ง
ผลไม้ปราณส่วนใหญ่ของสมาชิกกองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์ถูกกินโดยบรรพชนทะเล
ปราณขณะที่บางส่วนถูกทิ้งไว้เบื้องหลังและปล่อยให้เติบโตขึ้นในถ้ำสวรรค์เหล่านั้น
ฟางหยวนกลืนกินสามถ้ำสวรรค์ระดับแปดเข้าไป พวกมันประกอบด้วยถ้ำสวรรค์หมูป่าบนเส้น
ทางแห่งการเปลี่ยนแปลงถ้ำสวรรค์เวลาที่แตกต่างบนเส้นทางแห่งกาลเวลาและถ้ำสวรรค์แห่ง
การสร้างสรรค์บนเส้นทางแห่งกฎ
ถ้ำสวรรค์ทั้งสามอุดมไปด้วยทรัพยากรและรากฐานอันล้ำลึกพวกมันตั้งอยู่บนเส้นโลหิต
สวรรค์และได้รับการสนับสนุนจากเจตจํานงสวรรค์มานานหลายปี
ฟางหยวนแยกส่วนถ้ำสวรรค์เหล่านี้และกระจายไปทั่วมิติช่องว่างจักรพรรดิ
ตัวอย่างเช่นแหล่งทรัพยากรระดับสูงสุดสองแห่งของถ้ำสวรรค์หมูป่าคือหน้าผาที่ร่วงหล่นและ
ทุ่งสนหิมะ
หน้าผาที่ร่วงหล่นเป็นที่อยู่อาศัยของหมูกระโดดหมูเหล่านี้ไม่รู้จักวิธีเดินพวกมันทําได้เพียง
การกระโดดเมื่อพวกมันโตเต็มที่พวกมันจะกระโดดลงจากหน้าผา
น้ําตกขนาดใหญ่ไหลลงมาจากหน้าผาแต่น้ําตกแห่งนี้เดือดพล่านตลอดเวลามันเต็มไปด้วย
ทรัพยากรบนเส้นทางแห่งไฟและเส้นทางแห่งวารี
เมื่อหมูกระโดดพุ่งลงไปในน้ําตกที่เดือดพล่านหมูสิบในร้อยส่วนจะเสียชีวิตเพราะถูกกัดกร่อน
ด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งไฟและเส้นทางแห่งวารีหมูเก้าสิบส่วนที่เหลือ
จะได้รับบาดแผลไฟไหม้ที่รุนแรงและกระดูกหักทั้งร่างแต่ตราบเท่าที่หมูเหล่านี้รอดชีวิตพวกมัน
จะยกระดับขึ้นจากหมูกระโดดเดี่ยวดายสู่หมูกระโดดบรรพกาลและหมูกระโดดแรกกําเนิด
หน้าผาที่ร่วงหล่นมีจํานวนหมูกระโดดที่น่าประทับใจมันเป็นแหล่งผลิตหมูกระโดดอันดับหนึ่ง
ของห้าภูมิภาคและสองสวรรค์
สําหรับทุ่งสนหิมะมันเป็นบ้านของหมูด่ามีหมูด่าแรกกําเนิดอยู่หนึ่งตัวกระทั่งกระดูกของมันก็
ยังเป็นสีดํา มันมีร่างกายใหญ่โตเหมือนภูเขาและเคลื่อนที่ได้ช้า
ทุ่งสนหิมะกว้างใหญ่มากฟางหยวนวางมันไว้ที่ภาคเหนือน้อยสิ่งนี้ช่วยเพิ่มพื้นที่ให้กับภาคเหนือน้อยประมาณยี่สิบส่วน
นี่ทําให้ฟางหยวนกลายเป็นเจ้าของฟาร์มเลี้ยงหมูที่ใหญ่ที่สุดในโลกทันที!
ด้านถ้ำสวรรค์เวลาที่แตกต่างและถ้ำสวรรค์แห่งการสร้างสรรค์ พวกมันมีแหล่งทรัพยากรระดับสูงเพียงแห่งเดียว
มิติช่องว่างจักรพรรดิของฟางหยวนพบความสูญเสียครั้งใหญ่จากหมื่นภัยพิบัติที่ผ่านมาแต่ด้วยการผนวกถ้ำสวรรค์ทั้งสามมิติช่องว่างจักรพรรดิกลับได้รับการพัฒนาขึ้นถึงระดับยี่สิบห้าในร้อยส่วน
มันพัฒนาไปไกลกว่าช่วงเวลาก่อนหน้าหมื่นภัยพิบัติเล็กน้อย
เดิมทีมิติช่องว่างจักรพรรดิมีแหล่งทรัพยากรระดับสูงเพียงหนึ่งเดียวนั่นคือภูเขาตงฮันที่
สามารถสร้างวิญญาณความเด็ดเดี่ยวรองลงมาคือทะเลปลามังกรที่ฟางหยวนทุ่มทุนสร้างให้มัน
เป็นแหล่งทรัพยากรขนาดยักษ์
สําหรับแหล่งทรัพยากรอื่นๆพวกมันยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับแหล่งทรัพยากรที่อยู่ในถ้ำสวรรค์ของเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์
และเงินทุนมากพอที่จะพัฒนาสิ่งนี้
ต่อมาฟางหยวนให้ความสําคัญกับการเลี้ยงดูมนุษย์และมนุษย์กลายพันธุ์แต่เขาไม่มีพลังงาน
แต่หลังจากการผนวกถ้ำสวรรค์ต่างๆ ฟางหยวนสามารถเลี้ยงดูมนุษย์และมนุษย์กลายพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในมิติช่องว่างจักรพรรดิของเขาได้ดีขึ้น
ในช่วงเวลานี้เขาเริ่มปรับแต่งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางสวรรค์ที่อยู่ในถ้ำสวรรค์ที่เขากลืนกินเข้ามา
สําหรับบรรพชนทะเลปราณเขากลับไปยังทะเลปราณที่ทะเลตะวันออก
ผู้อมตะตระกูลเซียที่รอดชีวิตร้องไห้ด้วยความยินดีเมื่อพวกเขาเห็นบรรพชนทะเลปราณกลับไป
บรรพชนทะเลปราณยังมีชีวิตอยู่นี่เป็นข่าวใหญ่ที่สุด
กองกําลังใหญ่ของทะเลตะวันออกสามารถถอนหายใจด้วยความโล่งอกและรีบส่งตัวแทนออกมาพบบรรพชนทะเลปราณทันที
หากไม่มีบรรพชนทะเลปราณพวกเขาจะไม่สามารถต่อต้านฟางหยวน
“ความพ่ายแพ้ครั้งนี้เป็นความผิดของข้าแค่ก แค่ก” บรรพชนทะเลปราณยอมรับความผิด
“บรรพชน อย่ากล่าวเช่นนั้นมันเป็นเพราะตระกูลเซียของข้าที่ต้องการบุกโจมตีกองกําลัง
พันธมิตรสองสวรรค์!”
“เห้อ…ข้ารู้สึกละอายใจเกินกว่าจะเผชิญหน้ากับสหายที่เสียชีวิตในการต่อสู้…”บรรพชนทะเลปราณถอนหายใจดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย
“บรรพชน โปรดรักษาอาการบาดเจ็บของท่านก่อน บอกพวกเราหากท่านต้องการทรัพยากรใดกองกําลังของทะเลตะวันออกจะสนับสนุนท่านอย่างเต็มที่!”ผู้อมตะตระกูลเฉินกล่าวขณะที่
ตัวแทนของกองกําลังอื่นพยักหน้าเห็นด้วย
ภายใต้การจ้องมองของทุกคน บรรพชนทะเลปราณกระอักเลือดก่อนจะถอนหายใจ“สิ่งสําคัญที่สุดในเวลานี้ไม่ใช่การรักษาอาการบาดเจ็บของข้าถ้ำสวรรค์หลายแห่งของสวรรค์ทั้งสองที่เข้าร่วมกับข้ายังเผชิญหน้ากับภัยคุกคามจากผลไม้ปราณข้าต้องเก็บกวาดพวกมันเป็นอันดับแรก!”
ผู้อมตะทั้งหมดรู้สึกซาบซึ้งมาก
“บรรพชนท่านคู่ควรกับการเป็นผู้นําของทะเลตะวันออกอย่างแท้จริง!”
“บรรพชนพวกเราผู้อมตะจากสองสวรรค์จะติดตามท่านตลอดไป!”