Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2081 โชคของร่างแยก
เทพปีศาจหวนคืนบทที่ 2081 โชคของร่างแยก
รองจากโชคของบรรพชนทะเลปราณก็เป็นโชคของอู๋ส่วย
โชคของเขาลดลงอย่างมาก
วังมังกรถูกทําลายและไม่สามารถสร้างขึ้นได้ในระยะเวลาสั้นๆสี่แม่ทัพมังกรเสียชีวิตแม้แต่
มังกรปีศาจตี้จางเฉิงยังถูกขังอยู่ในวังสวรรค์
โชคของอู๋ส่วยยังเป็นมังกรเช่นเดิมสิ่งนี้เกี่ยวกับอัตลักษณ์ของเขา
หากสังเกตอย่างรอบคอบโชคมังกรของอู๋ส่วยดูเหมือนก่อตัวขึ้นจากมด
มดจํานวนนับไม่ถ้วนรวมตัวกันเพื่อสร้างโชคมังกร
“นอกจากดูแลกองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์ อู่ส่วยกําลังค้นคว้าเกี่ยวกับเส้นทางแห่งทาสเพื่อเพิ่มพลังการต่อสู้ของตนเองนี่คือเหตุผลที่โชคมังกรของเขาก่อตัวขึ้นจากมด”
ฟางหยวนตรวจสอบโชคของร่างแยกกาลเวลาต่อไป
โชคของร่างแยกกาลเวลายังเป็นสายธารแห่งกาลเวลาแต่เปรียบเทียบกับก่อนหน้ามันกว้างใหญ่ขึ้นและไหลเร็วขึ้นโชคนกอินทรีย์ของเจิ้งปู้ตู่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนักแต่โชคของหลี่เสี่ยวไป๋กลับเปลี่ยนแปลงไปอย่างสมบูรณ์
โชคของหลี่เสี่ยวไป๋เคยเป็นดอกไม้ที่มีกลีบดอกซ้อนเป็นชั้นๆและมีเกสรดอกไม้อยู่ตรงกลางมันแสดงให้เห็นถึงการบ่มเพาะของหลี่เสี่ยวไปในเวลานั้น
อย่างไรก็ตามตอนนี้โชคของเขาเปลี่ยนเป็นกําแพงสีขาว
มีบทกวีสามบทปรากฏอยู่บนกําแพง เห็นได้ชัดว่าพวกมันเป็นบทกวีชั้นยอดสามชิ้นที่หลี่เสี่ยวไปสร้างขึ้น
ตัวอักษรบนกําแพงสีขาวเป็นสีดําสนิทซึ่งดูเด่นชัดมาก ยิ่งไปกว่านั้นยังมีตัวอักษรจํานวนนับไม่ถ้วนลอยอยู่รอบๆก่าแพงสีขาว
“นี่คือโชคก่าแพงกวีของหลี่เสี่ยวไป๋”
หลังจากหลี่เสี่ยวไป๋ได้รับมรดกที่แท้จริงบ้านตํารา การบ่มเพาะของเขาก้าวหน้าไปได้อย่างรวดเร็วเขาไม่เพียงเปลี่ยนวิญญาณหลักของตนแต่เขายังเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วโลกเพื่อรวบรวม
บทกวีและสร้างท่าไม้ตายสามท่าด้วยบทกวีชั้นยอดที่เขาสร้างขึ้น
ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งข้อมูลทั้งสามทําให้เขากลายเป็นผู้ใช้วิญญาณอันดับหนึ่งของถ้ำ
สวรรค์วรรณกรรมและเป็นเมล็ดพันธุ์อมตะที่ได้รับการชื่มชมในวงกว้าง ผู้คนยังกล่าวว่าเขาเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากในรอบหลายร้อยปี
ความสําเร็จที่โดดเด่นของหลี่เสี่ยวไปดึงดูดความสนใจของผู้อมตะเฒ่าฮั่วหยูโดยธรรมชาติมีข้อบ่งชี้ทุกประเภทที่ทําให้ผู้คนคิดว่าผู้อมตะเฒ่าฮัวหยูตัดสินใจเลี้ยงดูหลี่เสี่ยวไปด้วยกําลังทั้งหมดของเขา
ร่างแยกบรรพชนทะเลปราณและฟางหยวนเข้าใจสถานการณ์ของหลี่เสี่ยวไป๋เป็นอย่างดีแต่พวกเขาไม่ได้สอดมือเข้าแทรกแซงและเฝ้ามองอยู่ด้านข้างเท่านั้น
ย้อนกลับไปเมื่อฟางหยวนสร้างร่างแยกหลี่เสี่ยวไปขึ้นมา มันเป็นแผนสําหรับการรับสืบทอด
มรดกบนเส้นทางแห่งข้อมูลของถ้ำสวรรค์วรรรณกรรมเพื่อเติมเต็มข้อบกพร่องบนเส้นทางแห่งข้อมูลของฟางหยวน
แต่เนื่องจากถ้ำสวรรค์วรรณกรรมเป็นถ้ำสวรรค์บนเส้นทางแห่งข้อมูล มันจึงมีการตรวจสอบที่เข้มงวดฟางหยวนไม่สามารถให้การสนับสนุนหลี่เสี่ยวไป๋มากเกินไปเขาต้องปล่อยให้หลี่เสี่ยว
ไป๋เติบโตขึ้นด้วยตนเอง
ผลที่ได้คือหลังจากฟางหยวนผ่านสงครามชะตากรรมรวมถึงการต่อสู้ไล่ล่าของเทพปีศาจจิตวิญญาณและสามารถแก้ปัญหาเกี่ยวกับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางสวรรค์ในที่สุดหลี่เสี่ยวไป๋ก็มีความก้าวหน้าบางอย่าง
นอกจากนี้ถ้ำสวรรค์วรรณกรรมยังเข้าร่วมกองกําลังพันธมิตรของบรรพชนทะเลปราณมรดก
ที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งข้อมูลจึงสามารถแลกเปลี่ยนผ่านกองกําลังนี่คือชีวิต
บางครั้งแผนการก็ไม่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น บางครั้งการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นก็ไม่สามารถหลบหนีจากแผนการ
ดังนั้นตัวหมากหลี่เสี่ยวไป๋จึงต้องถูกจัดวางใหม่
ฟางหยวนปล่อยให้เขาเติบโตไปตามธรรมชาติ
สุดท้ายคือโชคของร่างแยกกายาแห่งความฝัน
ร่างแยกกายาแห่งความฝันยังเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับห้า การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะของกายาแห่งความฝันจะดึงดูดภัยพิบัติบนเส้นทางแห่งความฝันเข้ามา แม้แต่ฟางหยวนในปัจจุบันก็ไม่
มั่นใจว่าจะสามารถจัดการมันอย่างไรก็ตามตอนนี้โชคของร่างแยกกายาแห่งความฝันเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง
โชคของเขาเคยเป็นหมอกสีชมพูที่ล่องลอยอยู่กลางอากาศตลอดเวลาแต่ตอนนี้มันควบแน่นเป็นกล่องทรายสีชมพูที่มีทรายสีเหลืองไหลเข้าไปในกล่องอย่างต่อเนื่องทรายสีเหลืองที่ไหลเข้าไปในกล่องกลายเป็นทรายสีชมพูและเสริมความแข็งแกร่งให้กับกล่องทรายสีชมพู
“โชคกล่องทราย มันหมายถึงสิ่งใด?” แม้แต่ฟางหยวนยังมึนงงเมื่อเห็นสิ่งนี้
หลังจากใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปัญญา ดวงตาของฟางหยวนก็ส่องประกายขึ้น เขาสามารถคาดเดาบางสิ่งแต่มันยังต้องได้รับการยืนยัน
ฟางหยวนนับ ปรากฏว่าเขาสร้างร่างแยกจํานวนมากขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
การสร้างร่างแยกเหล่านี้เป็นหนึ่งในผลประโยชน์ที่ฟางหยวนได้รับมาจากการเรียนรู้เทพปีศาจจิตวิญญาณ
เทพปีศาจจิตวิญญาณพึ่งพาร่างแยกของเขาเพื่อสร้างนิกายเงาและกองกําลังพันธมิตรผีดิบตอนนี้ร่างแยกของฟางหยวนกําลังทําเช่นเดียวกัน
“ท่ามกลางร่างแยกทั้งหมด มีเพียงฟางตี้เฉิงเท่านั้นที่ต้องเสียสละตนเอง หือ นี่…” ฟางหยวนค้นพบอีกโชคหนึ่ง
โชคนี้ค่อนข้างคลุมเครือและเกือบโปร่งใส มันให้ความรู้สึกอ่อนแอมาก
ฟางหยวนเกือบมองข้ามมันไป แต่หลังจากสังเกตอย่างรอบคอบ เขาก็แสดงออกด้วยความประหลาดใจและยินดี “นี่คือโชคของร่างแยกฟางตี้เฉิง เขายังมีชีวิตอยู่!”
ในสงครามชะตากรรม ฟางหยวนถูกวางแผนต่อต้านโดยเทพอมตะบัวสวรรค์เขาสูญเสียวัง
เมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์รวมถึงร่างแยกฟางตี้เฉิง
วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์รวมตัวกับเมืองจักรพรรดิและกลายเป็นเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ฟาง
หยวนคิดว่าฟางตี้เฉิงถูกกําจัดไปแล้วแต่เขาไม่เคยคาดหวังว่าจะได้รับเบาะแสของร่างแยกฟางตี้เฉิงจากการตรวจสอบโชคในครั้งนี้
“เหตุใดขาไม่เคยค้นพบมันมาก่อน?”
“บัาเข้าใจแล้ว”
“หม้อปรุงโชคพึ่งก้าวเข้าสู่ระดับแปดวิธีตรวจสอบโชคของข้าทรงพลังขึ้นกว่าก่อนหน้าหลาย
เท่า นอกจากนี้ยังเห็นได้ชัดว่าร่างแยกฟางตี้เฉิงมีความก้าวหน้าบางอย่างในช่วงเวลาที่ผ่านมา
เมื่อรวมสาเหตุทั้งสองเข้าด้วยกันความเชื่อมโยงระหว่างข้ากับเขาจึงแข็งแกร่งขึ้นตอนนี้ข้าสามารถมองเห็นโชคของเขาอีกครั้ง”
แม้เมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์จะมีโลกภาพวาดแต่เทพอมตะบัวสวรรค์ทิ้งท่าไม้ตายนี้ไว้ก่อนการถือกําเนิดขึ้นของเทพอมตะตะวันเดือด
ด้วยเหตุนี้เมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์จึงค่อนข้างอ่อนแอในแง่ของเส้นทางแห่งโชค
การค้นพบว่าร่างแยกฟางตี้เฉิงยังมีชีวิตอยู่และกําลังเสริมกําลังให้กับตนเองเป็นเรื่องที่น่า
ประหลาดใจ แต่ฟางหยวนไม่ได้เปลี่ยนแผนการของเขา เขาไม่มีแผนบุกโจมตีเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์เร็วๆนี้
คฤหาสน์วิญญาณอมตะไม่ใช่ผู้อมตะ วิธีการของมันยากที่จะเปลี่ยนแปลงไม่มีปัญหาที่จะปล่อยให้มันคงอยู่ต่อไปฟางหยวนต้องการใช้ช่วงเวลานี้เพื่อพักผ่อนและฟื้นตัวอย่างสงบ
สระหลอมรวมสี่ธาตุแห่งความโศกเศร้าถูกสร้างขึ้นถ้ำสวรรค์ส่วนใหญ่ยังไม่ถูกกลืนกินพลังการต่อสู้ของฟางหยวนพุ่งสูงขึ้นอย่างไม่หยุดยั้งเหตุใดเขาต้องใช้ช่วงเวลาที่มีค่านี้เพื่อต่อสู้กับเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์?
หลังจากตรวจสอบโชคของตนเองและร่างแยกแล้ว ฟางหยวนก็เข้าใจสถานการณ์โดยรวมมากขึ้น
หม้อปรุงโชคสามารถแบ่งปันโชคของร่างหลักไปยังร่างแยกแต่ฟางหยวนไม่ได้ทําเช่นนั้น
ด้านหนึ่ง สถานการณ์ของทั้งร่างหลักและร่างแยกดีขึ้นมาก หลังจากผ่านพ้นภัยพิบัติครั้งก่อนโชคของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างเป็นธรรมชาตินี่คือสิ่งที่เรียกว่าเมื่อโชคร้ายถึงขีดจํากัดโชคดีก็จะมาเยือน
อีกด้านหนึ่งค่าใช้จ่ายของมันไม่ใช่พลังงานอมตะแต่เป็นโชคของร่างหลัก
“ข้าควรยกระดับวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งไม่ในเวลานี้”ฟางหยวนเริ่มแผนการหลอมรวมวิญญาณอมตะของเขาอีกครั้ง
เหตุผลที่เขาเลือกเส้นทางแห่งไม้ง่ายมากฟางหยวนมีทรัพยากรอมตะบนเส้นทางแห่งไม้จํานวนมากพวกมันเพียงพอสําหรับการหลอมรวมวิญญาณอมตะเซียวเหอเจี้ยนและนักพรตป่า
เขียวเป็นผู้อมตะระดับแปดเผ่ามนุษย์จิ๋วถ้ำสวรรค์ของพวกเขาเต็มไปด้วยทรัพยากรบนเส้นทางแห่งไม้
“อันดับแรกเราจะยกระดับวิญญาณบัวสมบัติสวรรค์ให้เป็นวิญญาณอมตะระดับแปด”เมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์โลกภาพวาด
ในโลกภาพวาดสัตว์อสูรคํารามที่เพิ่มเข้ามาใหม่ ค่ายพักแรมกําลังถูกสร้างขึ้นอย่างรวดเร็วที่ตั้งของค่ายพักแรมได้รับการคัดเลือกหลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบมันอยู่ในจุดยุทธศาสตร์และมีล่าธารอยู่ใกล้ๆ
จ้าวฉีเย่ยืนอยู่บนก้อนหินและออกคําสั่งช่างฝีมือนับร้อยคนที่กําลังสร้างค่ายพักแรม
“แม่วิญญาณช่างฝีมือจะมีพลังการต่อสู้ไม่สูงนักแต่มันใช้งานได้หลากหลาย”ไป่เซี่ยชื่นชมอยู่ด่านช้าง
จ้าวฉูเย่เชิดหน้าขึ้นทันที เขากล่าวด้วยความภาคภูมิใจ“ไป่เซี่ยของเราเป็นคนมองการณ์ไกลโอกาสก้าวหน้าของวิญญาณช่างฝีมือเหนือกว่าวิญญาณโจรและวิญญาณทหาร นอกจากการปรับ
แต่งทรัพยากรและสร้างคฤหาสน์วิญญาณ มันยังสามารถหลอมรวมวิญญาณ!”
ไป่เซี่ยพยักหน้า “ถูกต้อง หากไม่ใช่เพราะวิญญาณช่างฝีมือ เราจะสร้างค่ายพักแรมสิบแห่งและสํารวจลึกเข้าไปในโลกภาพวาดสัตว์อสูรคํารามได้อย่างไร?แต่เจ้าควบคุมวิญญาณช่างฝีมือจํานวนมากเพียงลําพังได้อย่างไรนี่เป็นภาระใหญ่สําหรับจิตใจ เจ้าใช้วิญญาณองค์กรงั้นหรือ?”วิญญาณองค์กรเป็นวิญญาณบนเส้นทางมนุษย์ที่อนุญาตให้วิญญาณมนุษย์สร้างกลุ่ม
จ้าวฉูเย่หัวเราะเสียงดัง “ถูกต้อง ข้าใช้วิญญาณสหภาพแรงงาน ข้าเป็นผู้นํา ข้าปกครองหัวหน้าหน่วยสิบสองคนขณะที่พวกเขามีแรงงานจํานวนหนึ่งอยู่ในการดูแลของตนเองนอกจาก
นั้นสหภาพแรงงานของข้าสามารถเติบโตขึ้นเรื่อยๆ”
ทั้งสองกําลังพูดคุยกันเมื่อเสียงแตรสัญญาณดังขึ้น
การแสดงออกของไปเซี่ยเปลี่ยนไปเล็กน้อย“ฝูงสัตว์อสูรบุกโจมตีอีกครั้ง”
จ้าวฉูเย่กล่าวอย่างเฉยเมย“เซียวฉีซิงและคนอื่นๆอยู่ที่นี่ เราไม่จําเป็นต้องกังวล”
ในเวลาต่อมาเสียงของเซียวฉีซิงก็ดังขึ้น“กองกําลังทั้งหมดโจมตี!”
กองทัพของเซียวฉีซิงเติบโตขึ้นอีกครั้งในช่วงเวลาที่ผ่านมา
กองทัพทหารต่อสู้กับฝูงสัตว์อสูรอย่างดุเดือด
เมื่อเวลาผ่านไปแนวป้องกันก็เริ่มเกิดช่องว่าง
“โฮก…”
สัตว์อสูรที่ทรงพลังปรากฏตัวขึ้นและอาละวาดไปทั่วสนามรบ
การแสดงออกของเซียวฉีซิงเปลี่ยนเป็นจริงจัง“ยิ่งเราสํารวจลึกเข้าไปมากเท่าใดฝูงสัตว์อสูร
ก็ยิ่งแข็งแกร่งมากเท่านั้นทุกคนถึงเวลาลงมือแล้ว”
“ตกลง”เสิ้นต้าเจียงกู่ถิงและคนอื่นๆเริ่มโจมตี
การต่อสู้ครั้งใหญ่กินเวลาหนึ่งชั่วโมงฝูงสัตว์อสูรล่าถอยไป มีผู้ได้รับบาดเจ็บล้มตายในกองทัพของเซียวฉีซิงเช่นกัน
ผ่านไปครึ่งวัน ค่ายพักแรกถูกสร้างขึ้นในที่สุดมันกลายเป็นฐานที่มั่นของบุตรแห่งมนุษยชาติทั้งสิบในการสํารวจโลกภาพวาดในครั้งนี้