Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2084 ร่างหลักของเทพปีศาจจิตวิญญาณ

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2084 ร่างหลักของเทพปีศาจจิตวิญญาณ

ดังนั้นไม่เพียงกายาสวรรค์แต่เทพปีศาจปล้นสวรรค์ยังจัดเตรียมสิ่งอื่นเอาไว้แต่ข้าไม่ตระหนัก

ถึงมันก่อนหน้านี้’ ฟางหยวนคิดกับตนเอง

เขาถาม “ชิงโจวยังมีชีวิตอยู่หรือไม่?”

ในตอนท้ายของการต่อสู้ไล่ล่าฟางหยวน เมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์เข้าร่วมในการต่อสู้มัน

ทําให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่และสามารถกําหราบปีศาจอมตะฉีเจียรวมถึงเหมาลี่ชิว

ฟางหยวนนึกถึงซากศพของชิงโจว

แรงจูงใจที่แท้จริงของเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์คือสิ่งใด?

นี่เป็นคําถามที่ต้องถกเถียง

การแสดงออกของลั่วเว่ยหยินกลายเป็นเคร่งขรึม เขาถอนหายใจก่อนกล่าว “ในการต่อสู้ก่อนหน้ากลิ่นอายของวิญญาณความเกลียดชังระดับเก้าหายไปอย่างสมบูรณ์ดูเหมือนมันจะถูกทําลายไปแล้ว”

“อย่างไรก็ตามชิงโจวเป็นสิ่งมีชีวิตที่เกิดจากท่าไม้ตายอมตะ ข้าไม่แน่ใจว่ามันยังมีชีวิตอยู่หรือไม่วิธีการของเทพอมตะบัวสวรรค์ยากเกินหยั่งถึงเราทําได้เพียงถอนหายใจด้วยความประหลาดใจเท่านั้น”

ท่าไม้ตายอมตะที่กลายเป็นสัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานานลึกลับเกินไป แม้แต่ฟางหยวนและลั่วเว่ยหยินก็ทําได้เพียงถอนหายใจชื่นชมโดยไม่สามารถถอดรหัสมัน

ลั่วเว่ยหยินกล่าวต่อ “ข้าไม่สามารถสรุปสถานะปัจจุบันของชิงโจวแต่สถานการณ์ของเทพปีศาจจิตวิญญาณ ข้าเข้าใจเรื่องนี้อย่างชัดเจน”
ฟางหยวนเผยรอยยิ้ม “บอกข้า”

ในที่สุดลั่วเว่ยหยินก็กล่าวเข้าประเด็นหลัก

เขาตอบ “กล่าวได้ว่าเทพปีศาจจิตวิญญาณทั้งมีชีวิตและตายไปแล้ว เพราะร่างหลักที่แท้จริงของเขาอยู่หลังประตูแห่งชีวิตและความตายเสมอมา”

ฟางหยวนพยักหน้าและถอนหายใจ “เป็นเช่นที่ข้าคิด”

การระเบิดตัวเองของเทพปีศาจจิตวิญญาณทําให้ฟางหยวนรู้สึกถึงสิ่งผิดปกติหลังจากปรับแต่งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางสวรรค์ทั้งหมดแล้วฟางหยวนจึงหวนนึกถึง

สถานการณ์นั้นอีกครั้งและรู้สึกสงสัยมากขึ้น

เทพปีศาจจิตวิญญาณจะตายเช่นนี้จริงๆงั้นหรือ?

หลังจากทั้งหมดเขาเป็นเทพปีศาจที่ยิ่งใหญ่!

ในชีวิตห้าร้อยปีของฟางหยวน เทพปีศาจจิตวิญญาณซ่อนตัวอยู่ในความมืดและลอบควบคุมวังสวรรค์โดยไม่ปรากฏตัวเขาวางแผนต่อต้านฟงจิวเก้อและใช่โอกาสนั้นยึดครองแดนศักดิ์สิทธิ์ หลางหยาเขาควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดและอยู่เบื้องหลังสงครามห้าภูมิภาคที่สุด

ตราบเท่าที่เทพอมตะแห่งความฝันไม่ปรากฏตัว เทพปีศาจจิตวิญญาณจะเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ฟางหยวนได้รับความช่วยเหลือจากซ่งจงและสามารถบุกแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูเพื่อสังหารฟง

จินฮวง

ฟงจินฮวงคือผู้ใด?

ในวัยเยาว์ วิญญาณอมตะปีกแห่งความฝันบินเข้ามาหานางด้วยตัวของมันเอง ฟงจินฮวงคือผู้ที่ทุกคนคาดหวังว่าจะกลายเป็นเทพอมตะแห่งความฝันในอนาคต!

ฟางหยวนคือผู้ใด?

เขาเป็นปีศาจต่างโลก ก่อนวิญญาณชะตากรรมจะถูกทําลาย เขาเป็นคนเดียวที่สามารถสร้าง ผลลัพธ์ที่แตกต่างออกไป
ซ่งจงคือผู้ใด?

ภายนอก เขาเป็นบุตรชายของซ่งจื่อซิง แต่ในความเป็นจริงเขาถูกสร้างขึ้นด้วยวิธีการบนเส้น ทางแห่งเลือด
ซ่งจื่อซิงคือผู้ใด?

เขาเป็นที่รู้จักในนามมังกรโลหิต เขาเป็นสมาชิกของนิกายเงาและหนึ่งในร่างแยกของเทพ

ปีศาจจิตวิญญาณ!

ชีวิตห้าร้อยปีของฟางหยวนมีความจริงซ่อนอยู่มากมาย

ในช่วงเวลานั้นวิญญาณชะตากรรมไม่ถูกทําลาย ปีศาจอมตะฉีเจียไม่สามารถฟื้นคืนชีพเหล่าเทพทําได้เพียงเฝ้ามองเทพปีศาจจิตวิญญาณสร้างหายนะเท่านั้น

เทพปีศาจจิตวิญญาณเอาแต่ใจเกินไปดังนั้นสวรรค์จึงเลือกฟางหยวนเป็นเครื่องมือและส่งเข้าย้อนเวลากลับมาเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง

การต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน ฟางหยวนประสบความสําเร็จในการหยุดแผนการของเทพปีศาจจิตวิญญาณแต่นั่นคือความจริงทั้งหมดงั้นหรือ?

ไม่!
เทพปีศาจจิตวิญญาณรู้ว่าฟางหยวนกําเนิดใหม่ด้วยความช่วยเหลือของเจตจํานงสวรรค์ตามแผนเดิมของเขา เขาจะควบคุมวังสวรรค์และทําให้เกิดสงครามห้าภูมิภาคแต่เจตจํานงสวรรค์จะยังขัดขวางเขาหากฟางหยวนล้มเหลวปีศาจต่างโลกคนที่สองและคนที่สามจะปรากฏตัวขึ้น เทพปีศาจจิตวิญญาณจะไม่สามารถยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกใบนี้

ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนแผน เขาให้ความร่วมมือกับเทพปีศาจบัวแดงโดยมอบวิญญาณทารกอมตะให้ฟางหยวนเพื่อสร้างปีศาจต่างโลกที่สมบูรณ์

หลังสงครามชะตากรรม วิญญาณชะตากรรมถูกทําลายโดยฟางหยวน

เทพปีศาจจิตวิญญาณต้องการทวงคืนร่างทารกอมตะ

แผนการของเขาสมบูรณ์แบบเขาไม่เคยขาดระดับความสําเร็จบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณด้วยร่างทารกอมตะเขาจะสามารถกลืนกินถ้ำสวรรค์วิญญาณสงบและถ้ำสวรรค์อื่นๆเพื่อฟื้นคืนพลังการต่อสู้ได้อย่างรวดเร็วด้วยวิธีนี้เขาจะสามารถก้าวนําเทพคนอื่นๆ

หากเทพปีศาจจิตวิญญาณประสบความสําเร็จ เขาจะเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดโลกจะถูกเหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขา

อย่างไรก็ตามความจริงก็คือเขาไม่ประสบความสําเร็จ

เทพปีศาจบัวแดงวางแผนต่อต้านฟางหยวน ขณะเดียวกันเหล่าเทพก็วางแผนต่อต้านเทพปีศาจจิตวิญญาณเช่นกัน

เมื่อเทพปีศาจจิตวิญญาณไม่มีร่างทารกอมตะ สถานการณ์ของเขาจะแตกต่างออกไปมากวังสวรรค์และถ้ำสวรรค์นิรันดรร่วมมือกันไล่ล่าฟางหยวนขณะที่ลั่วเว่ยหยินซึ่งเป็นผู้สืบทอด

ของเทพอมตะสวรรค์พิภพเข้าแทรกแซง สุดท้ายเทพปีศาจจิตวิญญาณถูกบังคับให้ระเบิดตัวเองฟางหยวนพยายามคิดในมุมมองของเทพปีศาจจิตวิญญาณ หากเขาเป็นเทพปีศาจจิต

วิญญาณ เขาจะทําอย่างไร

ดังนั้นเขาจึงพบข้อบกพร่องที่ยิ่งใหญ่ในแผนการของเทพปีศาจจิตวิญญาณมันเสี่ยงเกินไป

การต่อสู้ที่อาณาจักรแห่งความฝันของภาคใต้ ราชันมังกรเอาชนะราชันภูเขาม่วงราชันมังกร

บุกเข้าไปในแดนศักดิ์สิทธิ์ของนิกายเงาเพื่อจับเทพปีศาจจิตวิญญาณและยึดประตูแห่งชีวิตและความตาย

ชีวิตของเทพปีศาจจิตวิญญาณอยู่ในมือของวังสวรรค์ หากเทพธิดาจื่อเว่ยไม่พยายามค้นวิญญาณแต่เลือกที่จะสังหารเทพปีศาจจิตวิญญาณทันทีนั่นจะไม่ทําให้ทุกสิ่งจบสิ้นลงงั้นหรือ?เขา

หากเป็นฟางหยวน เขาจะไม่ทําเรื่องเช่นนี้

แล้วเทพปีศาจจิตวิญญาณจะคิดไม่ได้งั้นหรือ ?

แม้เขาจะรักการเข่นฆ่าแต่เขาไม่ใช่คนโง่

ดังนั้นกรณีที่เป็นไปได้มากที่สุดคือเทพปีศาจจิตวิญญาณที่ถูกจับไม่ใช่ร่างหลักที่แท้จริงของ

หากฟางหยวนเป็นเทพปีศาจจิตวิญญาณ เขาจะให้ร่างแยกปลอมตัวเป็นร่างหลักและปล่อยให้

วังสวรรค์จับร่างแยกร่างนั้นไป

ประการแรก มันจะลดการระวังตัวของศัตรู

ประการที่สอง ร่างแยกก็เป็นกับดักเช่นกันและเทพธิดาจื่อเว่ยก็ตกลงสู่กับดักนั้น

ประการที่สามข้อมูลและมรดกของร่างแยกร่างนั้นไม่เหมือนกับข้อมูลและมรดกที่อยู่กับร่าง

หลักที่แท้จริงแม้เขาจะถูกจับศัตรูก็จะไม่ได้รับสิ่งใดมากนัก

ประการสุดท้าย แม้ร่างแยกจะถูกสังหาร ร่างหลักที่แท้จริงก็จะไม่ได้รับผลกระทบ

ฟางหยวนมีหลักฐานสองชิ้นเกี่ยวกับข้อสงสัยของเขา

หลักฐานแรกคือปีศาจอมตะฉีเจีย

ปีศาจอมตะฉีเจียเป็นบุคคลสําคัญในการต่อสู้ไล่ล่าฟางหยวน

ฟางหยวนและเทพปีศาจจิตวิญญาณใช้มรดกของพวกเขาเพื่อล่อลวงให้ปีศาจอมตะฉีเจียเป็นพันธมิตร

สุดท้ายฟางหยวนชนะการแข่งขันและได้รับปีศาจอมตะฉีเจียเป็นพันธมิตรขณะที่เทพปีศาจจิตวิญญาณระเบิดตัวเองและเสียชีวิต

หลังการต่อสู้ ฟางหยวนนึกถึงการแข่งขันครั้งนี้ เรารู้สึกว่าชัยชนะของเขาได้มาง่ายเกินไปมัน
ค่อนข้างแตกต่างจากความคาดหวังของเขา

แต่หากเทพปีศาจจิตวิญญาณผู้นั้นเป็นร่างแยก ทุกอย่างจะสมเหตุสมผล

เทพปีศาจจิตวิญญาณไม่ได้ทํานายการฟื้นคืนชีพของปีศาจอมตะฉีเจียเอาไว้เนื่องจากวิญญาณชะตากรรมถูกทําลาย อนาคตจึงกลายเป็นไม่แน่นอน

แผนการของเทพปีศาจจิตวิญญาณคือปล่อยให้ร่างแยกของเขาถูกจับโดยวังสวรรค์เขามอบ

ความทรงจําบางอย่างให้กับร่างแยก นี่ทําให้วังสวรรค์ไม่รู้สึกสงสัย แต่สิ่งเหล่านั้นก็ไม่ใช่ข้อมูลที่มีค่ามากนัก

ดังนั้นฟางหยวนจึงสามารถเอาชนะเทพปีศาจจิตวิญญาณในแง่ของมรดก

หลักฐานชิ้นที่สองฟางหยวนได้รับมันมาเมื่อเร็วๆนี้ผ่านการตรวจสอบโชคโชคของเขาเป็น

เสาแสงสีเงินที่มีก้อนเมฆสามก้อนลอยอยู่ด้านบน หนึ่งในสามเป็นเมฆสีดําสนิทผู้ใดที่จะสามารถสร้างปัญหาให้เขา?

ทุกอย่างบ่งชี้ว่าเมฆสีดําก็คือเทพปีศาจจิตวิญญาณ!

หากเทพปีศาจจิตวิญญาณยังมีชีวิตอยู่ เขาจะปล่อยฟางหยวนไปหรือไม่? นิกายเงาและกอง

กําลังพันธมิตรผีดิบรวมถึงสิบสุดยอดกายาและวิญญาณทารกอมตะถูกฟางหยวนฉกชิงและ

ทําลาย แล้วเทพปีศาจจิตวิญญาณจะปล่อยฟางหยวนงั้นหรือ? เป็นไปไม่ได้! ในทางกลับกันด้วยการฟื้นคืนชีพของปีศาจอมตะฉีเจีย โลกรับรู้ว่ามีความเป็นไปได้ที่เหล่า เทพจะฟื้นคืนชีพเช่นกัน

ร่างหลักของเทพปีศาจจิตวิญญาณมีแนวโน้วว่าจะฟื้นคืนชีพมานานแล้ว

ในความเป็นจริงเทพคนอื่นๆต่างมีแผนการของตนเอง

ในอดีต การคงอยู่ของวิญญาณชะตากรรมไม่อนุญาตให้ผู้ใดสามารถฟื้นคืนชีพ แต่ตอนนี้มันพังพินาศไปแล้ว ผู้ใดจะไม่อยากฟื้นคืนชีพ?

ไม่มีผู้ใดรู้ว่าเทพคนใดจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาเป็นคนแรก ไม่มีผู้ใดแน่ใจว่าพวกเขาจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาเมื่อใด

สถานการณ์ดังกล่าวทําให้ฟางหยวนรู้สึกไม่ปลอดภัย

เมื่อเหล่าเทพฟื้นคืนชีพ คุณค่าของตัวตนกึ่งระดับเก้าจะลดลงอย่างมาก สถานะจักรพรรดิ

ปีศาจอันดับหนึ่งของโลกจะทําให้เขากลายเป็นเป้าหมายที่ถูกไล่ล่า

หลังการต่อสู้ไล่ล่าฟางหยวน ลั่วเว่ยหยินบอกให้เขาใช้เวลาให้ดี เขาหมายความเช่นนั้นจริงๆ

ขณะเดียวกันฟางหยวนก็ทําตามความคาดหวังของลั่วเว่ยหยิน

เขาใช้เวลาทั้งหมดอย่างคุ้มค่า

เมื่อพลังการต่อสู้ของเขากลับมาและสามารถแบกรักความเสี่ยง เขาก็มายังถ้ำสวรรค์คุณธรรม

เขาไม่ได้มาที่นี่เพียงเพื่อลั่วเว่ยหยิน ความหมายที่แท้จริงของเทพอมตะสวรรค์พิภพหรือรับสืบทอดมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะสวรรค์

เขามีเป้าหมายเดียวเท่านั้น

“ลั่วเว่ยหยิน บอกข้าข้าจะกลายเป็นเทพได้อย่างไร?”

วิญญาณชะตากรรมถูกทําลาย อนาคตไม่แน่นอน สิ่งใดก็เกิดขึ้นได้ทั้งสิ้น

ไม่เพียงผู้อมตะแต่ผู้ใช้วิญญาณก็เริ่มมองเห็นความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตฟางหยวนกําลังดิ้นรน เหล่าผู้ใช้วิญญาณก็เช่นกัน

เทือกเขาวายุวิปโยค

ผู้ใช้วิญญาณสี่คนเดินทางมาพร้อมกัน พวกเขาเข้าไปในส่วนลึกของเทือกเขาทั้งหมดเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสี่ ด้วยความร่วมมือ พวกเขาสามารถต่อต้านผู้ใช้วิญญาณระดับ

ห้า ในโลกของผู้ใช้วิญญาณ พวกเขาเป็นผู้ใช้วิญญาณปีศาจที่มีชื่อเสียงพวกเขาคือสี่ผู้อนาจารคนลามกแห่งทิศตะวันออก เฉินหยินเต๋าโจรบ้ากามแห่งทิศตะวันตกอวี่ป๋ากวงผู้ปลุกปั่นแห่งทิศใต้ ซื่อเปา และนักกลืนกินแห่งทิศเหนือฟานชุนเหยา“วายุวิปโยคพัดมาอีกครั้ง”อวี้ป๋ากวงแจ้งเตือนเขาเป็นผู้ใช้วิญญาณสายตรวจสอบ

“เร็ว นําคฤหาสน์วิญญาณออกมา”เฉินหยินเต๋าออกคําสั่งในฐานะผู้นํากลุ่มคฤหาสน์วิญญาณถูกเก็บไว้โดยฟานชุนเหยาเขาเป็นผู้ใช้วิญญาณสายสนับสนุนและรักษาผู้ใช้วิญญาณทั้งสี่เร่งเข้าไปภายในคฤหาสน์วิญญาณ

วายุวิปโยคพัดผ่านคฤหาสน์วิญญาณและทําให้มันเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงบางครั้ง

ฟานชุนเหยายังต้องเติมวิญญาณแทนที่วิญญาณที่เสียชีวิต

“มันเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่”ฟานชุนเหยาตะโกน“ระหว่างทางเราพบความสูญเสียจากวายุ

วิปโยคไปแล้วหลายครั้ง เขายังจะเดินหน้าต่อไปงั้นหรือ?”

เฉินหยุนเต๋าส่ายศีรษะและเผยรอยยิ้มขมขื่น“ตราบเท่าที่เรายังมีความหวังเราจําเป็นต้องเสี่ยง!ไม่นานมานี้ผู้อมตะต่อสู้กันบนเทือกเขาวายุวิปโยคพวกเขาอาจทิ้งบางสิ่งเอาไว้เบื้องหลัง

มันอาจทําให้เรากลายเป็นผู้อมตะ!”

เมื่อได้ยินเรื่องนี้ ผู้ใช้วิญญาณอีกสามคนก็เริ่มสูดหายใจลึกด้วยความคาดหวัง“ตราบเท่าที่เรากลายเป็นผู้อมตะผู้ใดจะกล้าโจมตีพวกเรา?พวกเราจะไม่ถูกไล่ล่าอีกต่อไป!”“เมื่อพวกเรากลายเป็นผู้อมตะผู้ใช้วิญญาณหญิงที่ยโสเหล่านั้นจะร้องขอความเมตตาจากเรา

ฮ่าฮ่าฮ่า”

“พวกเจ้าต้องมีความทะเยอทะยานมากกว่านี้ หลังจากกลายเป็นผู้อมตะเราจะยังไล่ล่ามนุษย์

ไปเพื่อสิ่งใด?เป้าหมายของเราต้องเป็นเทพธิดาเท่านั้น!”กลุ่มผู้ใช้วิญญาณมองหน้ากันและหัวเราะด้วยความคิดอนาจารสิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือวังสวรรค์ทําความสะอาดสนามรบเรียบร้อยแล้ว ซากสัตว์อสูรถูกนําออกไปทั้งหมด

คนทั้งสี่พบซากปรักหักพังแต่หลังจากค้นหาเป็นเวลาเจ็ดวันเจ็ดคืนพวกเขากลับไม่พบสมบัติล้ำค่าใดๆ

พวกเขากลายเป็นกังวลและโกรธจัด แต่ก่อนที่พวกเขาจะจากไป ในที่สุดพวกเขาก็พบบางสิ่ง“มีคนอยู่ที่นี่ มาดูเร็ว!”

“มีสิ่งใดแปลก มีศพของมนุษย์มากมายอยู่ที่นี่”

“ไม่ คนผู้นี้ยังมีชีวิตและมีปรากฏการณ์ประหลาดอยู่รอบตัวเขา”

“อันใด!?”

ผู้ใช้วิญญาณอีกสามคนมองไปยังทิศทางที่ถูกชี้นําและพบหวังเซียวเอ๋อที่นอนหลับอยู่รอบตัวเขาเต็มไปด้วยดอกไม้ป่าและทุ่งหญ้าผืนเล็ก พวกมันเบ่งบานขึ้นและเหี่ยวแห้งลงอย่าง
รวดเร็วสลับกันในทุกลมหายใจของเขา