Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2089 การแข่งขัน
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2089 การแข่งขัน
ผู้อมตะสามคนบินผ่านก้อนเมฆด้วยความเร็วสูง
“เร็ว!” ผู้อมตะที่อยู่ด้านหน้าคือผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ
ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณทั้งสามัต็มไปด้วยความวิตกกังวล
ปรากฏว่าหลังจากจ้าวเหลียนหยุนส่งผู้ดูแลห้องหลอมรวมลอยออกไป ผู้ดูแลรู้สึกกังวลมากและรีบแจ้งคนระดับสูงของนิกายทันที
หลังจากได้รับข่าว ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งและคนอื่นๆไม่สามารถนิ่งเฉย พวกนางรีบเดินทางไปยังสถานที่เกิดเหตุ
จะเกิดเหตุร้ายกับฟงจินฮวงไม่ได้!
ก่อนหน้านี้แม้ฟงจิวเก้อจะทรยศวังสวรรค์และทําให้เทพธิดาไปชิงกับฟงจินฮวงร่วงหล่นลงแต่วังสวรรค์ก็ไม่ได้ลงโทษพวกนาง
ตามกฏของฝ่ายธรรมะวังสวรรค์ไม่สามารถลงโทษพวกนาง นี่เป็นเพราะฟงจินฮวงและเทพธิดาไปชิงไม่ได้ทรยศพวกเขานอกจากนี้ฟงจินฮวงยังเป็นศิษย์ของราชันมังกร
ระหว่างการต่อสู้ไล่ล่าฟางหยวน ฉินติงหลิงยังออกคําสั่งฉุกเฉินให้ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของนิกายคฤหาสน์วิญญาณน่าคฤหาสน์วิญญาณอมตะและฟงจินฮวงออกไปจัดการอาณาจักร
แห่งความฝันในสนามรบ
ฟงจินฮวงมีผลงานใหญ่ในการต่อสู้ครั้งนี้
ก่อนที่ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของนิกายคฤหาสน์วิญญาณจะกลับ ฉินติงหลิงยังลอบกล่าวกับนางว่า“ดูแลฟงจินฮวงให้ดี อาณาจักรแห่งความฝันทั้งหมดที่ฟงจินฮวงรวบรวมมามอบให้นาง”
ผู้อมตะทั้งสามของนิกายคฤหาสน์วิญญาณบินเข้าไปในห้องหลอมรวมโดยตรง “เทพธิดาเหลียนหยุนเจ้าต้องใจเย็นก่อน…หือ?”สามผู้อมตะประหลาดใจ
พวกเขาไม่เห็นศพของฟงจินฮวงแต่พวกเขาเห็นฟงจินฮวงกับจ้าวเหลียนหยุนกําลังเผชิญหน้ากันคราบเลือดยังปรากฏอยู่ที่ริมฝีปากของฟงจินฮวงแต่ด้วยวิธีการตรวจสอบของผู้อมตะทั้งสามพวกนางพบว่าฟงจินฮวงไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง‘เกิดสิ่งใดขึ้น?’
จ้าวเหลียนหยุนช่วยฟงจินฮวงงั้นหรือ?”
“นี่แปลกเกินไปจ้าวเหลียนหยุนเป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายต่อต้านฟงจิวเก้อฟงจินฮวงล้มเหลวในการหลอมรวมวิญญาณขณะที่จ้าวเหลียนหยุนมาที่นี่ในช่วงเวลาที่แปลกประหลาดเห็นได้ชัดว่า
นางต้องการจัดการฟงจินฮวงอย่างเด็ดขาดแต่เหตุใดมันจึงกลายเป็นเช่นนี้?
สามผู้อมตะไม่เข้าใจ
เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ ฟงจินฮวงเป็นฝ่ายได้เปรียบขณะที่การแสดงออกของจ้าวเหล็ยนหยุนค่อนข้างน่าเกลียด
“ฟงจินฮวง ทําได้ดีมาก!”จ้าวเหลียนหยุนมองฟงจินฮวงอย่างลึกซึ้งนางกล่าวอย่างมีความหมาย
นางเดินผ่านสามผู้อมตะไปโดยไม่ทักทาย นี่ไม่เหมือนท่าทีปกติของนาง มันแสดงให้เห็นว่าอารมณ์ของนางแย่เลวร้ายมาก
ฟงจินฮวงเช็ดคราบเลือดที่ริมฝีปากก่อนจะเผยรอยยิ้มและทักทายสามผู้อมตะ
ผู้อมตะทั้งสามคาดเดาเหตุผลและสามารถถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“นี่เป็นแผนการของฟงจินฮวงนางต้องสัมผัสได้ถึงบางสิ่งนางตั้งใจวางแผนหลอกล่อศัตรูและทําให้จ้าวเหลียนหยุนเผยตัวออกมา’
ตั้งแต่สงครามชะตากรรมฟงจินฮวงพัฒนาไปมากสถานการณ์ขัดเกลาผู้คนอย่างแท้จริง’
แต่เราควรทําอย่างไรกับความขัดแย้งของพวกนาง?’
ผู้อมตะทั้งสามตระหนักถึงปัญหา
ด้านหนึ่งเป็นฝ่ายต่อต้านฟงจิวเก้อ หลี่จุนอิงและซุนเฮาเป็นเสาหลักของฝ่ายนี้พวกเขาช่วยให้จ้าวเหลียนหยุนกลายเป็นผู้นํานิกายคนปัจจุบันด้วยความช่วยเหลือจากนางฝ่ายนี้จึงกลายเป็นฝ่ายที่มีอํานาจมากที่สุดในนิกายคฤหาสน์วิญญาณในทางกลับกัน เทพธิดาไปชิงกับฟงจินฮวงก็ไม่ง่ายที่จะรับมือพวกนางมีรากฐานที่แข็งแกร่ง
แม้ฟงจินฮวงจะดูเหมือนสูญเสียอนาคตของนางไปแล้วแต่นางยังมีความสําคัญต่อวังสวรรค์สุดท้ายพ่อของนางยังเป็นฟงจิวเก้อแม้เขาจะทรยศวังสวรรค์แต่ตราบเท่าที่เขายังไม่ตายนิกาย
คฤหาสน์วิญญาณก็ไม่สามารถเพิกเฉยต่อการดํารงอยู่ของเขา
“ฟงจินฮวง หากเจ้าต้องการหลอมรวมวิญญาณในอนาคต เจ้าสามารถไปที่ยอดเขาของข้า” ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งกล่าวอย่างเป็นกันเองกับฟงจินฮวง
นางแสร้งทําเป็นไม่รู้เกี่ยวกับความจริงที่จ้าวเหลียนหยุนมาที่นี่เพื่อสร้างปัญหาให้กับฟงจินฮวงหลังจากทั้งหมดไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน
หลักฐานเพียงอย่างเดียวคือวัสดุในการหลอมรวมซึ่งถูกทําลายไปแล้ว
แม้จะมีหลักฐาน แต่ผู้อาวุโสสูงสุดลําาดับที่หนึ่งก็จะไม่ติดตามเอาความมิฉะนั้นมันจะทําให้นิกายเกิดปัญหาและตกต่ำลง
ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งมีความอาวุโสมากนางรู้ว่านิกายคฤหาสน์วิญญาณเกิดปัญหาความขัดแย้งภายในมันเหมือนภูเขาไฟที่จะปะทุในไม่ช้านางต้องถ่วงเวลาเอาไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทําได้ระหว่างช่วงเวลานี้นางต้องขุดคลองเพื่อเปลี่ยนเส้นทางของลาวาและปลดปล่อยแรงกดดันภายในออกไปเพื่อรักษาเสถียรภาพ
จ้าวเหลียนหยุนกลับไปที่ยอดเขาของนางด้วยใบหน้าซีดขาว
นางไม่ได้เข้าไปในห้องแต่ยืนอยู่บนยอดเขาและมองท้องฟ้าที่มืดมิดนางรู้ว่าบางคนกําลังมา
ดังคาด หลังจากชั่วครู่ซูเฮากับหลี่จุนอิงก็บินมาพร้อมกัน
การแสดงออกของคนทั้งสองดูไม่น่ามองนัก ระหว่างทางพวกเขารู้แล้วว่าแผนการล้มเหลวแต่พวกเขายังต้องการสอบถามรายละเอียดจากจ้าวเหลียนหยุนโดยตรง
ก่อนที่ซูเฮาและหลี่จุนอิงจะกล่าวสิ่งใดจ้าวเหลียนยุนก็ชิงถาม “ฟงจินฮวงค้นพบความผิดปกติของทรัพยากรได้อย่างไร?พวกท่านมีสิ่งใดจะกล่าวเกี่ยวกับความล้มเหลวในครั้งนี้?”
ซูเฮาเงียบ
หลี่จุนฮงกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ข้าประเมินฟงจินฮวงต่ำเกินไป เหลียนหยุน เจ้ารู้จักชื่อของข้าในฐานะเทพธิดามายาข้ามีทักษะในด้านดังกล่าวโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อข้ากลายเป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งมายาเมื่อเร็วๆนี้ แม้ทรัพยากรเหล่านั้นจะไปอยู่ต่อหน้าผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่ หนึ่ง นางก็อาจไม่รู้
การแสดงออกของจ้าวเหลียนหยุนเย็นชามาก นางสะบัดแขนเสื้อด้วยความโกรธ “แต่มันเกิด ขึ้นแล้ว พวกท่านจะอธิบายอย่างไร?”
ซูเฮากล่าว “บางทีราชันมังกรอาจทิ้งวิธีการป้องกันบางอย่างไว้กับฟงจินฮวง หรือบางทีนี่อาจ เป็นพลังอํานาจของเส้นทางแห่งความฝัน เราไม่คุ้นเคยกับเส้นทางแห่งความฝัน ปีศาจฟางหยวน
พึ่งพาเส้นทางแห่งความฝันในการต่อสู้ขณะที่เขาอยู่ในสภาพที่อ่อนแอเช่นกัน”
ซูเฮาหยุดก่อนกล่าวต่อ “เอาล่ะ นี่เป็นความผิดพลาดของเรา เทพธิดาเหลียนหยุน ตามข้อ ตกลงของเรา หลังจากเจ้าช่วยเราในครั้งนี้ หนี้ระหว่างพวกเราจะถูกชําระ เนื่องจากแผนการนี้ล้ม เหลวและมันเกิดจากความผิดพลาดของเรา ดังนั้นเราจะถือว่ามันเป็นงานที่สําเร็จแล้ว ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไปเราจะไม่ติดหนี้ใดๆต่อกัน!”
เมื่อได้ยินคํากล่าวของซูเฮา หลี่จุนอิงแสดงความวิตกขึ้นบนใบหน้า นางต้องการกล่าวบางคํา แต่ซูเฮาหยุดนางเอาไว้
การแสดงออกของจ้าวเหลียนหยุนผ่อนคลายลง นางพยักหน้าให้กับผู้อมตะทั้งสองก่อนจะหัน
หลังและจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใดอีก
สองผู้อมตะมองจ้าวเหลียนหยุนเดินเข้าไปในวังของนางก่อนที่พวกเขาจะจากมา
หลี่จุนอิงกล่าวด้วยความโกรธ “หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากพวกเรา จ้าวเหลียนหยุนจะ
ได้รับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ได้อย่างไร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากพวก เรา นางจะกลายเป็นผู้นําานิกายคฤหาสน์วิญญาณได้อย่างไร ตอนนี้นางต้องการแยกตัวจากพวก เรา นางช่างเย่อหยิ่งนัก สามี ท่านจะปล่อยนางไปง่ายๆเช่นนี้จริงๆงั้นหรือ นางคืออาวุธที่ดีที่สุดใน การจัดการฟงจิวเก้อ! ท่านเป็นผู้อตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เห้อ…”
ซูเฮายิ้ม “ภรรยาที่รักของข้า อย่ากังวล แม้เราจะล้มเหลว แต่เรายังได้รับกําไร ประการแรก เรา สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับความตั้งใจของวังสวรรค์ผ่านการกระทําของผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่ง ประการที่สอง ตอนนี้จ้าวเหลียนหยุนถูกผูกติดอยู่กับฝ่ายของพวกเราแล้ว ประการที่สาม พวกเรา
พบความสามารถบางอย่างของฟงจินฮวง”
หลี่จุนอิงมึนงงเล็กน้อยก่อนจะตระหนักรู้ “ถูกต้อง แม้เราจะล้มเหลว จ้าวเหลียนหยุนก็ยังกลาย เป็นศัตรูของฟงจินฮวง แม้เราจะไม่บังคับจ้าวเหลียนหยุนแต่ฟงจินฮวงจะชําระหนี้คืนจ้าวเหลียน หยุนในที่สุด ศัตรูของศัตรูก็คือมิตร ดังนั้นจ้าวเหลียนหยุนจึงถูกผูกมัดอยู่กับฝ่ายของเรา”
“ถูกต้อง” ซูเฮาพยักหน้า
หลี่จุนอิงยิ้ม “สามี ท่านสมกับเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาจริงๆ ข้ามองท่านผิดไปก่อน
หน้านี้”
ซูเฮาเผยรอยยิ้มขมขื่น “ฟงจินฮวงสมกับเป็นลูกสาวของฟงจิวเก้อจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นทัศนคติ ความสามารถ และวิธีการบนเส้นทางแห่งความฝัน นางเหนือความคาดหมายของข้า แผนเดิม
ของเราคือการใช้ฟงจินฮวงเป็นเหยื่อล่อให้ฟงจิวเก้อโจมตีนิกายคฤหาสน์วิญญาณด้วยความโกรธและทําให้เขามีความขัดแย้งกับวังสวรรค์”
เป้าหมายของซูเฮาและหลี่จุนอิงยังคงเป็นฟงจิวเก้อ
แม้จะมีซูเฮากับหลี่จุนอิงสิบคน พวกเขาก็ไม่สามารถต่อสู้กับฟงจิวเก้อ แต่มนุษย์มีสติปัญญาพวกเขามีหลายวิธีที่จะกําจัดศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าตนเอง
ซูเฮาเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เขาวางแผนที่จะใช้วังสวรรค์เป็นดาบเพื่อก่าจัดฟงจิวเก๋อ
นี่คือความฉลาดของผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เขามีทักษะในการใช้งานคนอื่นหรือ
สถานการณ์เพื่อบรรลุเป้าหมายของตน
“แผนนี้ล้มเหลว ข้าประเมินฟงจินฮวงต่ำกินไป หลังจากนี้นางจะอยู่ข้างกายแม่ของนางอย่างแน่นอนเราจะมีโอกาสไม่มากนักที่จะโจมตีนางในอนาคต” ซูเฮาถอนหายใจฟงจิวเก้อเคยปราบปรามซูเฮาทําให้ชีวิตของเขาถูกปกคลุมไปด้วยเงามืดนี่คือความแค้น
ระหว่างพวกเขา
เมื่อฟงจิวเก้อยังอยู่ในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ ครอบครัวของเขาครอบครองทรัยากรทั้งหมด
ฟงจินฮวงบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งความฝันและได้รับการสนับสนุนจากวังสวรรค์นางเป็นผู้
นิกายคฤหาสน์วิญญาณและวังสวรรค์ไม่สามารถพึ่งพาได้ คนเดียวที่สามารถปกป้องผล
ทําให้ซูเฮากับหลี่จุนอิงสูญเสียผลประโยชน์
บุกเบิกยุคใหม่ นี่เป็นภัยคุกคามในอนาคตต่อซูเฮากับหลี่จุนอิง
ประโยชน์ของซูเฮาก็คือตัวเขาเอง
หากเขาไม่ทําอย่างเต็มที่ก็ไม่มีผู้ใดสามารถช่วยเขา
“บนเส้นทางแห่งการบ่มเพาะเต็มไปด้วยการแข่งขันและความขัดแย้ง เราจะได้รับชัยชนะก็ต่อ
เมื่อเราเดิมพันด้วยชีวิต”ซูเฮาพึมพํา ความมุ่งมั่นของเขากลับมาอีกครั้ง
ไม่กี่วันต่อมา
ทะเลตะวันออก
บนเกาะนิรนามแห่งหนึ่ง ฟางหยวนนําร่างแยกกายาแห่งความฝันออกมาจากมิติช่องว่างจักรพรรดิ
“เริ่มได” ฟางหยวนกล่าว
ร่างแยกกายาแห่งความฝันพยักหน้าและสูดหายใจลึกก่อนจะระเบิดทะเลวิญญาณของตน
“ครีน…”
เมฆลอยเข้ามารวมตัวกันด้านบนพร้อมกับเสียงฟ้าร้อง
คลื่นน้ํารอบเกาะเริ่มรุนแรงขึ้นก่อนจะกลายเป็นคลื่นยักษ์
ฟางหยวนต้องการให้ร่างแยกกายาแห่งความฝันก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ
เจตจํานงสวรรค์ดูเหมือนกําลังโกรธจัด
นี่ไม่ใช่แผนการของเจตจํานงสวรรค์
สิ่งนี้ขัดต่อการจัดเตรียมของโชคชะตา มันไม่สามารถเกิดขึ้นและไม่สามารถให้อภัย!
ฟางหยวนเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยการแสดงออกที่สงบนิ่ง
หากเจตจํานงสวรรค์ไม่อนุญาต แล้วอย่างไร?
เช่นนั้นก็มาแข่งขันกัน!
มาสู้กัน!
บนโลกใบนี้ สิ่งที่น่าเชื่อถือที่สุดไม่ใช่ตระกูลหรือนิกาย ครอบครัวหรือคนรักแต่มันคือตัวของเราเอง