Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2090 เมิ้งชิวเจิ้น
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2090 เมิ้งชิวเจิ้น
ร่างแยกกายาแห่งความฝันของฟางหยวนระเบิดทําลายทะเลวิญญาณเพื่อก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ
เมื่อกระบวนการนี้เริ่มต้นขึ้น มันจะไม่สามารถหยุดไม่ว่าเขาจะประสบความสําเร็จหรือเสียชีวิต
ปราณสวรรค์และปราณพิภพไหลเข้ามาอย่างรวดเร็ว
กายาแห่งความฝันเป็นสุดยอดกายาลําดับที่สิบเอ็ด มันมีปราณมนุษย์จํานวนมหาศาลตั้งแต่กําเนิด
ปราณทั้งสามหลอมรวมกันทําให้เกิดรังไหมแสงห่อหุ้มร่างแยกกายาแห่งความฝันเอาไว้
ในช่วงเวลานี้ผู้ใช้วิญญาณต้องควบคุมพลังปราณทั้งสามให้เกิดสมดุล หากปราณมนุษย์มีมากกว่าเพียงเล็กน้อย มันจะนําไปสู่การระเบิดตัวเอง หากปราณสวรรค์มีมากกว่าเล็กน้อย ผู้ใช้วิญญาณจะสลายหายไปในอากาศ หากปราณพิภพมีมากกว่าเล็กน้อย ร่างของผู้ใช้วิญญาณจะกลายเป็นหินและขาดอากาศหายใจจนตาย
นี่เป็นขั้นตอนที่ไม่ปลอดภัย
แต่ฟางหยวนมั่นใจในร่างแยกกายาแห่งความฝัน
เขามอบความทรงจําเกี่ยวกับการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะให้แก่ร่างแยกกายาแห่งความฝันแล้ว มันไม่ได้มีเพียงความทรงจําของฟางหยวนแต่ยังรวมถึงความทรงจําของไห่เจิ้งของภาคเหนือ
เซี่ยชาของภาคใต้ ผู้อมตะจากทะเลทรายตะวันตก และคนอื่นๆ
ในประวัติศาสตร์อันยาวนานของการบ่มเพาะ ในแง่ของประสบการณ์การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ ร่างแยกกายาแห่งความฝันถือว่าอยู่ในอันดับต้นๆของทั้งหมด
ความยากลําบากในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะของร่างแยกกายาแห่งความฝันไม่ใช่ปราณทั้งสามแต่เป็นภัยพิบัติ
บนท้องฟ้า ปราณสวรรค์และปราณพิภพปั่นป่วนราวกับคลื่นสมุทร หมอกสีชมพูปกคลุมท้องฟ้าในรัศมีหลายพันลี้เอาไว้ทั้งหมด มันทั้งยิ่งใหญ่และงดงามแต่มันปลดปล่อยกลิ่นอายที่ทรงพลังบนเส้นทางแห่งความฝันออกมาอย่างชัดเจน
ร่างหลักของฟางหยวนรอคอยด้วยการแสดงออกที่เคร่งขรึม การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะของร่างแยกกายาแห่งความฝันในครั้งนี้ทําให้เจตจํานงสวรรค์โกรธจัด ดังนั้นภัยพิบัติจึงรุนแรงกว่าปกติ
“ครืน ครืน ครืน…”
เสียงฟ้าร้องดังขึ้นอย่างไม่รู้จบสิ้น
ภายในทะเลเมฆสีชมพู บอลแสงมากกว่าสิบลูกถูกส่งลงมา
บอลแสงเหล่านี้เป็นสีชมพูทั้งหมด พวกมันมีขนาดใหญ่โตราวกับภูเขา
บอลแสงสีชมพูลอยเข้าหาร่างแยกกายาแห่งความฝันอย่างช้าๆ
ฟางหยวนลงมือขัดขวางพวกมันทันที
ความคิดมากมายผุดขึ้นในใจของเขา ท่าไม้ตายอมตะถูกปลดปล่อยออกไปอย่างรวดเร็ว ดอกไม้เพลิงปิดกั้นบอลแสงสีชมพูเหล่านั้นเอาไว้
แต่ฉากต่อไปทําให้ฟางหยวนรู้สึกตกใจเล็กน้อย
บอลแสงสีชมพูบางลูกแตกเป็นฟองอากาศแสงจํานวนนับไม่ถ้วนกระจายอยู่บนท้องฟ้า
บอลแสงสีชมพูบางลูกกลืนกินทุกสิ่งที่ขวางหน้าและขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
บอลแสงสีชมพูบางลูกกลายเป็นม้าปีศาจฝันร้ายระดับสัตว์อสูรเดียวดายพุ่งเข้าหาร่างแยกกายาแห่งความฝัน
บอลแสงสีชมพูบางลูกกลายเป็นอาณาจักรแห่งความฝัน
บอลแสงสีชมพูบางลูกกลายเป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งความฝันลอยอยู่กลางอากาศ
บอลแสงสีชมพูแต่ละลูกส่งผลกระทบที่แตกต่างกัน มันกลายเป็นฉากที่สับสนวุ่นวาย หากผู้อมตะทั่วไปเผชิญหน้ากับเหตุการณ์นี้ พวกเขาจะรู้สึกกระอักกระอ่วนมาก แต่ด้วยความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของฟางหยวน เขาสามารถตอบสนองได้อย่างเหมาะสม
อันดับแรก เขาส่งฝูงอสูรปีออกมาต่อสู้กับม้าปีศาจฝันร้าย
ต่อมา เขาสะบัดมือส่งหมอกหนาทึกออกไปจับผีเสื้อแสงทั้งหมดที่เข้าใกล้ร่างแยกกายาแห่งความฝันหนัก
หลังจากนั้นเขาก็เปลี่ยนอาณาจักรแห่งความฝันเป็นกายาแห่งความฝัน
อย่างไรก็ตามอาณาจักรแห่งความฝันดิ้นรนต่อต้านการเปลี่ยนเป็นกายาแห่งความฝันอย่าง
“ดูเหมือนอาณาจักรแห่งความฝันเหล่านี้จะมีเจตจํานงสวรรค์” ฟางหยวนไม่กังวล
แม้เขาจะไม่เคยเผชิญหน้ากับภัยพิบัติบนเส้นทางแห่งความฝันมาก่อน แต่เขาอนุมานและพยากรณ์ภัยพิบัติครั้งนี้มาหลายครั้งแล้ว
นี่เป็นหนึ่งในสถานการณ์ที่เขาทํานายไว้
วิญญาณบนเส้นทางแห่งความฝันและเส้นทางแห่งปัญญาจํานวนมากถูกกระตุ้นใช้งานอยู่ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ มันคือท่าไม้ตายอมตะชําระล้างเจตจํานงสวรรค์
ท่าไม้ตายนี้ได้รับการดัดแปลงมาใหม่โดยฟางหยวน ด้วยการเพิ่มวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งความฝันเข้าไป ประสิทธิภาพในการกําจัดเจตจํานงสวรรค์ของมันจึงเพิ่มขึ้นอีกมาก
อย่างไรก็ตามท่าไม้ตายนี้กลับไม่สามารถชําระล้างเจตจํานงสวรรค์ที่อยู่ในอาณาจักรแห่งความฝันเหล่านั้น
“เกิดสิ่งใดขึ้น?” ฟางหยวนขมวดคิ้ว
ในเวลาต่อมาความคิดจํานวนมากก็พุ่งปะทะกันในใจของเขา แรงบันดาลใจปรากฏขึ้นทันที
“อาณาจักรแห่งความฝันเหล่านี้เป็นของปลอม!”
“นี่คือสาเหตุที่ท่าไม้ตายอมตะเปลี่ยนเป็นกายาแห่งความฝันไม่ประสบความสําเร็จ แม้ข้าจะชําระล้างเจตจํานงสวรรค์ ผลลัพธ์ของมันก็ยังเหมือนเดิม”
ฟางหยวนหรี่ตามองด้วยความลังเลเล็กน้อย “ฉากตรงหน้าข้า สิ่งใดจริงและสิ่งใดปลอม?”
ภัยพิบัติครั้งนี้มีทั้งภัยพิบัติจริงและภัยพิบัติปลอม
แต่ฟางหยวนไม่สามารถแยกแยะพวกมัน
นี่คือพลังอํานาจของเส้นทางแห่งความฝัน กระทั่งร่างหลักของฟางหยวนยังตกลงสู่หลุมพรางโดยไม่รู้ตัว
“ในความเป็นจริงการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะของร่างแยกกายาแห่งความฝันไม่สามารถเหนี่ยวนำภัยพิบัติที่รุนแรงเช่นนี้ มันมีทั้งสัตว์อสูรเดียวดายและวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งความฝัน”
ภัยพิบัติบนเส้นทางแห่งความฝันครั้งนี้ค่อนข้างแปลก มันส่งผลกระทบต่อความคิดและจิตใจของฟางหยวนอย่างเงียบๆ
เนื่องจากวิญญาณอมตะเกราะแห่งความฝันถูกมอบให้ร่างแยกกายาแห่งความฝันไปแล้ว ดังนั้นฟางหยวนจึงต้องใช้ท่าไม้ตายผสมของเขา
ด้วยการใช้วิญญาณอมตะสร้างฝันเป็นแกนกลาง แสงสีชมพูส่องประกายขึ้นบนร่างกายของเขา มันสามารถป้องกันพลังอํานาจบางอย่างบนเส้นทางแห่งความฝัน
ฟางหยวนถอนหายใจด้วยความโล่งออกเมื่อเขาสามารถคิดต่อ
แต่นั่นไม่ได้ช่วยบรรเทาภัยพิบัติที่ร่างแยกกายาแห่งความฝันกําลังเผชิญอยู่
ในไม่ช้าฟางหยวนก็ตระหนักว่าเขาไม่สามารถแยกแยะความจริงและภาพลวงตา
หากฟางหยวนเคลื่อนไหวโดยไม่ระวัง มันอาจเป็นการฆ่าร่างแยกกายาแห่งความฝัน
ในกรณีนี้วิธีป้องกันบนเส้นทางแห่งความฝันกลายเป็นสิ่งล้ําค่าที่สุด
ฟางหยวนไม่ขยับ เขาปล่อยให้ภัยพิบัติบนเส้นทางแห่งความฝันโจมตีเขา เขาเพียงใช้ท่าไม้ตายผสมป้องกันตัวเท่านั้น
สําหรับร่างแยกกายาแห่งความฝัน เขาได้รับการปกป้องจากวิญญาณอมตะเกราะแห่งความฝัน
ร่างแยกกายาแห่งความฝันไม่มีร่างทารกอมตะ เขาไม่สามารถใช้ท่าไม้ตายผสมเช่นร่างหลักของฟางหยวน
ร่างแยกกายาแห่งความฝันยังต้องควบคุมพลังปราณทั้งสามให้เกิดเสถียรภาพ เขาไม่สามารถเบี่ยงเบนความสนใจไปกับการกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งความฝัน
ความจริงก็คือฟางหยวนยังเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งความฝัน เขายังไม่สามารถสร้างท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งความฝันที่เหมาะสมกับร่างแยกกายาแห่งความฝันได้ในระยะเวลาสั้นๆ
ดังนั้นร่างแยกกายาแห่งความฝันจึงทําได้เพียงกระตุ้นใช้งานวิญญาณอมตะเกราะแห่งความฝันโดยตรงเท่านั้น
แม่วิญญาณอมตะเกราะแห่งความฝันจะเป็นวิญญาณอมตะระดับเจ็ด แต่ร่างแยกกายาแห่งความฝันมีพลังงานอมตะของร่างหลัก
ฟางหยวนอดทนมาก เขาเฝ้ามองอาณาจักรแห่งความฝันเคลื่อนที่เข้ากลืนกินร่างแยกกายาแห่งความฝันและเฝ้ามองภัยพิบัติบนเส้นทางแห่งความฝันโจมตีร่างแยกกายาแห่งความฝันอย่างไม่รู้จบสิ้น
ภัยพิบัติบนเส้นทางแห่งความฝันกินเวลานานกว่าสี่สิบห้านาทีก่อนที่เมฆสีชมพูบนท้องฟ้าจะสลายไป
สวรรค์พิภพกลับมาสว่างสดใสอีกครั้ง
ม้าปีศาจฝันร้ายสลายหายไป แท้จริงแล้วมันเป็นเพียงภาพลวงตา
ดังคาด รังไหมแสงอยู่ไม่ไกลจากฟางหยวน มันอยู่ทางซ้ายมือของเขา การค้นพบนี้ทําให้หัวใจของฟางหยวนกลายเป็นเย็นเยียบ รังไหมแสงอยู่ในตําแหน่งที่ อันตรายมาก หากฟางหยวนปลดปล่อยท่าไม้ตายใดๆออกไป รังไหมแสงจะถูกโจมตีอย่างแน่นอน หากเป็นเช่นนั้น ฟางหยวนจะกลายเป็นฆาตกรที่สังหารร่างแยกกายาแห่งความฝัน!
ภัยพิบัติบนเส้นทางแห่งความฝันอันตรายมาก
หากฟางหยวนตัดสินใจเสี่ยงโจมตีภัยพิบัติบนเส้นทางแห่งความฝันก่อนหน้านี้ ร่างหลักของเขาอาจเป็นอุปสรรคที่ยากลําบากที่สุดของร่างแยกกายาแห่งความฝัน โชคดีที่ฟางหยวนระวังตัว
มากและปล่อยให้ร่างแยกกายาแห่งความฝันพึ่งพาวิญญาณอมตะเกราะแห่งความฝันเท่านั้น
แต่ถึงกระนั้นการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะครั้งนี้ก็ยังอันตรายมาก เขาเกือบล้มเหลว
“ภัยพิบัติบนเส้นทางแห่งความฝันนี้สามารถส่งผลกระทบต่อร่างหลักของข้า ข้าจะเรียกมันว่าภัยพิบัติความฝันโกลาหล” แม้ฟางหยวนจะมีท่าไม้ตายผสมและสามารถใช้มันในการตรวจสอบ
แต่เขากลับไม่พบสิ่งใด
กุญแจสําคัญคือเขามีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งความฝันน้อยเกินไป
วิญญาณอมตะเกราะแห่งความฝันอยู่กับร่างแยกกายาแห่งความฝัน ร่างหลักของเขามีเพียงวิญญาณอมตะสร้างฝันระดับเจ็ดและวิญญาณอมตะป้ายค่าสั่งแห่งความฝันระดับแปด
การใช้วิญญาณอมตะป้ายค่าสั่งแห่งความฝันเพียงลําพัง จะทําให้ผู้อมตะเสียชีวิตเพราะมันใช้รากฐานทั้งหมดของผู้อมตะเป็นเชื้อเพลิงเพื่อสร้างอาณาจักรแห่งความฝัน
วิญญาณอมตะป้ายคําสั่งแห่งความฝันใช้งานยากมาก การใช้มันเป็นแกนกลางของท่าไม้ตายอมตะก็ยากเช่นกัน สําหรับฟางหยวน วิญญาณอมตะสร้างฝันระดับเจ็ดยังมีประโยชน์มากกว่าวิญญาณอมตะป้ายคําสั่งแห่งความฝันระดับแปด
ปราณสวรรค์ ปราณพิภพ และปราณมนุษย์รวมตัวเป็นกลุ่มก้อนพลังปราณ
ร่างแยกกายาแห่งความฝันโยนวิญญาณผีเสื้อแห่งความฝันระดับห้าเข้าไป
ในเวลาต่อมากลุ่มก้อนพลังปราณก็เกิดการระเบิดและกลายเป็นมิติช่องว่างอมตะ
มิติช่องว่างอมตะดูดซับปราณสวรรค์และปราณพิภพที่อยู่รอบๆเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง
หลังจากชั่วครู่แดนศักดิ์สิทธิ์ก็ถือกําเนิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ แม้มันจะไม่สามารถเปรียบเทียบกับมิติช่องว่างจักรพรรดิ แต่มันยังเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุดเทียบเท่ากับแดนศักดิ์สิทธิ์ของสิบสุดยอดกายา
ปราณสวรรค์พิภพส่วนหนึ่งยังคงอยู่ ร่างแยกกายาแห่งความฝันใช้โอกาสนี้หลอมรวมวิญญาณหลักของเขา
วิญญาณผีเสื้อแห่งความฝันที่เขาโยนเข้าไปก่อนหน้านี้ก็คือวิญญาณหลักของร่างแยกกายาแห่งความฝัน
ระหว่างการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะก่อนหน้านี้ ร่างแยกกายาแห่งความฝันสามารถเรียนรู้ความลับมากมายบนเส้นทางแห่งความฝัน เคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะผีเสื้อแห่งความฝันเป็นหนึ่งในนั้น
วิญญาณผีเสื้อแห่งความฝันประสบความสําเร็จในการก้าวเข้าสู่ระดับหก!
ในที่สุดฟางหยวนก็มีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งความฝันทั้งหมดสี่ดวง!
หลังจากวิญญาณอมตะถือกําเนิด ภัยพิบัติบนเส้นทางแห่งความฝันก็ปรากฏขึ้นในมิติช่องว่างของร่างแยกกายาแห่งความฝันอีกครั้ง แต่พลังอํานาจของมันต่ํากว่าภัยพิบัติก่อนหน้านี้อย่างมาก
คราวนี้ร่างหลักของฟางหยวนไม่จําเป็นต้องทําสิ่งใดเลย
ฟางหยวนส่งวิญญาณอมตะสร้างฝันให้ร่างแยกกายาแห่งความฝันและปล่อยให้เขาใช้
วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งความฝันทั้งสามดวงต่อต้านภัยพิบัติ
“หมอกชวนฝันของแขกต่างโลก”
“เรียกดวงวิญญาณจากความฝันในยามค่ําคืนของข้าออกมา”
“แม้จะไม่สามารถคงอยู่ถึงร้อยปี”
“ข้าก็ยังจะไล่ล่าและค้นหาความจริงในความฝัน”
หลังจากก้าวข้ามภัยพิบัติ ร่างแยกกายาแห่งความฝันท่องบทกวีก่อนจะวางฝ่ามือไว้บนหน้าอก
และโค้งค่านับร่างหลักของเขา “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ชื่อของข้าคือเมิ้งชิวเจิ้น”
ฟางหยวนหัวเราะ “เป็นชื่อที่ดี เมิ้งชิวเจิ้น ให้ข้าดูมิติช่องว่างบนเส้นทางแห่งความฝันของเจ้า” ฟางหยวนรู้สึกสนใจแดนศักดิ์สิทธิ์บนเส้นทางแห่งความฝันเป็นอย่างมาก
มันเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุดอย่างไม่ต้องสงสัย แต่สิ่งที่ฟางหยวนรู้สึกประทับใจมากที่สุด
คือสภาพแวดล้อมของมัน
“นี่เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการหล่อเลี้ยงทรัพยากรอมตะบนเส้นทางแห่งความฝัน มันมี
ศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ มันไม่ทําให้ข้าผิดหวังจริงๆ” หลังจากสังเกตบางอย่าง ฟางหยวนรู้สึกพอใจมาก
การขาดทรัพยากรอมตะบนเส้นทางแห่งความฝันทําให้เขาพบกับความยากลําบากเสมอ
ด้วยมิติช่องว่างบนเส้นทางแห่งความฝันนี้ เขาจะมีรากฐานในการพัฒนาแหล่งทรัพยากรอมตะบนเส้นทางแห่งความฝัน
ตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนาน การพัฒนาเส้นทางสายใหม่ที่โดดเด่นมักเริ่มต้นจากการถือกําเนิดของวิญญาณอมตะบนเส้นทางสายนั้น ด้วยสภาพแวดล้อมที่เป็นเอกลักษณ์ วิญญาณอมตะจะสามารถเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยการ
หล่อเลี้ยงจากทรัพยากรอมตะจํานวนมากบนเส้นทางสายนั้น ขณะเดียวกันทรัพยากรอมตะเหล่านี้จะไหลเข้าสู่ตลาดและผลักดันให้เส้นทางสายนั้นเจริญรุ่งเรืองและเติบโตขึ้น