Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2091 ดวงตาที่สว่างไสว
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2091 ดวงตาที่สว่างไสว
“อย่าปล่อยให้เขานําวิญญาณอมตะจากไป!”
“วิญญาณอมตะเป็นของข้า เตี๋ยวกุ้ยเหมิน อย่าคิดว่าจะสามารถจากไป!”
ฟงจินฮวงกําลังถูกไล่ล่าและมีสองทางเลือกอยู่ด้านหน้านาง
มีเส้นทางสายเดียวที่อนุญาตให้นางหลบหนี อีกเส้นทางหนึ่งจะนํานางไปสู่ฐานทัพของศัตรู
ฟงจินฮวงไม่ลังเล นางเลือกทางซ้ายและรีบวิ่งออกไป
ด้วยเสียงระเบิดที่ดังสนั่น ภาพด้านหน้านางกลายเป็นสว่างไสว
ฟงจินฮวงมึนงงเล็กน้อย ในไม่ช้านางก็พบว่าดวงวิญญาณของนางกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงเรียบร้อยแล้ว ขณะที่อาณาจักรแห่งความฝันหายไป
“ข้าประสบความสําเร็จ! ดังคาด วิญญาณอมตะป่าบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณเป็นกุญแจ!” ฟงจินฮวงแสดงออกด้วยความตื่นเต้น “คราวนี้ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของข้าเพิ่มขึ้น
ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งความฝันระดับผู้เชี่ยวชาญมีประโยชน์ในการสํารวจอาณาจักรแห่งความฝันจริงๆ!”
ตั้งแต่เหตุการณ์ในห้องหลอมรวม ฟงจินฮวงได้รับประโยชน์บางอย่างและกลายเป็นผู้ เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งความฝัน
อาณาจักรแห่งความฝันก่อนหน้านี้เป็นความพยายามสํารวจครั้งแรกของฟงจินฮวง นางไม่รู้ว่าเส้นทางสายเป็นเส้นทางที่ถูกต้อง แต่ในช่วงเวลาสําคัญสัญชาตญาณช่วยให้นางเลือกเส้นทางที่ถูก
“น่าเสียดายที่ข้าไม่สามารถควบคุมสัญชาตญาณที่ได้รับจากความสําเร็จบนเส้นทางแห่งความฝัน มันได้ผลบางครั้งเท่านั้น”
“หากข้ากลายเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งความฝัน สัญชาตญาณนี้จะแข็งแกร่งขึ้นอีกหลายเท่า ข้ายังสามารถใช้วิญญาณบนเส้นทางแห่งความฝันเพื่อสร้างท่าไม้ตายต่างๆ”
ฟงจินฮวงถอนหายใจ
การก้าวเข้าสู่ระดับผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งความฝันเป็นประสบการณ์ที่น่าเหลือเชื่อสําหรับนางแล้ว นางโชคดีที่ได้รับความก้าวหน้านี้มาจากการเผชิญหน้ากับอันตรายร้ายแรง ฟงจินฮวงรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าความเข้าใจเกี่ยวกับเส้นทางแห่งความฝันของนางเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ในระดับถัดไป นางยังต้องสะสมรากฐานอีกมากและใช้เวลาอีกนาน
ฟงจินฮวงลุกขึ้นและออกจากห้องลับ
เทพธิดาไปชิงท่าอาหารเตรียมไว้แล้ว
เมื่อเห็นฟงจินฮวง เทพธิดาไปชิงเผยรอยยิ้ม “ฮวงเอ๋อ การฝึกฝนของเจ้าในวันนี้เสร็จสิ้นแล้วงั้นหรือ? พิจารณาจากการแสดงออกของเจ้า ดูเหมือนเจ้าจะประสบความสําเร็จ”
“แน่นอน ท่านแม่ ตอนนี้ข้ากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งความฝันแล้ว มันมีประโยชน์มากในการสํารวจอาณาจักรแห่งความฝัน!” ฟงจินฮวงนั่งลงและบรรยายฉากสุดท้ายของอาณาจักรแห่งความฝันที่นางพึ่งสํารวจมาก่อนหน้านี้ “หากไม่ใช่เพราะสัญชาตญาณของข้า ดวงวิญญาณของข้าคงได้รับบาดเจ็บสาหัสไปแล้ว”
รอยยิ้มของเทพธิดาไปชิงจางหายไป “ข้าตรวจสอบมาแล้ว สถานการณ์ค่อนข้างชัดเจน คนที่วางแผนต่อต้านเจ้าคือหลี่จุนอิงกับซูเฮา หลี่จุนอิงกลายเป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งมายา
ความสําเร็จของนางอนุญาตให้นางดัดแปลงทรัพยากรของเจ้าโดยไม่มีผู้ใดล่วงรู้ แต่สุดท้ายจ้าวเหลียนหยุนกลับไม่ได้ทําร้ายเจ้า ตรงข้าม นางช่วยเจ้า นี่ทําให้ข้าเห็นปีศาจต่างโลกผู้นี้ในแง่มุม อื่น ไม่แปลกใจเลยที่นางสามารถเป็นผู้นําคนปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ มันไม่ใช่เพียงเพราะนางเป็นผู้โชคดีที่ได้รับการยอมรับจากวิญญาณแห่งความรักเท่านั้น”
ฟงจินฮวงรู้สึกซับซ้อน
นางหวนนึกถึงฉากเหตุการณ์ในห้องลับและยังรู้สึกหวาดกลัวอยู่ในใจ
ย้อนกลับไปในเวลานั้น นางไม่สามารถดูแลตัวเอง นางเป็นปลาที่วางอยู่บนเขียง จ้าวเหลียนหยุนสามารถตัดสินชีวิตและความตายของนาง
แม้ฟงจินฮวงจะผ่านมันมาได้ สถานการณ์นั้นก็ยังส่งผลกระทบต่อจิตใจของนางเป็นอย่างมาก
เทพธิดาไปชิงกล่าวต่อ “ฮวงเอ๋อ ข้าตรวจสอบร่างกายของเจ้าแล้วและไม่พบปัญหา จ้าวเหลียนหยุนช่วยเจ้าไว้จริงๆ นางร้องขอสิ่งใดหรือไม่?”
ฟงจินฮวงส่ายศีรษะ “แม้นางจะไม่กล่าวออกมา แต่ข้าสามารถคาดเดาแผนการของนาง ท้ายที่สุดเป้าหมายของนางก็ชัดเจนมาก ท่านแม่ลืมเรื่องนี้และเริ่มกินข้าวกันเถอะ! หลังจากมื้อนี้ ข้ายังต้องสํารวจอาณาจักรแห่งความฝันต่อไป”
เทพธิดาไปชิงพยักหน้า “การฝึกฝนทั้งวันทั้งคืนโดยไม่พักผ่อนไม่ใช่วิธีที่ดี”
“ท่านแม่” ฟงจินฮวงขัดจังหวะ “ข้ารู้ว่าข้ากําลังทําสิ่งใดอยู่และข้าก็รู้ว่าข้าต้องแข็งแกร่งขึ้น ข้าจะสามารถปกป้องท่านเมื่อข้าแข็งแกร่งขึ้น ข้าไม่ต้องการเป็นคนที่ถูกปกป้องตลอดเวลา มีเพียงการแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้นที่ข้าจะสามารถเติมเต็มความปรารถนาของท่านอาจารย์และกลายเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งความฝัน มีเพียงการแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้นที่จะทําให้คนเช่นจ้าวเหลียนหยุน
และฟางหยวนไม่สามารถกลั่นแกล้งและวางแผนต่อต้านข้า มีเพียงการแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้นที่ข้าจะสามารถเผชิญหน้ากับท่านพ่อและต่อสู้กับเขา เพื่อแสดงให้เขาเห็นเป้าหมายที่แท้จริงของข้า!”
เทพธิดาไปชิงมึนงงไปชั่วครู่
ดวงตาของฟงจินฮวงสว่างไสวมาก
เทพธิดาไปชิงระงับความกังวลของนางและเผยรอยยิ้ม “ฮวงเอ๋อ เมื่อเจ้าตัดสินใจแล้วก็จงทำมัน ข้าจะสนับสนุนเจ้าอย่างเต็มที่ หากเจ้าต้องการสิ่งใด ข้าจะพยายามช่วยเหลือเจ้าอย่างดีที่สุด”
ฟงจินฮวงลุกขึ้นจากเก้าอี้และจับมือแม่ของนาง “ท่านแม่ ข้ารู้ว่าท่านรักข้า ท่านมีวิธีใดที่จะทําให้เราได้รับวิญญาณความเด็ดเดี่ยวหรือไม่? ข้าต้องการวิญญาณความเด็ดเดี่ยวจํานวนมากในเวลานี้”
เทพธิดาไปชิงเผยรอยยิ้มขมขื่น “โอ้ ฮวงเอ๋อ คําขอนี้มากเกินไปสําหรับข้า วิญญาณความเด็ดเดี่ยว มีต้นกําเนิดมาจากภูเขาตงฮันและมันอยู่ในมือของฟางหยวน เขาหยุดขายวิญญาณความเด็ดเดี่ยวอย่างเปิดเผยมานานแล้ว วิญญาณความเด็ดเดี่ยวในท้องตลาดเป็นเพียงสินค้าคงคลังที่เหลืออยู่ มันมีปริมาณไม่มากขณะที่ราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
ฟงจินฮวงถอนหายใจ “มีหลายวิธีที่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บของดวงวิญญาณแต่พวกมันมีผลข้างเคียงบางอย่าง พวกมันไม่สามารถเปรียบเทียบกับวิญญาณความเด็ดเดี่ยว ข้าต้องกลายเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งความฝัน หากดวงวิญญาณของข้ามีพลังงานแห่งเต๋าที่แตกต่างกันมากเกินไป เมื่อเวลานั้นมาถึง พวกมันจะจํากัดศักยภาพในอนาคตของข้า”
เทพธิดาไปชิงปลอบใจฟงจินฮวง “ข้าจะทําให้ดีที่สุด เห้อ…หากเพียงพ่อของเจ้าอยู่ที่นี่…” การแสดงออกของฟงจินฮวงเปลี่ยนแปลงไป นางกล่าวด้วยความไม่พอใจ “ท่านแม่ อย่าพูดถึงเขาต่อหน้าข้า!”
“ได้ ได้ ข้าไม่พูดแล้ว”
ในเวลาเดียวกัน ยอดเขาแห่งความรัก
“ผู้ใดจะคิดว่านิกายจะส่งท่านมาโน้มน้าวข้า” จ้าวเหลียนหยุนมองคนที่อยู่ตรงข้ามด้วยรอยยิ้ม ปู้เจิ้นซือเผยรอยยิ้มขมขื่น “เทพธิดา โปรดอย่างโกรธ นี่เป็นงานที่ข้าได้รับมอบหมาย ข้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องมาที่นี่และพูดคุยกับท่าน”
จ้าวเหลียนหยุนเผยรอยยิ้มกว้าง “ไม่จําเป็นต้องสุภาพเกินไป ย้อนกลับไปเราเดินทางไปที่ภาคเหนือและต่อสู้บนภูเขาหิมะด้วยกัน หากไม่ได้รับการปกป้องจากท่าน ข้าคงตายไปแล้ว เชิญเข้ามา ข้าเตรียมชาไว้แล้ว”
ปู้เจิ้นซือเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งภูตผี ย้อนกลับไปเขาได้รับคําสั่งจากนิกายให้ปกป้องจ้าวเหลียนหยุน เขาแสดงผลงานได้ดีในแม่น้ําหวนคืนและได้รับการหล่อเลี้ยงจากนิกาย หลังจากกลับมา ตัวตนระดับสูงของนิกายคฤหาสน์วิญญาณพิจารณาถึงประเด็นนี้และส่งปู้เจิ้นซือมาที่นี่เพื่อ
โน้มน้าวจ้าวเหลียนหยุนให้หยุดการกระทําของนาง
ปู้เจิ้นซือมาถึงในช่วงเย็น เมื่อการพูดคุยเสร็จสิ้น ดวงจันทร์ก็ปรากฏบนท้องฟ้าแล้ว “เทพธิดาไม่จําเป็นต้องส่งข้า ข้าขอตัวก่อน” ปู้เจิ้นซือป๋องหมัดกล่าว ใบหน้าของเขาค่อนข้างมีความสุข การสนทนาครั้งนี้เป็นไปได้อย่างราบรื่น จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้ต่อต้านดังที่เขาคาดไว้จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ลาก่อน”
ปู้เจิ้นซือกล่าวอย่างจริงใจ “เทพธิดา ข้าเข้าใจสถานการณ์และปัญหาของท่านแล้ว ข้าจะไปแจ้งผู้อาวุโสสูงสุดล่าดับที่หนึ่ง โปรดอย่ากังวล”
จ้าวเหลียนหยุนยิ้ม “เช่นนั้นข้าก็ต้องรบกวนท่านแล้ว”
จ้าวเหลียนหยุนมองปู้เจิ้นซือจากไป แม้ร่างของเขาจะหายไปในกลุ่มเมฆแล้ว แต่นางยังยืนอยู่ที่นั่น
นางเป็นผู้นํานิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน สถานะของนางสูงมาก แม้แต่ผู้อมตะระดับเจ็ด
เช่นปู้เจิ้นซือยังต้องแสดงออกอย่างสุภาพต่อนาง
นางได้รับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ นางควบคุมวิญญาณแห่งความรัก นางมีอ่านาจออกค่าสั่งผู้คนมากมาย มันไม่ง่ายเลยสําหรับปีศาจต่างโลกเช่นนางที่จะมาถึงจุดนี้
อย่างไรก็ตามไม่มีสิ่งใดที่ทําให้จ้าวเหลียนหยุนมีความสุข
“ตอนนี้ข้ากลายเป็นผู้อมตะแล้ว แต่เจ้าไม่ได้อยู่เคียงข้างข้า เห้อ…การเป็นผู้อมตะไม่ได้ดีไปกว่าการเป็นมนุษย์ธรรมดา…”
ห้าภูมิภาคและสองสวรรค์ไม่ใช่บ้านเกิดของนาง นางไม่มีความสุขในสถานที่แห่งนี้
นางเคยได้รับความโปรดปรานจากโชค นางได้พบหม่าหงหยุนและฝากหัวใจไว้กับเขา
แต่โชคชะตาโหดร้ายเกินไป นางถูกแยกจากหม่าหงหยุน นางถูกขายสู่ท้องตลาดขณะที่ฟงจิวเก้อซื้อนางมา นางเข้าร่วมในการต่อสู้ที่แม่น้ําหวนคืน นางเฝ้ามองหม่าหงหยุนเสียชีวิตในมือของฟางหยวน
นางกลายเป็นตัวหมากเบี้ยที่ถูกใช้งานโดยซูเฮาและหลี่จุนอิง นางเคยคุกเข่าขอความช่วยเหลือจากฟงจินฮวง นางทําทุกวิถีทางเพื่อกลายเป็นผู้นํานิกายรุ่นปัจจุบัน
นางพบปัญหาที่ยอดเขามรดกลับ ในเวลานั้นผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณเย็นชาต่อนางมาก
หลังจากได้ยินข่าวการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะของฟางเจิ้ง นางไปเยี่ยมเขาและมอบของขวัญให้เขา
นางช่วยฟางเจิ้งฝึกฝนบนเส้นทางแห่งเลือด
ด้วยความช่วยเหลือจากซูเฮาและหลี่จุนอิง นางกลายเป็นเจ้าของยอดเขาแห่งความรัก นางรู้แผนการของคนทั้งสอง นางต้องช่วยพวกเขากําจัดฟงจินฮวง
แต่ไม่เพียงฟงจินฮวงจะไม่ตาย จ้าวเหลียนหยุนยังช่วยชีวิตนาง
นี่คือแผนการของจ้าวเหลียนหยุน
‘ซูเฮาและหลี่จุนอิงใช้ประโยชน์จากข้า แต่ข้าสามารถใช้ความเกลียดชังของพวกเขาที่มีต่อฟงจิวเก้อจัดการพวกเขาเอง! หากพวกเขาต้องการจัดการฟงจิวเก้อ พวกเขาต้องพึ่งพาข้า ข้าจะใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้และเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โชคดีที่ข้ามีผนึกศักดิ์สิทธิ์ มันช่วยให้ข้าสามารถเผชิญหน้ากับผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาได้อย่างง่ายดาย’
‘ข้ากับปู้เจิ้นซือเคยต่อสู้ร่วมกันมาก่อน เราสามารถเป็นพันธมิตรเพื่อผลประโยชน์” ‘ฟางเจิ้งกลายเป็นเจ้าของหอพิพากษาปีศาจไปแล้ว การลงทุนของข้าคุ้มค่าจริงๆ
‘และฟงจินฮวง ครั้งนี้นางติดหนี้บุญคุณข้า บางทีเราอาจสามารถสร้างความร่วมมือเพื่อจัดการฟางหยวน ท้ายที่สุดเขาก็คว้าแดนศักดิ์สิทธิ์ไปหูไปจากนาง’
จ้าวเหลียนหยุนวางแผนและค่อยๆสร้างเครือข่ายของนางเอง
เป้าหมายของนางมีเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือการนําดวงวิญญาณของหม่าหงหยุนกลับคืนจากฟางหยวนและชุบชีวิตเขา!
“ฟางหยวน…” ‘ จ้าวเหลียนหยุนพึมพําา ใบหน้าของนางกลายเป็นกังวล
ฟางหยวนเหมือนหมอกควันที่ปกคลุมท้องฟ้า เขาเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่ เปรียบเทียบกับจ้าวเหลืยนหยุน นางไร้นัยสําคัญอย่างสมบูรณ์
เป้าหมายของนางเหมือนดวงจันทร์บนท้องฟ้า เมฆปกคลุมและปิดซ่อนทุกสิ่งจากสายตาของนาง
นางมองไม่เห็นเส้นทางข้างหน้าและไม่เห็นจุดหมาย
จ้าวเหลียนหยุนกัดฟัน ร่างกายของนางเหมือนดอกหญ้าที่บอบบางซึ่งสามารถถูกพัดปลิวไปตามสายลมได้ตลอดเวลา
แต่ดวงตาของนางยังสว่างไสว
“ข้าต้องอดทน!”
“ข้าจะไม่ยอมแพ้!” “หากข้าล้มเหลว ผู้ใดจะช่วยหงหยุน!”
“ในโลกใบนี้เขามีเพียงข้าและข้าท่าได้เพียงพึ่งพาตนเองเท่านั้น!”
“พรุ่งนี้ข้าจะไปที่เทือกเขาวายุวิปโยค ร่องรอยของการต่อสู้ยังอยู่ที่นั่น ข้าสามารถตรวจสอบข้อมูลและสรุปความแข็งแกร่งในปัจจุบันของฟางหยวน!”