Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2092 หวังเซียวเอ๋อ
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2092 หวังเซียวเอ๋อ
ในถ้ําธรรมดาแห่งหนึ่งสี่ผู้อนาจารพักอยู่ที่นี่
พวกเขาเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสี่ของภาคกลางที่ปล้นสวาทและชื่นใจหญิงสาวมามากมายในเวลานี้ชายทั้งสี่กําลังยืนเป็นวงกลมอยู่รอบๆเด็กหนุ่มผู้หนึ่งที่นอนหมดสติอยู่บนพื้น
“เหตุใดเขายังไม่ตื่น?”
“เขานอนหลับมาหลายวันแล้วเขาไม่ได้กินดื่มแต่เขายังเต็มไปด้วยพลังชีวิต”
“พวกเจ้าคิดว่าเขาเป็นผู้อมตะหรือไม่?”คนทั้งสี่กําลังพูดถึงหวังเซียวเอ๋อ
หวังเซียวเอ๋อเป็นเด็กเลี้ยงแกะธรรมดาแต่ชีวิตโหดร้ายกับเขามาก ระหว่างการต่อสู้ไล่ล่าฟางหยวนบ้านของเขาถูกทําลายล้าง สมาชิกในครอบครัวของเขาเสียชีวิตทั้งหมด
แต่ด้วยเหตุผลบางประการหวังเซียวเอ๋อกลับไม่ตายเขาตกอยู่ในสภาพที่แปลกประหลาดจนถึงตอนนี้
“ลองคิดดู ตอนที่เราพบเขาครั้งแรกต้นหญ้าและดอกไม้เติบโตขึ้นและเหี่ยวแห้งตายอย่างต่อเนื่องมันเป็นปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาดเขาอาจเป็นผู้อมตะที่เข้าร่วมในการต่อสู้ครั้งนั้นเขาอาจได้รับบาดเจ็บขณะที่ศัตรูคิดว่าเขาตายไปแล้วแต่ในความเป็นจริงเขากลับใช้วิธีการบางอย่าง
เพื่อรักษาชีวิตของเขาเอาไว้อย่างไรก็ตามมันทําให้เขาตกอยู่ในสภาพนี้” อวี้ป๋ากวงพยายาม
เชื่อมโยง
พวกเขาเป็นเพียงผู้ใช้วิญญาณ พวกเขาไม่รู้ข้อมูลที่วังสวรรค์เผยแพร่ออกไปในสวรรค์สีเหลือง
“หากเขาเป็นผู้อมตะ เหตุใดผู้อมตะถึงแต่งตัวเช่นนี้?” ซือเปาชี้ไปที่เสื้อผ้าของหวังเซียวเอ๋อ
เสื้อผ้าของหวังเซียวเอ๋อเหมือนผ้าขี้ริ้วเห็นได้ชัดว่าเขามีสถานะต่ำที่สุดในสังคมเขาไม่มีคุณสมบัติแม้แต่จะเป็นผู้ใช้วิญญาณ
ฟานชุนเหยาลูบคางของตน“หากเราสามารถค้นวิญญาณของเขา เราจะรู้ความจริงอย่างไรก็ตามเราพยายามค้นวิญญาณเขามาตลอดทั้งวันแต่มันกลับไร้ประโยชน์นี่คือสิ่งที่ผู้ใช้วิญญาณไม่สามารถทําได้
วิธีคํานวิญญาณแพร่กระจายออกไปในวงกว้างตั้งแต่เทพปีศาจจิตวิญญาณสร้างวิธีนี้ขึ้นมาผู้ใช้วิญญาณปีศาจที่ไม่รู้จักวิธีค้นวิญญาณถือเป็นความอัปยศของพวกเขา
คนทั้งสี่กัดฟัน พวกเขาไม่เคยพบสถานการณ์ที่แปลกประหลาดเช่นนี้พวกเขาไม่รู้ว่าควรทําอย่างไร
ดวงตาทั้งแปดจ้องมองหวังเซียวเอ๋ออย่างจริงจัง
เฉินหยินเต๋าถอนหายใจ“เห้อ…ดูสภาพของเขา หากนี่เป็นผู้อมตะหญิง…”
อีกสามคนมองหน้ากัน
“ฮ่าฮ่าฮ่า” ในเวลาต่อมาพวกเขาก็หัวเราะอย่างรู้เท่าทันกัน
หลังจากเงียบไปชั่วครู่ซือเปาก็ไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไปเขาตะโกน“บัดซบ!การรอคอยเช่นนี้ไม่มีประโยชน์ข้าจะลงมือ!”
อ
“เจ้าจะทําสิ่งใด?”ฟานชุนเหยาถาม
ซือเปาหัวเราะ“ท่าเช่นนี้!”
ก่อนที่เขาจะกล่าวจบประโยคเขาก็โจมตีออกไปแล้วเขายิงเปลวเพลิงสีแดงไปที่หวังเซียวเอ๋
“เจ้าบ้าไปแล้วงั้นหรือ!?” คนอื่นๆตกใจ
แต่ในไม่ช้าพวกเขาก็เห็นปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาดอีกครั้ง
พวกเขาเห็นเส้นด้ายแสงสีเงินส่องประกายขึ้นรอบๆหวังเซียวเอ๋อ เส้นด้ายแสงสีเงินปิดกั้นเปลวเพลิงสีแดงของซือเปาและทําให้มันสลายหายไป
ซือเปาและคนอื่นๆตกตะลึง ทุกคนรู้ว่านี่เป็นวิธีการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของซือเปาแต่หวังเซียวเอ๋อกลับสามารถจัดการมันได้อย่างง่ายดาย
“พิจารณาจากกลิ่นอายของเขาเห็นได้ชัดว่าเขาเป็นมนุษย์ธรรมดา”
“แต่เขาสามารถป้องกันการโจมตีของซือเปาขณะนอนหลับ นี่คือสิ่งที่แม้แต่ผู้ใช้วิญญาณระดับหายังไม่สามารถหาได
“หากเขาไม่ใช่ผู้อมตะ เขาจะเป็นสิ่งใดนี่ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ใช้วิญญาณจะสามารถทําได้!”
“เดี๋ยว! เปลือกตาของเขาขยับ!”
ทั้งสี่ตกใน ถ้ําตกอยู่ในความเงียบงัน
หวังเซียวเอ่อค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น วิสัยทัศน์ของเขายังพร่ามัว จิตใจของเขายุ่งเหยิงเขาลุกขึ้นนั่ง
ผู้ใช้วิญญาณทั้งสี่คุกเข่าลงบนพื้นและตะโกน “ท่านผู้อมตะ โปรดไว้ชีวิตพวกเราด้วย!”
หวังเซียวเอ๋อตกใจ“พวกเจ้าเป็นผู้ใด?ที่นี่ที่ไหน?เดี๋ยว! ข้าคือผู้ใด?”หวังเซียวเอ๋อจับศีรษะของเขาและแสดงความเจ็บปวดขึ้นบนใบหน้า
ผู้ใช้วิญญาณปีศาจทั้งสี่มองหน้ากัน ความคิดที่คล้ายคลึงกันปรากฏขึ้นในใจของพวกเขา
‘อย่าบอกว่าผู้อมตะ…สูญเสียความทรงจ่างั้นหรือ?”
หลายวันต่อมา
ในหุบเขา ยามค่ําคืน กองไฟกําลังลุกไหม้
“มาดื่มสุรากันเถอะ” เฉินหยินเต๋าวางมือบนไหล่ของหวังเซียวเอ๋อขณะส่งสุราให้ฝ่ายหลังใบหน้าของหวังเซียวเอ๋อกลายเป็นสีแดงจากการดื่มสุราจํานวนมาก
หลังจากนั้นซือเปาก็ส่งเนื้อย่างให้กับหวังเซียวเอ๋อ
“มากินเนื้อกันเถอะ” ซือเปากล่าวและรู้สึกอยากอาเจียนอยู่ภายใน คนร้ายผู้นี้ไม่เคยใจดีกับผู้ใดมาก่อน
หวังเซียวเอ๋อไม่เพียงดูร่าเริงขึ้นแต่เสื้อผ้าของเขาก็เปลี่ยนไป ตอนนี้คุณภาพชีวิตของเขาดีขึ้นมาก
เขาดื่มสุราและกินเนื้อย่างขณะกล่าว“พี่น้องพวกท่านเป็นคนดีมาก ไม่เพียงพวกท่านจะช่วยข้าพวกท่านยังปฏิบัติต่อข้าเป็นอย่างดี”
“อย่ากล่าวเช่นนั้น”เฉินหยินเต๋าตบไหล่หวังเซียวเอ๋อ“มันเป็นโชคชะตาที่เราได้พบกัน”ขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกขมขื่นอยู่ภายภายใน เขาคิด‘สุราที่ข้าเก็บมานานกว่าสิบปีข้าอยากเก็บไวให้ตัวเอง!’
“เราอยู่ในสถานการณ์เดียวกันเราต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน”อวี้ป๋ากวงที่พึ่งกลับมาจากการตรวจสอบพื้นที่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“พึ่งพาครอบครัวเมื่ออยู่ที่บ้าน พึ่งพาสหายเมื่ออยู่ข้างนอกตราบเท่าที่ทุกคนช่วยเหลือกันข้าเชื่อว่าโลกนี้จะดีขึ้นกว่าเดิม!”ฟานชุนเหยากล่าว
หลังจากยืนยันว่าหวังเซียวเอ๋อเป็นผู้อมตะที่สูญเสียความทรงจํา คนทั้งสี่ตัดสินใจปฏิบัติต่อ
เขาเหมือนญาติสนิท
หากหวังเซียวเอ๋อฟื้นคืนความทรงจําในอนาคต เมื่อเขาเห็นว่าพวกเขาปฏิบัติต่อเขาเป็นอย่างดีเขาจะไม่ทําเรื่องเลวร้ายกับพวกเขา
หวังเซียวเอ๋อดื่มสุราและกินเนื้อย่างจนอิ่มหลังจากนั้นเขาก็ไปนอนบนเตียงที่นุ่มสบายที่คนทั้งสี่จัดเตรียมไว้
เขากลายเป็นคนความจําเสื่อมจริงๆตน
แม้เขาจะไม่สูญเสียความสามารถในการใช้ชีวิตแต่เขาก็ไม่สามารถจดจําาเรื่องราวในอดีตของในช่วงเวลาเลวร้ายผู้ใช้วิญญาณทั้งสี่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือเขา
หวังเซียวเอ๋อจ๋าได้เพียงชื่อของตนเอง
เขารู้สึกมีความสุขมากขณะที่ผู้ใช้วิญญาณทั้งสี่รู้สึกเหมือนถูกทรมาน
พวกเขาเป็นผู้ใช้วิญญาณปีศาจพวกเขาไม่เคยปฏิบัติต่อผู้อื่นเช่นนี้มาก่อน
ดังนั้นสองสามวันต่อมาผู้ใช้วิญญาณปีศาจทั้งสี่จึงไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป
“ทุกคน แม้ข้าจะอยากรู้วิธีก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะแต่ชีวิตเช่นนี้ยากล่าบากเกินไป” “ข้าเข้าใจเราต้องระวังตัวตลอดเวลามันน่าอึดอัดใจจริงๆ”
“ความกังวลของข้าคือหากผู้อมตะฟื้นคืนความทรงจําเขาจะปฏิบัติต่อพวกเราอย่างไร?”
“หากเขาเป็นผู้อมตะฝ่ายธรรมะเขาจะทําอย่างไรกับผู้ใช้วิญญาณปีศาจเช่นพวกเรา?”
“หากเขาเป็นปีศาจอมตะและจําฉากที่พวกเราโจมตีเขาได้เขาจะฉีกร่างพวกเราออกเป็นชิ้นๆหรือไม่?”
คนทั้งสี่มีความคิดที่คล้ายคลึงกัน
พวกเขาพูดคุยกันสักพักก่อนจะตัดสินใจหนีจากหวังเซียวเอ๋อตาย
ชีวิตน่าอนาถเกินไปขณะที่รางวัลไม่สามารถมองเห็น แท้จริงแล้วพวกเขาอาจต้องรอจนตัว
“เราจะหลบหนีจากหวังเซียวเอ๋อได้อย่างไร?”
“เราจากไปโดยตรงไม่ได้ หากเขาฟื้นความทรงจํา เขาอาจไล่ล่าพวกเรา”
“ข้ามีความคิดที่ดี”
“บอกมาเร็วเข้า”
“หลุมสลายวิญญาณอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ พวกเราจะไปที่นั่นและปลดปล่อยตนเองจากตัวปัญหาผู้นี้!”
วันต่อมา
คนทั้งสี่นําหวังเซียวเอ๋อเข้าไปที่หลุมสลายวิญญาณ
สถานที่แห่งนี้เคยเป็นภูเขาธรรมดาที่ไม่มีสิ่งใดพิเศษ แต่หลังจากการต่อสู้ไล่ล่าฟางหยวนสถานที่แห่งนี้กลายเป็นสถานที่พิเศษ
ในเวลานั้นเทพปีศาจจิตวิญญาณยิงบอลวิญญาณสีดําออกมาแต่วังมังกรหลบได้บอลวิญญาณพุ่งเข้าปะทะภูเขาลูกนี้และทําให้มันกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่
หลุมแห่งนี้เต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ
สิ่งทีชีวิตทั้งหมดที่เคยอาศัยอยู่ที่นี่ถูกกําจัดแต่ดวงวิญญาณของพวกมันยังอยู่
ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ เส้นทางแห่งวายุเส้นทางแห่งปฐพี
และเส้นทางอื่นๆรวมตัวกันและให้กําเนิดอสูรวิญญาณทุกประเภทขึ้นในสายหมอก
สิ่งมีชีวิตที่เข้ามาในบริเวณนี้จะถูกสังหารโดยอสูรวิญญาณเหล่านั้นและทําให้หลุมสลายวิญญาณแห่งนี้น่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ
คนทั้งห้าพยายามหลีกเลี่ยงอสูรวิญญาณและเดินทางไปยังจุดศูนย์กลางของหลุมสลายวิญญาณ
อวี้ป๋ากวงใช้ข้ออ้างเกี่ยวกับการตรวจสอบและหายตัวไป
หวังเซียวเอ๋อไม่เข้าใจสถานการณ์เขาถาม“พี่น้องเหตุใดเราจึงมาที่นี่?”
เฉินหยินเต๋ายิ้มและคิดกับตนเอง‘เห็นได้ชัดว่าเราต้องการทิ้งเจ้าไว้ที่นี่!แน่นอนว่าเราจะไม่ทําโดยตรงเราจะล่ออสูรวิญญาณมาที่นี่และแสร้งเป็นไม่สามารถต่อสู้เพื่อปกป้องเจ้าเราจะล่อ
อสูรวิญญาณไปที่อื่นราวกับเรากําลังเสี่ยงชีวิต’
นอกจากสิ่งนี้ คนทั้งสี่ยังมีอีกความคิดหนึ่ง
กรณีที่ผู้อมตะตายด้วยน้ำมือของอสูรวิญญาณเขาอาจทิ้งมรดกไว้เบื้องหลัง
ผู้คนบนเส้นทางสายปีศาจมักมีความกล้าที่ไม่ธรรมดา
สี่ผู้อนาจารเป็นสมาชิกบนเส้นทางสายปีศาจที่โดดเด่นในแง่นี้
แน่นอนว่าเฉินหยินเต๋าไม่ได้กล่าวความจริงเขาตบไหล่หวังเซียวเอ๋อและกล่าวว่า“น้องชายเรามาที่เทือกเขาวายุวิปโยคเพื่อรวบรวมทรัพยากรหลุมสลายวิญญาณถูกสร้างขึ้นโดยการต่อสู้
ระหว่างผู้อมตะดังนั้นพวกเราจึงมาที่นี่เพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์”