Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2101 ฟางหยวนทําธุรกรรม
เทพปีศาจหวนคืนบทที่ 2101 ฟางหยวนทําธุรกรรม
วูหยงพยายามสงบสติอารมณ์
‘ดังนั้นฟางหยวนก็ต้องการมรดกที่แท้จริงเฉิงเทียนของข้าแต่เขายังไม่พบแดนหู!’หลังจากไตร่ตรองความกังวลในใจของวูหยงก็หมดไป
ความจริงก็คือตราบเท่าที่กงรี่เทียนไม่เปิดเผยความลับนี้ออกมาด้วยตนเอง มันก็มีความเป็นไปได้เพียงเล็กน้อยที่แดนหูจะถูกค้นพบโดยผู้อื่นที่ไม่ใช่ตระกูลวู
ย้อนกลับไปเมื่อกงรี่เทียนและคนอื่นๆใช้แดนหูเพื่อหลบหนีไม่มีผู้อมตะคนใดเห็นพวกเขา‘หลังจากกงรี่เทียนและคนอื่นๆหนีไปก็ไม่มีข่าวคราวของพวกเขาอีกเลยดังนั้นคนนอกเช่น
ฟางหยวนย่อมคิดว่ากงรี่เทียนอยู่ในมือของข้า’
วูหยงคิดต่อ‘การกระทําของข้าก่อนหน้านี้ยังไม่ดีพอข้าควรประกาศทันทีว่ากงรี่เทียนถูกจับโดยตระกูลวู’
แม้นั่นจะไม่เป็นความจริงแต่หากตระกูลวูประกาศออกไปกงรี่เทียนจะไม่ออกมาหักล้างเรื่องนี้หากกงรี่เทียนเปิดเผยตัวเองกลุ่มผู้อมตะจะไล่ล่าเขาเพื่อมรดกที่แท้จริงเฉิงเทียน
‘หากกงรี่เทียนได้ยินการประกาศจากตระกูลวูเขาจะเข้าใจแรงจูงใจของเราและพยายามรักษาความลับเกี่ยวกับแดนหูนั่นจะทําให้เขาปลอดภัยมากขึ้น’
วูหยงมีแผนอื่น เขาสามารถชดเชยความผิดพลาดครั้งก่อน
แดนหูเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพมันมีค่ามหาศาลหากตระกูลวูต้องการครอบครองมันพวกเขาต้องหาอย่างลับๆ
“ข้าสามารถส่งมอบมรดกที่แท้จริงเฉิงเทียน”วูหยงรีบตอบเค่อซินหง
เปรียบเทียบกับแดนหู มรดกที่แท้จริงเฉิงเทียนไม่ถือเป็นสิ่งใด
นอกจากนี้ตระกูลวูก็ได้รับเพียงเนื้อหาของมรดกที่แท้จริงเฉิงเทียนเท่านั้น วิญญาณอมตะยังอยู่ในมือของกงรี่เทียน
เค่อซินหงตกตะลึงเล็กน้อย
วูหยงตกลงอย่างง่ายดายสิ่งนี้อยู่นอกเหนือความคาดหมายของเขา
เค่อซินหงเป็นผู้อมตะของถ้ำสวรรค์คุณธรรมหลังจากลั่วเว่ยหยินมอบมรดกที่แท้จริงสวรรค์พภพรวมถึงถ้ำสวรรค์คุณธรรมให้กับฟางหยวนเขาก็กลายเป็นลูกน้องของฟางหยวน
นี่เป็นภารกิจแรกที่ฟางหยวนมอบหมายให้เขา
เมื่อเค่อซินหงได้รับภารกิจนี้เขารู้สึกกดดันมากเขาได้ยินชื่อเสียงของวูหยงมานานแล้วระหว่างเดินทางมาที่นี่เขายังพยายามคิดหาวิธีที่จะทําให้วูหยงตกลง
แต่วูหยงกลับตกลงทันทีเมื่อเค่อซินหงเอ่ยปาก
‘ในที่สุดข้าก็ตระหนักถึงพลังอํานาจและศักดิ์ศรีของนายท่านแล้ว’ เค่อซินหงลอบถอนหายใจ
เค่อซินหงกล่าวเสริม“ท่านวูหยงนายท่านของข้ายินดีจ่ายเพื่อมรดกที่แท้จริงเฉิงเทียน”
คราวนี้เป็นวูหยงที่ตกตะลึง
ฟางหยวนต้องการทําธุรกรรมเขาไม่ได้กรรโชกหรือฉกฉวยโดยใช้กําลัง?
วูหยงตอบสนองและระบุสิ่งที่ต้องการอย่างรวดเร็ว
เค่อซินหงขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะวูหยงต้องการทรัพยากรอมตะระดับเก่าบนเส้นทางแห่งวายุที่หายากในท้องตลาด
เค่อซินหงไม่สามารถตัดสินใจเขาต้องติดต่อฟางหยวน
หลังจากได้รับคําตอบเค่อซินหงก็เผยรอยยิ้มอีกครั้ง
ด้วยการใช้สวรรค์สีเหลืองเป็นตัวกลางธุรกรรมก็เสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว
ฟางหยวนได้รับเนื้อหาทั้งหมดของมรดกที่แท้จริงเฉิงเทียนขณะที่วูหยงได้รับทรัพยากรอมตะระดับเก่าบนเส้นทางแห่งวายุ
‘ฟางหยวนมีถ้ำสวรรค์จํานวนมากของสองสวรรค์ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะมีทรัพยากรอมตะที่หายากแต่เขาทําธุรกรรมกับข้าจริงๆ!
การเตรียมทรัพยากรอมตะเพื่อหลอมรวมวิญญาณอมตะระดับแปดของวูหยงประสบความสําเร็จอย่างมากแต่วูหยงไม่มีความสุข
ฟางหยวนมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะใช้กําลังแย่งชิงมรดกที่แท้จริงเฉิงเทียนแต่เขาไม่ได้ทำเช่นนั้น
เขาส่งผู้อมตะเผ่ามนุษย์เห็ดออกมาและแสดงความจริงใจที่จะทําธุรกรรมหลังจากนั้นเขายังรักษาคําพูดและจ่ายด้วยทรัพยากรอมตะระดับเก้าบนเส้นทางแห่งวายุ
‘ฟางหยวนช่างน่าทึ่งนัก!’วูหยงถอนหายใจ
ดังคํากล่าวที่ว่านักว่ายน้ำอาจจมน้ำตายนักสู้อาจเสียชีวิตในสนามรบ การพึ่งพาเพียงความสามารถพิเศษของตนโดยไม่มีทักษะอื่นเป็นเรื่องอันตราย
เมื่อคนผู้หนึ่งเริ่มพึ่งพาบางสิ่งพวกเขาจะรู้สึกเหมือนอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยโดยไม่รู้ตัวเมื่อพวกเขาพบปัญหาพวกเขาจะพึ่งพาความสามารถพิเศษของ
ตนเพื่อแก้ปัญหาเมื่อเวลาผ่านไปพวกเขาจะสูญเสียวิธีการและมุมมองอื่นๆเมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตมันอาจเป็นจุดจบของพวกเขาแต่ฟางหยวนไม่ได้ทําเช่นนั้น
เขามีความแข็งแกร่งพอที่จะแย่งชิงมรดกที่แท้จริงแต่เขาไม่ได้พึ่งพาเพียงพละกําลังเขาเสียเวลาและพลังงานอย่างมากเพื่อทําธุรกรรม
แต่ด้วยการทําธุรกรรมนี้ฟางหยวนก็ได้รับมรดกที่แท้จริงเฉิงเทียนอย่างไม่มีปัญหาวูหยงวิเคราะห์‘เรื่องนี้มีความนัยอย่างน้อยสองประการ’
ประการแรก ฟางหยวนมีทรัพยากรอมตะมากมายทรัพยากรอมตะระดับเก้าบนเส้นทางแห่งวายุไม่อยู่ในสายตาของเขา’
‘ประการที่สอง แม้เขาจะเป็นตัวตนอันดับหนึ่งของโลกในยุคปัจจุบัน แต่เขายังเยือกเย็นและคิดได้อย่างรอบคอบ เขาไม่ได้พึ่งพาเพียงความแข็งแกร่งของตนเห้อ…มันคงจะดีหากข้า สามารถฆ่าเขาได้ในเวลานั้นตอนนี้ฟางหยวนเติบโตขึ้นอย่างเต็มที่แล้ว ด้วยพลังการต่อสู้ในเวลานี้ของเขา เขาน่ากลัวเกินไป’
เมื่อการทําธุรกรรมเกี่ยวกับมรดกที่แท้จริงเฉิงเทียนสิ้นสุดลงร่างหลักของฟางหยวนก็อยู่ที่ทะเลทรายตะวันตกแล้ว
ทะเลทรายตะวันตกฐานทัพใหญ่ตระกูลฟาง
ผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลฟางมารวมตัวกันและกําลังจ้องมองฟางหยวนที่อยู่ตรงหน้า
“ทุกคน อย่ากังวล ข้ามาที่นี่เพื่อทําธุรกรรมกับตระกูลฟาง” ฟางหยวนยิ้ม
แต่ผู้อมตะตระกูลฟางยังรู้สึกกดดันมาก
ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลฟาง ฟางกงกล่าว“มันเป็นโชคดีหรือโชคร้ายของเราที่ได้รับความสนใจจากเจ้า?”
“ทุกท่าน ในความเป็นจริงเรามีความสัมพันธ์ค่อนข้างลึกซึ้ง”ในจังหวะนี้ฟางหยวนก็เริ่มใช้ท่าไม้ตายของเขาแล้ว
เมื่อกลิ่นอายของวิญญาณอมตะรั่วไหลออกมา ผู้อมตะตระกูลฟางก็เตรียมเข้าสู่การต่อสู้
“ฟางหยวน เจ้ากําลังจะทําสิ่งใด?”
“นี่คือฐานทัพใหญ่ของตระกูลฟาง!”
“ก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่าเจ้าต้องการทําธุรกรรม หากเจ้าโจมตีตอนนี้ ในอนาคตผู้ใดจะเชื่อคําพูดของเจ้าอีก!”
ผู้อมตะตระกูลฟางกรีดร้องด้วยความประหม่า
ฟางหยวนเผยรอยยิ้มเย็นชา “หากข้าต้องการทําร้ายพวกเจ้า ข้าคงโจมตีไปนานแล้วตระกูลฟางของพวกเจ้าจะหยุดข้าได้งั้นหรือ?”
ขณะที่เขากล่าวถ้อยคําเหล่านี้รูปลักษณ์ของเขาก็เปลี่ยนไป
ผู้อมตะตระกูลฟางตกใจมาก“ซวนปู้จิน?”
ฟางหยวนกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยและเปลี่ยนเป็นรูปลักษณ์อื่น
ผู้อมตะตระกูลฟางตกใจอีกครั้ง“ฟางตี้เฉิง?”
ฟางหยุนขมวดคิ้วเขาเป็นบุตรบุญธรรมของฟางตี้เฉิงเมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงของฟางหยวนเขารู้สึกรังเกียจ“ท่านฟางหยวนท่านมาที่ตระกูลฟางเพียงเพื่อเย้ยหยันพวกเรางั้นหรือ?”
ฟางหยวนมองฟางหยุนและกล่าวอย่างมีความหมาย “หยุนเอ๋อ เหตุใดเจ้ายังไม่เปลี่ยนไปบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งปัญญา? พ่อมอบวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาสามดวงรวมถึงมรดก บนเส้นทางแห่งปัญญาของข้าให้เจ้าแล้วตอนนี้ตระกูลฟางไม่มีผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาหากเจ้าไม่รับผิดชอบ แล้วผู้ใดจะทํา?”
“เจ้า…เจ้า…” ฟางหยุนชี้นิ้วไปที่ฟางหยวนเขาเบิกตาโตด้วยความตกใจ การแสดงออกของผู้อมตะตระกูลฟางเปลี่ยนไปเช่นกัน
พวกเขาตกตะลึงกับค่ากล่าวของฟางหยวนเพราะพวกมันล้วนเป็นเรื่องจริง
“ในความเป็นจริงข้าก็คือซวนปู้จิน ต่อมาข้าก็กลายเป็นฟางตี้เฉิง ข้าคุ้นเคยกับพวกเจ้า มากกว่าที่พวกเจ้าคิด” ฟางหยวนมองไปรอบๆและหัวเราะ
ฟางกงหน้าซีด เขาไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป“เจ้ามีหลักฐานหรือไม่?”
ฟางหยวนมอบหลักฐานจํานวนมากให้กับผู้อมตะตระกูลฟางขณะที่เขาลอบถ่ายทอดเสียงไป
หาฟางกง “ฟางกงเจ้ากับฟางตี้เฉิงตัดสินใจเสียสละซวนปู้จินเพื่อปรับแต่งวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์เจ้าต้องการให้ข้าเปิดเผยเรื่องนี้หรือไม่?”
ฟางหยวนไม่เพียงมีหลักฐานเขายังมีข้อเท็จจริงที่ถูกต้องในไม่ช้าผู้อมตะตระกูลฟางก็เข้าใจ เรื่องราวทั้งหมด
“ดังนั้นฟางหยวนก็แทรกซึมเข้าสู่ตระกูลฟางมานานแล้ว!”“เขากระทั่งเป็นผู้อาวุโสสูงสุดนอกของเรา!”
“โอ้ สวรรค์แม้แต่ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองของเราก็ยังถูกเขาเข้าแทนที่เราไม่พบสิ่งผิด
ปกติเลย!”
หลังจากผู้อมตะตระกูลฟางตระหนักถึงความจริงใบหน้าของพวกเขาก็กลายเป็นซีดเผือด
มันน่ากลัวเกินไป
หากไม่ใช่เพราะฟางหยวนเปิดเผยมันออกมาด้วยตนเอง พวกเขาก็ยังคิดว่าฟางตี้เฉิงติดอยู่ในเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์
ตั้งแต่สงครามชะตากรรมสิ้นสุดลงตระกูลฟางพยายามเจรจากับวังสวรรค์เพื่อนําตัวฟางตี้เฉิงกลับมา
“นี่หมายความว่าวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์จับร่างแยกของเจ้าขณะที่ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองของเราตายในมือของเจ้า!” ฟางกงมองฟางหยวนด้วยสายตาเย็นชา
ฟางหยวนกล่าว “การบอกว่าฟางตี้เฉิงเสียชีวิตในมือของข้าทั้งถูกและผิด ร่างของฟางตี้เฉิงถูกทําลายแต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่กับข้า พวกเจ้าต้องการนําเขากลับไปหรือไม่?”
ย้อนกลับไปเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับของโคมไฟวิญญาณฟางหยวนจึงไม่ได้สังหารฟางตี้เฉิง เขาเพียงแยกดวงวิญญาณของฟางตี้เฉิงออกจากร่างกายเท่านั้น
ดวงวิญญาณของฟางตี้เฉิงยังอยู่ในมือของฟางหยวนผู้อมตะตระกูลฟางได้ยินเรื่องนี้และรู้สึกตื่นเต้น
“ดวงวิญญาณของฟางตี้เฉิงยังอยู่กับเจ้างั้นหรือ?”
“เยี่ยมมาก ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองของเราสามารถฟื้นคืนชีพ!”
“ไม่แปลกใจเลยที่วังสวรรค์แสดงท่าทีที่คลุมเครือมาตลอด มันกลายเป็นว่าพวกเขาไม่เคยมีผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองตั้งแต่แรก”
ฟางหยวนกล่าวต่อ “วิญญาณชะตากรรมถูกทําลายไปแล้ว ตราบเท่าที่ดวงวิญญาณของฟางตี้เฉิงยังอยู่และมีร่างกายที่เหมาะสม เขาก็สามารถฟื้นคืนกลับมาได้อีกครั้ง”
“หากร่างกายเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา หลังจากฟางตี้เฉิงกลับมาเขาจะกลายเป็นผู้ช่วยที่ยิ่งใหญ่ของตระกูลฟางได้ทันที!”
“บอกข้า สหายตระกูลฟางพวกเจ้าต้องการทําธุรกรรมกับข้าหรือไม่?” ฟางหยวนถามผู้อมตะตระกูลฟางเงียบทุกคนมองไปที่ฟางกง
ในช่วงเวลาสําคัญมีเพียงฟางกงซึ่งเป็นผู้อมตะระดับแปดและผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งเท่านั้นที่สามารถตัดสินใจ