Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2109 ภัยคุกคามของอู๋ส่วย
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2109 ภัยคุกคามของอู๋ส่วย
ทรัพยากรบนเส้นทางแห่งไฟไม่สามารถอยู่ใกล้กับทรัพยากรบนเส้นทางแห่งวารีมิฉะนั้นพวกมันจะต่อต้านกันและทําให้ผลผลิตลดลงหรืออาจกระทั่งถูกทําลายล้าง
แต่การแยกทรัพยากรบนเส้นทางแห่งไฟและทรัพยากรบนเส้นทางแห่งวารีออกจากกันอย่างสมบูรณ์ก็ไม่ใช่ความคิดที่ดีเช่นกัน
ทรัพยากรหลายชนิดสามารถสนับสนุนกันขณะที่ทรัพยากรหลายชนิดมีร่องรอยของพลังงาน
แห่งเต๋าตั้งแต่สองเส้นทางรวมกันตัวอย่างเช่นต้นไม้เพลิงบรรพกาลหรือเพลิงน้ําแข็งสม
ดังนั้นฟางหยวนจึงต้องแยกส่วนถ้ำสวรรค์ต่างๆและวางกระจัดกระจายไว้ในตําแหน่งที่เหมาะ
กล่าวโดยสรุปฟางหยวนกําลังเลียนแบบสภาพแวดล้อมของห้าภูมิภาคและสองสวรรค์
ตัวอย่างเช่นภาคใต้น้อยมีภูเขามากมาย ฟางหยวนเลือกวางทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปฐพีส่วนใหญ่ไว้ที่นี่
สวรรค์สีแดงน้อยมีรากฐานบนเส้นทางแห่งไฟ ฟางหยวนจึงเลือกวางทรัพยากรบนเส้นทางแห่งไฟไว้ที่นั้น
เรื่องนี้ทําให้ฟางหยวนเข้าใจความซับซ้อนของห้าภูมิภาคและสองสวรรค์มากขึ้นแต่มันยังไม่เพียงพอ
ทุกครั้งที่ฟางหยวนกลืนกินถ้ำสวรรค์ เขาจะได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบางเส้นทางบางสายเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าเหล่านั้นจะส่งผลกระทบต่อมิติช่องว่างจักรพรรดิทั้งหมด
ก่อนหน้านี้เมื่อเขากลืนกินถ้ำสวรรค์ของฉีเซียง มิติช่องว่างจักรพรรดิได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งพลังปราณจํานวนมากมันให้กําเนิดพลังปราณทุกชนิดและ ทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพต่อมิติช่องว่างจักรพรรดิ
ทรัพยากรต่างๆถือกําเนิดขึ้นด้วยอิทธิพลของพลังงานแห่งเต๋า
หลังจากกลืนกินถ้ำสวรรค์ทุ่งเพลิง ฟางหยวนได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทาง
แห่งไฟจํานวนมากมันทําให้อุณหภูมิในมิติช่องว่างจักรพรรดิพุ่งสูงขึ้น ทรัพยากรบนเส้นทางแห่งวารีและเส้นทางแห่งไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้
หากเขาได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งโลหะ แร่ธาตุจํานวนมากจะปรากฏขึ้นใต้ดิน ความอุดมสมบูรณ์ของดินจะเปลี่ยนแปลงไปมันจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของพืชพรรณ
หากเขาได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งพิษ พิษและโรคระบาดอาจปะทุขึ้นตามฤดูกาลและแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว
หากเขาได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง สิ่งมีชีวิตอาจกลายพันธุ์และทําให้เกิดปัญหากับรูปแบบชีวิตดั่งเดิม
ดังนั้นในช่วงเวลานี้มิติช่องว่างจักรพรรดิจึงค่อนข้างโกลาหล
เรื่องแปลกประหลาดจะเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว
ตัวอย่างเช่นก่อนหน้านี้มีพายุวิญญาณปฐพีปรากฏขึ้นที่ทะเลตะวันออกน้อย ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งปฐพีทําให้เกาะเล็กๆจํานวนมากก่อตัวขึ้นขณะเดียวกันร่องรอยของพลังงานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณก็ทําให้อสูรวิญญาณปรากฏขึ้นเองตามธรรมชาติ
ผู้อมตะในมิติช่องว่างจักรพรรดิต้องกอบกู้สถานการณ์ ร่างหลักของฟางหยวนยังต้องเคลื่อนไหวด้วยตนเองอยู่หลายครั้ง เขาต้องสร้างค่ายกลวิญญาณอมตะเพื่อปกป้องแหล่ง
ทรัพยากรที่สําคัญและต้องซ่อมแซมพวกมันอยู่เสมอ
‘การเพิ่มขึ้นของพลังงานแห่งเต๋าจะส่งผลกระทบบางอย่าง เวลาเท่านั้นที่สามารถแก้ปัญหา
ข้าต้องปล่อยให้มิติช่องว่างจักรพรรดิเติบโตและปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์เหล่านี้ตามธรรมชาติ’
‘เดิมทีมิติช่องว่างจักรพรรดิมีพื้นที่ขนาดใหญ่ ทรัพยากรอยู่ห่างกัน มันยากที่พวกมันจะส่งผลกระทบต่อกันและกัน แต่ตอนนี้มิติช่องว่างจักรพรรดิพัฒนาไปถึงแปดสิบส่วนแล้วทรัพยากรอัดแน่นมากเกินไปพวกมันจะส่งผลกระทบต่อกันและกันเป็นทอดๆ’
‘สิ่งที่เลวร้ายกว่าก็คือข้าใช้วิธีการของถ้ำสวรรค์เวลาที่แตกต่างเพื่อสร้างพื้นที่ที่เวลาเดินต่างกันมันทําให้สภาพแวดล้อมยิ่งซับซ้อนมากขึ้น’
‘ในอนาคตความยากในการอนุมานจะเพิ่มขึ้นนับร้อยเท่ามันจะเกินความสามารถของข้า!’ฟาง
หยวนตระหนักถึงความยากล่าบากนี้
‘ยิ่งไปกว่านั้นแม้ข้าจะสามารถอนุมานแต่การย้ายแหล่งทรัพยากรก็เหมือนกับการผ่าตัดครั้งใหญ่ซึ่งต้องใช้เวลาและพลังงานมหาศาล’
“ข้าเกรงว่าการพัฒนาแปดสิบส่วนจะเป็นขีดจํากัดของข้าในปัจจุบัน!’
หลังจากเข้าใจเรื่องนี้ฟางหยวนยิ่งรู้สึกประทับใจห้าภูมิภาคและสองสวรรค์มากขึ้นไปอีกห้าภูมิภาคและสองสวรรค์มีพื้นที่กว้างขวาง มันใหญ่โตกว่ามิติช่องว่างจักรพรรดิแต่ทรัพยากร
ทั้งหมดของมันตั้งอยู่ในตําแหน่งที่เหมาะสมและสามารถสนับสนุนกันได้อย่างลงตัว
แม้กําแพงภูมิภาคจะหายไปแต่ทรัพยากรเหล่านั้นก็ยังไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงและแทบไม่ได้รับผลกระทบใดๆ
‘ข้าเข้าใจแล้ว! นี่คือเส้นทางสวรรค์!
ฟางหยวนสัมผัสได้ถึงกฎบางอย่างของเส้นทางสวรรค์
‘หากความสําเร็จบนเส้นทางสวรรค์ของข้าบรรลุระดับผู้เชี่ยวชาญ ข้าจะสามารถแก้ปัญหานี้ข้า
จะสามารถพัฒนามิติช่องว่างจักรพรรดิต่อไปน่าเสียดาย…
ในประวัติศาสตร์ไม่เคยมีผู้ใดบ่มเพาะบนเส้นทางสวรรค์แม้เทพปีศาจไร้ขอบเขตจะสามารถสร้างร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางสวรรค์แต่เขาบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งกฎสําหรับเทพอมตะสวรรค์พิภพเขาบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งปฐพี
ฟางหยวนอาจเป็นผู้บ่มเพาะที่เข้าใจเส้นทางสวรรค์มากที่สุด
ฟางหยวนกระตุ้นใช้งานหม้อปรุงโชคและตรวจสอบโชคของตนเอง
เสาแสงสีเงินเป็นตัวแทนของฟางหยวน ตอนนี้มันเติบโตขึ้นสี่เท่าจากขนาดดั่งเดิมของมันอย่างไรก็ตามเมฆสามก้อนที่อยู่ด้านบนก็ขยายใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
เสาแสงสีเงินหนาขึ้นเล็กน้อยหลังจากฟางหยวนกลืนกินถ้ำสวรรค์ทุ่งเพลิง
เนื่องจากจักรพรรดิทุ่งเพลิงและถ้ำสวรรค์ทุ่งเพลิงต่างมีโชคของตนเอง หลังจากฟางหยวน
กลืนกินถ้ำสวรรค์เหล่านั้นเขาจึงได้รับโชคบางส่วนมาด้วย
ในแง่การเติบโตของโชคฟางหยวนเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
‘ดูเหมือนกลยุทธ์ของข้าจะถูกต้อง โชคของข้าเหนือกว่าเทพอีกสามคนในช่วงเวลานี้แต่…ฟางหยวนครุ่นคิด
เขาสัมผัสได้ว่าแม้เสาแสงสีเงินจะขยายใหญ่ขึ้นแต่มันไม่หนาแน่นเหมือนก่อนหน้าในความเป็นจริงมันค่อนข้างบอบบาง
“เหตุผลที่เสาแสงสีเงินของข้าเติบโตขึ้นเพราะข้ากลืนกินถ้ำสวรรค์จํานวนมาก รากฐานของข้าพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วนอกจากนั้นข้ายังสร้างและดัดแปลงท่าไม้ตายผสมจํานวนมากร่างแยกกาลเวลาของข้ายังหลอมรวมวิญญาณอมตะระดับแปดจํานวนมาก’
‘แต่สิ่งเหล่านี้เป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงปริมาณเท่านั้นมันไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพ’
“มิติช่องว่างจักรพรรดิยังไม่เสถียรแหล่งทรัพยากรยังไม่หลอมรวมเข้ากับสภาพแวดล้อมอย่าง
สมบูรณ์ ข้าใช้วิธีการบางอย่างเพื่อบังคับให้พวกมันอยู่ที่นั่นเท่านั้น หากข้าประมาทภัยพิบัติจะก่อตัวขึ้นข้าต้องเผชิญหน้ากับปัญหาร้ายแรงโชคและรากฐานของข้าจะลดลง’‘แม้ข้าจะมีวิญญาณอมตะและท่าไม้ตายผสมจํานวนมากแต่ข้ายังไม่มีระบบการต่อสู้ที่เหมาะ สมข้าไม่สามารถเชื่อมโยงพวกมันเข้าด้วยกัน’
‘ด้วยเหตุผลเหล่านี้โชคเสาแสงสีเงินของข้าจึงค่อนข้างบอบบาง’
ฟางหยวนตระหนักถึงความสําคัญของเส้นทางแห่งโชคอีกครั้ง
ด้วยการตรวจสอบโชคไม่เพียงมันจะทําให้เขาเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันเขายังสามารถตรวจ
สอบข้อบกพร่องและจุดอ่อนของตนอีกด้วย
ด้วยวิธีนี้เขาจะสามารถมองเห็นเส้นทางที่เขาต้องมุ่งหน้าไปฟางหยวนมองไปยังโชคของร่างแยก
บรรพชนทะเลปราณเจิ้นปู่ดู่เมิ้งชิวเจิ้นและคนอื่นๆมีโชคเพิ่มขึ้นเช่นกัน
โชคของร่างแยกฟางตี้เฉิงชัดเจนขึ้น
แต่โชคมังกรของอู๋ส่วยไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีแท้จริงแล้วมันดูเหมือนกําลังจะพังทลายลง!
‘เกิดสิ่งใดขึ้น อย่าบอกว่าโรคระบาดมดจะนําไปสู่ผลลัพธ์ที่เลวร้าย?’ ฟางหยวนคาดเดาก่อน
จะปัดความคิดนี้ทิ้งไปในไม่ช้าเขาค่อนข้างสับสน
ท่ามกลางร่างแยกของเขาอู๋ส่วยอยู่ในสถานการณ์ที่ปลอดภัยที่สุด
ร่างแยกบรรพชนทะเลปราณมีภัยคุกคามซ่อนเร้น
ร่างแยกเมิ้งชิวเจิ้นเผชิญหน้ากับอันตรายทุกครั้งที่สํารวจอาณาจักรแห่งความฝันร่างแยกเจิ้นปู้ตู้ถูกส่งออกไปโดยฟางหยวนและแฝงตัวอยู่ในกองกําลังอื่น
ร่างแยกหลี่เสี่ยวไป่เป็นผู้ใช้วิญญาณระดับมนุษย์ที่อยู่ในถ้ำสวรรค์วรรณกรรมฟางหยวนไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ของหลี่เสี่ยวไป๋ได้มากนัก
ร่างแยกกาลเวลาใช้คฤหาสน์วิญญาณอมตะสระหลอมรวมสี่ธาตุแห่งความโศกเศร้าหลอมรวมตายจากผลกระทบย้อนกลับ
วิญญาณอมตะจํานวนมากแต่เขาเป็นเพียงผู้อมตะระดับหก หากเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดเขาอาจ
แม้อู๋ส่วยจะพยายามทําให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้น แต่ความรับผิดชอบหลักของเขาคือการดูแลกองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์แล้วเขาจะตกอยู่ในอันตรายได้อย่างไร
และนี่เป็นอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต!
ภาคกลาง
ถ้ำใต้พิภพบางแห่ง ผู้อมตะชราที่มีจมูกสีแดงหัวเราะเสียงดัง“ในที่สุดข้าก็มาถึงที่นี่ความพยายามในช่วงหลายสิบวันที่ผ่านมาของข้าไม่ได้ไร้ประโยชน์!”
มีมรดกที่แท้จริงระดับแปดอยู่ด้านหน้าเขา
เจตจํานงที่หลับใหลมานานตื่นขึ้นเขามองผู้อมตะชราผู้นี้ก่อนกล่าว “หากเจ้าต้องการรับสืบทอดมรดกที่แท้จริงของข้าและภรรยาของข้าเจ้าต้องยอมรับเงื่อนไขข้อหนึ่ง”
“เงื่อนไขใด?” ผู้อมตะชราหรี่ตามองและถาม
เจตจํานงของผู้อมตะถอนหายใจ “ย้อนกลับไป ข้าเคยรับศิษย์ทรยศผู้หนึ่ง เขาชื่ออู๋ส่วยเขาทําให้ข้ากับภรรยาตกเป็นทาสของเขา! หากเจ้าต้องการรับมรดกที่แท้จริงนี้เจ้าต้องแก้แค้นให้ข่า!”