Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2111 ผู้ฝึกสอนสัตว์อสูร
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2111 ผู้ฝึกสอนสัตว์อสูร
ฟางเจิ้งกระพริบตาสองสามครั้งก่อนจะเข้าใจบางสิ่ง“ท่านหญิงฉินหมายความว่าแม้ท่าไม้ตายอมตะสุราทองค่าจะสามารถสังหารอู่ส่วยแต่เขาก็เป็นเพียงร่างแยกของฟางหยวนมันไม่สามารถ
สั่นคลอนรากฐานของเขาได้อย่างแท้จริงเมื่อวังมังกรถูกทําลายอู๋ส่วยก็หมดประโยชน์“แต่เคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะนักดื่มสุราเป็นสัญลักษณ์ของความรุ่งเรืองบนเส้นทางมนุษย์มันเป็นเส้นทางที่วังสวรรค์จะมุ่งไปในอนาคต!”ฉินติงหลิงตบไหล่ฟางเจิ้ง“เจ้าเรียนรู้ได้ดี!”
“ไม่ว่าฟางหยวนจะแข็งแกร่งเพียงใดเขาก็ไม่ใช่ภัยคุกคามเว้นเพียงเขาจะกลายเป็นเทพ”
“เทพอมตะกลุ่มดาวประสบความสําเร็จในถ้ำปีศาจคลั่งแล้ว เรื่องเร่งด่วนที่สุดคือการนําท่านกลับมาไม่ว่าฟางหยวนจะสร้างความโกลาหลมากเท่าใดเขาก็เป็นได้เพียงจั๊กจั่นปลายฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้นเขาเหลือเวลาอีกไม่กี่วัน
“ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฟางหยวนขณะที่วังสวรรค์ไม่สามารถแบกรักความสูญเสียดังนั้นข้าจึงส่ง
เรื่องนี้ให้กับกองกําลังพันธมิตรทะเลปราณ”
“ตอนนี้เราต้องทุ่มเทความพยายามในการต่อสู้ที่ถ้ำปีศาจคลั่ง มันไม่ง่ายเลยที่จะนําเทพอมตะกลุ่มดาวกลับมาเราต้องรักษาความแข็งแกร่งและจัดลําดับความสําคัญในเวลานี้”
“ตราบเท่าที่เทพอมตะกลุ่มดาวกลับมายังวังสวรรค์แม้จะมีฟางหยวนสิบคนพวกเขาก็ไม่สามารถต่อต้านเรา”
“ถูกต้อง!”ฟางเจิ้งไม่ปฏิเสธหรือสงสัยแผนการของฉินติงหลิง เทพอมตะกลุ่มดาวพิสูจน์ความแข็งแกร่งของนางมาแล้วในประวัติศาสตร์
นางประสบความสําเร็จในการรับสืบทอดตําแหน่งของเทพอมตะแรกกําเนิดนางนําความ
รุ่งโรจน์มาสู่เผ่ามนุษย์ก่อนตายนางยังวางแผนรับมือสามเทพปีศาจและสามารถรักษาวังสวรรค์เอาไว้
ฟางเจิ้งลอบถอนหายใจ “ฟางหยวน ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้าตอนนี้แม้แต่วังสวรรค์ก็ยังด้อยกว่าเจ้าแต่ยังมีบางคนที่สามารถจัดการเจ้าความชั่วไม่สามารถเอาชนะความดีหากเทพอมตะกลุ่มดาวเคลื่อนไหวเจ้าจะต้องจบสิ้นแม้ข้าจะเข้าใจเจ้าแต่ข้าจะไม่สงสารเจ้า เจ้าสมควรได้รับจุดจบที่ขมขื่นนี่เป็นราคาที่เจ้าต้องจ่ายสําหรับความผิดบาปทั้งหมดที่เจ้าท่า!’
ฟางหยวนตรวจสอบมรดกในมือของเขา
เขาอ่านมันอย่างรวดเร็ว
ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเมิ้งชิวเจิ้นสํารวจอาณาจักรแห่งความฝันและทําให้ความสําเร็จทุกเส้นทางของเขายกระดับขึ้น
ด้วยการใช้ความสําเร็จเหล่านี้มรดกทุกประเภทกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยในสายตาของเขามีเพียงไม่กี่มรดกที่ทําให้เรารู้สึกประหลาดใจ
มรดกเหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากบรรพชนทะเลปราณและกองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์
เนื่องจากการอาละวาดของกระแสลมปราณมรดกที่แท้จริงจํานวนมากของทะเลตะวันออกจึงปรากฏขึ้นและถูกรวบรวมมาไว้ในมือของฟางหยวน
แน่นอนว่ามีมรดกล้ำค่าบางส่วนถูกเก็บเป็นความลับโดยกองกําลังใหญ่บางกองกําลังแต่ฟางหยวนไม่สนใจ
ในระดับปัจจุบันของเขามรดกส่วนใหญ่บนโลกใบนี้มีค่าน้อยมาก ความสําเร็จของเขาสูงเกินไปในเวลาเพียงไม่กี่ลมหายใจเขาก็สามารถสร้างมรดกที่ยอดเยี่ยมของตนเองได้แล้ว
มรดกเหล่านี้เป็นเพียงข้อมูลอ้างอิงเล็กๆน้อยๆเท่านั้น
สวรรค์สีเหลืองมีการค้าขายมรดกอย่างแพร่หลายนี่เป็นภาพที่หาได้ยากจริงๆ’ ฟางหยวนค้นพบสิ่งนี้และตระหนักว่าเขาสามารถทําธุรกรรมมรดก
จุดประสงค์ของการทําธุรกรรมมรดกคือสิ่งใด? มันคือการแลกเปลี่ยนมรดกที่เหมาะสมกับตนเอง
เรื่องนี้มีประโยชน์ต่อการก้าวเข้าสู่ระดับเทพของฟางหยวน
หนึ่งในสี่เงื่อนไขของการก้าวเข้าสู่ระดับเทพคือการฝ่าด่านเต๋าสวรรค์
เต๋าสวรรค์จะสร้างสมดุลและปราบปรามผู้ฝึกตน ยิ่งมรดกเหล่านี้แพร่กระจายออกไปมากเท่าใดผู้ฝึกตนก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น นั่นทําให้เต๋าสวรรค์ยิ่งต้องการปราบปราบพวกเขามากขึ้นไปอีก
ด้วยวิธีนี้เมื่อถึงเวลาที่ฟางหยวนต้องเผชิญหน้ากับเต๋าสวรรค์ พลังอํานาจของมันจะลดลงจุดนี้ได้รับการพิสูจน์มาแล้วในประวัติศาสตร์
เพื่อฝ่าด่านเต๋าสวรรค์นอกเหนือจากเส้นทางแห่งโชคยังมีเส้นทางมนุษย์เมืองจักพรรดิศักดิ์สิทธิ์เป็นเสาหลักบนเส้นทางมนุษย์ หากข้าได้รับสิ่งนี้ มันจะช่วยข้าได้มาก!’ฟางหยวนคิด
เมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์โลกภาพวาด
ในตลาดผู้คนมารวมตัวกันเพื่อชมการแสดง
ชายวัยกลางคนที่มีร่างกายแข็งแกร่งสวมเสื้อหนังสัตว์ฟาดแส้ที่อยู่ในมือออกไปเสือดาวที่อยู่ด้านหน้ากระโดดไปรอบๆ
หลังจากนั้นชายวัยกลางคนก็เก็บแส้และวางศีรษะของเขาไว้ในปากอันใหญ่โตของเสือดาว
เสือดาวอ้าปากกว้างฟันที่เหมือนใบมีดอันแหลมคมของมันอยู่ใกล้กะโหลกศีรษะของชายวัยกลางคนเพียงไม่กี่มิลลิเมตรผู้ชมอ้าปากค้างและครางเบาๆ
แต่เสือดาวไม่กัดเขาหลังจากชั่วครู่ชายวัยกลางคนก็นําศีรษะของเขาออกมา
เสียงปรบมือดังขึ้น ชายวัยกลางคนถือชามทองค่าเดินไปรอบๆเพื่อรับรางวัลจากผู้ชม
เขาตะโกน “สหายหากพวกท่านพอใจโปรดสนับสนุนข่า ฮ่าฮ่าฮ่า”
การแสดงของชายวัยกลางคนทําให้ผู้ชมมีความสุข ดังนั้นหินวิญญาณจํานวนมากจึงถูกโยนลงไปในชามสีทองไม่ไกลนักเฉินซานเฝ้ามองด้วยความสนใจ
“นี่คือเหตุผลที่ข้าพาเจ้ามาที่นี่”ฟางตี้เฉิงกล่าวขณะดื่มชาอยู่ด้านข้าง
ในที่สุดเฉินซานก็ถอนสายตากลับมา
“ช่างอัศจรรย์นัก!”เขายกย่อง“โลกภาพวาดของเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ช่างอัศจรรย์จริงๆ”ชายวัยกลางคนเป็นผู้ฝึกสอนสัตว์อสูร อาชีพนี้ไม่เคยปรากฏมาก่อนแต่หลังจากบุตรแห่ง
มนุษยชาติทั้งสิบนํากองกําลังออกสํารวจโลกภาพวาดสัตว์อสูรคํารามและกลับมาด้วยความล้ม
เหลว หลังจากพักฟื้นอาชีพนี้ก็ปรากฏขึ้น
ในตลาดนอกจากวิญญาณวีรบุรุษวิญญาณบัณฑิตและวิญญาณช่างฝีมือมันยังมีวิญญาณชนิดใหม่เช่นวิญญาณผู้ฝึกสอนสัตว์อสูร!
เมื่อวิญญาณผู้ฝึกสอนสัตว์อสูรถูกกระตุ้นใช้งานมันจะกลายเป็นผู้ฝึกสอนสัตว์อสูร
ผู้ฝึกสอนสัตว์อสูรสามารถควบคุมสัตว์ป่าพวกเขาเชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงสัตว์ป่าและใช้ประโยชน์จากพวกมัน
เห็นได้ชัดว่าวิญญาณผู้ฝึกสอนสัตว์อสูรเกิดจากโลกภาพวาดสัตว์อสูรคําราม
“ผู้ใดเป็นคนสร้างวิญญาณชนิดใหม่นี้?”เฉินซานถาม
ฟางตี้เฉิงส่ายศีรษะ“วิญญาณผู้ฝึกสอนสัตว์อสูรปรากฏขึ้นเองตามธรรมชาติข้าพยายามตรวจ
สอบอย่างเต็มที่แต่ไม่พบเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง”
เฉินซานพยักหน้า“พรรคกระยาจกของเจ้าเป็นองค์กรรวบรวมข้อมูลที่แข็งแกร่งที่สุดของที่นี่มันอาจไม่ใช่คนแต่อาจเป็นโลกภาพวาดหรือการจัดการของเทพอมตะบัวสวรรค์
ฟางตี้เฉิงสูดดมวิญญาณเจตจํานงมนุษย์เพื่อเติมเจตจํานงของตนเองก่อนกล่าว“ตอนนี้วิญญาณผู้ฝึกสอนสัตว์อสูรปรากฏขึ้นแล้ว โลกภาพวาดสัตว์อสูรคํารามจะเสียเปรียบมันเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นก่อนที่มันจะถูกกําหราบเส้นทางมนุษย์ที่น่ากลัวที่สุดอยู่ที่นี่ข้าประเมินมันต่ำเกินไป”
เฉินซานสรุป “ตอนนี้ดูเหมือนวิญญาณบนเส้นทางมนุษย์จะแบกออกเป็นสามประเภทประเภทแรกคือวิญญาณสายอาชีพเช่นวิญญาณช่างฝีมือวิญญาณวีรบุรุษและวิญญาณผู้ฝึกสอนสัตว์อสูร ประเภทที่สองคือวิญญาณสายองค์กรเช่นวิญญาณนิกายและวิญญาณพรรคประเภทที่สามคือวิญญาณสายอารมณ์ของมนุษย์เช่นวิญญาณคุณธรรมและวิญญาณความรักของมารดา”
“วิญญาณสายอารมณ์ของมนุษย์งั้นหรือ?พี่เฉินดูเหมือนท่านจะมีความก้าวหน้าบางอย่างตอนนี้ท่านสามารถแยกแยะประเภทของมันแล้ว”ฟางตี้เฉิงแสดงความยินดีเฉินซานโบกมือ“ข้าละอายใจนัก นั่นเป็นเพียงการจําแนกประเภทตามความคิดเห็นส่วนตัวของข้าเท่านั้น”
แก่นแท้ของวิญญาณมักแสดงให้เห็นหลังจากเส้นทางสายนั้นก้าวหน้าไปถึงระดับหนึ่งเท่านั้น
“โลกภาพวาดถือเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์บนเส้นทางมนุษย์จริงๆตอนนี้ข้ารู้สึกค่อนข้างคาดหวังกับ
มัน เมื่อบุตรแห่งมนุษยชาติทั้งสิบออกจากสถานที่แห่งนี้และกลับสู่โลกภายนอกข้าสงสัยว่าพวกเขาจะสร้างความโกลาหลมากเพียงใดวิญญาณต่างๆจะถูกแบ่งประเภทอย่างชัดเจนในเวลานั้น”เฉินซานกล่าวต่อ“ข้าเชื่อว่าวิญญาณที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วโลกและถูกลืมเลือนจะได้รับการยอมรับจากผู้คนอีกครั้ง”
เทพอมตะบัวสวรรค์หล่อเลี้ยงเส้นทางมนุษย์มาตลอดเขาทําให้เส้นทางมนุษย์ไม่ว่างเปล่าอีกต่อไปมันกลายเป็นเส้นทางการบ่มเพาะที่สมบูรณ์แล้วมันมีรากฐานที่แข็งแกร่งและมีอนาคตที่สดใสฟางตี้เฉิงไม่พูดมากแต่เขารู้สึกกังวลอยู่ภายใน
แม้เขาจะไม่เข้าใจเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์และโลกภาพวาดมากนัก แต่เขายังตระหนักถึงบางสิงเส้นทางมนุษย์จะเจริญรุ่งเรืองวังสวรรค์จะให้ความสําคัญกับเส้นทางสายนี้
‘ข้าเกรงว่าเส้นทางมนุษย์จะกลายเป็นอาวุธสําคัญของวังสวรรค์ เส้นทางสายนี้ไม่ง่ายร่างหลักของข้าควรทําอย่างไรเขาอาจยังไม่รู้เรื่องนี้ข้าเป็นเพียงเจตจํานงเล็กๆที่แทบไม่สามารถดํารงอยู่ข้าจะแจ้งข้อมูลสําคัญนี้แก่ร่างหลักได้อย่างไร?’
วิญญาณชะตากรรมถูกทําลายทุกสิ่งสามารถเกิดขึ้นบนโลกใบนี้
ปีศาจอมตะฉีเจียและเทพอมตะกลุ่มดาวฟื้นคืนชีพขึ้นมาแล้วค่าท่านายสามเทพไม่แน่นอนอีกต่อไปเส้นทางมนุษย์และเส้นทางอาหารมีโอกาสเจริญรุ่งเรืองในยุคนี้
เส้นทางแห่งความฝันถูกกล่าวถึงในคําทํานายเดิมทีมันเป็นเส้นทางที่วิญญาณชะตากรรม
กําหนดให้เจริญรุ่งเรืองและปกครองยุคนี้แต่ตอนนี้ไม่มีสิ่งใดแน่นอน
ในอดีต เส้นทางมนุษย์มีเพียงเหล่าเทพหรืออัจฉริยะบางคนเท่านั้นที่สามารถทําความเข้าใจ
แต่หลังจากเทพอมตะบัวสวรรค์เสริมความแข็งแกร่งให้กับเส้นทางมนุษย์ตอนนี้ทุกคนจึงสามารถ
บ่มเพาะเส้นทางมนุษย์วังสวรรค์เป็นเจ้าของเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์นี่เป็นข้อได้เปรียบของพวกเขา
สําหรับเส้นทางอาหารเส้นทางสายนี้ถูกสร้างขึ้นมานานแล้วแต่ไม่เคยเจริญรุ่งเรืองตอนนี้เมื่อปราศจากวิญญาณชะตากรรม มันก็ส่งสัญญาณของความเจริญรุ่งเรืองออกมาแล้วโลกทั้งใบวุ่นวายเพราะฟางหยวน!
คนตายฟื้นคืนชีพ เส้นทางสายเปลี่ยวเริ่มเจริญรุ่งเรือง
สําหรับอนาคต?
ฟางตี้เฉิงส่ายศีรษะ อนาคตซับซ้อนเกินไปและไม่แน่นอน เขายังมองไม่เห็นความโกลาหลนี้อย่างชัดเจน
ภาคเหนือ วังสวรรค์แห่งโชค
ไห่ลั่วหลันถูกเรียกพบโดยผีดิบอมตะตะวันเดือด
“ไห่ลั่วหลัน ทายาทของข้า ถึงเวลาที่เจ้าต้องเสี่ยงชีวิตแล้ว”ผีดิบอมตะตะวันเดือดกล่าว “เจ้า
ต้องการเอาชนะฟางหยวนใช่หรือไม่?ตอนนี้โอกาสของเจ้ามาถึงแล้ว”