Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2118 ปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งปัญญา
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2118 ปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งปัญญา
มิติช่องว่างจักรพรรดิ
เมิ้งชิวเจิ้นกําลังสํารวจอาณาจักรแห่งความฝัน
บนภูเขาเมิ้งชิวเจิ้นนั่งไขว่ขาอยู่บนหน้าผาที่มีน้ําตกไหลลงสู่ด้านล่าง
“ท่านผู้อมตะ!” ชายหนุ่มที่ได้รับบาดเจ็บคลานเข้าไปมาเมิ้งชิวเจิ้นและขอให้รับเขาเป็นศิษย์“ต้องการเป็นศิษย์ของข้างั้นหรือ?”เมิ้งชิวเจิ้นลอบยิ้มและประหลาดใจอยู่ภายในขณะพยายามถอดรหัสอาณาจักรแห่งความฝันนี้
ในอดีตฟางหยวนต้องทดสอบด้วยตัวเองแต่ตอนนี้เมิ้งชิวเจิ้งมีวิญญาณอมตะผีเสื้อแห่งความฝัน
เขาลอบใช้วิญญาณอมตะผีเสื้อแห่งความฝันอย่างลับๆเพื่อตรวจสอบเขากล่าว“เจ้าเป็นเพียงมนุษย์แต่เนื่องจากเจ้าสามารถมาพบข้านี่หมายความว่าเรามีวาสนาข้ามีวิธีการบ่มเพาะสามเส้นทาง ข้าจะมอบหนึ่งในนั้นให้เจ้า”
ชายหนุ่มดีใจมากเขาโขกศีรษะลงบนพื้นและทําให้เกิดเสียงดังอย่างต่อเนื่องเมิ้งชิวเจิ้นกล่าวต่อ“เส้นทางแรกคือเส้นทางแห่งค่ายกลมันมุ่งเน้นที่…”
เมิ้งชิวเจิ้นอธิบายต่อไปเขากล่าวความจริงโดยไม่โกหก
ชายหนุ่มพยักหน้าด้วยความลังเล“ท่านผู้อมตะแม้เส้นทางแห่งค่ายกลจะซับซ้อนแต่ข้าก็เต็มใจที่จะทํางานหนัก!”
เมิ้งชิวเจิ้งส่ายศีรษะ “ไม่จําเป็นต้องรีบร้อนเส้นทางที่สองของข้าคือเส้นทางความแข็งแกร่งมันทรงพลังและตรงไปตรงมาข้อได้เปรียบของมัน…”
หลังจากเมิ้งชิวเจิ้นพูดจบชายหนุ่มรู้สึกตื่นเต้นมาก“ข้าต้องการเรียนรู้เส้นทางความแข็งแกร่ง!”
เมิ้งชิวเจิ้นยิ้ม “ข้ายังมีเส้นทางที่สามมันคือเส้นทางแห่งปัญญา เส้นทางความแข็งแกร่งเป็นเส้นทางทั่วไปแต่เส้นทางแห่งปัญญาหาได้ยากมันจะเป็นประโยชน์อย่างมากกับเจ้า…”
ชีวิต
หลังจากอธิบาย ชายหนุ่มยิ่งตื่นเต้นมากขึ้น“ท่านผู้อมตะที่ยิ่งใหญ่!”
ในเวลานี้วิญญาณอมตะผีเสื้อแห่งความฝันสํารวจอาณาจักรแห่งความฝันเสร็จสิ้นแล้วอาณาจักรแห่งความฝันแห่งนี้ไม่เล็กมันมีแปดฉาก
ปรากฏว่าผู้อมตะผู้นี้เคยทําลายหมู่บ้านมนุษย์โดยไม่รู้ตัวและทําให้พ่อแม่ของชายหนุ่มเสียชายหนุ่มใช้ชีวิตอย่างยากลําบากอยู่เพียงลําพังโดยไม่รู้ว่าผู้ใดคือศัตรู
หลังจากพยายามอย่างหนัก ในที่สุดเขาก็กลายเป็นศิษย์ของผู้อมตะผู้นี้เขามีไหวพริบและครอบครองสุดยอดกายาเขาเหมาะสมที่จะบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งปัญญา
เมื่อชายหนุ่มพบว่าศัตรูของเขาคืออาจารย์ของเขาเองเขาเริ่มวางแผนล้างแค้น
ในฉากสุดท้าย อาจารย์และศิษย์ต้องต่อสู้กันนี่เป็นความฝันที่ยากลําบาก ‘ศิษย์คนนี้จะเรียนรู้มันอย่างสมบูรณ์และกระทั่งเหนือกว่าอาจารย์นอกจากนั้นเขายังมีวิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาที่น่าเหลือเชื่อ’
‘ดังนั้นฉากแรกจึงเป็นโอกาสสําคัญที่จะทําให้ศิษย์ผู้นี้อ่อนแอลง’ เมิ้งชิวเจิ้นคิด
หากปราศจากวิญญาณอมตะผีเสื้อแห่งความฝันเขาต้องทดสอบด้วยตัวเองเขาจะไม่ประสบความสําเร็จในการทดลองครั้งแรกอย่างแน่นอนดวงวิญญาณของเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัสเขา
จะต้องพักฟื้นเขาจะเสียเวลาและทรัพยากรไปอย่างไร้ประโยชน์ หลังจากนั้นเขาจะต้องเริ่มทดลองใหม่อีกครั้ง
แต่ด้วยการคงอยู่ของวิญญาณอมตะผีเสื้อแห่งความฝันเขาสามารถทําความเข้าใจสถานการณ์และวางแผนล่วงหน้า
แม้วิญญาณอมตะผีเสื้อแห่งความฝันจะทําได้เพียงตรวจสอบแต่คุณค่าของมันไม่สามารถประเมินได้
เมิ้งชิวเจิ้งมองชายหนุ่มและกล่าวด้วยรอยยิ้ม“เช่นนั้นข้าจะสอนวิธีบ่มเพาะบนเส้นทางแห่ง
ปัญญาของข้าให้เจ้าวิธีนี้ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นโดยข้าแต่ข้าดัดแปลงมันด้วยตนเองข้าตั้งชื่อมันว่าสูตรคูณเก้าเก้า”
“สูตรคูณเก้าเก้า?” ดวงตาของชายหนุ่มส่องประกายขึ้น เขารู้สึกประทับใจกับชื่อของมันเมิ้งชิวเจิ้นกล่าวต่อ“มันคือแนวคิดของการเพิ่มจํานวนอย่างไม่รู้จบสิ้นมาเถอะให้ข้าสอนท่าไม้ตายแรกให้เจ้า หนึ่งหนึ่งคือหนึ่ง”
ชายหนุ่มตั้งใจฟังและพึมพํากับตนเอง“หนึ่งหนึ่งคือหนึ่ง…”
ไม่นานก็ถึงฉากสุดท้าย
“ท่านอาจารย์นี่คือครั้งสุดท้ายของข้า…”
“หุบปาก! อย่าเรียกข้าว่าอาจารย์ เจ้าเป็นศิษย์ทรยศ ข้าไม่ใช่อาจารย์ของเจ้า!”
“ไม่ ข้าจะเรียกท่านว่า…”
“หุบปาก!ข้าทํางานหนักเพื่อเลี้ยงดูเจ้าข้าสอนวิธีที่แข็งแกร่งที่สุดของข้าให้เจ้าแต่เจ้ากลับตอบแทนความเมตตาของข่าด้วยความเกลียดชัง!”
“ไม่ ท่านอาจารย์ต่อให้ท่านจะโกรธเพียงใดมันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าท่านฆ่าพ่อแม่ของข้า ข้าต้องแก้แค้นนี่เป็นครั้งสุดท้ายที่ข้าจะเรียกท่านว่า….”
เมิ้งชิวเจิ้นไม่สนใจเขาใช้ท่าไม้ตายโจมตีศิษย์ของเขาโดยตรง
เมิ้งชิวเจิ้นขัดจังหวะคํากล่าวของศิษย์อย่างต่อเนื่อง ศิษย์ไม่สามารถกล่าวคําว่าอาจารย์เป็นครั้งสุดท้าย
เมิ้งชิวเจิ้นต้องการเห็นสิ่งนี้เพราะเขาเข้าใจศิษย์ผู้นี้ที่สร้างท่าไม้ตายอารมณ์ที่บ้าคลั่งขึ้นมา
ด้วยตัวเอง มันเป็นท่าไม้ตายที่น่าเหลือเชื่อ มันใช้อารมณ์ทุกประเภทเพื่อเพิ่มพลังหากเขา
สามารถกล่าวค่าสุดท้ายออกมาเขาจะรู้สึกถึงอิสระเขาจะสามารถใช้ท่าไม้ตายที่ทรงพลังเมิ้งชิวเจิ้นต้องป้องกันไม่ให้ศิษย์ผู้นี้สามารถใช้ท่าไม้ตายอารมณ์ที่บ้าคลั่งออกมา
การต่อสู้ดําเนินไปในทิศทางที่เมิ้งชิวเจิ้นต้องการเขาโจมตีอย่างไม่หยุดยั้งและไม่เปิดโอกาสให้ศิษย์กล่าวค่าสุดท้ายออกมา
ศิษย์ของเขาถูกปราบปรามอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีทางเลือกเขาต้องละทิ้งท่าไม้ตายอารมณ์ที่บ้าคลั่งและใช้ท่าไม้ตายสูตรคูณเก้าเก้า
ท่าไม้ตายอมตะแปดแปดคือแปดสิบแปด!
“พรวด!”
ท่าไม้ตายของเขาล้มเหลวทันทีเขาเผชิญหน้ากับฟันเฟือนและได้รับบาดเจ็บสาหัส
“ท่าไม้ตายนี้ผิด! ท่านอาจารย์อย่าบอกว่าท่าน….” ศิษย์ของเมิ้งชิวเจิ้นรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ “โอ๋ศิษย์ตัวน้อยผู้โง่เขลาของข้า ข้าจะบอกชื่อจริงของท่าไม้ตายนี้ให้เจ้า แปดแปดคือหกสิบสี่!” เมิ้งชิวเจิ้นหัวเราะเย้ยหยันขณะโจมตีอย่างดุเดือด
ศิษย์ของเขาไม่สามารถรับมือและเสียชีวิตด้วยความคับข้องใจ
ในเวลาเดียวกันร่างหลักของฟางหยวนกําลังทําความเข้าใจเกี่ยวกับท่าไม้ตายต่างๆ
การใช้วิญญาณเพียงดวงเดียวมีข้อเสียหรือผลข้างเคียงทุกประเภทเพื่อแก้ไขหรือลดผลข้างเคียงผู้บ่มเพาะจะเริ่มใช้วิญญาณหลายดวงร่วมกัน
ด้วยวิธีนี้ท่าไม้ตายจึงถูกคิดค้นขึ้น
ผู้บ่มเพาะยังค้นพบว่าท่าไม้ตายมีอยู่ตามธรรมชาติพวกมันอยู่ในร่างของสัตว์อสูรหรือพืชอสูรความสามารถโดยกําเนิดของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ถือเป็นท่าไม้ตายชนิดหนึ่งตัวอย่างเช่นความ
สามารถโดยกําเนิดของอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดที่ใช้ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าเพื่อทะลวงเข้าสู่แดนศักดิ์สิทธิ์หรือถ้าสวรค์
ดังนั้นสาระสําคัญของท่าไม้ตายก็คือร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า
‘ในแง่นี้ท่าไม้ตายรอยสักใกล้เคียงกับท่าไม้ตายดั่งเดิมมากที่สุด’ ฟางหยวนยกย่องอยู่ในใจท่าไม้ตายรอยสักได้รับการพัฒนาขึ้นในถ้ำสวรรค์หมื่นอสูรพวกมันไม่มีอยู่ที่อื่น
ท่าไม้ตายรอยสักสามารถสนับสนุนท่าไม้ตายทั่วไปรวมถึงท่าไม้ตายเขตแดน
กล่าวถึงวิธีการใช้วิญญาณ นอกเหนือจากการใช้วิญญาณเพียงลําพังมันยังมีการใช้วิญญาณในรูปแบบท่าไม้ตายเขตแดนค่ายกลวิญญาณคฤหาสน์วิญญาณและตอนนี้ยังมีวิธีการใช้วิญญาณรูปแบบใหม่นั่นคือรอยสักเปรียบเทียบกับรูปแบบอื่นในการใช้วิญญาณ รอยสักมีข้อได้เปรียบที่ชัดเจน
ประการแรก การกระตุ้นใช้งานพวกมันทําได้ง่ายและรวดเร็วแม้แต่คนโง่ก็สามารถควบคุมพวกมันได้การกระตุ้นใช้งานรอยสักพึ่งพาความคิดเพียงเล็กน้อยพวกมันอาศัยพลังวิญญาณหรือพลังงานอมตะ มันแตกต่างจากท่าไม้ตายทั่วไปที่ต้องกระตุ้นใช้วิญญาณทุกดวงและต้องใช้ความคิดจํานวนมาก
ประการที่สองท่าไม้ตายรอยสักสร้างง่าย ค่าบํารุงรักษาต่ำ วิญญาณทุกดวงที่ประกอบเป็นท่าไม้ตายต้องการอาหารผู้บ่มเพาะต้องใช้เวลาในการค้นหาวิญญาณที่เหมาะสม สําหรับรอยสักผู้บ่มเพาะเพียงต้องกินทรัพยากรที่เหมาะสมกับตนเองเท่านั้น
หลังจากทั้งหมดทรัพยากรหาง่ายกว่าวิญญาณ!
ค่าใช้จ่ายในการให้อาหารวิญญาณสูงมาก แต่รอยสักไม่ต้องการอาหารเพิ่มเติมแน่นอนว่าหากรอยสักได้รับความเสียหายผู้บ่มเพาะต้องกินอาหารเพื่อซ่อมแซมพวกมัน
ประการที่สามท่าไม้ตายรอยสักเป็นวิธีที่ง่ายต่อการเผยแพร่หลายคนสามารถใช้มันได้ในเวลาเดียวกันนอกจากนี้ท่าไม้ตายรอยสักยังเหมาะสมกับทุกเส้นทางแห่งการบ่มเพาะแน่นอนว่ามีข้อเสียเช่นกัน
ตัวอย่างเช่นต้นทุนในการสร้างรอยสักมันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยด้วยการสร้างรอยสักมันจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อการบ่มเพาะในอนาคตนอกจากนี้มันยังเป็นวิธีที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลง
มันง่ายที่จะต่อต้านสิ่งนี้คล้ายกับคฤหาสน์วิญญาณ
ฟางหยวนคิดเกี่ยวกับมันเขารู้สึกว่ารอยสักมีส่วนคล้ายกับภูตบนเส้นทางความแข็งแกร่ง
เหล่าเทพล้วนมีพรสวรรค์ที่เหนือจินตนาการแม้บุคลิกของเทพปีศาจคลั่งจะแปลกประหลาดแต่ความสามารถของเขาเป็นของจริงและน่าอัศจรรย์มากแรกเริ่มถ้ำสวรรค์หมื่นอสูรของเทพปีศาจคลั่งมีเพียงวิธีการบนเส้นทางความแข็งแกร่งและเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น
แต่หลังจากเทพปีศาจคลั่งเรียนรู้มรดกที่แท้จริงเทียนหนานเขาหลอมรวมถ้ำสวรรค์หมื่นอสูร
เข้ากับร่างกายของกบปีศาจจอมตะกละนี่คือพลังอ่านาจของเทพ
กบปีศาจจอมตะกละเป็นสัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานานบนเส้นทางอาหารด้วยการรวมตัวของถ้ำสวรรค์หมื่นอสูรและกบปีศาจจอมตะกละ ถ้ำสวรรค์หมื่นอสูรจึงพัฒนาสภาพแวดล้อมบนเส้นทางอาหารขึ้นมา
สภาพแวดล้อมบนเส้นทางอาหารเป็นสิ่งสําคัญ
หลอมรวมเพื่อสร้างวิธีบนเส้นทางอาหารและอนุญาตให้ท่าไม้ตายรอยสักถือกําเนิดขึ้น
พลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางอาหารทําให้ผู้บ่มเพาะในถ้ำสวรรค์หมื่นอสูรสามารถใช้วิธีการ
สําหรับโลกภายนอก หากปราศจากความช่วยเหลือจากสภาพแวดล้อมบนเส้นทางอาหารผู้บ่มเพาะจะไม่สามารถสร้างรอยสักได้อย่างง่ายดาย
“นี่คือการบ่มเพาะบนเส้นทางอาหาร!
ฟางหยวนนึกถึงมรดกที่แท้จริงสวรรค์พิภพของภาคใต้
เทพอมตะสวรรค์พิภพพัฒนาเส้นทางอาหารของเขาเช่นกัน เขาใช้ทรัพยากรอมตะเพื่อสร้างชาที่สามารถเพิ่มร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าให้กับผู้ดื่ม
ท่าไม้ตายรอยสักของถ้ำสวรรค์หมื่นอสูรก็มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
ผู้บ่มเพาะจะดูดซับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าจากทรัพยากรที่กินเข้าไปและให้กําเนิดรอยสักทีละเล็กทีละน้อย
“หือ?” เป็นเพียงเวลานี้ที่การแสดงออกของฟางหยวนเปลี่ยนไปเล็กน้อย ความคิดของเขาถูกขัดจังหวะ
“ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของข้าบรรลุระดับปรมาจารย์เอกแล้ว”เขาสัมผัสได้ถึงการ
เปลี่ยนแปลงในทันทีแต่การแสดงออกของเขายังสงบนิ่ง